เห็นเปรียบเปรยตัวละครจากกระบี่เย้ยยุทธจักร ผมจึงขอกล่าวบางอย่าง

กระบี่เย้ยยุทธจักร เดชคัมภีร์เทวดา ครั้งแรกที่ผมได้อ่านอยู่ในช่วงม.2 ซึ่งเป็นฉบับการ์ตูน ต่อมาผมสนใจจึงได้หานิยาตัวเต็มมาอ่านจนจบ นับเป็นนิยายกำลังภายในเรื่องแรกที่ผมได้เริ่มอ่าน

ในสมัยเด็กๆผมไม่เคยคิดว่าจะมีบุคคลเฉกเช่นงักปุกคุ้งดังเช่นนิยาย แต่เมื่อโตขึ้นเห็นอะไรมากขึ้นก็มีคนหลายคนทำตัวเฉกเช่นงักปุกคุ้งอยู่มากหลาย

ทำไมงักปุกคุ้งถึงน่ากลัวที่สุด? ในคำกล่าวว่าดาบ กระบี่ ทวน แม้รุนแรงและอันตราย ทว่ายังสามารถระวังและป้องกันได้ แต่ไหนเลยจะน่ากลัวเท่าเกาทัณฑ์ในแขนเสื้อ เพราะ ท่านไม่รู้ว่ามันจะถูกปล่อยออกมาเมื่อใด เมื่อมันปล่อยแล้วไหนเลยท่านจะระวังตัวทัน เหมือนกับคนที่มีความสัมพันธ์ฉันมิตรกับเรามานาน มีบุคลิกท่าทางน่าเชื่อถือ แต่ทว่าถ้าหากเค้าคิดร้ายกับเรา ไหนเลยจะระวังตัวทัน เพราะเมื่อท่านรู้ตัว มันก็สายไปเสียแล้ว

จ้อแน่เซียง ตงฟางปุป้าย ยิ่มอั่วเกี๋ย ล้วนเป็นบุคคลซึ่งแสวงหาอำนาจด้วยกันทั้งนั้น แต่หาได้น่ากลัวเท่างักปุกคุ้งที่ซ่อนแผนร้ายในคราบผู้ดี ชื่อเสียงที่ดี บุคลิกที่ดี

มาถึงเหล่งหูชงศิษย์คนโตแห่งสำนักฮั่วซัว ศิษย์เอกของงักปุกคุ้ง เขามีพฤติกรรมแทบจะตรงข้ามอาจารย์ของเขาแทบทุกอย่าง ขี้เมา เสเพล ไม่อยู่ในระเบียบสำนัก แต่ถึงกระนั้นกลับมีคุณธรรมอย่างลึกซึ้ง เขาไม่สนใจว่าใครจะกำหนดคนนั้น หรือคนโน้นเป็นธรรมมะ หรือ อธรรม เพราะ คำว่าธรรมมะ อธรรมเป็นการแบ่งแยกชนชั้นเหมือน คนดำ กับ คนขาวในสมัยก่อน เค้ากลับเชื่อว่าทุกคนล้วนมีความเป็นมนุษย์เหมือนกัน หาได้จำเป็นต้องแบ่งแยกไม่ ท้ายที่สุดหลังผ่านพายุในยุทธจักร ความต้องการของเค้าเหลือเพียงการยิ้มเย้ยยุทธจักร ปลีกวิเวกหาความสงบเท่านั้น

ยุทธจักร ก็เหมือนการเมืองที่ทุกคนต่างหวังแย่งชิงอำนาจ คำว่า นายกรัฐมนตรี อาจจะเปรียบเปรยเหมือน จอมยุทธอันดับ 1 ของแผ่นดิน ยอดวิชาอาจหมายถึงผลประโยชน์หรือทรัพยากรต่างๆ เมื่อผู้ใดเข้าสู่วงการยุทธจักรแล้วไซร้ ไม่ว่าเต็มใจหรือไม่ ท่านก็ไม่สามารถออกจากวงการนี้ได้โดยง่าย บางทีอาจจะต้องรอความตายให้นำพวกเค้าออกจากสิ่งนี้

ในยุคปัจจุบัน ไหนเลยจะเหลือคนที่สามารถยิ้มเย้ยยุทธจักรได้เหมือนเหล่งหูชงอีก