ในสมัยก่อนถ้าผมอยู่เยอรมนีตะวันตก จะไปหาญาติที่เบอร์ลินตะวันตกผมจะไปได้อย่างไรครับ มีถนนไปถึงไหม

เนื่องด้วยจากข้อตกลงของสงครามโลกครั้งที่สอง ที่แบ่งเยอรมนีเป็น 4 เขตอ็อคคูพาย โดยสามเขตเป็นของฝรั่งเศส อังกฤษและอเมริกา เป็นเยอรมนีตะวันตก
ส่วนเขตอ็อคคูพายของโซเวียตเป็นเยอรมนีตะวันออก

ซึ่งเบอร์ลินอยู่ในเขตอ็อคคูพายของโซเวียต

อย่างไรก็ดีตามข้อตกลงดังกล่าวต้องแบ่งเบอร์ลินเป็นสี่เขตอ็อคคูพายด้วยเช่นกัน ทำให้เบอร์ลินก็ต้องแบ่งเป็นเบอร์ลินตะวันตกและเบอร์ลินตะวันออกเช่นเดียวกัน และตามข้อตกลงแล้วมีเส้นทางการบินสามเส้นทางจากเขตอ็อคคูพายต่างๆ เขตละเส้นทางที่สามารถเข้าเบอร์ลินตะวันตกได้ (ซึ่งเป็นเส้นทางของ Berlin Airlift ในช่วงวิกฤตการณ์)

ผมเลยสงสัยว่าในระหว่างนี้ถ้าคนในเยอรมนีตะวันตกจะไปติดต่อธุระที่เบอร์ลินตะวันตกและในทางกลับกัน โดยไม่ได้ใช้ทางการบิน
เค้าจะไปมาหาสู่กันอย่างไรครับ มีเส้นทางรถพิเศษไหมครับ

และหากคนเยอรมันตะวันตกจะไปทำธุระในเบอร์ลินตะวันออกโดยผ่านด่านชาร์ลีสามารถกระทำได้ไหมครับ หรือว่าห้ามข้ามไป (แต่ว่าก้อมีป้ายเตือน แสดงว่าน่าจะข้ามได้)

//เพิ่มภาพประกอบครับ



ภาพจากวิกิครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 11
เมื่อเป็นเรื่องประวัติศาสตร์เยอรมันก็ควรจะรู้ข้อเท็จจริงให้เต็มรูปแบบ    

1)  ทำความเข้าใจก่อนว่า   เมืองเบอร์ลินที่ถูกแยกเป็นออกกับตกนั้นอยู่ในส่วนการยึดครองของโซเวียตทั้งหมด    นั่นหมายถึงว่าเบอร์ลินเป็นเมืองที่เสมือนหนึ่งเป็นเกาะที่ถูกล้อมรอบโดยเยอรมนีตะวันออก  และถูกตัดขาดออกจากเยอรมนีตะวันตก

สรุปสั้นๆ ว่า    เยอรมนีตะวันตก   และ เบอร์ลินตะวันตก   เป็นคนละส่วนกัน

ดูจากรูปข้างล่าง

2)   การเดินทางเข้าสู่เบอร์ลินตะวันตกของชาวเยอรมันตะวันตกจึงต้องผ่านเยอรมนีตะวันออก    โดยมีการเดินทางได้  3 ทางคือ

A -  เครื่องบินซึ่งมีอยู่ 3 corridors   ตามรูปแรกที่ จขกท โพสต์ไว้ข้างบน    
B-  ทางรถยนต์โดยใช้ Autobahn 4 เส้นทาง  ได้แก่  A2,  A4,  A9,  และ  A24   ตามรูปข้างล่างสีเขียว
C -  ทางรถไฟ

สำหรับทางเรือนั้นเป็นการใช้เส้นทางเดินเรือระหว่างแม่น้ำหรือคลอง    (ได้แก่ Spree, Havel, Teltow Canal)
แต่เป็นการเดินทางภายในเบอร์ลินเอง    ไม่เกี่ยวกับการเดินทางจากเยอรมนีตะวันตกไปเยอรมนีตะวันออกอย่างที่ คห  1  เข้าใจ
ซึ่งเส้นทางการติดต่อทั้ง 3  ระบบถูกตัดขาดทั้งหมดเมื่อรัสเซียปิดล้อมเบอร์ลินในช่วงปี  1948-1949

การเดินทางโดยเรือนั้นอนุญาตเฉพาะการขนส่งสินค้า ,   เรือที่ต้องการใช้เป็นเส้นทางผ่าน  transit,    เรือที่มีการมอบหมายให้ปฏิบัติการพิเศษ,   หรือ   เรือที่ใช้สำหรับการฝึกกีฬาเท่านั้น

ไม่ได้ใช้เพื่อการเดินทางสำหรับผู้โดยสารทั่วไป

เส้นทาง Autobahn 4 เส้นทางคือสัญลักษณ์ 3  ขีด


3)   การหยุดการเดินทางโดยรถยนต์อันเนื่องจากการเจ็บป้วยกระทันหันและจากการเกิดอุบัติเหตุนั้นจะไม่ถูกดำเนินการทางกฏหมาย หรือ ไม่ต้องเสียค่าปรับ    ถือเป็นเรื่องฉุกเฉิน     การหยุดการเดินทางกระทันหันในเขตเยอรมนีตะวันออกจะถูกเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบและนำตัวไปยังเยอรมนีตะวันออกเพื่อดำเนินการต่อไป

4)   การเดินทางด้วย U-Bahn  (Untergrundbahn) ซึ่งเป็นระบบขนส่งทางรถไฟใต้ดินซึ่งมีบริการแต่เฉพาะในเมืองเท่านั้น    เช่นเดียวกับ  S-Bahn (Stadtbahn)     ฉะนั้นที่  คห  3  #3211910   กล่าวถึงนั้นจึงเป็นระบบรถไฟใต้ดินที่วิ่งในเฉพาะเมืองเบอร์ลินเท่านั้น    ซึ่งเมื่อต้องวิ่งผ่านในส่วนของเบอร์บินตะวันออก     จึงถูกทางตะวันออกห้ามไม่ให้หยุดยกเว้นสถานีเดียวคือ  Friedrichstraße  ซึ่งถูกกำหนดให้เป็นจุดเปลี่ยนรถเพื่อเดินทางไปยังเส้นทางอื่น

และด้วยสาเหตุที่เป็นระบบรถไฟใต้ดินซึ่งเส้นทางจะมืดสนิท    สถานีรถไฟในเยอรมนีตะวันออกที่ไม่ให้หยุดจอดและไม่ได้ทำการจึงเปิดไฟไว้น้อยที่สุดทำให้มืดทึมมองไม่เห็นชัดเจน   นอกจากนั้นแล้วยังมีทหารพร้อมด้วยอาวุธครบมือยืนประจำการอยู่ตลอดระยะ       แต่ด้วยเหตุผลทางเทคนิคทำให้รถไฟจำต้องชะลอความเร็วลงทุกครั้งที่ผ่านสถานีเหล่านี้    เมื่อผู้โดยสารมองออกนอกหน้าต่างไปจึงเห็นภาพที่ดูแล้วน่าสะพึงกลัว

สถานีรถไฟเหล่านี้จึงถูกสมญานามโดยผู้คนทั่วไปว่า    Geisterbahnhof   หรือในภาษาอังกฤษว่า Ghost station  ถูกนำไปใช้เรียกสถานีรถไฟ (ใต้ดิน) ที่ไม่ใช้งานในประเทศอื่นๆ ในเวลาต่อมา

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่