สุดสัปดาห์ ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ที่ผ่านมา (3-4-5 ) ผมได้รับเชิญ  จาก ทีมงาน บริษัท ทีล่ะก้าว( Teelakow) ให้เข้าร่วมทดสอบสนามเทรลใหม่ ของไทยที่จะจัดขึ้นปลายปีนี้ ที่ แม่ฮ่องสอน

สำหรับ ทีมงาน บ.ทีล่ะก้าว เป็นหนึ่งในออร์แกไนซ์เซอร์ ในการจัดวิ่ง เทรล และ อัลตร้าเทรล(วิ่งลุยป่าลุยเขา ในเส้นทางธรรมชาติระยะยาว) ของไทย ที่มีผลงาน โด่งดังมาจากการ จัดวิ่ง 100 Mile Thailannd (160 กม.จากเชียงรายมาเชียงใหม่) และ Koh Chang Trail Run ที่เกาะช้าง 100 กม. สองปี ที่ผ่านมา

ปีนี้ทีล่ะก้าว มีโครงการวิ่งทั้ง เทรล และอัลตร้า หลายสนาม  ในเกือบทุกภาค ของไทย รวมทั้ง สนาม Panoramic Trial ที่แม่ฮ่องสอน ซึ่งจะมีระยะตั้งแต่ 50 โล 100 โล และ 100ไมล์ (160 โล) ซึ่งงานนนี้จะเป็นการจัดแข่ง Ultra Trail ระยะ 100 ไมล์ครั้งแรกของไทย นอกเหนือไปจากที่เคยมีการจัด 100 กม. Ultra Trail กันมาแล้ว หลายงาน เช่น The North Face 100 , Doi Suthep 100 และ Koh Chang 100

สำหรับนักวิ่งที่ได้รับเชิญเข้าร่วมทดสอบเส้นทางครั้งนี้ มีทั้งนักวิ่งไทย และต่างชาติ ทั้ง ชาวอังกฤษ  มาเลย์ สิงค์โปร์ และนักวิ่งไทย อีกหลายคน รวมทั้ง Elite  สุดยอดคนดังวงการวิ่งบ้านเราตอนนี้ Harry Jones ยอด นักวิ่งชาวอังกฤษ ที่มาพำนักในไทย เจ้าของแช้มป์ พัทยา เทรลรัน ปีล่าสุด และ แช้มป์ Baiyok Run Up วิ่งขึ้นตึกใบหยก ปีล่าสุด  ที่เค้าคว้าแช้มป์พร้อมทั้งทำลายสถิติเดิม ที่แช้มป์เคนยา ทำไว้ด้วย รวมทั้งได้แช้มป์มาราธอนทางเรียบ CMU Marathon เมื่อ วาเลนไทน์ที่ผ่านมา


จุดนัดหมาย และที่พักคืนแรก ของการทดสอบสนาม ครั้งนี้ อยู่ที่ เฮือนไต รีสอร์ทแม่ฮ่องสอน



ประมาณ 4 โมงเย็นวันศุกร์ ก็มีการแจก Bib และ  Brief เส้นทางการวิ่ง ซึ่งทางผู้จัดชี้แจงว่า เส้นทางส่วนที่เราจะวิ่งทดสอบกัน จะมีระยะทางประมาณ 50กม.(วันวิ่งจริง วิ่งกันไปราวๆ 53 กม.) เป็นเส้นทางที่ตัดเอา  ช่วง กลางของการแข่งขัน 160 กม. และเป็นช่วงเริ่มต้น ของ การแข่งขันระยะทาง 100 กม. มาให้วิ่งทดสอบกัน



ตัว เหรียญที่ระลึก และ Bib  รวมทั้งเสื้อ ที่ระลึก ต้องชม คนจัดเลยว่าใส่ใจเป็นอย่างดี
แม้ จะมีนักวิ่งร่วมทดสอบ แค่ 19 คน  แต่ว่า ออกแบบทำได้สวยงาม ตามไสตล์ของทีล่ะก้าว ที่เน้น การออกแบบ และเลือกเนื้อผ้าของเสื้อที่ระลึก และเหรียญ ที่ออกมาถูกใจคนวิ่งทุกครั้ง

จุดปล่อยตัว ของการทดสอบครั้งนี่ อยู่ที่บ้านแกงหอมกระเหรี่ยง( มี แกงหอมม้ง อีกแห่งอยู่ใกล้ๆ กัน) ซึ่ง ห่างจากตัวเมืองแม่ฮ่องสอน ออกไป พอสมควร ต้องนั่งรถ ปิคอัพ 4 Wheel ลุยกันเข้าไป ตั้งแต่ ตีสาม  เนื่องจากต้องเดินทางค่อนข้างไกล และ เส้นทาง หน้าฝน ถนนไม่ดี บางช่วงลุยโคลน และร่องน้ำ




นั่งรถเขย่ากันเมื่อยก้นไปเลย ทีเดียว เส้นทางโหด พอได้ จนรถที่เราใช้เดินทางกันไปสามคัน เดี้ยงเครื่องพังไปหนึ่งคัน
ต้องไถ่คนลงมารวมกัน เป็นสองคันไปต่อ

แต่พอเริ่มฟ้าสาง มีแสง วิวสองข้างทาง มีหมอกปกคลุมตามเขา และเส้นทางสวย อากาศสดชื่น หายเหนื่อยไปได้เยอะ



ตอนเช้ามี มีละอองฝนบางๆโปรยลงมา เป็นแบบ Showering  ทำให้และเย็นลง จนเริ่มหนาว แม้จะเป็นหน้าร้อนๆอย่างนี้ จนหลายคนต้องเริ่ม เอาเสื้อกันฝนกันลม ออกมาใส่กันบ้างแล้ว

กว่าจะไปถึงจุดปล่อยตัว 7 โมงกว่า เล่นเอาเหนื่อย เมื่อยก้นไปเหมือนกัน



หลังจากไปถึง ก็มีเวลาเตรียมตัว เตรียมอุปกรณ์ และเติมน้ำ และทานแซนวิซ รองท้อง ถ่ายรูปเล่นกัน และเริ่มปล่อยตัว สตาร์ทตอน 7:45 น.



สาวเสื้อขาวตัวเล็กๆข้างบนนั่น Jenelle Seet ยอดนักวิ่งหญิงจาก สิงค์โปร์ คนนี้ วิ่ง HK 4 Trail กว่า 200 กม.มาแล้ว


ไหนๆ ก็ไหนๆ ขอประกบ Harry Jones หน่อย ตอน CMU Marathon วิ่งด้วยกัน แต่ตามหลังเค้าไม่เห็นฝุ่น


คนนี้ น้อง บาส Chatchai Anan Elite ขาแรง อีกคนของไทยในวงการเทรล คนนี้ ก็ขาลุย ใจถึงซ้อมวิ่งขึ้นภูกระดึง ทีล่ะ 3-4 รอบ
จับตาดูให้ดีคนนี้ ขยันซ้อม ภายในปี สองปีนี้ ขึ้นมาเป็นเบอร์ต้นๆ วงการวิ่งเทรล ไทยแน่นอนฟันธง  


สองคนนี้ คู่รักนักวิ่ง แกร่งทั้งหญิงและชาย วิ่งคู่กันไปได้ตลอดทาง

วันนี้พอปล่อยตัวออกมาช่วงแรกก็โหดรับน้องเลย 15 โลแรก ไต่ระดับขึ้นจาก ระดับ ความสูงประมาณ 1 พันเมตร ขึ้นไป ถึงยอด 1550 แล้ว ทิ้งดิ่งลงมา ชันมากๆ จนถึง ระดับราวๆ 700 เมตร


ขนาดผมเป็นคนชอบวิ่งลงเขา แต่งานนี้เจอ เนินยาวๆ 6-7 โลแรกตัดกำลัง พอทิ้งดิ่งลงมายาวๆ นี่ท้อไปเหมือนกัน

แต่ ต้องยอมรับว่า เป็นเส้นทางธรรมชาติ สวย ตลอดทาง












ช่วงท้าย ของเส้นทาง หลังลงเนิน จะวิ่งเลาะตามลำน้ำปาย ที่เห็นด้านหน้า จนไปสิ้นสุดที่รร.บ้านสบสาง



ความรู้สึกนึง ของการวิ่งเส้นทางเทรล  แม่ฮ่องสอน - ปายครั้งนี้ ให้ความรู้สึกว่า ทิวทัศน์ บรรยากาศเส้นทาง คล้ายกับ เส้นทางวิ่ง Vietnam Mountain Marthon ที่ ซาปา เวียดนามเหนือ  ที่หลายคนชมกันว่า เป็นเส้นทางวิ่ง ที่สวยมากเส้นทางนึงเลย

โดยเฉพาะเขาลูกที่ตั้งรับ ตอนเริ่มต้นวิ่งวันนี้ลูกนี้ กับ ภูเขา ที่คอยดักก่อนจบ สนามเวียดนามมาราธอน  ช่วง 5 โลท้าย นี่ขึ้นลง ชันพอกันเลย

(อันนี้ ยอดสุดท้ายก่อนจบของเวียดนาม)

แต่ว่า ของ Panoramic Trail ที่แม่ฮ่องสอนนี่ ระยะทาง ยาวกว่าเกือบเท่าตัว ทำให้ตัดกำลังไปได้เยอะกว่ามาก

สำหรับตัวเอง การมาทดสอบสนามครั้งนี้ ยังไม่ค่อยพร้อม เนื่องจาก เพิ่งซี่โครงหัก สามซี่จาก การไปซน วันสงกรานต์ ที่เกาะพะงัน แม้จะไม่เจ็บแล้ว แต่ว่า หยุดซ้อมไปนาน ไม่ฟิต และน้ำหนักตัวขึ้นมาเยอะเจอเขาชันเข้าไป ล้าจนถอดใจหยุดวิ่งและ แต่ ทีมงาน บิ้ลท์ต่อว่า ทางช่วงท้ายสวยมาก เลย อดไม่ได้ ออกมาวิ่งไปต่อ ซึ่งก็ไม่ผิดหวังสวยจริงๆ

รองเท้าที่เลือกเอาลองงานนี้ ใช้ Salonmon S Lab Sense4 มาลงที่นี่เป็นครั้งแรก

ก็โอเค นะเบาเกาะพื้นได้ดีทุกรูปแบบทั้งกรวด และดินเหนียว แต่ว่า ผมว่ามันกระด้างไปนิดโดยเฉพาะเมื่อลงเขากระแทกติดกันนานๆ ก็เจ็บฝ่าเท้าเหมือนกัน

หลังจากจบการทดสอบเส้นทาง ทาง ผู้จัดได้สอบถาม และขอข้อเสนอแนะ ในการนำไปปรับปรุงเส้นทาง ในการแข่งขันจริง

ผู้ร่วมทดสอบส่วนใหญ่  รวมทั้งผม พอใจกับการจัดการเส้นทางต่างๆ และ ให้ความเห็นว่า ชอบ สนามนี้ ที่สวย มากๆ  แม้ว่า ในการทดสอบ ครั้งนี้ เราวิ่งช่วงนี้ ซึ่ง มีทั้งฝน และแดดเปรี้ยงๆ สลับกัน ทำให้เหนื่อยหน่อย แต่ว่า ทุกคนมีความสุขกับสนาม กันถ้วนหน้า

สำหรับ อีกประเด็นที่สำคัญ ก็คือ การที่ต้องนั่งรถจาก จุดรวมตัว ที่ปาย หรือ แม่ฮ่องสอน ไปยังจุดปล่อยตัว โดยเฉพาะสำหรับ ระยะ 100 โล ซึ่งเป็นจุดเดียวกับที่เราเริ่มวิ่งทดสอบครั้ง นี้ ไกลเกินไปหน่อยและ ลำบากในการเดินทาง  และยากต่อการจัดการของผู้จัดเหมือนกัน

แต่ทางผู้จัด บอกว่าในตอนหน้าหนาว การเดินทางจะสะดวกขึ้นกว่านี้  และอาจจะมีการปรับเปลี่ยนเส้นทาง เพื่อให้ทางเลือกที่ดีที่สุดโดย อาจจะเปลี่ยนเป็นการวิ่งเป็น Loop ใหญ่วนกลับมาที่จุดปล่อยตัว ซึ่งอาจจะเป็นที่ปายก็ได้  ซึ่งถ้าเป็นไปได้ ก็สะดวกดี และง่ายต่อการจัดการ คงต้องติดตามกันต่อไป  

สำหรับใคร ที่ เล็งหาสนามวิ่ง เทรลสวยๆในไทย อยากให้ลองดูสนามนี้ อาจจะไม่ต้องไปไกลถึงซาปา เวียดนาม สนามนี้สวยไม่แพ้กัน (และที่เหนือกว่า เวียดนามก็คือ เรื่องการจัดการ การแข่งขัน ของทีมงานไทยเรา ไม่ว่าจะเรื่องอาหาร  น้ำ และเกลือแร่ ผลไม้ ตลอดจนเสื้อ และเหรียญ ที่ระลึก และ ถ้วยรางวัล บ้านเราเจ๋งกว่าเยอะครับ บ้านเราอาหารการกินอุดมสมบูรณ์  วิ่งที่เวียดนาม แจกกล้วย ให้คนล่ะ ครึ่งลูกต่อ 1 Check Point กับน้ำปล่าวเท่านั้น อิๆ)

แต่ถ้าใคร จะไปลง สนามนี้ ก็ต้องบอกไว้ก่อน ว่าแม้เธอจะสวย แต่ เธอก็ไม่ง่ายนะ

โดยเฉพาะใคร ที่คิดจะลง 100 โล หรือ 160 โล ต้องฟิตร่างกายให้ดีๆ จริงๆ จะได้ผ่านสนามนี้ได้ อย่างมีความสุข

โดยส่วนตัวผมขอเอาใจช่วย อยากเห็นสนามนี้ได้พัฒนา ขึ้นเป็นสนาม 100 Mile (160 โล)  ระดับอินเตอร์ เทียบชั้นกับ สุดยอดรายการเทรลเอเชีย อย่าง UTMF (Ultra Trail Muount Fuji )  หรือ สุดยอดรายการวิ่งเทรลโลก อย่าง UTMB (Ultra Trail Muount Montblanc )  ในอนาคต และล่าสุด รายการนี้ ดูเหมือนได้รับการรับเลือกเข้าไปอยู่ในรายการของ  Asia Trail Master  ด้วยแล้ว  ขอเป็นกำลังใจให้กับทีมงาน ทีล่ะก้าว ได้พัฒนา วงการเทรลบ้านเราให้ก้าวหน้าต่อไป

วงการวิ่ง Ultra Trail บ้าน เรา แม้จะยังเล็ก แต่ว่ากำลังเติบโต อย่างรวดเร็ว

ปีนี้ นักวิ่งไทยเราออกไปลุยในสนามโลกกันหลายคน คอยติดตามเชียร์กันครับ

ทั้ง UTMB และ UTMF ปีนี้ จะมีเพื่อนคนไทยไปร่วมกันหลายคน

แม้แต่ รายการหฤโหด อย่าง Tor Des Geants วิ่ง 330 โล บนภูเขาน้ำแข็ง ไต่ความชัน กว่า 24000 เมตร หรือ  3 เท่า Everest    http://www.tordesgeants.it/en ก็มีคนไทยพาธงไตรรงค์ ไปร่วมแข่งขันด้วย

ต้องขอบคุณ เครื่องดื่มเกลือแร่ ซันโว แห่งค่ายสิงห์ คอร์เปอเรชั่น ที่ปีนี้ แบ่งงบกว่า 4 สี่ล้าน มาสนับสนุนนักวิ่งไทยออกไปลุยเทรลโลกกันหลายคน ตาม สโลแกน สนามใหญ่ต้องมี นักวิ่งไทยให้เชียร์  คอยติดตามกัน นะ ครับ