ฉันตั้งคำถามกับตัวเองว่า สิ่งที่ฉันทำมันเหมือนสิ่งที่คนปกติเขาทำกันรึป่าว
เรื่องมันมีอยู่ว่า ฉันเข้ามาเรียนมหาลัยแห่งนึงใน ตจว. เลยต้องมาพักแมนชั่นคนเดียว ห่างไกลครอบครัว ไม่มีญาติพี่น้อง แต่ก็มีเพื่อนที่เรียนด้วยกัน พักห่างกันออกไปในละแวกมหาลัย ในคืนนึงเวลาประมาณ 01.57 น.ที่ฉันปวดท้องมาก มากจนหน้ามืด ไม่สามารถที่จะลุกยืนได้ ฉันพยายามที่จะลุกขึ้นเพื่อหยิบโทรศัพมาค้นหาเบอรถฉุกเฉิน [ในความคิดฉันตอนนั้นไม่มีเพื่อนเลยสักคน ใช่ ฉันไม่อยากพึ่งพวกเขาและฉันไม่อยากให้พวกเขาว่าฉันสำออย] ฉันโทไปและบอกพวกเขาว่าตอนนี้ ฉันเป็นอะไร ฉันอยู่ที่ไหน พวกติดต่อกลับมาหาฉันเป็นระยะ เพื่อสอบถามเส้นทางที่ชัดเจนและพิกัดที่ฉันอยู่ ฉันใช้แรงทั้งหมดที่เหลืออยู่เดินลงมารอรถพยาบาลด้านล่างของแมนชั่นที่ไม่มีแม้แต่ยาม เวลา 02.21 น. รถพยาบาลก็มาถึง ณ ตอนนั้นค่าออกซิเจนในเลือดของฉันเหลือเพียง 92/68 ชีพจรเต้น 187 ครั้ง/นาที นั้นหมายถึงฉันพร้อมที่จะช๊อคได้ตลอดเวลา ฉันบอกพวกเขาว่าพาฉันไป รพ. เอกชนใกล้ๆนี้ ไม่กี่นาทีฉันก็ถึง รพ. หมอตรวจและถามโน้นนี่นั่น ฉีดยา และสั่งแอดมิส พยาบาลบอกว่าต้องมีญาติเฝ้านะคะ ฉันเลยบอกว่าเพื่อกำลังจะมา แล้วเขาจะตามขึ้นไปบนห้อง เมื่อพยาบาลเห็นว่าฉันอาการดีขึ้นแล้ว พยาบาลจึงยอมให้คนเข็นฉันขึ้นห้องพัก แน่นอนความจริงฉันอยู่คนเดียว ฉันทำอะไรด้วยตัวเองได้ ฉันช่วยเหลือตัวเองได้ จนบ่ายของวันถัดมาหลังหมอขึ้นตรวจ ฉันขออนุญาตหมอกลับไปพักผ่อนต่อที่บ้าน เพราะว่าฉันรู้สึกดีขึ้นแล้วล่ะ หลังจัดการกับเรื่องค่าใช้จ่ายเสร็จเรียบร้อย ฉันเดินออกมาหน้าโรงพยาบาลเพื่อเรียกวินมอเตอไซด์กลับแมนชั่น ...
มันเป็นเรื่องปกติสำหรับฉันที่จะทำอะไรคนเดียว ไปไหนคนเดียว แต่เพื่อนกลับมองว่าฉันทำเกินไปที่ไป รพ.คนเดียว โดยไม่บอกใครเลย บ้างก็ว่าโลกส่วนตัวสูง บ้างก็ว่าควรไปพบจิตแพทย์ ทั้งที่ความจริงฉันขาดเรียนไป เพื่อนๆยังไม่โทรมาหรือไลน์มาหาสักคน
ขอบคุณทุกคนที่อ่านเรื่องไร้สาระของเราจนจบ ....
ฉันผิดปกติจากคนอื่นไหม
เรื่องมันมีอยู่ว่า ฉันเข้ามาเรียนมหาลัยแห่งนึงใน ตจว. เลยต้องมาพักแมนชั่นคนเดียว ห่างไกลครอบครัว ไม่มีญาติพี่น้อง แต่ก็มีเพื่อนที่เรียนด้วยกัน พักห่างกันออกไปในละแวกมหาลัย ในคืนนึงเวลาประมาณ 01.57 น.ที่ฉันปวดท้องมาก มากจนหน้ามืด ไม่สามารถที่จะลุกยืนได้ ฉันพยายามที่จะลุกขึ้นเพื่อหยิบโทรศัพมาค้นหาเบอรถฉุกเฉิน [ในความคิดฉันตอนนั้นไม่มีเพื่อนเลยสักคน ใช่ ฉันไม่อยากพึ่งพวกเขาและฉันไม่อยากให้พวกเขาว่าฉันสำออย] ฉันโทไปและบอกพวกเขาว่าตอนนี้ ฉันเป็นอะไร ฉันอยู่ที่ไหน พวกติดต่อกลับมาหาฉันเป็นระยะ เพื่อสอบถามเส้นทางที่ชัดเจนและพิกัดที่ฉันอยู่ ฉันใช้แรงทั้งหมดที่เหลืออยู่เดินลงมารอรถพยาบาลด้านล่างของแมนชั่นที่ไม่มีแม้แต่ยาม เวลา 02.21 น. รถพยาบาลก็มาถึง ณ ตอนนั้นค่าออกซิเจนในเลือดของฉันเหลือเพียง 92/68 ชีพจรเต้น 187 ครั้ง/นาที นั้นหมายถึงฉันพร้อมที่จะช๊อคได้ตลอดเวลา ฉันบอกพวกเขาว่าพาฉันไป รพ. เอกชนใกล้ๆนี้ ไม่กี่นาทีฉันก็ถึง รพ. หมอตรวจและถามโน้นนี่นั่น ฉีดยา และสั่งแอดมิส พยาบาลบอกว่าต้องมีญาติเฝ้านะคะ ฉันเลยบอกว่าเพื่อกำลังจะมา แล้วเขาจะตามขึ้นไปบนห้อง เมื่อพยาบาลเห็นว่าฉันอาการดีขึ้นแล้ว พยาบาลจึงยอมให้คนเข็นฉันขึ้นห้องพัก แน่นอนความจริงฉันอยู่คนเดียว ฉันทำอะไรด้วยตัวเองได้ ฉันช่วยเหลือตัวเองได้ จนบ่ายของวันถัดมาหลังหมอขึ้นตรวจ ฉันขออนุญาตหมอกลับไปพักผ่อนต่อที่บ้าน เพราะว่าฉันรู้สึกดีขึ้นแล้วล่ะ หลังจัดการกับเรื่องค่าใช้จ่ายเสร็จเรียบร้อย ฉันเดินออกมาหน้าโรงพยาบาลเพื่อเรียกวินมอเตอไซด์กลับแมนชั่น ...
มันเป็นเรื่องปกติสำหรับฉันที่จะทำอะไรคนเดียว ไปไหนคนเดียว แต่เพื่อนกลับมองว่าฉันทำเกินไปที่ไป รพ.คนเดียว โดยไม่บอกใครเลย บ้างก็ว่าโลกส่วนตัวสูง บ้างก็ว่าควรไปพบจิตแพทย์ ทั้งที่ความจริงฉันขาดเรียนไป เพื่อนๆยังไม่โทรมาหรือไลน์มาหาสักคน
ขอบคุณทุกคนที่อ่านเรื่องไร้สาระของเราจนจบ ....