สวัสดีค่ะสมาชิกพันทิปทุกๆคน ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อนนะคะว่านี่คือกระทู้รีวิวการท่องเที่ยวแรกของ จขกท.(ก่อนหน้านี้จะมีก็แบบกระทู้คำถาม ไม่เคยรีวิวจริงจังแบบนี้) ผิดพลาดตรงไหน อ่านแล้วไม่เข้าใจ สอบถามเพิ่มเติมกันเข้ามาได้ผ่านช่องทาง SMS ส่งมาที่ ดอกจัน (*) 12 123 12 121 อะจ๊ากกก!! จะพยายามดึงสติให้มากที่สุด เอาละอย่ามัวลำไย เข้าเรื่องเลยดีกว่า จขกท.ก็เป็น มนุษย์เงินเดือนทั่วไป ที่อยากใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์บ้างในบางเวลา อยากเอาเท้าไปสัมผัสหาดทราย น้ำทะเล ปล่อยใจไปกับแสงสี และ เกลียวคลื่น แผนการเดินทางครั้งนี้เลยถือกำเนิดขึ้น ทริปนี้เราจะไปกัน 2 คน จขกท.และคุณผู้ชาย และลงมติแกมบังคับตามใจ จขกท. เราเลือกไปที่ทะเลอันดามันทางใต้ จังหวัดกระบี่
(จริงๆแล้ว จขกท.เป็นคนกระบี่(มั้ง)ก็ว่าได้นะ เพราะเกิดที่กระบี่ แต่... ไม่มีรู้จักอะไรเลย ไม่เคยใช้ชีวิตที่จังหวัดกระบี่เลย เพราะครอบครัวย้ายมาอยู่ กทม. ตั้งแต่ จขกท.เริ่มอุแว้ ก็เลยเป็นเหมือนความฝันความตั้งใจ ว่าซักครั้งชั้นต้องมา กระบี่ "เมืองน่าอยู่ ผู้คนน่ารัก" )
ขั้นตอนที่ 1 ตั๋วเครื่องบิน จขกท.จองตั๋วเครื่องบินได้ในราคาค่อนข้างถูกเพราะจองล่วงหน้าประมาณ 4 เดือนก่อนเดินทาง เป็นของสายการบินแอร์เอเชีย ดอนเมือง – กระบี่ – ดอนเมือง ราคา 1,780 บาท ไป-กลับ ต่อคน (ขาละ 890 บาท)
ขั้นตอนที 2 ที่พัก หลังจากอู้งานใช้เน็ตออฟฟิต เข้าหน้าเว็บไซต์ อโกด้ามา วันละ 3 รอบ ปรึกษากับคุณผู้ชาย ผลโหวตก็เลือกให้ แอ๊ปเปิ้ล อะเดย์ รีสอร์ท เป็นผู้ผ่านเข้ารอบไฟนอลค่ะ ด้วยเหตุผลจูงใจเรื่องความสะดวกในการเดินทาง ใกล้หาด แต่ไม่ติดหาด (คุณผู้ชาย หวั่นใจเรื่องสึนามิ ฮีบอกว่าปลอดภัยไว้ก่อน) ห้องพักสวย (เห็นในรูป) สระว่ายน้ำสวย สระว่ายน้ำที่นี่สีแดงแซ่บสุด(เห็นในรูป) โรงแรมใหม่ และที่สำคัญราคาไม่แพง จขกท.จองห้องพักแบบดีลักซ์ เตียงใหญ่ รวมอาหารเช้าในราคาคืนละ 1,225 บาท จองไป 2 คืน เบ็ดเสร็จค่าเสียหายตัดบัตรเครดิตไป 2,910 บาท (รวมภาษี)
ขั้นตอนที่ 3 ตั๋วเครื่องบินพร้อม ที่พักพร้อม กระเป๋าเดินทางพร้อม คนพร้อมก็ลุย วันเดินทางออกจากบ้านไปสนามบินดอนเมืองเพื่อขึ้นเครื่องไฟทว์เช้า บินแค่ 1 ชัวโมง ก็ถึงสนามบินนานาชาติกระบี่ ก็ออกมาขึ้นรถของโรงแรม (รถเก๋งวีออส) พี่คนขับรถถือป้ายรออยู่ละ ดูดี Hiso low budjet 555555+
ตรงนี้ขอเล่านิดนึงเผื่อจะเป็นประโยชน์กับผู้ที่มีแผนจะเดินทางไปเที่ยวทะเลกระบี่ว่า จขกท. ได้หาข้อมูลเรื่องรถจากสนามบินไปไปที่โรงแรมจากอากู๋ และคนที่เคยไป ปรากฏว่ามีหลายช้อยส์ให้เลือก
1. รถเมย์ไปส่งถึงบริเวณหน้าหาดอ่าวนาง นั่งตุ๊กๆ ต่อไปที่โรงแรม ค่ารถคนละประมาณ 120 + 100 บาท
2. รถเช่า มีหลายร้าน ราคาเช่าประมาณ 1,200 บาท ต่อ วัน (ขับเอง น้ำมันเดิมเอง ต้องใช้วงเงินบัตรเครดิตค้ำประกัน)
3. รถ2แถว โบกขึ้นจากหน้าสนามบิน เข้าเมือง โบกจากเมืองไปบริเวณหน้าหาดอ่าวนาง ค่ารถประมาณ 80 บาท (อันนี้ขอผ่านความสามารถในการโบกรถค่อนข้างแย่ )
4. รถโรงแรม ติดต่อไปที่โรงแรมมีรถไปรับถึงหน้าประตูสนามบิน ส่งถึงประตูโรงแรม ค่ารถ 600 บาท (นั่งได้ไม่เกิน 4 คน) อันนี้แหละ ถึงชัวร์ไม่หลงด้วย นี่คือประเด็นสำคัญ
พวกเราใช้เวลาเดินทางจากสนามบิน ไปถึงโรงแรมประมาณ 20 นาที รถวิ่งฉิ่ว ไม่ติดเหมือนกรุงเทพฯ รู้สึกฟินแบบบอกไม่ถูก ซักพักเริ่มเห็นทะเล คือสวยมากก ทำไมน้ำทะเลเป็นสีฟ้า ทำไมน้ำทะเลช่างต่างกับบางแสนบางปู นี่ถ้าไม่นั่งอยู่บนรถ คงกระโจนเข้าหาทะเลทันที

ไม่นานก็ถึงโรงแรม เข้าซอยมาประมาณ 150 เมตร โรงแรมอยู่ซ้ายมือ หน้าโรงแรมมี Family Mart ร้านกาแฟ ร้านอาหาร ร้านรถเช่า เพียบ!!! ลงจากรถปุ๊ป.... นี่ไง!! แอ๊ปเปิ้ลยักษ์ หลอดไฟสว่างในหัว หายสงสัยเลยว่าทำไม ชื่อโรงแรมแอ๊ปเปิ้ลอะเดย์
อย่างที่บอกตั้งแต่ต้นว่าเราบินไฟว์ทเช้า ถึงโรงแรมก่อนเวลาเช็คอิน จึงฝากของไว้ที่ล้อบบี้โรงแรม แล้วออกมาจัดการเรื่องรถเช่า จขกท. และคุณผู้ชายตกลงกันว่าจะเช่ามอไซต์ ไว้ขับไปโน่นนี่เอาแบบใกล้ๆ เผื่ออยากจะลัดเลาะตรงส่วนไหนเป็นพิเศษ

ร้านเช่ารถหน้าโรงแรม ติดกับ Family Mart หรือจะสังเกตจาก ตุ๊กตาหน้าร้านกาแฟคาปูชินก็ได้ หน้าตาตุ๊กตาน่าจะเป็นลิงคาปูชิน (กึ่งคนกึ่งลิง) ค่าเช่ารถมอไซต์วันละ 200 บาท น้ำมันเดิมเอง ใช้บัตรประชาชนในการจอง ชื่อร้าน C.J Bike เป็นร้านคีออสเล็กๆ แต่งด้วยหญ้าเทียม พนักงานบริการดี แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหารใกล้ๆ ใครมีโอกาสไปลองไปใช้บริการดูค่ะ รถที่ใช้เป็น Yamaha Automatic ปราดเปรียว เฟี้ยวฟ้าว มะพร้าวแก้ว

ได้มอไซต์ปุ๊ปก็ขับวนหาร้านกินข้าว ไม่มีแผน ไม่มีการลงพิกัดว่าจะไปกินร้านไหน มีมอไซต์ก็ขับวนไปเรื่อยๆ สำหรับเส้นทางบริเวณหาดเหมือนวงเวียน ลักษณะทางจะเป็นกลมๆ วนไปวนมา ยังไงก็ต้องกลับมาเจอ ปั๊ม น้ำมัน ปตท.ใหญ่ๆ กับป้ายแมคโดนัลด์สีแดง และก็เช่นกัน จขกท. กับคุณผู้ชายก็ขับวนไปเรื่อยๆ ข้างทางมีร้านอาหารชื่อร้าน สุกี้ม๊ะสาว รถจอดเยอะมาก สันนิษฐานว่าอร่อย จอดมอไซต์ปุ๊ป เดินส่องโต๊ะว่างรีบบึ้งอย่างเร็ว และก็ไม่ผิดหวัง อร่อยทุกอย่าง ราคาไม่แพง อาหารหลากหลาย ตามภาพค่ะ

จขกท. ชอบจานนี้มาก สปาเก็ตตี้เส้นดำ ขี้เมาทะเล อร่อยมากกก ราคาไม่แรง

คุณผู้ชาย ชอบจานนี้ สุกี้แห้ง เข้มข้นมากก อร่อยยยยสุด (จานนี้ จขกท.ไม่ชอบเท่าไหร่เพราะว่าใส่งาเยอะ เก๊าไม่ชอบ T_T แต่ใครชอบนี่ผ่านเลย)

อิ่มละ แว้นมอไซต์ออกมาจากร้านสุกี้ม๊ะสาว ประมาณ 1 กม. มีซอยข้างทางที่มีรถเข้าออกเยอะมาก ดูจากสภาพเครื่องแต่งกายแล้วน่าจะมีที่เล่นน้ำแน่ๆ ออกมาเปียกกันทุกคน ก็เลยขอแวะไปหน่อย ปากซอย มีป้ายเขียนบอกวา ทางเข้าคลองหรูด อะไรคือคลองหรูด ไม่เคยได้ยิน ถามจากแม่ค้าไก่ย่างส้มตำในซอย บอกว่า หรูด คือ ลื่น มันเป็นคลองที่มีสไลเดอร์นั่นเอง น่าสนุก ไม่รีรอ เข้าไปให้ไว และภาพตรงหน้าคือ โอ้วว มันสวย สวยแบบไม่ปรุงแต่ง วิถีชาวบ้านจริงๆ ชัดเลยว่าอะไรคือคำว่า “หรูด” เริ่ดกว่านั้นคือ เข้าฟรีไม่เสียค่าบริการใด ๆ ทั้งสิ้น แต่ถ้าอยากจะพายเรือคายัค 100 บาท กัวลื่นเดินไม่ไหว มีถุงเท้าขายคู่ละ 20 บาท มีร้านน้ำ ส้มตำไก่ย่าง เด็ก ๆ มาเล่นน้ำกันเยอะมาก อย่างนี้พี่ต้องหรูด 555555+

เล่นน้ำสนุกมาก น้ำใส น้ำเย็น เล่นจนลืมร้อนไปเลย เสียดายไม่มีรูปตอนเล่นน้ำ เพราะเก็บของไว้ใต้เบาะมอไซต์ กลัวกล้องเปียก
มองนาฬิกาได้เวลากลับโรงแรมไปเช็คอินละ ตัวเปียกๆ ตากลมไปเรื่อยๆ จนตัวหมาด กระเป๋าที่ฝากไว้ถูกเก็บให้บนห้องเรียบร้อย จขกท.ได้พักห้องหมายเลข 403 ห้องพักแอร์เย็นสบาย ของใช้ครบ ขนมและเครื่องดื่มในห้องกินไปเลย ฟรีค่ะ มีเก้าอี้กลมที่ระเบียงด้านหลังด้วยโรแมนติคไปอีก

ชอบกระเป๋ามาก ด้านในกระเป๋ามีเสื่อ เอาไว้ให้เผื่ออยากไปนั่งเล่นริมหาด

อันนี้ไฟฉาย หมุนที่แกนไปเรื่อยๆ เด่วไฟก็ติด (คุณผู้ชายชอบมาก อยากได้ไว้ในครอบครอง อิอิ)

ของใช้ในห้องน้ำที่นี่จะใส่ขวดปั๊มไว้ให้ ทั้งสบู่ และแชมพู กลิ่นหอมดีทีเดียว

ส่วนป้ายแขวนหน้าห้อง ห้ามรบกวน / ทำความสะอาด โรงแรมนี้เค้าดีไซน์เก๋ เหมาะกับชื่อโรงแรมเลย
หลังจากจัดการสภาพร่างที่เปียกชื้นของตัวเองเสร็จเรียบร้อย แว๊นมอไซต์ออกมาจากซอย ปากซอยมีร้านขายของเยอะแยะเลย เรื่องช้อปปิ้งไว้ใจได้ จัดไปอย่าให้เสีย ราคาสินค้าค่อนข้างแพงตามเรทสถานที่ท่องเที่ยว แต่แม่ค้าใจดี ต่อรองราคาก็ลดให้เยอะอยู่
ร้านขายของทั้งแบบท้องถิ่นก็มีมาก หรือจะเป็นแบรนด์สากลก็เยอะ เลือกกิน เลือกช้อปกันตามสะดวก
เจ้าจ๋อหน้าตาเคร่งเครียด สงสัยหิว อยากชิมแมคโดนัล

ร้านแบรนด์ท้องถิ่น แบรนด์สากล ก็มีให้เลือกใช้บริการจำนวนมาก

เรามาทานมื้อเย็นกันที่ ร้านเบอร์เกอร์บัง เช่นเคย ไปหาเอาข้างหน้า ไม่มีพิกัดร้านอะไรทั้งนั้น ร้านไหนคนเยอะลูกค้าแน่น ให้สันนิษฐานเบื้องต้นว่ารอด ร้านเบอร์เกอร์บัง อยู่บริเวณ 3 แยกอะไรไม่รู้ ใกล้ๆกับมัสยิด ร้านเล็กๆ น่ารักน่านั่ง อาหารอร่อย และถูก(มาก)
แบล็คเบอร์เกอร์ เนื้อ + ไข่ ราคา 49 บาท

อิ่มท้องก็กลับได้ (เด่วๆ จ่ายตังค์ก่อน) วันรุ่งขึ้นเราจะไปเที่ยวเกาะห้องกัน กินให้อิ่มแล้วเก็บแรง
กลับถึงโรงแรมแสงสีสดใสมาก เอาภาพมาฝากก่อนนอนคืนนี้ค่ะ
Apple A Day Resort Krabi ... เที่ยวกระบี่ ที่นี่มีแอ๊ปเปิ้ลยักษ์ ^^
(จริงๆแล้ว จขกท.เป็นคนกระบี่(มั้ง)ก็ว่าได้นะ เพราะเกิดที่กระบี่ แต่... ไม่มีรู้จักอะไรเลย ไม่เคยใช้ชีวิตที่จังหวัดกระบี่เลย เพราะครอบครัวย้ายมาอยู่ กทม. ตั้งแต่ จขกท.เริ่มอุแว้ ก็เลยเป็นเหมือนความฝันความตั้งใจ ว่าซักครั้งชั้นต้องมา กระบี่ "เมืองน่าอยู่ ผู้คนน่ารัก" )
ขั้นตอนที่ 1 ตั๋วเครื่องบิน จขกท.จองตั๋วเครื่องบินได้ในราคาค่อนข้างถูกเพราะจองล่วงหน้าประมาณ 4 เดือนก่อนเดินทาง เป็นของสายการบินแอร์เอเชีย ดอนเมือง – กระบี่ – ดอนเมือง ราคา 1,780 บาท ไป-กลับ ต่อคน (ขาละ 890 บาท)
ขั้นตอนที 2 ที่พัก หลังจากอู้งานใช้เน็ตออฟฟิต เข้าหน้าเว็บไซต์ อโกด้ามา วันละ 3 รอบ ปรึกษากับคุณผู้ชาย ผลโหวตก็เลือกให้ แอ๊ปเปิ้ล อะเดย์ รีสอร์ท เป็นผู้ผ่านเข้ารอบไฟนอลค่ะ ด้วยเหตุผลจูงใจเรื่องความสะดวกในการเดินทาง ใกล้หาด แต่ไม่ติดหาด (คุณผู้ชาย หวั่นใจเรื่องสึนามิ ฮีบอกว่าปลอดภัยไว้ก่อน) ห้องพักสวย (เห็นในรูป) สระว่ายน้ำสวย สระว่ายน้ำที่นี่สีแดงแซ่บสุด(เห็นในรูป) โรงแรมใหม่ และที่สำคัญราคาไม่แพง จขกท.จองห้องพักแบบดีลักซ์ เตียงใหญ่ รวมอาหารเช้าในราคาคืนละ 1,225 บาท จองไป 2 คืน เบ็ดเสร็จค่าเสียหายตัดบัตรเครดิตไป 2,910 บาท (รวมภาษี)
ขั้นตอนที่ 3 ตั๋วเครื่องบินพร้อม ที่พักพร้อม กระเป๋าเดินทางพร้อม คนพร้อมก็ลุย วันเดินทางออกจากบ้านไปสนามบินดอนเมืองเพื่อขึ้นเครื่องไฟทว์เช้า บินแค่ 1 ชัวโมง ก็ถึงสนามบินนานาชาติกระบี่ ก็ออกมาขึ้นรถของโรงแรม (รถเก๋งวีออส) พี่คนขับรถถือป้ายรออยู่ละ ดูดี Hiso low budjet 555555+
ตรงนี้ขอเล่านิดนึงเผื่อจะเป็นประโยชน์กับผู้ที่มีแผนจะเดินทางไปเที่ยวทะเลกระบี่ว่า จขกท. ได้หาข้อมูลเรื่องรถจากสนามบินไปไปที่โรงแรมจากอากู๋ และคนที่เคยไป ปรากฏว่ามีหลายช้อยส์ให้เลือก
1. รถเมย์ไปส่งถึงบริเวณหน้าหาดอ่าวนาง นั่งตุ๊กๆ ต่อไปที่โรงแรม ค่ารถคนละประมาณ 120 + 100 บาท
2. รถเช่า มีหลายร้าน ราคาเช่าประมาณ 1,200 บาท ต่อ วัน (ขับเอง น้ำมันเดิมเอง ต้องใช้วงเงินบัตรเครดิตค้ำประกัน)
3. รถ2แถว โบกขึ้นจากหน้าสนามบิน เข้าเมือง โบกจากเมืองไปบริเวณหน้าหาดอ่าวนาง ค่ารถประมาณ 80 บาท (อันนี้ขอผ่านความสามารถในการโบกรถค่อนข้างแย่ )
4. รถโรงแรม ติดต่อไปที่โรงแรมมีรถไปรับถึงหน้าประตูสนามบิน ส่งถึงประตูโรงแรม ค่ารถ 600 บาท (นั่งได้ไม่เกิน 4 คน) อันนี้แหละ ถึงชัวร์ไม่หลงด้วย นี่คือประเด็นสำคัญ
พวกเราใช้เวลาเดินทางจากสนามบิน ไปถึงโรงแรมประมาณ 20 นาที รถวิ่งฉิ่ว ไม่ติดเหมือนกรุงเทพฯ รู้สึกฟินแบบบอกไม่ถูก ซักพักเริ่มเห็นทะเล คือสวยมากก ทำไมน้ำทะเลเป็นสีฟ้า ทำไมน้ำทะเลช่างต่างกับบางแสนบางปู นี่ถ้าไม่นั่งอยู่บนรถ คงกระโจนเข้าหาทะเลทันที
ไม่นานก็ถึงโรงแรม เข้าซอยมาประมาณ 150 เมตร โรงแรมอยู่ซ้ายมือ หน้าโรงแรมมี Family Mart ร้านกาแฟ ร้านอาหาร ร้านรถเช่า เพียบ!!! ลงจากรถปุ๊ป.... นี่ไง!! แอ๊ปเปิ้ลยักษ์ หลอดไฟสว่างในหัว หายสงสัยเลยว่าทำไม ชื่อโรงแรมแอ๊ปเปิ้ลอะเดย์
อย่างที่บอกตั้งแต่ต้นว่าเราบินไฟว์ทเช้า ถึงโรงแรมก่อนเวลาเช็คอิน จึงฝากของไว้ที่ล้อบบี้โรงแรม แล้วออกมาจัดการเรื่องรถเช่า จขกท. และคุณผู้ชายตกลงกันว่าจะเช่ามอไซต์ ไว้ขับไปโน่นนี่เอาแบบใกล้ๆ เผื่ออยากจะลัดเลาะตรงส่วนไหนเป็นพิเศษ
ร้านเช่ารถหน้าโรงแรม ติดกับ Family Mart หรือจะสังเกตจาก ตุ๊กตาหน้าร้านกาแฟคาปูชินก็ได้ หน้าตาตุ๊กตาน่าจะเป็นลิงคาปูชิน (กึ่งคนกึ่งลิง) ค่าเช่ารถมอไซต์วันละ 200 บาท น้ำมันเดิมเอง ใช้บัตรประชาชนในการจอง ชื่อร้าน C.J Bike เป็นร้านคีออสเล็กๆ แต่งด้วยหญ้าเทียม พนักงานบริการดี แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหารใกล้ๆ ใครมีโอกาสไปลองไปใช้บริการดูค่ะ รถที่ใช้เป็น Yamaha Automatic ปราดเปรียว เฟี้ยวฟ้าว มะพร้าวแก้ว
ได้มอไซต์ปุ๊ปก็ขับวนหาร้านกินข้าว ไม่มีแผน ไม่มีการลงพิกัดว่าจะไปกินร้านไหน มีมอไซต์ก็ขับวนไปเรื่อยๆ สำหรับเส้นทางบริเวณหาดเหมือนวงเวียน ลักษณะทางจะเป็นกลมๆ วนไปวนมา ยังไงก็ต้องกลับมาเจอ ปั๊ม น้ำมัน ปตท.ใหญ่ๆ กับป้ายแมคโดนัลด์สีแดง และก็เช่นกัน จขกท. กับคุณผู้ชายก็ขับวนไปเรื่อยๆ ข้างทางมีร้านอาหารชื่อร้าน สุกี้ม๊ะสาว รถจอดเยอะมาก สันนิษฐานว่าอร่อย จอดมอไซต์ปุ๊ป เดินส่องโต๊ะว่างรีบบึ้งอย่างเร็ว และก็ไม่ผิดหวัง อร่อยทุกอย่าง ราคาไม่แพง อาหารหลากหลาย ตามภาพค่ะ
จขกท. ชอบจานนี้มาก สปาเก็ตตี้เส้นดำ ขี้เมาทะเล อร่อยมากกก ราคาไม่แรง
คุณผู้ชาย ชอบจานนี้ สุกี้แห้ง เข้มข้นมากก อร่อยยยยสุด (จานนี้ จขกท.ไม่ชอบเท่าไหร่เพราะว่าใส่งาเยอะ เก๊าไม่ชอบ T_T แต่ใครชอบนี่ผ่านเลย)
อิ่มละ แว้นมอไซต์ออกมาจากร้านสุกี้ม๊ะสาว ประมาณ 1 กม. มีซอยข้างทางที่มีรถเข้าออกเยอะมาก ดูจากสภาพเครื่องแต่งกายแล้วน่าจะมีที่เล่นน้ำแน่ๆ ออกมาเปียกกันทุกคน ก็เลยขอแวะไปหน่อย ปากซอย มีป้ายเขียนบอกวา ทางเข้าคลองหรูด อะไรคือคลองหรูด ไม่เคยได้ยิน ถามจากแม่ค้าไก่ย่างส้มตำในซอย บอกว่า หรูด คือ ลื่น มันเป็นคลองที่มีสไลเดอร์นั่นเอง น่าสนุก ไม่รีรอ เข้าไปให้ไว และภาพตรงหน้าคือ โอ้วว มันสวย สวยแบบไม่ปรุงแต่ง วิถีชาวบ้านจริงๆ ชัดเลยว่าอะไรคือคำว่า “หรูด” เริ่ดกว่านั้นคือ เข้าฟรีไม่เสียค่าบริการใด ๆ ทั้งสิ้น แต่ถ้าอยากจะพายเรือคายัค 100 บาท กัวลื่นเดินไม่ไหว มีถุงเท้าขายคู่ละ 20 บาท มีร้านน้ำ ส้มตำไก่ย่าง เด็ก ๆ มาเล่นน้ำกันเยอะมาก อย่างนี้พี่ต้องหรูด 555555+
เล่นน้ำสนุกมาก น้ำใส น้ำเย็น เล่นจนลืมร้อนไปเลย เสียดายไม่มีรูปตอนเล่นน้ำ เพราะเก็บของไว้ใต้เบาะมอไซต์ กลัวกล้องเปียก
มองนาฬิกาได้เวลากลับโรงแรมไปเช็คอินละ ตัวเปียกๆ ตากลมไปเรื่อยๆ จนตัวหมาด กระเป๋าที่ฝากไว้ถูกเก็บให้บนห้องเรียบร้อย จขกท.ได้พักห้องหมายเลข 403 ห้องพักแอร์เย็นสบาย ของใช้ครบ ขนมและเครื่องดื่มในห้องกินไปเลย ฟรีค่ะ มีเก้าอี้กลมที่ระเบียงด้านหลังด้วยโรแมนติคไปอีก
ชอบกระเป๋ามาก ด้านในกระเป๋ามีเสื่อ เอาไว้ให้เผื่ออยากไปนั่งเล่นริมหาด
อันนี้ไฟฉาย หมุนที่แกนไปเรื่อยๆ เด่วไฟก็ติด (คุณผู้ชายชอบมาก อยากได้ไว้ในครอบครอง อิอิ)
ของใช้ในห้องน้ำที่นี่จะใส่ขวดปั๊มไว้ให้ ทั้งสบู่ และแชมพู กลิ่นหอมดีทีเดียว
ส่วนป้ายแขวนหน้าห้อง ห้ามรบกวน / ทำความสะอาด โรงแรมนี้เค้าดีไซน์เก๋ เหมาะกับชื่อโรงแรมเลย
หลังจากจัดการสภาพร่างที่เปียกชื้นของตัวเองเสร็จเรียบร้อย แว๊นมอไซต์ออกมาจากซอย ปากซอยมีร้านขายของเยอะแยะเลย เรื่องช้อปปิ้งไว้ใจได้ จัดไปอย่าให้เสีย ราคาสินค้าค่อนข้างแพงตามเรทสถานที่ท่องเที่ยว แต่แม่ค้าใจดี ต่อรองราคาก็ลดให้เยอะอยู่
ร้านขายของทั้งแบบท้องถิ่นก็มีมาก หรือจะเป็นแบรนด์สากลก็เยอะ เลือกกิน เลือกช้อปกันตามสะดวก
เจ้าจ๋อหน้าตาเคร่งเครียด สงสัยหิว อยากชิมแมคโดนัล
ร้านแบรนด์ท้องถิ่น แบรนด์สากล ก็มีให้เลือกใช้บริการจำนวนมาก
เรามาทานมื้อเย็นกันที่ ร้านเบอร์เกอร์บัง เช่นเคย ไปหาเอาข้างหน้า ไม่มีพิกัดร้านอะไรทั้งนั้น ร้านไหนคนเยอะลูกค้าแน่น ให้สันนิษฐานเบื้องต้นว่ารอด ร้านเบอร์เกอร์บัง อยู่บริเวณ 3 แยกอะไรไม่รู้ ใกล้ๆกับมัสยิด ร้านเล็กๆ น่ารักน่านั่ง อาหารอร่อย และถูก(มาก)
แบล็คเบอร์เกอร์ เนื้อ + ไข่ ราคา 49 บาท
อิ่มท้องก็กลับได้ (เด่วๆ จ่ายตังค์ก่อน) วันรุ่งขึ้นเราจะไปเที่ยวเกาะห้องกัน กินให้อิ่มแล้วเก็บแรง
กลับถึงโรงแรมแสงสีสดใสมาก เอาภาพมาฝากก่อนนอนคืนนี้ค่ะ