เกริ่นก่อนนะคะ
เราทำงานที่คลินิกความงามแห่งหนึ่งค่ะ โดยภายในคลินิกจะมีพนักงานไม่กี่คน
โดยแบ่งๆหน้าที่กันทำไป หรือช่วยๆกันทำค่ะ ส่วนเราเป็นการตลาดออนไลน์ให้ที่นี่
งานส่วนใหญ่จะทำออนไลน์ค่ะ ดูแลเพจ ทำการตลาด คิดโปร อะไรประมาณนี้ ไม่มีลงหน้าร้าน
หลังจากทำมาได้ซักพักเราไม่ไหวจะเดินทางและไม่โอเคกับเพื่อนร่วมงาน
(กันประเด็นดราม่าเรื่องระยะการเดินทาง ที่นี่เค้าถือหุ้นกับน้าเราและขอให้เรามาช่วยค่ะ ซึ่งเราก็บอกอยู่แล้วว่าบ้านไกลมาก)
เราจึงบอกเจ้าของคลินิกไปตามตรง ว่าขอทำงานข้างนอก ไม่เข้าออฟฟิศอีก
เพราะงานทำแต่ในคอมอยู่แล้ว ไปก็เท่านั้น แถมอึดอัดกับเพื่อนร่วมงานคนนี้ด้วย (ที่ทำงานอยู่เมืองทองค่ะ บ้านอยู่บางกะปิ)
เพื่อนร่วมงานคนนี้ที่เราอึดอัดเพราะ
- เค้าหาเรื่องเราตลอดเวลาค่ะ ต่อหน้าพูดดี ลับหลังโทรฟ้อง พูดถึงเราเสียๆหายๆ
- เค้าเห็นใครดีกว่าไม่ได้ค่ะ ตอนแรกที่เค้ารู้ว่าเราได้เงินเดือนเยอะกว่าเค้าไม่พอใจแรงมาก
ถึงกับไปโวยเจ้าของว่าทำไมเราถึงได้มากกว่า ทั้งๆ ที่ทำงานคนละตำแหน่ง เราทำการตลาด เค้าเป็น พนง ทรีทเมนต์
- เค้าโกงเงินร้านในหลายๆทางค่ะ เราจับได้ เพราะเคยผ่านงานคลินิกชื่อดัง ระบบใหญ่ๆมาแล้ว รู้ราคายา รู้ระบบเกือบทั้งหมด
เค้าโกงทั้งค่าสั่งยา กินค่าหัวกับดีเทลสั่งยา ไหนจะประวัติการเข้าใช้บริการของลูกค้า ที่ไม่ยอมลงรายละเอียดต่างๆ
เราคุยกับน้าเราและเจ้าของร้านเรื่องนี้ เค้าก็ว่าโวยวายหาว่าเราไปใส่ร้ายเค้า ทั้งๆที่ราคายาอะไรต่างๆที่เราควรจะรู้เค้าก็เอาไปแอบ
แต่ที่รู้เพราะเจ้าของหลุดบอกมาว่าเค้าสั่งยาไปตัวนึงได้มาในราคาแค่ 15,000 ซึ่งเรารู้ว่าตัวนี้มาจริงๆแค่ 11,000
- และอีกหลายๆเรื่องค่ะ ขี้เกียจสาธยายเอาเป็นว่าเค้าไม่ชอบเราแรงมาก
หลังจากนั้น
ทางเจ้าของและน้าก็ไม่ว่าอะไรค่ะ ทำงานข้างนอกได้ กินเงินเดือนเหมือนเดิม ไม่ซีเรียส มีงานส่งจบ
แล้วเราทำเรื่องขอกู้บ้านค่ะ นี่คือประเด็น เราทำเรื่องขอกู้บ้านโดยใช้เอกสารรับรองเงินเดือนของที่นี่
พอ พนักงานของธนาคารโทรไปถาม ดันเจอคนนี้รับค่ะ
และเค้าแจ้งกับทางธนาคารไปว่า เราลาออก จากที่นี่แล้ว (แบงค์โทรมาบอกนะคะ ว่าเค้าแจ้งมาแบบนี้)
คือเราอึ้งมาก คิดได้ไง ทั้งๆที่เค้าก็รู้ว่าเรายังทำงานอยู่ วันที่คุยเรื่องที่จะไม่เข้าออฟฟิศเค้าก็อยู่ด้วย
แล้วคือ เราทำกู้ร่วมกับน้องสาวค่ะ ทุกอย่างผ่านหมดแล้ว แต่มาติดเพราะคนๆนี้แกล้งเราแบบนี้
คือเรารู้นะคะ ว่าไม่ชอบ แต่แกล้งกันแบบนี้มันแรงเกินไปไหมคะ
อยากจะคุยกับเจ้าของเรื่องนี้มาก แต่แบบ เค้าประจบเก่ง เจ้าของก็คิดว่าเค้าดี
ขนาดเราบอกเรื่องที่เค้าโกงยังไม่ค่อยอยากจะเชื่อ แต่ที่น้าเราเรียกเรามาช่วยเพราะเค้ารู้ตัวว่าเงินค่ายาหายไปเกือบแสน
ตอนนี้หงุดหงิดและเซ็งมากค่ะ ถ้าเป็นแบบนี้เราคงกู้ไม่ผ่านแล้วใช่มั้ยคะ
*แท็กปัญหาสังคม เพราะรู้สึกว่าเจอคนแบบนี้ในสังคมแบบนี้แย่มากค่ะ T T
โดนคนที่ทำงานแกล้งแบบนี้ทุเรศไปไหมคะ
เราทำงานที่คลินิกความงามแห่งหนึ่งค่ะ โดยภายในคลินิกจะมีพนักงานไม่กี่คน
โดยแบ่งๆหน้าที่กันทำไป หรือช่วยๆกันทำค่ะ ส่วนเราเป็นการตลาดออนไลน์ให้ที่นี่
งานส่วนใหญ่จะทำออนไลน์ค่ะ ดูแลเพจ ทำการตลาด คิดโปร อะไรประมาณนี้ ไม่มีลงหน้าร้าน
หลังจากทำมาได้ซักพักเราไม่ไหวจะเดินทางและไม่โอเคกับเพื่อนร่วมงาน
(กันประเด็นดราม่าเรื่องระยะการเดินทาง ที่นี่เค้าถือหุ้นกับน้าเราและขอให้เรามาช่วยค่ะ ซึ่งเราก็บอกอยู่แล้วว่าบ้านไกลมาก)
เราจึงบอกเจ้าของคลินิกไปตามตรง ว่าขอทำงานข้างนอก ไม่เข้าออฟฟิศอีก
เพราะงานทำแต่ในคอมอยู่แล้ว ไปก็เท่านั้น แถมอึดอัดกับเพื่อนร่วมงานคนนี้ด้วย (ที่ทำงานอยู่เมืองทองค่ะ บ้านอยู่บางกะปิ)
เพื่อนร่วมงานคนนี้ที่เราอึดอัดเพราะ
- เค้าหาเรื่องเราตลอดเวลาค่ะ ต่อหน้าพูดดี ลับหลังโทรฟ้อง พูดถึงเราเสียๆหายๆ
- เค้าเห็นใครดีกว่าไม่ได้ค่ะ ตอนแรกที่เค้ารู้ว่าเราได้เงินเดือนเยอะกว่าเค้าไม่พอใจแรงมาก
ถึงกับไปโวยเจ้าของว่าทำไมเราถึงได้มากกว่า ทั้งๆ ที่ทำงานคนละตำแหน่ง เราทำการตลาด เค้าเป็น พนง ทรีทเมนต์
- เค้าโกงเงินร้านในหลายๆทางค่ะ เราจับได้ เพราะเคยผ่านงานคลินิกชื่อดัง ระบบใหญ่ๆมาแล้ว รู้ราคายา รู้ระบบเกือบทั้งหมด
เค้าโกงทั้งค่าสั่งยา กินค่าหัวกับดีเทลสั่งยา ไหนจะประวัติการเข้าใช้บริการของลูกค้า ที่ไม่ยอมลงรายละเอียดต่างๆ
เราคุยกับน้าเราและเจ้าของร้านเรื่องนี้ เค้าก็ว่าโวยวายหาว่าเราไปใส่ร้ายเค้า ทั้งๆที่ราคายาอะไรต่างๆที่เราควรจะรู้เค้าก็เอาไปแอบ
แต่ที่รู้เพราะเจ้าของหลุดบอกมาว่าเค้าสั่งยาไปตัวนึงได้มาในราคาแค่ 15,000 ซึ่งเรารู้ว่าตัวนี้มาจริงๆแค่ 11,000
- และอีกหลายๆเรื่องค่ะ ขี้เกียจสาธยายเอาเป็นว่าเค้าไม่ชอบเราแรงมาก
หลังจากนั้น
ทางเจ้าของและน้าก็ไม่ว่าอะไรค่ะ ทำงานข้างนอกได้ กินเงินเดือนเหมือนเดิม ไม่ซีเรียส มีงานส่งจบ
แล้วเราทำเรื่องขอกู้บ้านค่ะ นี่คือประเด็น เราทำเรื่องขอกู้บ้านโดยใช้เอกสารรับรองเงินเดือนของที่นี่
พอ พนักงานของธนาคารโทรไปถาม ดันเจอคนนี้รับค่ะ
และเค้าแจ้งกับทางธนาคารไปว่า เราลาออก จากที่นี่แล้ว (แบงค์โทรมาบอกนะคะ ว่าเค้าแจ้งมาแบบนี้)
คือเราอึ้งมาก คิดได้ไง ทั้งๆที่เค้าก็รู้ว่าเรายังทำงานอยู่ วันที่คุยเรื่องที่จะไม่เข้าออฟฟิศเค้าก็อยู่ด้วย
แล้วคือ เราทำกู้ร่วมกับน้องสาวค่ะ ทุกอย่างผ่านหมดแล้ว แต่มาติดเพราะคนๆนี้แกล้งเราแบบนี้
คือเรารู้นะคะ ว่าไม่ชอบ แต่แกล้งกันแบบนี้มันแรงเกินไปไหมคะ
อยากจะคุยกับเจ้าของเรื่องนี้มาก แต่แบบ เค้าประจบเก่ง เจ้าของก็คิดว่าเค้าดี
ขนาดเราบอกเรื่องที่เค้าโกงยังไม่ค่อยอยากจะเชื่อ แต่ที่น้าเราเรียกเรามาช่วยเพราะเค้ารู้ตัวว่าเงินค่ายาหายไปเกือบแสน
ตอนนี้หงุดหงิดและเซ็งมากค่ะ ถ้าเป็นแบบนี้เราคงกู้ไม่ผ่านแล้วใช่มั้ยคะ
*แท็กปัญหาสังคม เพราะรู้สึกว่าเจอคนแบบนี้ในสังคมแบบนี้แย่มากค่ะ T T