กระบี่หน้าฝน ก็เที่ยวได้นะ รู้ยัง ?
การเดินทางครั้งนี้สืบเนื่องมาจากได้ตั๋วเครื่องบินมาคนละ 300 กว่าบาท
เลยเลือกจ่ายเงิน โดยไม่ได้สนใจดูว่ามันเข้าฤดูฝนแล้วววววววววว
ก่อนการเดินทางตลอดอาทิตย์ได้ยินข่าว พายุเข้ากระบี่แบบถี่ ๆ รัว ๆ จนใจเรานี้เสียไปหมด
ตอนแรกว่าจะทิ้งตั๋วแล้ว แต่ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว เสี่ยงดูสักครั้ง จะไปกลัวอะไรก็แค่ฝน
พร้อมแล้ว ออกเดินทางกันดีกว่าค่ะ เริ่มได้
กำหนดการเดินทางของเราในครั้งนี้
บินแต่เช้า ออกจากบ้านมายังไม่ได้กินอะไร ด้วยความงกเราต้องหาข้าวกินในราคาถูก ไปค่ะ Magic food park
เดินมุ่งหน้าไปทางเค้าน์เตอร์เช็คอินนกแอร์ แล้วลงบันไดเลื่อนไปชั้น 2 หันหลังกลับไปจะเจอ 7-11 เดินไปทางนั้น จะมีป้ายบอก
ด้านหน้าทางเข้า ตอนเราไปคนโล่งเลย เดินเลือกกันสบายใจ

ทำการแลกคูปองก่อน เหลือสามารถคืนได้
ราคาอาหารก็ประมาณ 40-60 บาท มีให้เลือกหลากหลายดี ก็ถือว่าคุ้มนะคะ รสชาติก็อร่อยดี
ได้เวลาแล้ว ไปเตรียมตัวบินกันค่ะ บินไปเรื่อย ๆ ตรงหลุมอากาศนิดหน่อย
เข้าสู่กระบี่แล้ว เตรียมลงจอด
เมื่อเราถึงสนามบินกระบี่ ด้วยความงกเลยเลือกเดินออกมาด้านหน้าสนามบิน และ
โบกรถสองแถวสีฟ้าเข้าเมือง
โดยเราบอกคนขับว่าไปส่งที่ห้างโวคด้วย
ค่าเสียหายแค่คนละ 25 บาทเท่านั้น ประหยัดไปได้ตั้งเยอะ ใช้เวลา 30 นาทีก็ถึง
เดินลงรถแบบงง ว่าต้องไปไหนต่อ 5555
คิดได้ว่าต้องเช่ารถมอเตอร์ไซต์ เลยเดินหากัน เดินไปเรื่อย ๆ ก็เจอกับร้านนี้เข้าให้

ตกลงเช่า 3 วัน ราคาตอนแรก 250 ต่อค่ะ เหลือ 220 มัดจำจาก 5,000 เหลือ 2,000
OK ได้รถมาแล้ว เห็นป้ายที่พักเราอยู่ไกล ๆ ก็แว๊นไปกันทันที ตอนนั้นประมาณ 11 โมงกว่า หิวข้าวแล้วด้วย
ที่พักครั้งนี้ของเรา
Hop inn กระบี่ ได้ที่พักมาจากงาน วันธรรมดา น่าเที่ยว 2559 ในราคาคืนละ 350 บาท
เปิดประตูเข้ามาจะเจอกับเตียงนอนก่อนเลย ผ้าปู ผ้าห่ม หอมสะอาดดี

โทรทัศน์ที่ปลายเตียง ช่องเยอะดี

จากห้องพักมองออกไปจะให้เมืองกระบี่ มีโต๊ะยาวไว้วางของและเก้าอี้สีแดงอีก 1 ตัว
มีตู้เย็นเล็ก ๆ ใส่น้ำดื่มไว้ให้ 2 ขวด และมีโทรศัพท์ไว้โทรหาพนักงานหรือห้องอื่น ๆ ได้ด้วย

ห้องน้ำ มีครีมอาบน้ำ ยาสระผม ไว้ให้ น้ำไหลแรงดี อาบน้ำสะใจมาก

ด้านหลังห้องพักสามารถเปิดประตูออกไปดูวิวเมืองได้
เก็บกระเป๋าเรียบร้อย เราก็ออกไปหาข้าวกิน แถวที่พักร้านอาหารเยอะมาก เลือกได้ตามใจชอบเลย
กินอิ่มแล้ว มีแรงแล้ว เราก็ไปกันที่
วัดถ้ำเสือ ระหว่างทางไปมีฝนตกลงมาปรอย ๆ
ถึงแล้ว กำลังมีการก่อสร้างอยู่ เราก็เข้าไปไหว้พระด้านในกัน
มีนักท่องเที่ยวต่างชาติพอสมควร มากันเป็นทัวร์

เราจะเข้าไปด้านในกันนะคะ

มาที่นี้ต้องไปพิชิตยอดเจดีย์ให้ได้ ไปค่ะ 1,237 ขั้นเอง(หรอ)

ดูความชัน ทำให้เราต้องหยุดพักทุก 50 ขั้นกันเลยทีเดียว เหนื่อยมาก

ครึ่งทางแล้วค่ะ แวะชมวิวแปป จะเป็นลมแล้ว
999 ขั้นแล้ว ยืนไม่เป็นแล้วค่ะ

ลืมบอก
พกน้ำดื่มขึ้นไปด้วยนะคะ เดี๋ยวจะพลาดเหมือนเรา คอแห้งมาก เหงื่อนี้ออกยิ่งกว่าน้ำไหลอีก
ระหว่างทางไปก็จะมีห้องน้ำให้เข้า มีเก้าอี้ให้นั่งไปกันไปตลอดทาง
กลั้นใจไปกันต่อค่ะ
ถึงแล้ว นี้คือวิวที่เรามองเห็น มืดมาเชียวนะ

ตรงนี้จะมีน้ำดื่มที่ผ่านการกรองแล้วให้บริการ สามารถกรอกน้ำใส่ขวดได้
ขึ้นไปนมัสกา
รพระธาตุเจดีย์ด้านบนกัน

ขึ้นไปด้านบนอีกนิดนึงจะเจอ
พระใหญ่

มองจากด้านบนลงมา

น้องหมาเก่งมาก นอนตากลมสบายใจเลย

ฝนมาแล้วค่ะ ลงกันดีกว่า

ไม่รอดค่ะ ฝนตกหนักมาก ตอนขึ้นใช้เวลาไป 3 ชั่วโมง ตอนลง 15 นาที รีบวิ่งอย่างไวเลยค่ะ
ด้านล่างจะมีร้านค้าที่มีแม่ชีคอยให้บริการอยู่ เราไปซื้อน้ำเลยขออาศัยหลบฝนด้วย
พอฝนเริ่มหยุด ก็ไปไหว้เจ้าแม่กวนอิม

ที่นี้น้องลิงเยอะนะคะ อย่าเอาขยะให้เขาเลย ทิ้งให้เป็นที่เถอะค่ะ เดี๋ยวจะเกิดอันตรายกับน้องลิงได้
ไปกันต่อดีกว่าค่ะ มาแล้วต้องเอาให้คุ้ม
ต่อไปเราจะไปกันที่
สุสานหอย ไปทางเดียวกับอ่าวนาง มีป้ายบอกให้ตลอดทาง
ตอนไปฝนตกลงมาปรอย ๆ ตลอดทาง ค่อย ๆ ขับนะคะ เป็นทางขึ้นลงเขา โค้งเยอะด้วย
ไปถึงประมาณ 5 โมงเย็นกว่า ๆ แล้ว ฟ้านี้มืดมาก ลมแรงมาก ฝนก็ตกลงมาเรื่อย ๆ

เดินถ่ายรูปเล่นกันสักพัก ฝนก็เริ่มตก เราก็เลยรีบกลับกัน
เข้าถึงตัวเมืองหิวพอดี แวะกินข้าวกันก่อน หาแบบไม่มีเป้าหมาย พอดีเจอ
ร้านขนมจีนโกจ้อย อยู่แถวสี่แยกมนุษย์โบราณ
จานละ 20 บาท ไก่ทอดชิ้นละ 20 สามารถตักน้ำยาเองได้ ที่โต๊ะก็จะมีผักสด เครื่องเคียงไว้ให้บริการอยู่
มื้อนี้หมดไป 100 บาท อิ่มแล้วเราก็กลับห้องพัก ฝนตกหนักทั้งคืน
[JR พาเที่ยว] กระบี่...ที่มีแต่ฝน....ก็เที่ยวได้นะ
การเดินทางครั้งนี้สืบเนื่องมาจากได้ตั๋วเครื่องบินมาคนละ 300 กว่าบาท
เลยเลือกจ่ายเงิน โดยไม่ได้สนใจดูว่ามันเข้าฤดูฝนแล้วววววววววว
ก่อนการเดินทางตลอดอาทิตย์ได้ยินข่าว พายุเข้ากระบี่แบบถี่ ๆ รัว ๆ จนใจเรานี้เสียไปหมด
ตอนแรกว่าจะทิ้งตั๋วแล้ว แต่ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว เสี่ยงดูสักครั้ง จะไปกลัวอะไรก็แค่ฝน
พร้อมแล้ว ออกเดินทางกันดีกว่าค่ะ เริ่มได้
กำหนดการเดินทางของเราในครั้งนี้
บินแต่เช้า ออกจากบ้านมายังไม่ได้กินอะไร ด้วยความงกเราต้องหาข้าวกินในราคาถูก ไปค่ะ Magic food park
เดินมุ่งหน้าไปทางเค้าน์เตอร์เช็คอินนกแอร์ แล้วลงบันไดเลื่อนไปชั้น 2 หันหลังกลับไปจะเจอ 7-11 เดินไปทางนั้น จะมีป้ายบอก
ด้านหน้าทางเข้า ตอนเราไปคนโล่งเลย เดินเลือกกันสบายใจ
ทำการแลกคูปองก่อน เหลือสามารถคืนได้
ราคาอาหารก็ประมาณ 40-60 บาท มีให้เลือกหลากหลายดี ก็ถือว่าคุ้มนะคะ รสชาติก็อร่อยดี
ได้เวลาแล้ว ไปเตรียมตัวบินกันค่ะ บินไปเรื่อย ๆ ตรงหลุมอากาศนิดหน่อย
เข้าสู่กระบี่แล้ว เตรียมลงจอด
เมื่อเราถึงสนามบินกระบี่ ด้วยความงกเลยเลือกเดินออกมาด้านหน้าสนามบิน และโบกรถสองแถวสีฟ้าเข้าเมือง
โดยเราบอกคนขับว่าไปส่งที่ห้างโวคด้วย ค่าเสียหายแค่คนละ 25 บาทเท่านั้น ประหยัดไปได้ตั้งเยอะ ใช้เวลา 30 นาทีก็ถึง
เดินลงรถแบบงง ว่าต้องไปไหนต่อ 5555
คิดได้ว่าต้องเช่ารถมอเตอร์ไซต์ เลยเดินหากัน เดินไปเรื่อย ๆ ก็เจอกับร้านนี้เข้าให้
ตกลงเช่า 3 วัน ราคาตอนแรก 250 ต่อค่ะ เหลือ 220 มัดจำจาก 5,000 เหลือ 2,000
OK ได้รถมาแล้ว เห็นป้ายที่พักเราอยู่ไกล ๆ ก็แว๊นไปกันทันที ตอนนั้นประมาณ 11 โมงกว่า หิวข้าวแล้วด้วย
ที่พักครั้งนี้ของเรา Hop inn กระบี่ ได้ที่พักมาจากงาน วันธรรมดา น่าเที่ยว 2559 ในราคาคืนละ 350 บาท
เปิดประตูเข้ามาจะเจอกับเตียงนอนก่อนเลย ผ้าปู ผ้าห่ม หอมสะอาดดี
โทรทัศน์ที่ปลายเตียง ช่องเยอะดี
จากห้องพักมองออกไปจะให้เมืองกระบี่ มีโต๊ะยาวไว้วางของและเก้าอี้สีแดงอีก 1 ตัว
มีตู้เย็นเล็ก ๆ ใส่น้ำดื่มไว้ให้ 2 ขวด และมีโทรศัพท์ไว้โทรหาพนักงานหรือห้องอื่น ๆ ได้ด้วย
ห้องน้ำ มีครีมอาบน้ำ ยาสระผม ไว้ให้ น้ำไหลแรงดี อาบน้ำสะใจมาก
ด้านหลังห้องพักสามารถเปิดประตูออกไปดูวิวเมืองได้
เก็บกระเป๋าเรียบร้อย เราก็ออกไปหาข้าวกิน แถวที่พักร้านอาหารเยอะมาก เลือกได้ตามใจชอบเลย
กินอิ่มแล้ว มีแรงแล้ว เราก็ไปกันที่ วัดถ้ำเสือ ระหว่างทางไปมีฝนตกลงมาปรอย ๆ
ถึงแล้ว กำลังมีการก่อสร้างอยู่ เราก็เข้าไปไหว้พระด้านในกัน
มีนักท่องเที่ยวต่างชาติพอสมควร มากันเป็นทัวร์
เราจะเข้าไปด้านในกันนะคะ
มาที่นี้ต้องไปพิชิตยอดเจดีย์ให้ได้ ไปค่ะ 1,237 ขั้นเอง(หรอ)
ดูความชัน ทำให้เราต้องหยุดพักทุก 50 ขั้นกันเลยทีเดียว เหนื่อยมาก
ครึ่งทางแล้วค่ะ แวะชมวิวแปป จะเป็นลมแล้ว
999 ขั้นแล้ว ยืนไม่เป็นแล้วค่ะ
ลืมบอก พกน้ำดื่มขึ้นไปด้วยนะคะ เดี๋ยวจะพลาดเหมือนเรา คอแห้งมาก เหงื่อนี้ออกยิ่งกว่าน้ำไหลอีก
ระหว่างทางไปก็จะมีห้องน้ำให้เข้า มีเก้าอี้ให้นั่งไปกันไปตลอดทาง
กลั้นใจไปกันต่อค่ะ
ถึงแล้ว นี้คือวิวที่เรามองเห็น มืดมาเชียวนะ
ตรงนี้จะมีน้ำดื่มที่ผ่านการกรองแล้วให้บริการ สามารถกรอกน้ำใส่ขวดได้
ขึ้นไปนมัสการพระธาตุเจดีย์ด้านบนกัน
ขึ้นไปด้านบนอีกนิดนึงจะเจอพระใหญ่
มองจากด้านบนลงมา
น้องหมาเก่งมาก นอนตากลมสบายใจเลย
ฝนมาแล้วค่ะ ลงกันดีกว่า
ไม่รอดค่ะ ฝนตกหนักมาก ตอนขึ้นใช้เวลาไป 3 ชั่วโมง ตอนลง 15 นาที รีบวิ่งอย่างไวเลยค่ะ
ด้านล่างจะมีร้านค้าที่มีแม่ชีคอยให้บริการอยู่ เราไปซื้อน้ำเลยขออาศัยหลบฝนด้วย
พอฝนเริ่มหยุด ก็ไปไหว้เจ้าแม่กวนอิม
ที่นี้น้องลิงเยอะนะคะ อย่าเอาขยะให้เขาเลย ทิ้งให้เป็นที่เถอะค่ะ เดี๋ยวจะเกิดอันตรายกับน้องลิงได้
ไปกันต่อดีกว่าค่ะ มาแล้วต้องเอาให้คุ้ม
ต่อไปเราจะไปกันที่สุสานหอย ไปทางเดียวกับอ่าวนาง มีป้ายบอกให้ตลอดทาง
ตอนไปฝนตกลงมาปรอย ๆ ตลอดทาง ค่อย ๆ ขับนะคะ เป็นทางขึ้นลงเขา โค้งเยอะด้วย
ไปถึงประมาณ 5 โมงเย็นกว่า ๆ แล้ว ฟ้านี้มืดมาก ลมแรงมาก ฝนก็ตกลงมาเรื่อย ๆ
เดินถ่ายรูปเล่นกันสักพัก ฝนก็เริ่มตก เราก็เลยรีบกลับกัน
เข้าถึงตัวเมืองหิวพอดี แวะกินข้าวกันก่อน หาแบบไม่มีเป้าหมาย พอดีเจอ ร้านขนมจีนโกจ้อย อยู่แถวสี่แยกมนุษย์โบราณ
จานละ 20 บาท ไก่ทอดชิ้นละ 20 สามารถตักน้ำยาเองได้ ที่โต๊ะก็จะมีผักสด เครื่องเคียงไว้ให้บริการอยู่
มื้อนี้หมดไป 100 บาท อิ่มแล้วเราก็กลับห้องพัก ฝนตกหนักทั้งคืน