สวัสดีครับ กระทู้นี้ผมอยากจะมาแบ่งปันเรื่องราวการเดินทางของผม ซึ่งขอตัวออกก่อนนะครับ ว่ากระทู้นี้เป็นการเขียนกระทู้ครั้งแรก อาจมีความผิดพลาดอยู่บ้าง ก็ช่วยชี้แนะผมด้วยนะครับ
การเดินทางครั้งนี้ เกิดจากการตั้งเป้าหมายไว้ว่า ไหน ๆก็ได้มีโอกาสมาเรียนภาษาที่ Melbourne บวกกับอยากออกเดินทางคนเดียวกับเขาบ้าง จะได้เพิ่มประสบการณ์และความกล้าให้ตัวเอง ก็เลยตัดสินใจว่าต้องเที่ยวทริปยาว ๆก่อนกลับบ้านสักครั้ง เลยเริ่มวางแพลนเที่ยว ซึ่งได้ออกมาหน้าตาออกมาประมาณนี้
ถ้าถามว่าทำไมต้อง The East Coast of Australia จากการหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตแล้ว การเดินทางสายนี้เป็นที่นิยมของแบ็คแพ็คเกอร์จากทั่วโลก ส่วนมากจะใช้เวลา 14 - 30 วันในการเดินทางสายนี้ แต่สำหรับผมด้วยงบประมาณและเวลาที่จำกัดจึงแพลนไว้แค่ 11-13 วันเท่านั้น หลังจากวางแพลนก็ทำการจองตั๋ว Melbourne - Cairns ในราคา $174 ซึ่งล่วงหน้าการเดินทางเพียง 7 วัน ราคาเลยค่อยข้างสูงกว่าปกติ และทำการเก็บกระเป๋าสำหรับกลับไทย อีกส่วนสำหรับการเที่ยว และแล้วก็พร้อมออกเดินทางแล้ว
วันแรก - Cairns
ออกจากห้องตอนตี 5.30 ขึ้น Shutter bus ไปสนามบินใช้เวลาการเดินทางประมาณ 30 นาที มีเวลาเหลือเยอะมาก กว่าเครื่องจะออกตอน 8 โมง ใช้เวลาในการเดินทาง 3 ชั่วโมง 25 นาที แต่ด้วยเวลาของแต่ Melbourne และ Cairns ต่างกัน 1 ชั่วโมง ทำให้ไปถึง Cairns เวลา 10.25 เครื่องก็ลงแล้ว แล้วจะทำยังไงต่อหละ จะเข้าเมือง จะไปที่พักยังไง เพราะไม่ได้หาข้อมูลมาก่อนก็เดินตามฝรั่งคนอื่นๆไป ส่วนมากเขามีรถจากโรมแรมมารับ ส่วนผมก็เดินมองซ้ายมองขวา เดินวนไปวนมา ก็จะเจอเคาน์เตอร์ขายตั๋ว shutter bus เข้าเมือง โดยแค่บอกว่าที่พักเราที่ไหนเขาจะส่งถึงหน้าที่พักเลย จึงควรจองที่พักมาล่วงหน้าเพราะโฮสเทลแต่ที่ค่อนข้างห่างกันถ้าจะเดินหาที่พักตอนนั้นคงลำบาก
ขออธิบายเกี่ยวกับเมืองนี้ก่อนครับ Cairns คือเมืองที่คนนิยมมาพักเพื่อรอนั่งเรือไปดำน้ำ มีแนวปะการังที่ยาวที่สุดในโลก ชื่อว่า Great barrier reef มีบริษัททัวร์สำหรับการดำน้ำมากมาย แต่ด้วยทัวร์จะออกเดินทางในเวลาเช้าตรู คือ 7 โมงเช้า เลยต้องมานอนค้าง 1 วันเพื่อรอไปดำน้ำในวันถัดไป แต่สำหรับผมมาถึงที่พักตอน 11 โมงกว่า ๆ หลังทำการเก็บสัมภาระ ก็พร้อมออกเดินชมเมืองแล้ว ด้วย Cairns เป็นเมืองเล็ก ๆมีเพียงห้างใหญ่ ๆเพียง 1 ห้าง ร้านอาหาร และกิจกรรมที่คนส่วนมากจะไปทำ คือ การไปอาบแดดริม Lagoon ขนาดใหญ่
สงสัยมั้ย ทำไมเมืองติดทะเล ต้องมีสระว่ายน้ำ เพราะเมืองนี้ไม่มีชายหาดและดินในทะเลเป็นดินโคลนไม่เหมาะกับการเล่นน้ำ และกิจกรรมยอดฮิตของเมืองนี้ก็คือการเล่นน้ำในสระขนาดใหญ่ และการอาบแดดแทน
่ ส่วนผมก็เดินวนไปวนมาระหว่าง ที่พัก ห้าง ลากูน รอเวลาให้แดดร่มลมตก จะได้มาเล่นน้ำกับเขาบ้าง พอลงปุ๊บ แหม่ ชั่งเหงาเสียจริง เขามาเล่นน้ำกันเป็นกลุ่มเชียว แต่ส่วนมากจะเป็น คู่ !! ทำให้ผมเกิดความอิจฉาขึ้นเล็กน้อย ในที่สุดก็ทนไม่ไหวเลยขอตัวกลับที่พักดีกว่า โดยห้องพักของผมวันนี้เป็นแบบห้องรวม 8 เตียง ก็เริ่มทักทายเพื่อนร่วมห้องด้วยประโยคยอดฮิต ชื่ออะไร มาจากไหน แพลนเที่ยวเป็นยังไง เจอกี่คน ๆก็จะถามคำถามเหมือนกันหมด หลังจากนั้น ผมก็ออกตามหามื้อเย็นของวันแรก และจบต้องลงด้วยซูซิในมินิมาร์ท เพราะห้างปิดตั้งแต่ 5 โมงครึ่งหมดแล้ว จะให้ไปกินร้านอาหารคนเดียวก็ไม่กล้าเพราะเป็นมือใหม่หัดเที่ยวก็ยังเขิน ๆอยู่
วันที่สอง - Cairns
ผมรีบตื่นแต่เช้า เก็บข้าวของเตรียม check out และฝากกระเป๋าไว้ที่ล็อกเกอร์ของที่พัก เดินออกมารอรถจากบริษัททัวร์มารับหน้าที่พักตอน 7 โมงเช้า ขึ้นรถได้ประมาณ 5 นาที ก็ถึงท่าเรือแล้ว สำหรับวันนี้ผมซื้อ day trip with introductory diving ไว้ราคา $275 แพงเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน หลังจากขึ้นเรือแล้วด้วยความที่กลัวเหงาเพราะฝรั่งส่วนใหญ่จะมาเป็นกลุ่ม ผมเลยรีบมองหาเพื่อนก่อนเลย แต่คนที่มาคนเดียวส่วนมากจะเป็นคนเอเชีย ก็เลยได้เพื่อนคนจีน โคลัมเบีย เกาหลี มาคุยแก้เขิน และในระหว่างทางที่เรือกำลังแล่นไปจุดดำน้ำ สต๊าฟก็ให้แบ่งกลุ่มตามคอร์สที่เราเลือกไว้ และทำการสอนดำน้ำภาคทฤษฎีให้ก่อน
และพอถึงจุดดำน้ำแรกแต่ยังไม่ถึงคิวเรียนดำน้ำ เขาก็จะให้เราไปสน็อกเกิ้ลรอเวลา ก็จัดแจงใส่ชุดและอุปกรณ์เดินไปท้ายเรือ และกำลังจะโดดลงน้ำ สต๊าฟรีบตะโกนถาม ว่ายน้ำแข็งไหม? ผมกับเพื่อนคนจีนก็รีบตอบว่า แน่นอน พี่สต๊าฟก็อธิบายว่าคนเอเชียส่วนใหญ่ชอบมั่นใจว่าตัวเองว่ายน้ำเก่ง ไม่ต้องใช้อุปกรณ์เซฟตี้ แต่พอลงน้ำไปแล้วไปไม่รอดซักคน
พอถึงคิวผมเรียนดำน้ำ เขาก็จะสอนกันข้าง ๆเรือเนี่ยแหละ ด้วยความที่เป็นมือใหม่ไม่เคยดำน้ำมาก่อน ทั้งตื่นเต้นและกังวลมาก โดยการสอนจะเป็นการสอนตัวต่อตัว ทีละคน ผมเรียนอยู่ประมาณ 10 นาที สรุปว่าไม่รอดครับ รู้สึกปวดหูมาก ครูสอนก็เลยบอกว่างั้นไม่เป็นไร ถ้าไม่ไหวเขาจะคืนเงินให้ ผมตัดสินใจขึ้นดีกว่า เสียดายมากกกกกกก อุตส่าห์เลือกมาเมืองนี้เพราะว่าอยากจะลองดำน้ำสักครั้ง แต่ไม่เป็นไร ค่อยไปสน็อกเกิ้ลจุดที่สองต่อละกัน จุดดำน้ำที่สองนี้ ผมถ่ายแต่วิดีโอมา เลยเอาวิดีโอมาฝาก ชมได้ตามลิ้งนี้เลยครับ >>>
http://www.dailymotion.com/video/x4h38q2 (เป็นวิดีโอไร้การตัดต่อ ไว้ฝีมือพัฒนาผมจะแก้ไขให้นะครับ)
หลังจากจบทริปเรือก็พาเราเดินทางกลับขึ้นฝั่ง ก็คงหนีไม่พ้นการเดินห้างหาของกิน ต่อด้วยการเล่นน้ำที่ลากูนซะหน่อย จะได้อาบน้ำที่ลากูนเลย เพราะวันนี้ผมไม่มีที่พักแล้ว แต่แพลนไว้ว่าตอน 5 ทุ่มจะไปเอากระเป๋าที่ฝากไว้ ก็เลยเดินเล่นในเมืองไปเรื่อย ๆจนไปเจอ Night market ขอเดินเล่นฆ่าเวลาเสียหน่อย แถมก็ได้มื้อดึกมาอีกหนึ่งมื้อ
หลังกินเสร็จก็ประมาณ 5 ทุ่มกว่าละ ผมเลยเดินกลับไปที่พักเพื่อเอากระเป๋าที่ฝากไว้ และก็ออกเดินไปรอขึ้นรถที่ท่ารถบัส นั่งรออยู่ประมาณ 1 ชั่วโมง รถก็มาแล้ว เวลาประมาณเที่ยงคืนครึ่ง ผมก็รีบบอกชื่อให้คุณลุงคนขับ ลุงบอกไม่มีในรายชื่อนะ แจ็คพอต!! ผมจองผิดวัน หน้าเหวอสิครับ แต่ลุงคนขับบอกไม่ต้องกลัวเดี๋ยวเขาจะโทรเช็คให้ ด้วยความโชคดีที่ตั๋วไม่เต็ม หลังลุงวางสาย คุณลุงก็หันมาบอกว่าไปได้ ขึ้นรถเลยไอหนู
ขอบอกข้อดีของการเดินทางด้วยรถบัส คือมี free wifi และช่องเสียบ usb สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ด้วยนะครับ และแล้วเวลาประมาณ ตี 1 ล้อก็เริ่มหมุน ออกเดินทางไปเมืองต่อไป Airlie beach ซึ่งมีระยะทาง 620 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 11 ชั่วโมง
ปล. 1. ขอจบตอนที่ 1 ไว้เพียงเท่านี้ก่อนนะครับ
2. ผิดพลาดตรงไหน ช่วยชี้แนะด้วยนะครับ
3. ฝาก Facebook : I planned
https://www.facebook.com/IPlannedd/
ไว้เป็นช่องทางติดตามตอนถัด ๆไปด้วยนะครับ
ทัวร์ทะเลทั้งแถบ แบบออสเตรเลีย 1 (The East Coast of Australia)
การเดินทางครั้งนี้ เกิดจากการตั้งเป้าหมายไว้ว่า ไหน ๆก็ได้มีโอกาสมาเรียนภาษาที่ Melbourne บวกกับอยากออกเดินทางคนเดียวกับเขาบ้าง จะได้เพิ่มประสบการณ์และความกล้าให้ตัวเอง ก็เลยตัดสินใจว่าต้องเที่ยวทริปยาว ๆก่อนกลับบ้านสักครั้ง เลยเริ่มวางแพลนเที่ยว ซึ่งได้ออกมาหน้าตาออกมาประมาณนี้
ถ้าถามว่าทำไมต้อง The East Coast of Australia จากการหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตแล้ว การเดินทางสายนี้เป็นที่นิยมของแบ็คแพ็คเกอร์จากทั่วโลก ส่วนมากจะใช้เวลา 14 - 30 วันในการเดินทางสายนี้ แต่สำหรับผมด้วยงบประมาณและเวลาที่จำกัดจึงแพลนไว้แค่ 11-13 วันเท่านั้น หลังจากวางแพลนก็ทำการจองตั๋ว Melbourne - Cairns ในราคา $174 ซึ่งล่วงหน้าการเดินทางเพียง 7 วัน ราคาเลยค่อยข้างสูงกว่าปกติ และทำการเก็บกระเป๋าสำหรับกลับไทย อีกส่วนสำหรับการเที่ยว และแล้วก็พร้อมออกเดินทางแล้ว
วันแรก - Cairns
ออกจากห้องตอนตี 5.30 ขึ้น Shutter bus ไปสนามบินใช้เวลาการเดินทางประมาณ 30 นาที มีเวลาเหลือเยอะมาก กว่าเครื่องจะออกตอน 8 โมง ใช้เวลาในการเดินทาง 3 ชั่วโมง 25 นาที แต่ด้วยเวลาของแต่ Melbourne และ Cairns ต่างกัน 1 ชั่วโมง ทำให้ไปถึง Cairns เวลา 10.25 เครื่องก็ลงแล้ว แล้วจะทำยังไงต่อหละ จะเข้าเมือง จะไปที่พักยังไง เพราะไม่ได้หาข้อมูลมาก่อนก็เดินตามฝรั่งคนอื่นๆไป ส่วนมากเขามีรถจากโรมแรมมารับ ส่วนผมก็เดินมองซ้ายมองขวา เดินวนไปวนมา ก็จะเจอเคาน์เตอร์ขายตั๋ว shutter bus เข้าเมือง โดยแค่บอกว่าที่พักเราที่ไหนเขาจะส่งถึงหน้าที่พักเลย จึงควรจองที่พักมาล่วงหน้าเพราะโฮสเทลแต่ที่ค่อนข้างห่างกันถ้าจะเดินหาที่พักตอนนั้นคงลำบาก
ขออธิบายเกี่ยวกับเมืองนี้ก่อนครับ Cairns คือเมืองที่คนนิยมมาพักเพื่อรอนั่งเรือไปดำน้ำ มีแนวปะการังที่ยาวที่สุดในโลก ชื่อว่า Great barrier reef มีบริษัททัวร์สำหรับการดำน้ำมากมาย แต่ด้วยทัวร์จะออกเดินทางในเวลาเช้าตรู คือ 7 โมงเช้า เลยต้องมานอนค้าง 1 วันเพื่อรอไปดำน้ำในวันถัดไป แต่สำหรับผมมาถึงที่พักตอน 11 โมงกว่า ๆ หลังทำการเก็บสัมภาระ ก็พร้อมออกเดินชมเมืองแล้ว ด้วย Cairns เป็นเมืองเล็ก ๆมีเพียงห้างใหญ่ ๆเพียง 1 ห้าง ร้านอาหาร และกิจกรรมที่คนส่วนมากจะไปทำ คือ การไปอาบแดดริม Lagoon ขนาดใหญ่
สงสัยมั้ย ทำไมเมืองติดทะเล ต้องมีสระว่ายน้ำ เพราะเมืองนี้ไม่มีชายหาดและดินในทะเลเป็นดินโคลนไม่เหมาะกับการเล่นน้ำ และกิจกรรมยอดฮิตของเมืองนี้ก็คือการเล่นน้ำในสระขนาดใหญ่ และการอาบแดดแทน
่ ส่วนผมก็เดินวนไปวนมาระหว่าง ที่พัก ห้าง ลากูน รอเวลาให้แดดร่มลมตก จะได้มาเล่นน้ำกับเขาบ้าง พอลงปุ๊บ แหม่ ชั่งเหงาเสียจริง เขามาเล่นน้ำกันเป็นกลุ่มเชียว แต่ส่วนมากจะเป็น คู่ !! ทำให้ผมเกิดความอิจฉาขึ้นเล็กน้อย ในที่สุดก็ทนไม่ไหวเลยขอตัวกลับที่พักดีกว่า โดยห้องพักของผมวันนี้เป็นแบบห้องรวม 8 เตียง ก็เริ่มทักทายเพื่อนร่วมห้องด้วยประโยคยอดฮิต ชื่ออะไร มาจากไหน แพลนเที่ยวเป็นยังไง เจอกี่คน ๆก็จะถามคำถามเหมือนกันหมด หลังจากนั้น ผมก็ออกตามหามื้อเย็นของวันแรก และจบต้องลงด้วยซูซิในมินิมาร์ท เพราะห้างปิดตั้งแต่ 5 โมงครึ่งหมดแล้ว จะให้ไปกินร้านอาหารคนเดียวก็ไม่กล้าเพราะเป็นมือใหม่หัดเที่ยวก็ยังเขิน ๆอยู่
วันที่สอง - Cairns
ผมรีบตื่นแต่เช้า เก็บข้าวของเตรียม check out และฝากกระเป๋าไว้ที่ล็อกเกอร์ของที่พัก เดินออกมารอรถจากบริษัททัวร์มารับหน้าที่พักตอน 7 โมงเช้า ขึ้นรถได้ประมาณ 5 นาที ก็ถึงท่าเรือแล้ว สำหรับวันนี้ผมซื้อ day trip with introductory diving ไว้ราคา $275 แพงเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน หลังจากขึ้นเรือแล้วด้วยความที่กลัวเหงาเพราะฝรั่งส่วนใหญ่จะมาเป็นกลุ่ม ผมเลยรีบมองหาเพื่อนก่อนเลย แต่คนที่มาคนเดียวส่วนมากจะเป็นคนเอเชีย ก็เลยได้เพื่อนคนจีน โคลัมเบีย เกาหลี มาคุยแก้เขิน และในระหว่างทางที่เรือกำลังแล่นไปจุดดำน้ำ สต๊าฟก็ให้แบ่งกลุ่มตามคอร์สที่เราเลือกไว้ และทำการสอนดำน้ำภาคทฤษฎีให้ก่อน
และพอถึงจุดดำน้ำแรกแต่ยังไม่ถึงคิวเรียนดำน้ำ เขาก็จะให้เราไปสน็อกเกิ้ลรอเวลา ก็จัดแจงใส่ชุดและอุปกรณ์เดินไปท้ายเรือ และกำลังจะโดดลงน้ำ สต๊าฟรีบตะโกนถาม ว่ายน้ำแข็งไหม? ผมกับเพื่อนคนจีนก็รีบตอบว่า แน่นอน พี่สต๊าฟก็อธิบายว่าคนเอเชียส่วนใหญ่ชอบมั่นใจว่าตัวเองว่ายน้ำเก่ง ไม่ต้องใช้อุปกรณ์เซฟตี้ แต่พอลงน้ำไปแล้วไปไม่รอดซักคน
พอถึงคิวผมเรียนดำน้ำ เขาก็จะสอนกันข้าง ๆเรือเนี่ยแหละ ด้วยความที่เป็นมือใหม่ไม่เคยดำน้ำมาก่อน ทั้งตื่นเต้นและกังวลมาก โดยการสอนจะเป็นการสอนตัวต่อตัว ทีละคน ผมเรียนอยู่ประมาณ 10 นาที สรุปว่าไม่รอดครับ รู้สึกปวดหูมาก ครูสอนก็เลยบอกว่างั้นไม่เป็นไร ถ้าไม่ไหวเขาจะคืนเงินให้ ผมตัดสินใจขึ้นดีกว่า เสียดายมากกกกกกก อุตส่าห์เลือกมาเมืองนี้เพราะว่าอยากจะลองดำน้ำสักครั้ง แต่ไม่เป็นไร ค่อยไปสน็อกเกิ้ลจุดที่สองต่อละกัน จุดดำน้ำที่สองนี้ ผมถ่ายแต่วิดีโอมา เลยเอาวิดีโอมาฝาก ชมได้ตามลิ้งนี้เลยครับ >>> http://www.dailymotion.com/video/x4h38q2 (เป็นวิดีโอไร้การตัดต่อ ไว้ฝีมือพัฒนาผมจะแก้ไขให้นะครับ)
หลังจากจบทริปเรือก็พาเราเดินทางกลับขึ้นฝั่ง ก็คงหนีไม่พ้นการเดินห้างหาของกิน ต่อด้วยการเล่นน้ำที่ลากูนซะหน่อย จะได้อาบน้ำที่ลากูนเลย เพราะวันนี้ผมไม่มีที่พักแล้ว แต่แพลนไว้ว่าตอน 5 ทุ่มจะไปเอากระเป๋าที่ฝากไว้ ก็เลยเดินเล่นในเมืองไปเรื่อย ๆจนไปเจอ Night market ขอเดินเล่นฆ่าเวลาเสียหน่อย แถมก็ได้มื้อดึกมาอีกหนึ่งมื้อ
หลังกินเสร็จก็ประมาณ 5 ทุ่มกว่าละ ผมเลยเดินกลับไปที่พักเพื่อเอากระเป๋าที่ฝากไว้ และก็ออกเดินไปรอขึ้นรถที่ท่ารถบัส นั่งรออยู่ประมาณ 1 ชั่วโมง รถก็มาแล้ว เวลาประมาณเที่ยงคืนครึ่ง ผมก็รีบบอกชื่อให้คุณลุงคนขับ ลุงบอกไม่มีในรายชื่อนะ แจ็คพอต!! ผมจองผิดวัน หน้าเหวอสิครับ แต่ลุงคนขับบอกไม่ต้องกลัวเดี๋ยวเขาจะโทรเช็คให้ ด้วยความโชคดีที่ตั๋วไม่เต็ม หลังลุงวางสาย คุณลุงก็หันมาบอกว่าไปได้ ขึ้นรถเลยไอหนู
ขอบอกข้อดีของการเดินทางด้วยรถบัส คือมี free wifi และช่องเสียบ usb สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ด้วยนะครับ และแล้วเวลาประมาณ ตี 1 ล้อก็เริ่มหมุน ออกเดินทางไปเมืองต่อไป Airlie beach ซึ่งมีระยะทาง 620 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 11 ชั่วโมง
ปล. 1. ขอจบตอนที่ 1 ไว้เพียงเท่านี้ก่อนนะครับ
2. ผิดพลาดตรงไหน ช่วยชี้แนะด้วยนะครับ
3. ฝาก Facebook : I planned https://www.facebook.com/IPlannedd/
ไว้เป็นช่องทางติดตามตอนถัด ๆไปด้วยนะครับ