[เล่าให้ฟัง] สอบป.โท สาขาการแปลม.ราม และ Ru-Test

สวัสดีค่าาาาาา
เราชื่อหลิวนะคะ
วันนี้ตั้งใจจะมาแบ่งปันประสบการณ์ที่ไปสอบป.โท สาขาการแปลภาษาอังกฤษ-ไทย
ของมหาวิทยาลัยรามคำแหง เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2559 ที่ผ่านมาค่ะ

สาเหตุที่อยากแบ่งปัน ก็เพราะว่าตอนเราจะไปสอบ เราก็หาข้อมูลนี่แหละค่ะ
เพื่อเตรียมตัว แต่ไม่ค่อยมีเท่าไหร่
เราเลยอยากมาเขียนไว้ เผื่อใครไปสอบ..แล้วจะได้ประโยชน์จากที่เราเขียนบ้างน่ะค่ะ
จะพยายามเล่าให้ดีที่สุดนะคะ


วิชาที่สอบมีอะไรบ้าง

สำหรับวิชาที่สอบจะมี 2 วิชานะคะ แบ่งเป็นเช้ากับบ่ายค่ะ
ภาคเช้า : สอบเฉพาะทาง จะเป็นข้อสอบการแปลค่ะ
โดยจะมี Passage ภาษาอังกฤษมาให้ 2 เรื่อง เรื่องละข้อ แล้วให้เราแปลเป็นภาษาไทยค่ะ
โดยคะแนนทั้งหมดจะเต็ม 100
ให้คะแนนข้อละ 50 คะแนนค่ะ
ความยาวต่ละเรื่องประมาณครึ่งหน้าถึงหนึ่งหน้ากระดาษค่ะ
ภาคบ่าย : Ru-test

พื้นฐานภาษาของเรา
ตอนแรกว่าจะพูดถึงข้อสอบก่อน แต่เขียนไปเขียนมามันต้องท้าวความการเตรียมตัวสอบของเราเองด้วย
ก็เลยขอพูดถึงหัวข้อนี้ของเราก่อนค่ะ
เราไม่ได้เรียนจบเลยแล้วมาสอบ
เราจบมาหลายปีแล้ว ตอนนี้อายุ 26
ไม่ได้เรียนเอกอังกฤษค่ะ จบมนุษย์ ภาษาไทย เชียงใหม่
และเรียนอังกฤษถึงแค่ปี 2 พอปี 3 ลงวิชาเอก แทบไม่เห็นเงาภาษาอังกฤษแล้ว
แล้วงานที่ทำหลังจบไม่เกี่ยวกับภาษาอังกฤษเลย
จนเพิ่งมาทำงานเป็น content editor ค่ะ ทำมาประมาณครึ่งปี
ก็จะหาข้อมูลจากเว็บต่างประเทศอยู่บ้างแล้วมาแปลเป็นบทความต่างๆ
แต่ส่วนใหญ่เรื่องที่เราแปลจะวนยู่แค่เรื่องการตลาด อสังหา แรงบันดาลใจ ธุรกิจ แค่นี้ค่ะ
ดังนั้นศัพย์เรื่องอื่นๆ เราค่อนข้างจะกะโหลกกะลามาก
ต้องขอบอกไว้ก่อนว่าเราเป็นคนไม่เก่งศัพท์เลย ไม่เก่งไวยากรณ์ด้วย
เวลาเจอศัพท์แปลไม่ออกเราก็จะเปิดดิกเอาค่ะ  
แต่แค่คุ้นชินกับรูปประโยคและลักษณะประโยคภาษาอังกฤษแค่นั้นค่ะ

ที่ต้องเล่าเพราะว่าเราอยากให้เพื่อนๆได้เห็นพื้นฐานภาษาอังกฤษเราค่ะ เผื่อนำไปปรับใช้กัน
พูดง่ายๆ ก็คือภาษาอังกฤษเราก็ทั่วไป ไม่ถึงกับไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้เก่ง

ความยากง่ายของข้อสอบภาคเช้า สอบแปล

ถามว่ายากมั้ย...เราว่าก็อาจจะยากค่ะ ถ้าไม่ค่อยแน่นภาษาังกฤษเท่าไหร่
สำหรับเรานะคะ อันนี้จากมุมมองเรานะ
เราว่าข้อแรกไม่ค่อยยากเท่าไหร่
หากเราเป็นคนที่คุ้นเคยกับภาษาอังกฤษอยู่บ้าง
อย่างที่บอก เราไม่เก่งศัพท์มาก แต่แปลข้อแรกได้แบบไม่เครียดอะไรมากค่ะ
สามารถแปลบรรทัดต่อบบรรทัดได้ ...เหมือนจะมีสองสามประโยคนี้แหละที่ไม่แน่ใจ แต่นอกนั้นไม่มีปัญหาค่ะ
ซึ่งเราถือว่าประสบการรณ์การทำงานช่วยได้เยอะในตรงนี้
ดังนั้น ใครที่จะไปสอบแนะนำให้ลองอ่านและลองแปลภาษาอังกฤษเยอะๆ ค่ะ จะสามารถทำได้
(ถ้าเกิดว่าศัพท์ไม่ยากนะ แต่ศัพท์ยากก็จบ)

***เพราะฉะนั้นข้อนี้เราถือว่าฟลุกค่ะ สำหรับเรา ที่ไม่เจอคำศัพท์ที่ยากและเฉพาะทางเกินไป
จริงๆ ข้อนี้ศัพท์เฉพาะทางแทบไม่มีเลยค่ะ

แต่!!! มีแต่ค่ะ  พอเจอข้อ 2 เท่านั้นแหละ น้ำตาแทบไหล
เป็นเรื่องการเมืองค่ะ จริงๆ ใครชอบอ่านบทความการเมืองภาษาอังกฤษข้อนี้จะสบายมากค่ะ
แต่เราเป็นคนที่ เรื่องการเมืองเนี่ย ภาษาไทยยังไม่อ่านเลย ภาษาอังกฤษไม่ต้องพูดถึง
ดังนั้น ถามว่าแปลได้มั้ย...ไม่ได้!! ค่ะ
มีศัพท์ที่เราแปลไม่ค่อยได้เยอะอยู่ จะค่อนข้างยากขึ้นมากเลยทีเดียว
สำหรับเรานะ เราว่ามันยากแบบหน้ามือหลังมือกับข้อแรกเลยอ่ะ
ซึ่งข้อนี้เราแปลแบบบรรทัดต่อบรรทัดเหมือนเดิมไม่ได้แล้ว อ่อนศัพท์
เลยทำได้แค่ แปลที่ละย่อหน้าแล้วแปลแแบบตามใจความรวมเอา
อันไหนแปลไม่ได้ตัดทิ้งหมดค่ะ

อย่างที่บอกเราไม่รู้เค้าวัดคะแนนผ่านที่เท่าไหร่..
แต่เรา 50-50 ค่ะ โอกาสไม่ผ่านน่าจะสูงกว่า เพราะข้อสองเราแปลไม่ดีเลยจริงๆ..

ความยากง่ายของข้อสอบภาคบ่าย Ru-test
เต็ม 100 คะแนน
ข้อสอบประกอบด้วย
Error Identification น่าจะ 10 ข้อ
Similar Meaning น่าจะ 10
Cloze Test 10-20 ไม่แน่ใจค่ะ
Reading Passages 6-7 เรื่อง
ไม่มีข้อสอบการฟังค่ะ

ทีนี้มาพูดถึงแต่ละส่วนกัน
Error Identification
ก่อนอื่นขอแสดงความยินดีกับคนที่ไม่แม่นไวยากรณ์เยอะอย่างเรา เราว่าไม่ยากมากเกินไปค่ะ
ไม่ถึงกับ อะไรเนี่ย อะไรแบบนั้น
ที่สำคัญคือมันมีน้อยด้วย..
ถ้าเทียบกับ error ของ cu-tep ของ cu-tep ยากกว่ามากกกกค่ะ
ดังนั้น ถ้าเตรียม error จากการทำ cu มาคิดว่าพาร์ทนี้น่าจะสบายๆ ค่ะ (เราเตรียม error จากการฝึกทำข้อสอบ cu)
Similar Meaning
อันนี้ง่ายค่ะ เราว่านะ มันให้เลือกความหมายที่เหมือนกัน ถ้าแปลโจทย์และช้อยออกก็ตอบได้ค่ะ
ศัพท์ไม่ยากมากเกินไป แต่ถ้าแปลไม่ออกก็จบเหมือนกันนะ
ดังนั้นเตรียมศัพท์ด้วยนะคะ
***เดี๋ยวจะมาพูดวิธีเตรียมศัพท์ข้างล่างๆ นะ
Cloze Test
สำหรับคนที่อ่อนด๋อยเรื่องศัพท์และไวยากรณ์อย่างเรา
เราว่ายากพอควรค่ะ....แต่ไม่ถึงกับจะตาย
ถ้าเตรียมตัวมาดีดี ทำข้อสอบมาเยอะๆ น่าจะทำคะแนนดีได้ค่ะ
แต่ถ้าไม่เตรียมตัวมาแบบเรา จบเหมือนกันค่ะ
Reading Passages
อันนี้เยอะมากกกก...
อ่านแบบแทบอ้วกเลยค่ะ
ถามว่าเนื้อหายากมั้ย เราว่ามัน Random ยาก-ปานกลาง (ไม่มีง่าย) สลับกันไปค่ะ
โดยเนื้อหาแต่ละ passage จะคละเลยค่ะ
เอาเท่าที่จำได้นะ จำได้ไม่หมดค่ะ ว่ามีประเภทไหนบ้างและเรื่องเกี่ยวกับอะไร
(คิดว่าหัวข้อเรื่องน่าจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ แต่ประเภทคงวนไปวนมา)
วิทยาศาตร์ - แบททีเรียชนิดหนึ่ง
เศรษฐศาสตร์ (มั้ง) - เป็นการขาดทุนในสายการบิน อะไรประมาณนี้
ธุรกิจ การเงิน การลงทุน - เกี่ยวกับธนาคารค่ะ
ภาษา - ประมาณบทความวิเคราะห์ความสำคัญภาษา ระหว่างภาษาจีนกับภาษาอังกฤษ
นอกนั้น จำไม่ได้ค่ะ รู้สึกจะมีเกี่ยวกับการตลาดอันนึง

ในส่วนของคำถาม
อันนี้เราแอบแนะนำว่า เทคนิคตัดส่วนขยาย อะไรนี้ช่วยได้นะคะ ถ้าแปลไม่ค่อยออก
แต่มันจะเหนื่อยมากกก....เพราะมันเยอะ
ดังนั้นถ้าใครแปลไม่แม่น ศัพท์ไม่ได้ จะใช้เทคนิคนี้มีสิทธิทำไม่ทันอย่างแน่นอน
เพราะตัวคำถามของแต่ละข้อมันจะมีประมาณ
เรื่องนี้ควรชื่อเรื่องว่าอะไร
จุดประสงค์ของผู้เขียน
ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง
ข้อใดกล่าวถูกต้อง
(คำ)ในบรรทัดที่(เลข) มีความหมายเหมือน/ตรงข้าม กับคำไหน
>>>โจทย์เป็นภาษาอังกฤษนะ แต่เราพิมพ์ภาษาไทยเอา เพราะขี้เกียจพิมพ์โจทย์อังกฤษค่ะ

ซึ่งคำถามจะเป็นแบบนี้แทบทุก passage เลยค่ะ ดังนั้นใครใช้กลยุทธฺตัดส่วนขยาย ดูบริบท จะเหนื่อยยยยมากกก..
และอาจทำไม่ทัน
(ซึ่งเราทำแบบนั้น)

สำหรับเราพอถึง 2 passage สุดท้ายเราแทบลมจับเลย สมองแทบจะไม่ทำงาน
แต่ก็กลั้นใจทำจนเสร็จ
คิดว่าจะผ่านมั้ย 50-50 ค่ะ 2 passage หลังเราด๋อยมาก และมีตั้ง 20 ข้อด้วย

อ่อบอกเทคนิคอีกนิด เราใช้วิธีติ๊กๆ ไว้ก่อนแล้วค่อยมาฝนตอนใกล้หมดเวลานะคะ (ประมาณครึ่งชม.สุดท้าย) ไม่งั้นจะเหนื่อยฝนข้อสอบจนทำไม่ไหว 55


เทคนิคเตรียมตัวสอบ

จากการสอบครั้งนี้ เราได้เทคนิคเตรียมตัวสอบมาแบบคิดเองเออเองดังนี้ค่ะ
(ครั้งนี้ไม่ผ่าน แต่ครั้งหน้าน่าจะเตรียมตัวถูก เพราะรู้ทางแล้ว)

ด้านไวยากรณ์
1. ปูพื้นฐาน Part of speech ให้แน่นมากๆ : เราใช้เวลาเกือบทั้งเดือนที่ทำงานไปด้วยปูเรื่องนี้
โดยการเรียนจากคอร์สออนไลน์เอาค่ะ (ไม่มีเวลาไปลงเรียน เหนื่อยเดินทาง และคงแพงด้วย) ขอไม่บอกว่าเรียนของอะไรนะคะ มันจะผิดกฏ
2. ฝึกทำข้อสอบ error ของ cu-tep
เราฝึกจากลิ้งนี้ค่ะ https://www.youtube.com/watch?v=Egq7m6vsITg&list=PLAAA57312849046C8
เราดูแค่จบ cu-tep 70 ข้อ แต่จดตามไปด้วยค่ะ

ด้านคำศัพท์
เราไม่ท่องค่ะ เรากลียดการท่องศัพท์เป็นที่สุด!!!
และเราก็ท่องไม่ทันแล้วด้วย จะสอบแล้ว
เราเลยใช้วิธีการ เล่นเกมส์ค่ะ
โดยการไปโหลด app ที่ชื่อว่า Learn English Vocabulary ฟรีค่ะ เป็นของไทยนะคะ
มันจะเป็นเกมทายศัพท์
หน้าตาแบบนี้

*** ชี้แจงเพิ่มเติมตามที่ คห.1 แนะนำเข้ามาค่ะ แอพนี้ใช้ช่วยจำศัพท์และความหมายนะคะ ส่วนการประยุกต์ใช้จริงนั้นต้องดูบริบทด้วยค่ะ

แบ่งเป็นเลเวล 1-8
เลเวล 8 จะเป็นศัพท์โทอิค
ก็เล่นผ่านด่านไปเรื่อยๆค่ะ ดีกว่าท่องศัพท์เยอะค่ะ จำง่ายด้วย
แต่เราก็เล่นไม่ทันหรอก
เราเล่นตอนอยู่บนรถไฟฟ้าระหว่างเดินทางไปทำงานค่ะ
แนะนำว่าให้เตรียมตัวแต่เนิ่นๆ ค่ะ จะช่วยได้เยอะเลย

Reading
ทำข้อสอบ reading เยอะๆค่ะ
แนะนำให้ซื้อหนังสือข้อสอบมาทำ ไม่จำเป็นต้องเป็น ru-test ก็ได้ค่ะ
จะเป็น cu-tep,tu-get ก็ได้ แต่ไม่แนะนำให้ใช้ของ TOEIC ค่ะ มันง่ายเกินไป

สุดท้าย....
หากไม่แน่นภาษาแบบเรา แนะนำให้เตรียมตัวแต่เนิ่นๆ ค่ะ
หนึ่งเดือนแบบเรานี่ไม่ทันแน่นอน
ครั้งนี้ถ้าสอบไม่ติด คราวหน้าจะเตรียมตัวตั้งแต่เนิ่นๆ เลยค่ะ
หนึ่งเดือนนี่ไม่ทันจริงๆ

สำหรับเราก็มีแค่นี้ค่ะ ขอบคุณมากที่อ่านจนจบ อิอิ
มีอะไรถามได้นะคะ
ใครไปสอบมาบอกเราบ้างนะ
ส่วนใครจะไปสอบปีหน้า...ไว้เจอกันนี ปีนี้ไม่หน้าผ่าน

****และสุดท้ายขอเป็นกำลังใจให้ทุกๆคนค่า ไว้มารอลุ้นผลสอบกันนะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่