ต้ังแต่เกิดคดีวัดนี้ขึ้นมาถึงสองครั้งสองครา ครั้งแรกปี 42 ยุคนั้นยังไม่มีสื่อโซเชียล เน็ตเวิร์ค คนที่สนใจจะหาอ่านได้จากหนังสือพิมพ์เท่านั้น
ต่อมามีท่านเจ้าคุณธรรมปิฎก( ปัจจุบัน พระพรหมคุณาภรณ์) ออกหนังสือกรณีธรรมกาย ที่ท่านต่อเอามาลงบ่อยๆนั่นเอง รอบนั้นต้องคนสนใจจริงๆเท่านั้นจึงจะรู้ว่าวัดนี้สอนผิดอย่างไร คนทั่วไปไม่ได้ติดตาม จึงเป็นที่มาคดีหลุดปี 49
รอบสองตั้งแต่ปี 58 -59 รอบนี้บทบาทของสื่อไม่ใช่หนังสือพิมพ์อีกแล้ว แต่เป็นสื่อสังคมออนไลน์ที่ทุกๆคนสามารถมีส่วนร่วม การซื้อสื่อ ทำเวปของตัวเอง ทีวีของตนเองกลายเป็นเรื่องล้าสมัยไปแล้วที่จะสามารถมามีอิทธิพลต่อชาวบ้านชาวเมือง โดยเฉพาะเด็กวัยรุ่น วัยหนุ่มสาว ถึงเด็กหลายคนจะถูกเกณฑ์ไปทำโครงการของวัดนี้ก็ตาม ข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับวัดนี้ยังถูกเก็บในระบบอากู๋ จะมาใช้ปรากฏการณ์ "พวกกรูเยอะกว่า" มันจึงลำบากอย่างยิ่ง คนสมัยนี้ไม่ได้โง่ให้ใครๆมาจูงจมูกได้ง่ายๆ ปรากฏการณ์แก้ตัวแล้วแก้ตัวอีก จึงยิ่งสร้างความขุ่นเคืองใจให้มวลชน เรียกว่า ลิงแก้แห วิชาpropaganda พูดซ้ำๆ ใส่ข้อมูลมั่วๆเข้าไป ตอบเหตุผลมั่วๆเข้าไว้กะว่าคนจะได้จำข้อมูลอันนี้มันจึงไม่ได้ผล เพราะเดี๋ยวนี้ทุกคน save ข้อมูลเป็น
เอ้า มาลองดูว่าอย่างน้อย การเกิดคดีวัดนี้มีข้อดีอะไรบ้าง
1. มีโอกาสศึกษาธรรมะเพิ่มมากขึ้น จากที่เพื่อนๆให้พระสูตรที่พระพุทธองค์ทรงแสดงว่าธรรมที่แท้เป็นอย่างไร พระพุทธพจน์เรื่องทาน อานิสงค์ของทานเป็นอย่างไร บุญที่แท้ พระพุทธองค์สอนให้ทำเฉพาะเงินทองเท่านั้นจริงหรือ ความเมตตาที่แท้จริงนั้นเป็นอย่างไร การช่วยเหลือแบบมีเลศนัย ต่างกับการให้โดยไม่มีเงื่อนไขเป็นอย่างไร สาวกวัดนี้ท่านเคยบอกผมว่า เมตตาเฉพาะคนที่จะมีประโยชน์กับเรามากหน่อย!! ผมงี้ตกตะลึง ทำบุญทีละแสนๆไม่ช่วยอะไรเลย
2. วัดนี้สอนให้ผมศึกษาสติปัฏฐาน 4 เพิ่มมากขึ้น เพื่อเป็นภูมิคุ้มกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อใครได้ง่ายๆถ้าต้องไปเหยียบวัดนี้ การนั่งสมาธิแบบเบลอๆ นั่งทั้งวันทั้งคืน จับความปลื้มเข้าไว้ นั่งอมยิ้มสวยๆ นั่งแอร์เย็นๆ สบายๆใครๆก็ชอบครับ ถามว่าแบบนี้ "กิเลสถลอก"ไหมครับ ( อ่านเจอท่านนึงใช้ ผมขออนุญาตมาใช้ด้วยคนครับ) ไหนใครว่าวัดนี้สอบเปรียญได้ 9 ประโยคเยอะที่สุดในประเทศ สอบเปรียญนี่สอบบาลีใช่ไหมครับ เพื่อมาศึกษาพระไตรปิฎก ท่านได้ศึกษาและปฏิบัติสติปัฏฐาน4 ไหมครับ หรือว่าวิชานี้มันธรรมดาไปแล้ว สู้ฝึกลูกแก้วไม่ได้ครับ
3. พระธรรมของพระพุทธองค์สุดยอดครับที่สอนให้เห็นถึงความไม่สมบูรณ์แบบ ความเป็นธรรมชาติคือความไม่สมบูรณ์ครับ ไม่ต้องตั้งแถว นั่งตามที่เขาขีดเส้นให้ ท่านสอนถึงสภาวะที่บังคับบัญชาไม่ได้ แต่ไปดูวัดนี้สิครับ ทุกคนต้องเชื่อฟังคำสั่งสายการบังคับบัญชา ผมเข้าใจอะไรผิดหรือครับ นี่คือรัฐเผด็จการแบบเกาหลีเหนือหรือครับ แถมชอบจัดแสดงมาร์ช บอกด้วยว่า นี่คือปรากฏการณ์ทัศนานุตริยะ บังเอิญชาวบ้านเขาเดือดร้อน ไม่ได้อยากชมนะครับ อย่าใช้วิธีบังคับชาวเมืองเลยครับ เรื่องนี้ทำให้ผมนึกถึงหนังเรื่อง The Invasion ที่นิโคล คิดแมนแสดงเลยครับ พยายามครอบงำ ล้างสมองให้ทุกคนคิดเหมือนตัวเอง " ความอยากจะมีอิทธิพลต่อใจมนุษย์คนอื่น โดยอาศัยอิทธิพลใดๆที่ไม่ได้มาจากความบริสุทธิ์ใจ ความสะอาดของจิตนั้นมีแต่โทษครับ"
4. อย่างไรก็ตาม ได้เห็นความพยายามของ dsi ที่ใช้ขันติบารมี อดทนอดกลั้น เล่นบทผู้แพ้เพื่อชนะ เป็นกลยุทธ์ที่ดีมากครับ อย่างไรสาวกก็คนไทยด้วยกัน เป็นเพื่อนร่วมเกิดแก่เจ็บตายบนผืนแผ่นดินไทยด้วยกัน สำหรับเคสนี้แล้ว สาวกคือเหยื่อ น่าสงสารครับ นอกจากจะประเคนทุกสิ่งอย่างตั้งแต่วัตถุจนกระทั่งจิตใจในชาตินี้แล้ว ยังต้องตามติดไปทุกชาติๆ ผมว่าหาคนอำมหิตกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว
จึงเรียนมายัง คสช และ dsi รีบทำความจริงให้กระจ่างโดยเร็ว ให้คดีถึงศาลเร็วๆก่อนที่บ้านเมืองจะลำบากไปกว่านี้ อย่าไปคิดว่านี่คือเรื่องเล็กน้อย
เพื่อนๆได้ข้อคิดอะไรกันบ้าง มาแชร์กันนะครับ
ปล. คุณครูไม่ใหญ่กรุณาไปมอบตัวด้วยครับ หัดสงสารสาวกที่มานั่งตากฝนซะบ้าง ใจคอไม่สงสารผู้หญิง คนชราบ้างหรือ ปกตินักบวชจะเป็นผู้กล้านะครับ
ข้อคิดดีๆจากกรณีวัดธรรมกาย
ต่อมามีท่านเจ้าคุณธรรมปิฎก( ปัจจุบัน พระพรหมคุณาภรณ์) ออกหนังสือกรณีธรรมกาย ที่ท่านต่อเอามาลงบ่อยๆนั่นเอง รอบนั้นต้องคนสนใจจริงๆเท่านั้นจึงจะรู้ว่าวัดนี้สอนผิดอย่างไร คนทั่วไปไม่ได้ติดตาม จึงเป็นที่มาคดีหลุดปี 49
รอบสองตั้งแต่ปี 58 -59 รอบนี้บทบาทของสื่อไม่ใช่หนังสือพิมพ์อีกแล้ว แต่เป็นสื่อสังคมออนไลน์ที่ทุกๆคนสามารถมีส่วนร่วม การซื้อสื่อ ทำเวปของตัวเอง ทีวีของตนเองกลายเป็นเรื่องล้าสมัยไปแล้วที่จะสามารถมามีอิทธิพลต่อชาวบ้านชาวเมือง โดยเฉพาะเด็กวัยรุ่น วัยหนุ่มสาว ถึงเด็กหลายคนจะถูกเกณฑ์ไปทำโครงการของวัดนี้ก็ตาม ข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับวัดนี้ยังถูกเก็บในระบบอากู๋ จะมาใช้ปรากฏการณ์ "พวกกรูเยอะกว่า" มันจึงลำบากอย่างยิ่ง คนสมัยนี้ไม่ได้โง่ให้ใครๆมาจูงจมูกได้ง่ายๆ ปรากฏการณ์แก้ตัวแล้วแก้ตัวอีก จึงยิ่งสร้างความขุ่นเคืองใจให้มวลชน เรียกว่า ลิงแก้แห วิชาpropaganda พูดซ้ำๆ ใส่ข้อมูลมั่วๆเข้าไป ตอบเหตุผลมั่วๆเข้าไว้กะว่าคนจะได้จำข้อมูลอันนี้มันจึงไม่ได้ผล เพราะเดี๋ยวนี้ทุกคน save ข้อมูลเป็น
เอ้า มาลองดูว่าอย่างน้อย การเกิดคดีวัดนี้มีข้อดีอะไรบ้าง
1. มีโอกาสศึกษาธรรมะเพิ่มมากขึ้น จากที่เพื่อนๆให้พระสูตรที่พระพุทธองค์ทรงแสดงว่าธรรมที่แท้เป็นอย่างไร พระพุทธพจน์เรื่องทาน อานิสงค์ของทานเป็นอย่างไร บุญที่แท้ พระพุทธองค์สอนให้ทำเฉพาะเงินทองเท่านั้นจริงหรือ ความเมตตาที่แท้จริงนั้นเป็นอย่างไร การช่วยเหลือแบบมีเลศนัย ต่างกับการให้โดยไม่มีเงื่อนไขเป็นอย่างไร สาวกวัดนี้ท่านเคยบอกผมว่า เมตตาเฉพาะคนที่จะมีประโยชน์กับเรามากหน่อย!! ผมงี้ตกตะลึง ทำบุญทีละแสนๆไม่ช่วยอะไรเลย
2. วัดนี้สอนให้ผมศึกษาสติปัฏฐาน 4 เพิ่มมากขึ้น เพื่อเป็นภูมิคุ้มกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อใครได้ง่ายๆถ้าต้องไปเหยียบวัดนี้ การนั่งสมาธิแบบเบลอๆ นั่งทั้งวันทั้งคืน จับความปลื้มเข้าไว้ นั่งอมยิ้มสวยๆ นั่งแอร์เย็นๆ สบายๆใครๆก็ชอบครับ ถามว่าแบบนี้ "กิเลสถลอก"ไหมครับ ( อ่านเจอท่านนึงใช้ ผมขออนุญาตมาใช้ด้วยคนครับ) ไหนใครว่าวัดนี้สอบเปรียญได้ 9 ประโยคเยอะที่สุดในประเทศ สอบเปรียญนี่สอบบาลีใช่ไหมครับ เพื่อมาศึกษาพระไตรปิฎก ท่านได้ศึกษาและปฏิบัติสติปัฏฐาน4 ไหมครับ หรือว่าวิชานี้มันธรรมดาไปแล้ว สู้ฝึกลูกแก้วไม่ได้ครับ
3. พระธรรมของพระพุทธองค์สุดยอดครับที่สอนให้เห็นถึงความไม่สมบูรณ์แบบ ความเป็นธรรมชาติคือความไม่สมบูรณ์ครับ ไม่ต้องตั้งแถว นั่งตามที่เขาขีดเส้นให้ ท่านสอนถึงสภาวะที่บังคับบัญชาไม่ได้ แต่ไปดูวัดนี้สิครับ ทุกคนต้องเชื่อฟังคำสั่งสายการบังคับบัญชา ผมเข้าใจอะไรผิดหรือครับ นี่คือรัฐเผด็จการแบบเกาหลีเหนือหรือครับ แถมชอบจัดแสดงมาร์ช บอกด้วยว่า นี่คือปรากฏการณ์ทัศนานุตริยะ บังเอิญชาวบ้านเขาเดือดร้อน ไม่ได้อยากชมนะครับ อย่าใช้วิธีบังคับชาวเมืองเลยครับ เรื่องนี้ทำให้ผมนึกถึงหนังเรื่อง The Invasion ที่นิโคล คิดแมนแสดงเลยครับ พยายามครอบงำ ล้างสมองให้ทุกคนคิดเหมือนตัวเอง " ความอยากจะมีอิทธิพลต่อใจมนุษย์คนอื่น โดยอาศัยอิทธิพลใดๆที่ไม่ได้มาจากความบริสุทธิ์ใจ ความสะอาดของจิตนั้นมีแต่โทษครับ"
4. อย่างไรก็ตาม ได้เห็นความพยายามของ dsi ที่ใช้ขันติบารมี อดทนอดกลั้น เล่นบทผู้แพ้เพื่อชนะ เป็นกลยุทธ์ที่ดีมากครับ อย่างไรสาวกก็คนไทยด้วยกัน เป็นเพื่อนร่วมเกิดแก่เจ็บตายบนผืนแผ่นดินไทยด้วยกัน สำหรับเคสนี้แล้ว สาวกคือเหยื่อ น่าสงสารครับ นอกจากจะประเคนทุกสิ่งอย่างตั้งแต่วัตถุจนกระทั่งจิตใจในชาตินี้แล้ว ยังต้องตามติดไปทุกชาติๆ ผมว่าหาคนอำมหิตกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว
จึงเรียนมายัง คสช และ dsi รีบทำความจริงให้กระจ่างโดยเร็ว ให้คดีถึงศาลเร็วๆก่อนที่บ้านเมืองจะลำบากไปกว่านี้ อย่าไปคิดว่านี่คือเรื่องเล็กน้อย
เพื่อนๆได้ข้อคิดอะไรกันบ้าง มาแชร์กันนะครับ
ปล. คุณครูไม่ใหญ่กรุณาไปมอบตัวด้วยครับ หัดสงสารสาวกที่มานั่งตากฝนซะบ้าง ใจคอไม่สงสารผู้หญิง คนชราบ้างหรือ ปกตินักบวชจะเป็นผู้กล้านะครับ