หลังจากที่มีการเรียกร้องให้ตรวจสอบการจัดซื้อเครื่องจีที 200 นั้น เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ได้โพสต์ในเฟซบุ๊ค Porntip Rojanasunan ว่า มองในแง่ดีก็ถือเป็นโอกาสได้อธิบาย แต่คนที่ปักใจด่าก็คงไม่เปลี่ยนใจ หากต้องการความจริงจะต้องทำใจเป็นกลางรับฟังข้อมูลแยกเป็นประเด็นหลักๆคือการใช้เครื่องมือนี้คือความโง่ของเจ้าหน้าที่ตามที่กล่าวหาหรือไม่ สองเครื่องมือนี้เป็นเครื่องมือวิทยาศาสตร์หรือไม่ และสามมีการทุจริตในการซื้อหรือไม่
หากมีใจเป็นธรรมย่อมเข้าใจคนทำงานในเหตุการณ์ระเบิดรุนแรงในสามจังหวัดชายแดนใต้ ที่เมื่อทราบว่ามีอุปกรณ์ที่พอตรวจสอบระเบิดจากระยะไกลที่มีต่างประเทศใช้ รวมทั้งมีการใช้อุปกรณ์แบบเดียวกันตรวจหายาเสพติดมาหลายปี จึงเริ่มสั่งมาใช้ คนทำงานย่อมรู้สึกอุ่นใจ แม้ว่าจะวางใจไม่ได้ร้อยเปอร์เซนต์ แต่ต่อมามีประเด็นเรื่องการทุจริตก็ควรแยกแยะว่านั่นคือเรื่องที่ต้องตรวจสอบคนซื้อ คนขาย
เมื่อครั้งนั้นหมอเพียงออกมาปกป้องการกล่าวหาว่าคนทำงานโง่ ทั้งๆที่เขามีความเสี่ยงในการปฏิบัติงานตลอดเวลา หมอไม่ได้ปกป้องว่าเครื่องนี้ดี แต่คนในสังคมเชื่อง่าย เสพข้อมูลจากสื่อที่ใส่สีโดยไม่ฟังความจริงใดๆ สิ่งที่ทำให้ไม่มีการรับฟังอีกเลยคือสังคมมีการแบ่งฝ่ายเอาทุกเรื่องมาโยงกัน
สำคัญที่สุดคือการใช้Social mediaกล่าวหาใส่ร้ายกันอย่างขาดความรู้ผิดชอบชั่วดี โอกาสที่จะฟังความจริงจึงไม่เหลือ หมอได้ปล่อยวางหมดแล้ว ตัวเราเท่านั้นที่รู้ว่าเราทำอะไรถูกหรือผิด จิตจะไม่ไปผูกกับสิ่งรอบตัวให้รุงรัง คนที่ด่าคนอื่นก็ต้องทุกข์เพราะเกลียดโกรธเขา ขอบคุณโอกาสที่กลับมาให้ชี้แจง จะฟังหรือไม่ไม่สำคัญเท่ากับได้ทำหน้าที่แล้ว
ต่อมา รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ในเฟซบุ๊ค Jessada Denduangboripant ว่า "คำพูด เป็นนาย ตัวเราเอง คนเราทุกคนมีสิทธิผิดได้ อยู่ที่จะยอมรับและปรับปรุงแก้ไขตัวเองได้แค่ไหน" พร้อมทั้งโชว์ข้อความที่พญ.คุณหญิงพรทิพย์เขียนในหนังสือทักษิณวิปโยคของตัวเองด้วย
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1466502234
"หมอพรทิพย์"ยันไม่เคยบอกว่า"จีที200"ดี เจอ"อ.เจษฎา"งัดหลักฐานโต้ทันที บอกด้วยว่า "คำพูด เป็นนายตัวเราเอง"
หากมีใจเป็นธรรมย่อมเข้าใจคนทำงานในเหตุการณ์ระเบิดรุนแรงในสามจังหวัดชายแดนใต้ ที่เมื่อทราบว่ามีอุปกรณ์ที่พอตรวจสอบระเบิดจากระยะไกลที่มีต่างประเทศใช้ รวมทั้งมีการใช้อุปกรณ์แบบเดียวกันตรวจหายาเสพติดมาหลายปี จึงเริ่มสั่งมาใช้ คนทำงานย่อมรู้สึกอุ่นใจ แม้ว่าจะวางใจไม่ได้ร้อยเปอร์เซนต์ แต่ต่อมามีประเด็นเรื่องการทุจริตก็ควรแยกแยะว่านั่นคือเรื่องที่ต้องตรวจสอบคนซื้อ คนขาย
เมื่อครั้งนั้นหมอเพียงออกมาปกป้องการกล่าวหาว่าคนทำงานโง่ ทั้งๆที่เขามีความเสี่ยงในการปฏิบัติงานตลอดเวลา หมอไม่ได้ปกป้องว่าเครื่องนี้ดี แต่คนในสังคมเชื่อง่าย เสพข้อมูลจากสื่อที่ใส่สีโดยไม่ฟังความจริงใดๆ สิ่งที่ทำให้ไม่มีการรับฟังอีกเลยคือสังคมมีการแบ่งฝ่ายเอาทุกเรื่องมาโยงกัน
สำคัญที่สุดคือการใช้Social mediaกล่าวหาใส่ร้ายกันอย่างขาดความรู้ผิดชอบชั่วดี โอกาสที่จะฟังความจริงจึงไม่เหลือ หมอได้ปล่อยวางหมดแล้ว ตัวเราเท่านั้นที่รู้ว่าเราทำอะไรถูกหรือผิด จิตจะไม่ไปผูกกับสิ่งรอบตัวให้รุงรัง คนที่ด่าคนอื่นก็ต้องทุกข์เพราะเกลียดโกรธเขา ขอบคุณโอกาสที่กลับมาให้ชี้แจง จะฟังหรือไม่ไม่สำคัญเท่ากับได้ทำหน้าที่แล้ว
ต่อมา รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ในเฟซบุ๊ค Jessada Denduangboripant ว่า "คำพูด เป็นนาย ตัวเราเอง คนเราทุกคนมีสิทธิผิดได้ อยู่ที่จะยอมรับและปรับปรุงแก้ไขตัวเองได้แค่ไหน" พร้อมทั้งโชว์ข้อความที่พญ.คุณหญิงพรทิพย์เขียนในหนังสือทักษิณวิปโยคของตัวเองด้วย
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1466502234