💟 #MeBeforeYou 💟
หมายเหตุ : เข้าข่าย spoiled เหมาะสำหรับผู้ที่ได้ดูแล้ว เข้ามาแชร์ความประทับใจด้วยกันนะคะ
ไม่ได้ร้องไห้ให้กับหนังรักมานานแล้ว
แต่เรื่องนี้ทำเอาน้ำตาไหลพรากดุจทำนบแตก
ออกจากโรงมาความรู้สึกอึนในหัว ทั้งหน้าหล่อๆของพระเอก ความน่ารักและรอยยิ้มสดใจจริงใจไม่ห่วงประดิษฐ์สวยของนางเอง วนเวียนอยู่ในความรู้สึกเป็นวัน จนอดไม่ได้ที่จะต้องปลดปล่อยมันออกมา ...
เข้าใจความชัดเจนของพระเอกมาก
เคารพการตัดสินใจของเขา เพราะรู้ว่าเขาเลือกแล้วจริงๆ
ตอนที่เขายังมีโอกาส เขาก็เต็มที่กับมันทุกอย่าง
ทำอะไรก็ต้องให้มันเป็นที่สุดเสมอ
สำหรับคนที่ได้ใช้ชีวิตเต็มที่มาแล้ว ย่อมไม่มีอะไรต้องเสียใจหรือมารู้สึกทีหลังว่า ตอนนั้น .. เราน่าจะ ..
แม้ตอนที่ต้องนั่งรถเข็นเขาก็พยายามพื้นฟูตัวเองตามคำแนะนำของหมออย่างเต็มที่ที่สุดแล้ว
แต่ในเมื่อเขาไปไกลกว่านี้ไม่ได้ เขาไม่มีวันจะลุกขึ้นมาเดินได้อีก ปาฏิหาริย์ไม่มีวันเกิดขึ้นกับเขา
เขาก็เลือกจบมันดีกว่า เขาตัดสินใจด้วยเหตุด้วยผลที่ดีที่สุดแล้ว และเราชอบตอนจบมากที่ทุกคนมาส่งเขา และจากลากันด้วยความรัก
หนังทำให้เศร้าก็จริง แต่มันก็งดงามจนทำให้เราต้องยิ้มออกมาทั้งน้ำตาเช่นกัน
ขอพูดถึงมุมของนางเอกบ้าง 💟
ลู ทำให้เราเห็นถึงเสน่ห์ และความน่ารักของคนที่มีจิตใจที่ดี คนที่ห่วงใยคนอื่นมากกว่าตัวเองเสมอ คนที่ชัดเจนกับอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองอย่างเต็มที่
ชอบหน้าตาตอนแสดงอารมณ์ต่างๆของนางมาก นางเต็มที่กะทุกอารมณ์ ไม่เคยพยายามจะประดิษฐ์สวยใดๆ ดูไปยิ้มไปกับคิ้วที่เหมือนเต้นระบำได้ของนาง เวลาที่นางยิ้ม มันเหมือนกับมีแสงสว่างเกิดขึ้นรอบๆตัวนาง มันอบอุ่น สดใส ไม่แปลกใจเลยที่นางจะสามารถทำให้พระเอกสามารถกลับมามีรอยยิ้มบนหน้าได้อีก
ลูแกว่งไกวง่ายมากกับการทำเพื่อคนอื่น โดยเฉพาะคนที่ดูน่าสงสาร ต้องการความช่วยเหลือ ดูเหมือนเธอจัดลำดับความสำคัญของของความใส่ใจตามลำดับความต้องการความช่วยเหลือ บางทีเราก็อดรู้สึกไม่ได้ว่านางเอาความรักกับความสงสารมาปนกันจนสับสนอยู่หรือเปล่า เหมือนนางจะพร้อมอุทิศตัวเองให้กับการช่วยเหลือคนอื่นจนหลงลืมการใช้ชีวิตที่เป็นของตัวเอง
---- ถ้าพระเอกไม่ได้อยู่ในสภาพนี้ ทั้งสองคนไม่มีวันปิ๊งกันแน่นอน ----
เพราะพระเอกก็ไม่มีวันจะสนใจสาวที่แต่งตัวได้ไม่แคร์โลกอย่างลู เพราะเขาเป็นคนที่มองไปข้างหน้าเพื่อตามหาความเป็นที่สุด และใช้ชีวิตอยู่ในสังคมระดับท้อปมาตลอด และสาวขี้สงสารอย่างลูก็ไม่มีวันเพ้อหาหนุ่มหล่อมหาเศรษฐีที่เพียบพร้อมอย่างพระเอก เพราะเธอถูกดึงดูดด้วยการมองหาคนที่ต้องการความช่วยเหลือจากเธอเท่านั้น ลูไม่ใช่สาวประเภทที่อยากได้อะไรจากใคร ไม่เคยคิดจะทำสวยเพื่อดึงดูดผู้ชายรวยๆ เธอเป็นฝ่ายที่อยากเป็นผู้ให้มากกว่า
💟...ทั้งสองคนได้มาเจอกันเพื่อเป็นของขวัญที่ดีที่สุดสำหรับกันและกันจริงๆ...💟
ลูทำให้พระเอกได้จากไปอย่างมีรอยยิ้ม และมาทำให้ชีวิตพระเอกสมบูรณ์(ทางจิตใจ) ได้รู้ว่าโลกนี้มีคนที่น่ารัก มีจิตใจที่ดีและบริสุทธิ์ รักและทำเพื่อผู้อื่นอย่างแท้จริงเช่นลู
ลูทำให้พระเอกได้ทำสิ่งที่เป็นที่สุดของเขาเป็นครั้งสุดท้ายคือเป็นผู้ให้ พระเอกที่ทำทุกอย่างอย่างเต็มที่เพื่อตัวเองมาตลอด ได้จากไปอย่างมีรอยยิ้มเพราะเขารู้ว่าเขากำลังให้สิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดกับนางเอก นั่นคือโอกาสที่จะได้ทำเพื่อตัวเอง และใช้ชีวิตของตัวเอง ทำอย่างที่ตัวเองปรารถนา(ซะบ้าง)
ลูเองก็ได้เรียนรู้การเป็นผู้รับบ้าง ตลอดมานางไม่เคยเรียกร้องอะไรจากใครเลย และดูเหมือนจะเป็นฝ่ายถูกขอความช่วยเหลือและต้องคอยทำเพื่อผู้อื่นตลอด แม้กระทั่งแฟนนางเองยังไม่เคยที่จะสนใจว่านางชอบอะไร อยากทำอะไร แต่ต้องการให้นางทำตามความชอบของเขาแต่เพียงข้างเดียว (แอบดีใจที่เลิกกัน^^)
ฉากสุดท้าย ที่ลูในชุดเลคกิ้งลายผึ้งที่ปารีสกำลังตามรอยความทรงจำดีๆที่พระเอกเคยบอกไว้ จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการใช้ชีวิตที่ลงตัวของลูนับจากนี้ ชีวิตที่กล้าที่จะทำเพื่อตัวเองออกเดินทางไปเรียนรู้โลกกว้าง(ซะบ้าง) โดยที่ไม่ต้องทิ้งความเป็นตัวเองไป (ใส่เลคกิ้งไม่แคร์วัยตามสไตล์สาวไม่แคร์แฟชั่นเหมือนเดิม 😄😄😄)
💟Live your life. Don't settle. 💟
คำพูดที่พระเอกฝากเอาไว้ เราว่านี่แหละคือสิ่งที่ใช่ที่สุดแล้วของการได้เกิดมามีชีวิต.
รักหนังเรื่องนี้มากกกกกกกกกค่ะ 💜💛💚💙
Me before you : จบแบบนี้ดีที่สุดแล้ว T T
หมายเหตุ : เข้าข่าย spoiled เหมาะสำหรับผู้ที่ได้ดูแล้ว เข้ามาแชร์ความประทับใจด้วยกันนะคะ
ไม่ได้ร้องไห้ให้กับหนังรักมานานแล้ว
แต่เรื่องนี้ทำเอาน้ำตาไหลพรากดุจทำนบแตก
ออกจากโรงมาความรู้สึกอึนในหัว ทั้งหน้าหล่อๆของพระเอก ความน่ารักและรอยยิ้มสดใจจริงใจไม่ห่วงประดิษฐ์สวยของนางเอง วนเวียนอยู่ในความรู้สึกเป็นวัน จนอดไม่ได้ที่จะต้องปลดปล่อยมันออกมา ...
เข้าใจความชัดเจนของพระเอกมาก
เคารพการตัดสินใจของเขา เพราะรู้ว่าเขาเลือกแล้วจริงๆ
ตอนที่เขายังมีโอกาส เขาก็เต็มที่กับมันทุกอย่าง
ทำอะไรก็ต้องให้มันเป็นที่สุดเสมอ
สำหรับคนที่ได้ใช้ชีวิตเต็มที่มาแล้ว ย่อมไม่มีอะไรต้องเสียใจหรือมารู้สึกทีหลังว่า ตอนนั้น .. เราน่าจะ ..
แม้ตอนที่ต้องนั่งรถเข็นเขาก็พยายามพื้นฟูตัวเองตามคำแนะนำของหมออย่างเต็มที่ที่สุดแล้ว
แต่ในเมื่อเขาไปไกลกว่านี้ไม่ได้ เขาไม่มีวันจะลุกขึ้นมาเดินได้อีก ปาฏิหาริย์ไม่มีวันเกิดขึ้นกับเขา
เขาก็เลือกจบมันดีกว่า เขาตัดสินใจด้วยเหตุด้วยผลที่ดีที่สุดแล้ว และเราชอบตอนจบมากที่ทุกคนมาส่งเขา และจากลากันด้วยความรัก
หนังทำให้เศร้าก็จริง แต่มันก็งดงามจนทำให้เราต้องยิ้มออกมาทั้งน้ำตาเช่นกัน
ขอพูดถึงมุมของนางเอกบ้าง 💟
ลู ทำให้เราเห็นถึงเสน่ห์ และความน่ารักของคนที่มีจิตใจที่ดี คนที่ห่วงใยคนอื่นมากกว่าตัวเองเสมอ คนที่ชัดเจนกับอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองอย่างเต็มที่
ชอบหน้าตาตอนแสดงอารมณ์ต่างๆของนางมาก นางเต็มที่กะทุกอารมณ์ ไม่เคยพยายามจะประดิษฐ์สวยใดๆ ดูไปยิ้มไปกับคิ้วที่เหมือนเต้นระบำได้ของนาง เวลาที่นางยิ้ม มันเหมือนกับมีแสงสว่างเกิดขึ้นรอบๆตัวนาง มันอบอุ่น สดใส ไม่แปลกใจเลยที่นางจะสามารถทำให้พระเอกสามารถกลับมามีรอยยิ้มบนหน้าได้อีก
ลูแกว่งไกวง่ายมากกับการทำเพื่อคนอื่น โดยเฉพาะคนที่ดูน่าสงสาร ต้องการความช่วยเหลือ ดูเหมือนเธอจัดลำดับความสำคัญของของความใส่ใจตามลำดับความต้องการความช่วยเหลือ บางทีเราก็อดรู้สึกไม่ได้ว่านางเอาความรักกับความสงสารมาปนกันจนสับสนอยู่หรือเปล่า เหมือนนางจะพร้อมอุทิศตัวเองให้กับการช่วยเหลือคนอื่นจนหลงลืมการใช้ชีวิตที่เป็นของตัวเอง
---- ถ้าพระเอกไม่ได้อยู่ในสภาพนี้ ทั้งสองคนไม่มีวันปิ๊งกันแน่นอน ----
เพราะพระเอกก็ไม่มีวันจะสนใจสาวที่แต่งตัวได้ไม่แคร์โลกอย่างลู เพราะเขาเป็นคนที่มองไปข้างหน้าเพื่อตามหาความเป็นที่สุด และใช้ชีวิตอยู่ในสังคมระดับท้อปมาตลอด และสาวขี้สงสารอย่างลูก็ไม่มีวันเพ้อหาหนุ่มหล่อมหาเศรษฐีที่เพียบพร้อมอย่างพระเอก เพราะเธอถูกดึงดูดด้วยการมองหาคนที่ต้องการความช่วยเหลือจากเธอเท่านั้น ลูไม่ใช่สาวประเภทที่อยากได้อะไรจากใคร ไม่เคยคิดจะทำสวยเพื่อดึงดูดผู้ชายรวยๆ เธอเป็นฝ่ายที่อยากเป็นผู้ให้มากกว่า
💟...ทั้งสองคนได้มาเจอกันเพื่อเป็นของขวัญที่ดีที่สุดสำหรับกันและกันจริงๆ...💟
ลูทำให้พระเอกได้จากไปอย่างมีรอยยิ้ม และมาทำให้ชีวิตพระเอกสมบูรณ์(ทางจิตใจ) ได้รู้ว่าโลกนี้มีคนที่น่ารัก มีจิตใจที่ดีและบริสุทธิ์ รักและทำเพื่อผู้อื่นอย่างแท้จริงเช่นลู
ลูทำให้พระเอกได้ทำสิ่งที่เป็นที่สุดของเขาเป็นครั้งสุดท้ายคือเป็นผู้ให้ พระเอกที่ทำทุกอย่างอย่างเต็มที่เพื่อตัวเองมาตลอด ได้จากไปอย่างมีรอยยิ้มเพราะเขารู้ว่าเขากำลังให้สิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดกับนางเอก นั่นคือโอกาสที่จะได้ทำเพื่อตัวเอง และใช้ชีวิตของตัวเอง ทำอย่างที่ตัวเองปรารถนา(ซะบ้าง)
ลูเองก็ได้เรียนรู้การเป็นผู้รับบ้าง ตลอดมานางไม่เคยเรียกร้องอะไรจากใครเลย และดูเหมือนจะเป็นฝ่ายถูกขอความช่วยเหลือและต้องคอยทำเพื่อผู้อื่นตลอด แม้กระทั่งแฟนนางเองยังไม่เคยที่จะสนใจว่านางชอบอะไร อยากทำอะไร แต่ต้องการให้นางทำตามความชอบของเขาแต่เพียงข้างเดียว (แอบดีใจที่เลิกกัน^^)
ฉากสุดท้าย ที่ลูในชุดเลคกิ้งลายผึ้งที่ปารีสกำลังตามรอยความทรงจำดีๆที่พระเอกเคยบอกไว้ จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการใช้ชีวิตที่ลงตัวของลูนับจากนี้ ชีวิตที่กล้าที่จะทำเพื่อตัวเองออกเดินทางไปเรียนรู้โลกกว้าง(ซะบ้าง) โดยที่ไม่ต้องทิ้งความเป็นตัวเองไป (ใส่เลคกิ้งไม่แคร์วัยตามสไตล์สาวไม่แคร์แฟชั่นเหมือนเดิม 😄😄😄)
💟Live your life. Don't settle. 💟
คำพูดที่พระเอกฝากเอาไว้ เราว่านี่แหละคือสิ่งที่ใช่ที่สุดแล้วของการได้เกิดมามีชีวิต.
รักหนังเรื่องนี้มากกกกกกกกกค่ะ 💜💛💚💙