จากกรณีที่ มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg) ซีอีโอเฟซบุ๊ก (Facebook) ได้โพสต์แสดงความยินดีกับ “อินสตาแกรม” (Instagram) ที่มียอดผู้ใช้งานทะลุ 500 ล้านคนไปเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (21 มิ.ย.) ก็ได้มีคนตาดีสังเกตเห็นความผิดปกติเล็กๆ จากภาพดังกล่าว นั่นก็คือ บริเวณกล้องเว็บแคม และไมโครโฟนของคอมพิวเตอร์บนโต๊ะทำงานที่เขานั่งอยู่นั้น ดูเหมือนจะถูกปิดด้วยเทปบางชนิดเอาไว้
จากภาพนั้น ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ตามมามากมาย โดยสื่อตะวันตกหลายค่ายวิเคราะห์ว่า การโพสต์นี้น่าจะเป็นการโพสต์จากโต๊ะทำงานของเจ้าตัวเองด้วย จึงเป็นไปได้สูงที่คอมพิวเตอร์แมคบุ๊กที่วางอยู่นั้นจะถูกใช้งานโดยมาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก
แม้ว่าเฟซบุ๊กจะไม่มีการให้ความเห็นใดๆ เกี่ยวกับภาพดังกล่าว แต่การติดสติ๊กเกอร์ปิดส่วนกล้อง และส่วนไมโครโฟนบนคอมพิวเตอร์ที่ใช้ทำงานของซีอีโอระดับโลก ก็สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาด้านความปลอดภัยของข้อมูล สอดคล้องกับก่อนหน้านี้ James Comey ผู้อำนวยการของ เอฟบีไอ (FBI) ก็เคยออกมาเผยว่า เขาปิดกล้องเว็บแคมบนหน้าจอคอมพิวเตอร์เอาไว้เช่นกัน เพื่อป้องกันไม่ให้แฮกเกอร์สามารถสอดส่องความเป็นไปของเขาได้ หรือทางกลุ่ม The Electronic Frontier Foundation (EFF) ก็เคยออกมายอมรับเช่นกันว่า การขายสติ๊กเกอร์สำหรับปิดกล้องเว็บแคมเป็นเรื่องธรรมดา
ทั้งนี้ หากพิจารณาจากกรณีของ เอ็ดเวิร์ด สโนวเดน ที่ทำให้ทั่วโลกสั่นสะเทือน รวมถึงการเผยแพร่ภาพแอบถ่ายจากเว็บแคมของผู้ใช้งานยาฮู (Yahoo) หลายล้านคนทั่วโลก ในฐานะซีอีโอของแพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่คงไม่ต้องการให้ตนเองตกเป็นส่วนหนึ่งของ “ข้อมูลความลับ” เหล่านั้น
ขณะที่ ไซแมนเทค บริษัทด้านซีเคียวริตีได้เคยออกมาเตือนเกี่ยวกับการตั้งคอมพิวเตอร์ที่มีกล้องเวบแคมว่า ไม่ควรตั้งในห้องนอน และไม่ควรทำกิจกรรมที่ไม่เหมาะสมหน้าคอมพิวเตอร์ เพราะแฮกเกอร์สามารถเจาะระบบ และฝังมัลแวร์ที่ควบคุมคอมพิวเตอร์นั้นได้จากระยะไกล รวมถึงกล้องเวบแคมด้วย
ศาสตราจารย์ อลัน วูดเวิร์ด ผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์ซีเคียวริตีแห่งมหาวิทยาลัย Surrey กล่าวว่า “การแปะเทปปิดกล้องเวบแคมเป็นเรื่องที่ยอมรับได้” พร้อมยังกล่าวด้วยว่า อยากให้บริษัทผู้ผลิตคอมพิวเตอร์พัฒนาแผ่นสไลด์แบบบิวต์อินสำหรับเลื่อนปิดกล้องหน้าจอมาด้วยเสียเลย
ส่วนการแปะเทปปิดตรงไมโครโฟนนั้น ศาสตราจารย์ อลัน กล่าวว่า อาจไม่สามารถป้องกันได้ เพราะเสียงสามารถส่งผ่านไปยังไมโครโฟนได้อยู่ดี ซึ่งทางออกก็คือ อาจต้องเข้าไปในส่วนตั้งค่า เพื่อปิดการทำงานของไมโครโฟนแทน
นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยที่พบว่า แฮกเกอร์ในปัจจุบันสามารถจับเสียงได้ผ่าน Accelerometer ในสมาร์ทโฟนแล้วด้วย
อย่างไรก็ดี เฟซบุ๊ก ในฐานะโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่ ก็เคยถูกตั้งข้อสังเกตอยู่บ่อยครั้งเกี่ยวกับการลอบติดตามความเป็นไปของผู้ใช้งาน ซึ่งความจริงในข้อนี้ เชื่อว่ามาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก คงจะรู้อยู่แก่ใจเช่นกัน
ข่าวจาก : MGR Online
http://manager.co.th/Cyberbiz/ViewNews.aspx?NewsID=9590000062621
ถอดรหัสความปลอดภัย ทำไมมาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก ปิดกล้องบนคอมพิวเตอร์
จากกรณีที่ มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg) ซีอีโอเฟซบุ๊ก (Facebook) ได้โพสต์แสดงความยินดีกับ “อินสตาแกรม” (Instagram) ที่มียอดผู้ใช้งานทะลุ 500 ล้านคนไปเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (21 มิ.ย.) ก็ได้มีคนตาดีสังเกตเห็นความผิดปกติเล็กๆ จากภาพดังกล่าว นั่นก็คือ บริเวณกล้องเว็บแคม และไมโครโฟนของคอมพิวเตอร์บนโต๊ะทำงานที่เขานั่งอยู่นั้น ดูเหมือนจะถูกปิดด้วยเทปบางชนิดเอาไว้
จากภาพนั้น ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ตามมามากมาย โดยสื่อตะวันตกหลายค่ายวิเคราะห์ว่า การโพสต์นี้น่าจะเป็นการโพสต์จากโต๊ะทำงานของเจ้าตัวเองด้วย จึงเป็นไปได้สูงที่คอมพิวเตอร์แมคบุ๊กที่วางอยู่นั้นจะถูกใช้งานโดยมาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก
แม้ว่าเฟซบุ๊กจะไม่มีการให้ความเห็นใดๆ เกี่ยวกับภาพดังกล่าว แต่การติดสติ๊กเกอร์ปิดส่วนกล้อง และส่วนไมโครโฟนบนคอมพิวเตอร์ที่ใช้ทำงานของซีอีโอระดับโลก ก็สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาด้านความปลอดภัยของข้อมูล สอดคล้องกับก่อนหน้านี้ James Comey ผู้อำนวยการของ เอฟบีไอ (FBI) ก็เคยออกมาเผยว่า เขาปิดกล้องเว็บแคมบนหน้าจอคอมพิวเตอร์เอาไว้เช่นกัน เพื่อป้องกันไม่ให้แฮกเกอร์สามารถสอดส่องความเป็นไปของเขาได้ หรือทางกลุ่ม The Electronic Frontier Foundation (EFF) ก็เคยออกมายอมรับเช่นกันว่า การขายสติ๊กเกอร์สำหรับปิดกล้องเว็บแคมเป็นเรื่องธรรมดา
ทั้งนี้ หากพิจารณาจากกรณีของ เอ็ดเวิร์ด สโนวเดน ที่ทำให้ทั่วโลกสั่นสะเทือน รวมถึงการเผยแพร่ภาพแอบถ่ายจากเว็บแคมของผู้ใช้งานยาฮู (Yahoo) หลายล้านคนทั่วโลก ในฐานะซีอีโอของแพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่คงไม่ต้องการให้ตนเองตกเป็นส่วนหนึ่งของ “ข้อมูลความลับ” เหล่านั้น
ขณะที่ ไซแมนเทค บริษัทด้านซีเคียวริตีได้เคยออกมาเตือนเกี่ยวกับการตั้งคอมพิวเตอร์ที่มีกล้องเวบแคมว่า ไม่ควรตั้งในห้องนอน และไม่ควรทำกิจกรรมที่ไม่เหมาะสมหน้าคอมพิวเตอร์ เพราะแฮกเกอร์สามารถเจาะระบบ และฝังมัลแวร์ที่ควบคุมคอมพิวเตอร์นั้นได้จากระยะไกล รวมถึงกล้องเวบแคมด้วย
ศาสตราจารย์ อลัน วูดเวิร์ด ผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์ซีเคียวริตีแห่งมหาวิทยาลัย Surrey กล่าวว่า “การแปะเทปปิดกล้องเวบแคมเป็นเรื่องที่ยอมรับได้” พร้อมยังกล่าวด้วยว่า อยากให้บริษัทผู้ผลิตคอมพิวเตอร์พัฒนาแผ่นสไลด์แบบบิวต์อินสำหรับเลื่อนปิดกล้องหน้าจอมาด้วยเสียเลย
ส่วนการแปะเทปปิดตรงไมโครโฟนนั้น ศาสตราจารย์ อลัน กล่าวว่า อาจไม่สามารถป้องกันได้ เพราะเสียงสามารถส่งผ่านไปยังไมโครโฟนได้อยู่ดี ซึ่งทางออกก็คือ อาจต้องเข้าไปในส่วนตั้งค่า เพื่อปิดการทำงานของไมโครโฟนแทน
นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยที่พบว่า แฮกเกอร์ในปัจจุบันสามารถจับเสียงได้ผ่าน Accelerometer ในสมาร์ทโฟนแล้วด้วย
อย่างไรก็ดี เฟซบุ๊ก ในฐานะโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่ ก็เคยถูกตั้งข้อสังเกตอยู่บ่อยครั้งเกี่ยวกับการลอบติดตามความเป็นไปของผู้ใช้งาน ซึ่งความจริงในข้อนี้ เชื่อว่ามาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก คงจะรู้อยู่แก่ใจเช่นกัน
ข่าวจาก : MGR Online
http://manager.co.th/Cyberbiz/ViewNews.aspx?NewsID=9590000062621