วันที่ 22 ก.ค. 68 เมื่อเวลา 03.20 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปลายบาง ได้รับแจ้งเหตุชายถูกยิงด้วยอาวุธปืนเสียชีวิต ภายในบ้านหลังหนึ่ง ใน ต.ศาลากลาง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี จึงพร้อมด้วยแพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งรีบรุดตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยวขนาดใหญ่ ภายในหมู่บ้านชื่อดังแห่งหนึ่ง พบศพผู้เสียชีวิต ทราบชื่อต่อมาคือนายฉัตรรินทร์ อายุ 52 ปี เป็นผู้จัดการโชว์รูมรถยนต์แห่งหนึ่ง สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืน นอนจมกองเลือดอยู่บนที่นอน
ส่วนผู้ก่อเหตุคือนางมนฤดี อายุ 54 ปี ซึ่งเป็นภรรยาของผู้ตาย และเป็นเซลล์ขายรถยนต์อยู่โชว์รูมเดียวกับผู้ตาย หลังก่อเหตุได้ขับรถเก๋งหลบหนีออกไปจากบ้านไป แต่ต่อมามีรายงานว่า พบศพผู้ก่อเหตุลอยอยู่ในคลองมหาสวัสดิ์ ซึ่งห่างจากบ้านที่เกิดเหตุเพียง 3 กิโลเมตร ตรวจสอบที่ริมคลอง พบรถเก๋ง สีขาว และกระเป๋าสะพายสีแดง มีบัตรพนักงานของผู้ก่อเหตุวางอยู่ ส่วนปืนที่ใช้ก่อเหตุคาดว่าตกลงไปในน้ำพร้อมผู้ก่อเหตุ
สอบปากคำ น.ส.ธิติยา ลูกสาวของทั้งคู่ เล่าว่า ตนได้รับแจ้งจากเพื่อนของแม่ว่า แม่ได้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงใส่พ่อจนเสียชีวิตอยู่ในห้องนอน ตนจึงรีบขับรถเดินทางมาดูที่บ้านตอนเวลา 03.40 น. ก็พบว่าพ่อถูกยิงเสียชีวิตไปแล้ว โดยก่อนหน้านี้เมื่อช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา แม่จับได้ว่าพ่อไปติดพันผู้หญิงคนใหม่ ทำให้สองฝ่ายเกิดมีปัญหาปากเสียงกันเรื่อยมา
จากการสอบถามน้องสาวของนายฉัตรรินทร์ฯ ปกติพี่ชายตนมีเรื่องมือที่ 3 มาตลอด และพี่สะใภ้ก็รับได้ เขาอยู่ที่บ้านนี้กัน 2 คน ลูกสาวคนโตชื่อเดียร์ เป็นคนมาเจอ ส่วนคนเล็กชื่อฟ้า เป็นแอร์โฮสเตสกำลังบินกลับมา ปกติพี่สะใภ้จะเป็นคนเงียบๆ ไม่รู้ว่าครั้งนี้ทำไมถึงก่อเหตุรุนแรง และยังไม่ทราบว่าปืนที่ใช้ก่อเหตุนำมาจากไหน ซึ่งตนไม่ค่อยได้คุยกับพี่สะใภ้เพราะว่าตนรักพี่ชาย และเข้าข้างพี่ชายตลอด ส่วนพี่ชายกับพี่สะใภ้เคยแยกกันไปแล้วและกลับมาอยู่ด้วยกันเพราะลูก โดยพี่ชายของตนเป็นคนส่งเสียลูกทั้ง 2 คน
ในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า หลังนางมนฤดี ภรรยาได้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงนายฉัตรรินทร์ สามีจนเสียชีวิตแล้วได้ขับรถหลบหนีออกมาจากบ้านพัก ก่อนจะมาจอดรถในจุดเกิดเหตุแล้วตัดสินใจกระโดดน้ำฆ่าตัวตายในคลองดังกล่าวเพื่อหนีความผิด
ต่อมาตำรวจได้ทำการตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม โดยการไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุ (เวลาในแต่ละกล้องไม่ตรงกัน) ปรากฏว่าพบภาพขณะภรรยาขับรถเก๋งมาจอดที่จุดเกิดเหตุ และอยู่ในรถประมาณ 2 นาที
ต่อมากล้องวงจรปิดอีกมุมได้บันทึกภาพภรรยาเดินผ่านกล้อง ก่อนจะโยนทรัพย์สินลงน้ำ แล้วเดินไปยังจุดสุดสายตาของมุมกล้อง ก่อนทำการยิงตัวเองเสียชีวิต ซึ่งจากพยานหลักฐานที่ได้จากกล้องวงจรปิด ตำรวจยืนยันว่าเป็นการยิงตัวเองจริง
ผจก.โชว์รูมรถ โดนเมียทำงานที่เดียวกัน จับได้นอกใจ เมียทนไม่ไหวยิงผัวดับ แล้วยิงตัวตายร่างจมน้ำ
วันที่ 22 ก.ค. 68 เมื่อเวลา 03.20 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปลายบาง ได้รับแจ้งเหตุชายถูกยิงด้วยอาวุธปืนเสียชีวิต ภายในบ้านหลังหนึ่ง ใน ต.ศาลากลาง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี จึงพร้อมด้วยแพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งรีบรุดตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยวขนาดใหญ่ ภายในหมู่บ้านชื่อดังแห่งหนึ่ง พบศพผู้เสียชีวิต ทราบชื่อต่อมาคือนายฉัตรรินทร์ อายุ 52 ปี เป็นผู้จัดการโชว์รูมรถยนต์แห่งหนึ่ง สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืน นอนจมกองเลือดอยู่บนที่นอน
ส่วนผู้ก่อเหตุคือนางมนฤดี อายุ 54 ปี ซึ่งเป็นภรรยาของผู้ตาย และเป็นเซลล์ขายรถยนต์อยู่โชว์รูมเดียวกับผู้ตาย หลังก่อเหตุได้ขับรถเก๋งหลบหนีออกไปจากบ้านไป แต่ต่อมามีรายงานว่า พบศพผู้ก่อเหตุลอยอยู่ในคลองมหาสวัสดิ์ ซึ่งห่างจากบ้านที่เกิดเหตุเพียง 3 กิโลเมตร ตรวจสอบที่ริมคลอง พบรถเก๋ง สีขาว และกระเป๋าสะพายสีแดง มีบัตรพนักงานของผู้ก่อเหตุวางอยู่ ส่วนปืนที่ใช้ก่อเหตุคาดว่าตกลงไปในน้ำพร้อมผู้ก่อเหตุ
สอบปากคำ น.ส.ธิติยา ลูกสาวของทั้งคู่ เล่าว่า ตนได้รับแจ้งจากเพื่อนของแม่ว่า แม่ได้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงใส่พ่อจนเสียชีวิตอยู่ในห้องนอน ตนจึงรีบขับรถเดินทางมาดูที่บ้านตอนเวลา 03.40 น. ก็พบว่าพ่อถูกยิงเสียชีวิตไปแล้ว โดยก่อนหน้านี้เมื่อช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา แม่จับได้ว่าพ่อไปติดพันผู้หญิงคนใหม่ ทำให้สองฝ่ายเกิดมีปัญหาปากเสียงกันเรื่อยมา
จากการสอบถามน้องสาวของนายฉัตรรินทร์ฯ ปกติพี่ชายตนมีเรื่องมือที่ 3 มาตลอด และพี่สะใภ้ก็รับได้ เขาอยู่ที่บ้านนี้กัน 2 คน ลูกสาวคนโตชื่อเดียร์ เป็นคนมาเจอ ส่วนคนเล็กชื่อฟ้า เป็นแอร์โฮสเตสกำลังบินกลับมา ปกติพี่สะใภ้จะเป็นคนเงียบๆ ไม่รู้ว่าครั้งนี้ทำไมถึงก่อเหตุรุนแรง และยังไม่ทราบว่าปืนที่ใช้ก่อเหตุนำมาจากไหน ซึ่งตนไม่ค่อยได้คุยกับพี่สะใภ้เพราะว่าตนรักพี่ชาย และเข้าข้างพี่ชายตลอด ส่วนพี่ชายกับพี่สะใภ้เคยแยกกันไปแล้วและกลับมาอยู่ด้วยกันเพราะลูก โดยพี่ชายของตนเป็นคนส่งเสียลูกทั้ง 2 คน
ในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า หลังนางมนฤดี ภรรยาได้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงนายฉัตรรินทร์ สามีจนเสียชีวิตแล้วได้ขับรถหลบหนีออกมาจากบ้านพัก ก่อนจะมาจอดรถในจุดเกิดเหตุแล้วตัดสินใจกระโดดน้ำฆ่าตัวตายในคลองดังกล่าวเพื่อหนีความผิด
ต่อมาตำรวจได้ทำการตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม โดยการไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุ (เวลาในแต่ละกล้องไม่ตรงกัน) ปรากฏว่าพบภาพขณะภรรยาขับรถเก๋งมาจอดที่จุดเกิดเหตุ และอยู่ในรถประมาณ 2 นาที
ต่อมากล้องวงจรปิดอีกมุมได้บันทึกภาพภรรยาเดินผ่านกล้อง ก่อนจะโยนทรัพย์สินลงน้ำ แล้วเดินไปยังจุดสุดสายตาของมุมกล้อง ก่อนทำการยิงตัวเองเสียชีวิต ซึ่งจากพยานหลักฐานที่ได้จากกล้องวงจรปิด ตำรวจยืนยันว่าเป็นการยิงตัวเองจริง