>>> โดนแฮกบัตรเครดิต ความปลอดภัยของลูกค้าอยู่ตรงไหน???

ใช้บัตรเครดิตของธนาคารกสิกรไทย เพิ่งโดนมาสดๆร้อน 5,000 กว่าบาทค่ะ

เมื่อวานตอนประมาณ 2 ทุ่ม แวะซุปเปอร์มาเก็ตแถวบ้านเพื่อเอาเงินสดเข้าตู้ฝาก พอฝากเสร็จก็มี sms แจ้งเตือนมาว่า มีเงินเข้าบัญชี เปิดดูก็โอเคปกติดีทุกอย่าง

แต่เรื่องมาเกิดตรงที่ อีกสักพักก็มีข้อความเตือนมาจาก แอพ mobile banking ว่าอนุมัติยอดใช้บัตรเครดิต จาก FACEBOOK VIRTUAL GOODS เป็นเงิน 373 TRY ตอนนั้นงงว่า อะไรหว่า TRY สักพักมียอดรัวๆมาอีก 3 ยอด จาก paypal 2 ยอด และ SERVICES DAISY ROCK CITY US อีก 1 ยอด ทีนี้ตาถลนเลยค่ะ โดนแฮกแน่นอน เลยโทรไป CCT ของธนาคาร ขออายัดบัตร ธนาคารก็แจ้งว่าน่าจะโดนแฮกข้อมูล แล้วจะส่งเอกสารให้กรอกเพื่อยื่นคำรองขอยกเลิกรายการ ซึ่งจะได้ยอดเงินคืนอาจจะรอบบิลนี้หรือรอบบิลถัดไป และจะจัดส่งบัตรใบใหม่มาให้ภายใน 7 วัน

พอคุยกับ CCT ธนาคารเสร็จ ก็มาหาว่า TRY เป็นสกุลเงินอะไร ก็พบว่า คือ ลีราตุรกี แล้วก็หาข้อมูลเรื่องโดนแฮกบัตรเครดิต สรุปว่าโดนกันเยอะมาก มากจนกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว ฟังจากน้ำเสียง CCT คือ เหมือนเป็นเรื่องปกติที่พบเจอทุกวัน ประมาณโอนเงินเข้าออกธรรมดา ยังไงยังงั้น

เมื่อ 2-3 เดือนก่อน เจ้านายของ จขกท ก็เพิ่งโดนไป 2 แสนกว่าบาท เป็นของอีกแบงก์นึง พอมาเจอกับตัวเองแล้วรู้สึกว่า การแฮกบัตรมันง่ายๆกันแบบนี้เลยเหรอ โอกาสที่จะโดนมีสูงมาก และพบเยอะมากด้วย

คำถามคือ ธนาคารมีมาตรการอะไรที่ออกมาป้องกันหรือเปล่า ? หรือกลายเป็นภาระของลูกค้าที่ต้องระมัดระวังเอง ธนาคารมีหน้าทียกเลิกรายการแค่นั้น?

ความปลอดภัยของลูกค้าอยู่ที่ไหน หลายๆสิ่งหลายๆอย่างเราเห็นว่ามันไม่มีความปลอดภัยเลย แต่ธนาคารทำได้แค่เพียงให้ลูกค้าอายัดบัตรและส่งบัตรใหม่ให้ ที่จริงมันควรจะมีอะไรที่สร้างความมั่นใจให้กับลูกค้ามากกว่านี้มั๊ยคะ???

เรายกตัวอย่างที่เจอมา

- การซื้อตั๋วเครื่องบินผ่าน CCT ซึ่งใช้ เลขหน้าบัตรกับรหัส 3 ตัวหลังบัตร แบบนี้พนักงานก็ทราบเลขทั้งหน้าและหลังบัตรเราเรียบร้อย หวานหมูไปเลย (ถามว่าทำไมไม่จองผ่านเวบหรือแอพ ? บางทีเจ้านายมีงานด่วนต้องจองตั๋วด่วน ซึ่งจองผ่านเวบกับผ่านแอพ บางครั้งรวนหรือ error แล้วไม่ทันใจเจ้านายค่ะ การจองผ่าน CCT จึงเป็นทางเลือกที่ไวที่สุด)

- การซื้อตั๋วผ่าน ไทยทิกเกตเมเจอร์ (ในกรณีที่คนไปรับบัตรหน้างานกับเจ้าของบัตรคนละคนกัน) โดยทาง TTM จะมีใบมอบอำนาจมาให้เจ้าของบัตรและผู้รับมอบอำนาจเซ็น ไม่เพียงเท่านั้น ต้องมีสำเนาบัตรเครดิตทั้งหน้าและหนังแนบไปด้วย อ้าวเฮ้ย เลขหน้าบัตรหลังบัตรเราก็ลอยไปกับสายลมสิเฮ้ย พอโทรถาม TTM ก็แจ้งมาว่า เป็นกฏจ้า ต้องมีสำเนาบัตรเครดิตถึงจะรับบัตรได้ ถามทางธนาคารก็ได้คำตอบเดิมคือ หลังให้สำเนาไป ให้อายัดบัตรและจะส่งบัตรมาใหม่ แบบนี้เราซื้อตั๋ว 5 ครั้ง ก็ต้องอายัด 5 ครั้ง ได้บัตรใหม่ 5 ใบ แบบนี้เหรอ คือธนาคารทำได้แค่นี้ใช่มั๊ย

- การซื้อของผ่านอินเตอร์เนต บางเวบไซต์ใช้แค่ เลขหน้าบัตรและหลังบัตร ไม่ต้องมี OTP ส่งมา sms ก็สามารถซื้อของได้แล้ว น่ากลัวมากๆ

ธนาคารควรมีมาตรการที่ทำให้ลูกค้าเชื่อมั่นและปลอดภัยมากกว่านี้มั๊ยคะ หรือการบังคับให้ทางร้านค้ามีระบบที่โปร่งใสและปลอดภัยกว่านี้หรือไม่

ความรู้สึกตอนนี้เหมือนใช้ชีวิตแบบ กลับดึก อยู่ลึกๆในซอยเปลี่ยว มากๆค่ะ จะโดนปล้น โดนจี้เมื่อไหร่ไม่รู้ โทรไปแจ้ง ก็เหมือนเป็นเรื่องปกติไปแล้ว เจอแบบนี้ เศรษฐกิจอย่างนี้ เพลียใจเลยค่ะ

ปล.เราโชคดีมากที่ลงแอพ mobile banking ไว้ ยอดเล็กยอดน้อยจะแจ้งหมด ซึ่งปกติถ้า sms ของธนาคารจะแจ้งเฉพาะยอด 1,000 บาทขึ้นไป (ดีทีรู้เร็ว ไม่เช่นนั้นหมดเยอะกว่านี้อีก) แต่อย่างเจ้านายเรา กว่าจะรู้ก็ตอนบิลมาเก็บแล้ว โดนไปเยอะ ลิสรายการยาวเป็นหางว่าวเลย

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่