ยิงถล่ม!!! บาร์เกย์ ใน USA รัฐ Florida ตาย 20 ศพ!!!

ยิงถล่ม!!! บาร์เกย์ ใน USA รัฐ Florida ตาย 50 ศพ!!!

12 มิถุนายน 2559

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ





สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองออร์แลนโด ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. ว่า     คนร้ายชายรายหนึ่งซึ่งมีปืนไรเฟิลจู่โจมและปืนพกเป็นอาวุธ  บุกเข้าควบคุมประชาชนเป็นตัวประกัน และเปิดฉากกราดยิง ภายในบาร์เกย์ของกลุ่มนักเที่ยวชายรักชาย ชื่อ "พัลส์ ไนท์คลับ"  ในเมืองออร์แลนโด รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา ขณะที่ที่มีลูกค้าเข้าไปใช้บริการเนืองแน่น ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 ศพ ได้รับบาดเจ็บ 42 คน และคนร้ายถูกเจ้าหน้าที่ยิงเสียชีวิตในเวลาต่อมา

    เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่น เผยว่า  เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 02.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ชายคนร้ายถือเป็นไรเฟิลจู่โจมและปืนพกเข้าไปในพัลส์ ไนท์ คลับ จี้บังคับผู้ที่อยู่ในบาร์เป็นตัวประกัน และสถานการณ์ยืดเยื้ออยู่นาน ก่อนที่คนร้ายจะยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่รับงานพิเศษเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยของบาร์ และคนร้ายหันมาเปิดฉากกราดยิงไม่เลือกหน้า ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 ศพ และบาดเจ็บ 42 คน ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล 3 แห่งในเมืองออร์ลันโด

    เมื่อเวลาประมาณ 05.00 น. เจ้าหน้าที่ตัดสินใจส่งตำรวจคอมมานโดหน่วยสวาทเข้าไปในบาร์ เพื่อช่วยเหลือประชาชน และเกิดการยิงปะทะอีกรอบ ทำให้คนร้ายถูกเจ้าหน้าที่ยิงเสียชีวิต นายแจร์รี เดนนิ่งส์ หัวหน้าสำนักงานเขตปกครองท้องที่ออเรนจ์ เคาน์ตี กล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่ทราบชื่อคนร้าย รวมทั้งมูลเหตุจูงใจในการก่อเหตุ แต่เจ้าหน้าที่หลายฝ่ายเชื่อว่า อาจเป็นการก่อการร้าย โดยคนร้ายที่อยู่ในท้องถิ่น

http://www.dailynews.co.th/foreign/502143



แฉ!!! มือกราดยิงไนท์คลับมะกัน สวามิภักดิ์ ISIS!!! ก่อนก่อเหตุ!!! ถูก FBI ตามสืบ!!!

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 13 มิ.ย. 2559

เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เปิดเผยว่า มือปืนผู้ก่อเหตุกราดยิงที่ไนท์คลับชาวเกย์ในรัฐฟลอริดา โทรศัพท์หาตำรวจและประกาศสวามิภักดิ์ต่อกลุ่มไอซิสก่อนลงมือก่อเหตุ นอกจากนี้ในอดีตเขายังเคยถูก เอฟบีไอ ตามสอบสวนด้วย...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ตำรวจสหรัฐฯ ผู้ไม่เปิดเผยนามนายหนึ่งเปิดเผยว่า มือปืนผู้ก่อเหตุกราดยิงภายในไนท์คลับ "The Pulse" สถานบันเทิงชื่อดังของกลุ่มคนรักเพศเดียวกัน ในเมืองออร์แลนโด รัฐฟลอริดาของสหรัฐฯ จนมีผู้เสียชีวิตถึง 50 ราย และบาดเจ็บอีก 53 คน เมื่อวันอาทิตย์ที่ 12 มิ.ย. มีโทรศัพท์เบอร์ 911 หาตำรวจเพื่อประกาศสวามิภักดิ์ต่อกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม รวมทั้งกล่าวถึงมือระเบิดงานบอสตันมาราธอนเมื่อปี 2013 ก่อนที่จะลงมือก่อเหตุประมาณ 20 นาที

ทางการสหรัฐฯ ยังไม่ระบุชื่อผู้ต้องสงสัยอย่างเป็นทางการ แต่ตำรวจหลายนาย ระบุชื่อคนร้ายว่า โอมาร์ เซดดิกี มาทีน อายุ 29 ปี ชาวอเมริกันเชื้อสายอัฟกานิสถาน จากเมืองฟอร์ต เพียร์ส ในรัฐฟลอริดา โดยจากการสืบประวัติพบว่า สำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) ของสหรัฐฯ เคยสอบสวนนายมาทีน เนื่องจากมีความเป็นไปได้ว่าเขาเป็นผู้ฝักใฝ่ฝ่ายกลุ่มติดอาวุธมุสลิม นอกจากนี้ ในอดีตเขายังเคยเข้าไปเกี่ยวข้องในคดีความอีก 2 คดี แต่เจ้าหน้าที่มีหลักฐานไม่เพียงพอในการเอาผิดเขา และก่อนเกิดโศกนาฏกรรมครั้งล่าสุด เจ้าหน้าที่ก็ไม่พบสัญญาณใดๆ ที่บอกว่าเขาจะลงมือก่อเหตุ
ขณะที่ในงานแถลงข่าวเมื่อเช้าวันอาทิตย์ ผู้สื่อข่าวสหรัฐฯ ได้สอบนาย โรนัลด์ ฮอปเปอร์ ผู้ช่วยเจ้าหน้าที่พิเศษของเอฟบีไอ ว่าผู้ต้องสงสัยรายนี้มีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อการร้ายมุสลิมสุดโต่งหรือไม่ ซึ่งเขาตอบว่า "เจ้าหน้าที่สืบสวนกำลังตรวจสอบในทุกแง่มุม พวกเรามีข้อบ่งชี้ว่า คนร้ายอาจมีความคิดเอนเอียงไปทางคตินิยมบางอย่าง แต่เรายังบอกไม่ได้ว่าคืออะไร"

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า เหตุใดหลังเกิดเหตุตำรวจจึงรีบชี้ว่าเหตุการณ์นี้เป็นการก่อการร้าย ไม่ใช่อาชญากรรมจากความเกลียดชัง นายฮอปเปอร์ตอบว่า ข้อมูลต่างๆ จะได้รับการเปิดเผยในภายหลัง หลังจากที่เขาสามารถยืนยันตัวผู้ต้องสงสัยได้แล้ว
ด้านนาย เมียร์ เซดดิกี บิดาของนายโอมาร์ บอกกับสำนักข่าว เอ็นบีซี นิวส์ ว่า เหตุการณ์นี้ไม่ได้มีมูลเหตุจูงใจจากเรื่องศาสนา แต่อาจเกิดขึ้นเพราะเขาเห็นชาวรักร่วมเพศจูบกันที่เมืองไมอามี

ทั้งนี้ ตามการเปิดเผยของ จอห์น มีนา ผู้บังคับการตำรวจเมืองออร์แลนโด เหตุกราดยิงเกิดขึ้นในเวลาประมาณ 02:00 น. โดยผู้ต้องสงสัยบุกเข้าไปในคลับก่อนจะยิงปะทะกับตำรวจ ซึ่งทำงานภายในคลับแห่งนี้ จากนั้นจึงเกิดสถานการณ์จับตัวประกันขึ้น
ต่อมาในเวลาประมาณ 05:00 น. หลังจากได้รับข้อความและโทรศัพท์จากตัวประกันภายในคลับ ตำรวจจึงตัดสินใจส่งหน่วยจู่โจมเข้าไปในอาคาร "หน่วยสวาทของเรายิงปืนต่อสู้กับผู้ต้องสงสัย และผู้ต้องสงสัยเสียชีวิต" ผบ.มีนาเผยและเสริมว่า "ดูเหมือนว่าผู้ต้องสงสัยจะพกพาปืนพกและปืนไรเฟิลจู่โจม กับอุปกรณ์บางอย่างอยู่กับตัว" เจ้าหน้าที่ยังได้ใช้หุ่นยนต์เพื่อตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุเพื่อป้องกันวัตถุระเบิดด้วย

อนึ่ง เหตุกราดยิงภายในไนท์คลับ The Pulse ทำให้มีผู้เสียชีวิต 50 ศพ และบาดเจ็บอีก 53 คน ถือเป็นเหตุกราดยิงที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดที่เคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ของสหรัฐอเมริกา แซงหน้าการฆาตกรรมหมู่ที่ เวอร์จิเนีย เทค เมื่อปี 2007 ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 32 ศพ

http://www.thairath.co.th/content/637423







แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่