เรื่องมีว่าเพื่อนผู้หญิงผมคนนึงอยู่กินกับแฟนที่เป็นพ่อหม้ายและเป็นจ่าทหารบก(ไม่ได้จดทะเบียนสมรส)ถูกแฟนขอเลิกบอกว่าถูกเจ้าหน้าที่ไฟแนนซ์โทรมาทวงเงินที่ทำงานค่ารถคันที่เมียใช้อยู่บ่อยๆรำคาญและกลัวเจ้านายตำหนิ ก่อนที่จะตกลงอยู่กินด้วยกันผู้หญิงทำงานเป็นพนักงานต้อนรับในผับส่วนทหารก็รับงานคุมร้านอาหารในที่เดียวกัน ผู้หญิง เป็นคนสวยมีคนมาชอบมากและเคยใช้ชีวิตคู่กับผู้ชายมาหลายคนแต่ก็เลิกกันหมดนานแล้วทหารก็รู้ก่อนที่จะมาอยู่กินกับทหารอยู่กินกันมาได้3-4ปีจนเมื่อปี58แฟนที่เป็นทหารถูกส่งไปช่วยงานอยู่ทางเหนือเดือนนึงจะได้กลับมาบ้านพักที่อยู่ด้วยกัน2-3วัน ก่อนที่จะไปทำงานทางเหนือผู้หญิงก็ทำงานบริษัทจึงขอให้สามทำเรื่องเช่าซื้อรถเนื่องจากชื่อตัวเองติดแบ็คลิสแต่ผู้หญิงเป็นคนส่งค่ารถเองต่อมางานที่ทำก็ถูกให้ออกจึงวิ่งหางานใหม่งานก็ยังไม่ได้จนค้างค่างวดรถ8งวดเมื่อต้นเดือนมิ.ย.59นี้เจ้าหน้าที่จึงโทรไปทวงสามีๆเค้าเลยโมโหมากและโทรมาบอกผู้หญิงๆก็หาเงินเคลียร์ได้ครึ่งนึงและไปจ่ายให้ไฟแนนซ์ทางไฟแนนซ์ก็แจ้งมาอีกว่าส่วนที่เหลือขอภายในกลางเดือนนี้และโทรไปทวงทางสามีอีกจนสามีบอกไม่ไหว ขอเลิกเพราะตัวเค้าไม่เคยถูกใครทวงหนี้และให้ผู้หญิงย้ายออกจากบ้านพักไปเลย ผมมาคิดดูว่าเป็นหนี้แค่นี้ขอเลิกไม่น่าจะเป็นเหตุผลน่าจะเรื่องอื่นมากกว่าเพราะถ้าหาเงินเคลียร์ได้อยู่กันไปก็ต้องมีหนี้อีกก็ต้องขอเลิกอีก ผู้หญิงอายุ37จบ ป.ตรีผู้ชาย40กว่าๆมีลูกติด1คนเป็นสาวแล้ว16ปี รึคุณๆว่าน่าจะเรื่องอื่นๆ
ขอเลิกเพราะอายที่ถูกทวงหนี้ค่างวดรถ