[CR] เล่าเรื่องเมืองประทับใจในฝรั่งเศส: Prapic หมู่บ้านสวยในหุบเขา

เล่าเรื่องเมืองประทับใจในฝรั่งเศส: Prapic หมู่บ้านสวยในหุบเขา



หน้าร้อนของปีที่แล้ว หลังจากบินไปทำงานที่ฝรั่งเศส เลยได้โอกาสดีขอลาต่อเพื่อเดินสายตามชมกิจกรรมน่าร้อนของคนที่นี่

บ่ายวันหนึ่งในรอบหลายวันของการพักผ่อน เราเลยแผนที่แล้วเลือกเส้นทางเดินเขาแบบเบาๆ ที่เราสามารถไปชื่นชมวิวทิวทัศน์ได้ วันนี้เราเลือกเส้นทางของหมู่บ้าน Prapic หมู่บ้านเล็กที่ซ่อนตัวอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ

ฉันไม่เคยรู้จักหมู่บ้านนี้หรือแม้แต่เส้นทางแถบนี้ แต่ทุกครั้งของการเดินทาง เราก็เลือกเส้นทางจากแผนที่ท่องเที่ยวที่ได้มาจาก Tourist Office

เส้นทางเดินเขาเส้นนี้ มีแบบเดินธรรมดา จนถึงขั้นเดินข้ามเขาทั้งลูกเพื่อไปดูทะเลสาบ

เมื่อเข้ามาถึงเขตอุทยานแห่งชาติ ฟ้าเริ่มคลึ้ม ฝนทำท่าจะตก แต่หลายคนก็ไม่ย่อท้อ ยังมุ่งที่จะออกเดิน เราเลยเลือกเส้นทางง่ายๆ แค่เดินชมนกชมไม้เป็นระยะทางไม่กี่กิโมเมตรก็พอ



และเนื่องจากเป็นเขตอุทยาน จึงไม่ได้คิดว่าจะเจอหมู่บ้านเล็กๆซ่อนอยู่แถวนี้ ดูจากแผนที่ตรงที่จอดรถแล้วเข้ามา พบว่าเราต้องผ่ากลางหมู่บ้านนี้เพื่อไปต่อยังจุดหมาย เส้นทางนี้มีนักท่องเที่ยวประปราย หลายคนแบกเป้หลังใหญ่เข้ามา คงกะจะค้างคืนไปด้วยเลย ไม่แน่ใจว่าเวลาเข้าไปนอนในเขตอุทยานนี่ต้องขออนุญาตอย่างไรบ้าง แต่สำหรับพวกเรา ขอเดินแค่สองสามชั่วโมงพอเป็นพิธี





ผ่านเข้ามาในหมู่บ้าน Prapic เจอบ้านกระจุกตัวอยู่หลายหลัง แต่ละหลังเป็นบ้านสร้างด้วยหินก่อปูน ประดับประดาจั่วด้วยไม้ ตกแต่งหน้าบ้านด้วยกระถางดอกไม้ กระเช้าดอกไม้สีสันสวยดี ตัดกับบ้านได้อย่างลงตัวมากๆ หลายบ้านปิดเหมือนไม่มีคนใช้งาน คาดว่าเป็นบ้านที่สร้างเพื่อเป็นที่พักตากอากาศ แล้วกลับมาปีละหน แต่หลายบ้านก็มีคนอาศัยกันจริงจัง  เก็บเกี่ยวหญ้าแห้งม้วนใหญ่เก็บไว้ในโรงนา(อันนี้เรียกเอง)











ผ่านบ้านเรือนหลายหลังมุ่งเข้าเส้นทางเขา ที่มีป้ายบอกทางเป็นระยะๆ ไม่ต้องกลัวหลง ภูเขาลูกใหญ่โตขนาบข้าง ต้นไม้และหญ้าสีเขียวขจี ทำให้อากาศสดชื่นขึ้นมาก ไม่มีอากาศร้อนแบบตอนวันทำงานมากวนใจ







ระหว่างทาง เราสามารถสอดส่องหาตัวมาร์มอต(marmotte) หนูภูเขาตัวยักษ์ที่อาศัยอยู่ในรู พบได้ทั่วไปตามเทือกเขาสูง เจ้ามาร์มอตนี่ความจริงตือสัตว์ในวงศ์เดียวกัยกระรอก แต่ตัวใหญ่มาก ชอบออกวาวิ่งเล่นตรงสนามหญ้า แต่ถ้าเจอเสียงดังเมือไหร่จะรีบหนีลงรู ดังนั้นเวลามาเดินป่าต้องพยายามทำตัวเงียบๆแล้วมองหาไปเรื่อยๆ บางทีเราจะได้ยินเสียงร้อง แต่ไม่เห็นตัว

ฉันมาเที่ยวแถบนี้อยู่หลายครั้ง ได้เห็นตัวเป็นๆอยู่ 2 ครั้งเท่านั้นและได้เห็นแค่แป๊บเดียว เพื่อนที่ไปเที่ยวแถบปากีสถานและเลห์ ลาดักห์ เห็นเยอะมากจนสามารถเข้าไปถ่ายรูปใกล้ๆได้ด้วยซ้ำ แปลกใจว่ามาร์มอตแถวนี้ทำไมกลัวคน

ระหว่างทางเดนิหามาร์มอตไป ก็สามารถเก็บลูกสตรอเบอร์รี่ป่าลูกจิ๋วใส่ถุงกลับบ้านไปด้วยได้ ลูกจิ๋วรถชาติเปรี้ยวอมฝาด เอาไปใส่โยเกิร์ตกินตอนเช้าก็อร่อยดี นักท่องเที่ยวบางคนเอาถังพลาสติกมาใส่กันเป็นลำเป็นสัน เดินไปกลับ เก็บได้เต็มกระบุง
ส่วนพวกเรา เดินเก็บไปกินไป ถึงเวลากลับบ้าน....เหลือแต่ถุงเล็กๆเท่านั้น ไม่พอที่จะเอามาทำหน้าพายด้วยซ้ำ








ระหว่างทางแยกไปสุสานของกวีชื่อดัง หรือจะไปชมทะเลสาบ(ซึ่งต้องเดินต่อไปอีก 3 ชั่วโมง) เราตัดสินใจกันมาแล้วว่าจะเดินปีบเดียวเท่านั้น เลยมุ่งหน้าตามป้าย Tombeau du Poete








เดินมาไม่นานก็ถึงสุสานของกวีชาวฝรั่งเศส Joseph Reymond ตั้งอยู่ใต้ซอกหินก้อนใหญ่ กวีท่านนี้เกิดและเสียชีวิตที่ Prapic มีป้ายบอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาติดไว้ แต่เป็นภาษาฝรั่งเศส เลยได้เรียนรู้แค่นี้ (ตอนหลังมาหาข้อมูลในinternet พบว่า กวีท่านนี้เคยเป็นอาจารย์ด้วย หลังจากนั้นก็ตัดสินใจกลับมาใช้ชีวิตบั้นปลายที่บ้านเกิด ตามอารมณ์ศิลปินสมัยก่อน)





นั่งพักเหนื่อยซักแป๊บ แวะเก็บสตรอเบอร์รี่ป่าที่ขึ้นอยู่เต็มไปหมดหน้าสุสาน ก่อนเดินกลับทางเดิม
ระหว่างทางผ่านธารน้ำใสแจ๋วและเย็นเฉียบ ขอพักร่างรับความเย็นซักครู่ เลยได้โอกาสหย่อนเท้าผ่อนคลายในธารน้ำ
มุมนี้ไม่ได้สวยมากเหมือนน้ำตกบ้านเรา แต่ท่ามกลางป่าเขาแบบนี้ การที่ได้เห็นธารน้ำใสๆ ก็อดใจไม่อยู่ ถ้าเป็นหน้าหนาวคงอยากเรียกหาบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติ แช่ตัวท่ามกลางสายลมและแสงแดด เป็นการพักร้อนที่ชิลที่สุดในสามโลก

ความจริงที่นี่ก็เหมาะกับการนั่งปิกนิคเหมือนกัน แต่ติดที่ว่าอีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะได้เวลาอาหารเย็น เราเลยตัดสินใจเดินกลับดีกว่า





ขากลับ ก็ไม่ลืมสอดส่องเจ้ามาร์มอต รอบนี้ไม่โผล่มาให้เห็นหรือให้ได้ยินเสียงเลยซักนิด

แสงแดดยามเย็น ช่วงก่อนจะลาลับฟ้า ส่องเข้าไปที่หมู่บ้าน Prapic
ทุ่งดอกหญ้าสีฟ้า สีชมพูก็แข่งกันบ้าน มุมนี้เลยเหมือนเข้าไปอยู่ในดินแดนเทพนิยาย น่ารักมากๆ วิ่งลงไปถ่ายรูปทุ่งหญ้าจนคันไปทั่วตัว










ก่อนออกจาก Prapic แวะชมหมู่บ้านอีกรอบ นั่งพักขา จิบเบียร์เย็นๆในร้านอาหาร ซึ่งเปิดอยู่ร้ายเดียวตอนนี้
การมีร้านอาหารเล็กๆในเมือง เสริฟทุกอย่างที่เราต้องการ แปลได้ว่า ช่วงที่นักท่องเที่ยวเยอะๆ ที่นี่คงแน่นขนัดน่าดู
คนที่นี่ชอบเดินป่า เดินเขา ปีนป่าย เดินได้เป็นวันๆเพื่อนขึ้นไปชมความงดงามของธรรมชาติ













จบการเดินทางไม่กี่ชั่วโมงด้วยความสุข  และความเหนื่อย
บอกลา Prapic กลับไปกินข้าวบ้าน

ความสวยและความน่ารักของหมู่บ้านนี้ยังคงรอให้นักเดินทางเข้ามาเยี่ยมเยือน




A REMARKABLE JOURNEY

ชื่อสินค้า:   เล่าเรื่องเมืองประทับใจในฝรั่งเศส: Prapic หมู่บ้านสวยในหุบเขา
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่