คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 11
เจ้าของกระทู้ตั้งใจฟังให้ดีนะ
ปุพเพตกเหตุวาท จะโทษจะเชื่อแต่ผลกรรมจากชาติที่แล้วอย่างเดียวเท่านั้น
ไม่ยอมเชื่อว่าการกระทำในชาตินี้ว่าจะสามารถเปลี่ยนแปลงชาตินี้ได้
แต่พระพุทธเจ้าสอนแตกต่างว่า "ผลกรรมทั้งของชาติที่แล้วกับของชาตินี้รวมกันแล้วสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของชาตินี้ได้"
อธิบายอย่างนี้ชัดเจนไหม
[ลัทธินอกพระพุทธศาสนา 3 (บาลีเรียกว่า ติตถายตนะ แปลว่า แดนเกิดลัทธิ, ชุมนุมหรือประมวลแห่งลัทธิ — beliefs of other sects; grounds of sectarian tenets; spheres of wrong views; non-Buddhist beliefs)
1. ปุพเพตกเหตุวาท (ลัทธิกรรมเก่า คือ พวกที่ถือว่า สิ่งใดก็ตามที่ได้ประสบจะเป็นสุขก็ตาม ทุกข์ก็ตาม มิใช่สุขมิใช่ทุกข์ก็ตาม ล้วนเป็นเพราะกรรมที่ได้ทำไว้ในปางก่อน — a determinist theory that whatever is experienced)
2. อิสสรนิมมานเหตุวาท (ลัทธิพระเป็นเจ้า คือ พวกที่ถือว่า สิ่งใดก็ตามที่ได้ประสบ จะเป็นสุขก็ตาม ทุกข์ก็ตาม มิใช่สุขมิใช่ทุกข์ก็ตาม ล้วนเป็นเพราะการบันดาลของเทพผู้ยิ่งใหญ่ — a determinist theory that whatever is experienced is due to the creation of a Supreme Being; theistic determinism) เรียกสั้นๆ ว่า อิศวกรณวาท หรือ อิศวรนิรมิตวาท
3. อเหตุอปัจจัยวาท (ลัทธิเสี่ยงโชค คือ พวกที่ถือว่า สิ่งใดก็ตามที่ได้ประสบ จะเป็นสุขก็ตาม ทุกข์ก็ตาม มิใช่สุขมิใช่ทุกข์ก็ตาม ล้วนหาเหตุหาปัจจัยมิได้ คือ ถึงคราวก็เป็นไปเอง — an indeterminist theory that whatever is experienced is uncaused and unconditioned; accidentalism) เรียกสั้นๆ ว่า อเหตุวาท
ทั้งสามลัทธินี้ ไม่ชอบด้วยเหตุผล ถูกยันเข้า ย่อมอ้างการถือสืบๆ กันมา เป็นลัทธิประเภท อกิริยา (traditional doctrines of inaction) หากยึดมั่นถือตามเข้าแล้ว ย่อมให้เกิดโทษ คือ ไม่เกิดฉันทะ และความพยายาม ที่จะทำการที่ควรทำและเว้นการที่ไม่ควรทำ]
ปุพเพตกเหตุวาท จะโทษจะเชื่อแต่ผลกรรมจากชาติที่แล้วอย่างเดียวเท่านั้น
ไม่ยอมเชื่อว่าการกระทำในชาตินี้ว่าจะสามารถเปลี่ยนแปลงชาตินี้ได้
แต่พระพุทธเจ้าสอนแตกต่างว่า "ผลกรรมทั้งของชาติที่แล้วกับของชาตินี้รวมกันแล้วสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของชาตินี้ได้"
อธิบายอย่างนี้ชัดเจนไหม
[ลัทธินอกพระพุทธศาสนา 3 (บาลีเรียกว่า ติตถายตนะ แปลว่า แดนเกิดลัทธิ, ชุมนุมหรือประมวลแห่งลัทธิ — beliefs of other sects; grounds of sectarian tenets; spheres of wrong views; non-Buddhist beliefs)
1. ปุพเพตกเหตุวาท (ลัทธิกรรมเก่า คือ พวกที่ถือว่า สิ่งใดก็ตามที่ได้ประสบจะเป็นสุขก็ตาม ทุกข์ก็ตาม มิใช่สุขมิใช่ทุกข์ก็ตาม ล้วนเป็นเพราะกรรมที่ได้ทำไว้ในปางก่อน — a determinist theory that whatever is experienced)
2. อิสสรนิมมานเหตุวาท (ลัทธิพระเป็นเจ้า คือ พวกที่ถือว่า สิ่งใดก็ตามที่ได้ประสบ จะเป็นสุขก็ตาม ทุกข์ก็ตาม มิใช่สุขมิใช่ทุกข์ก็ตาม ล้วนเป็นเพราะการบันดาลของเทพผู้ยิ่งใหญ่ — a determinist theory that whatever is experienced is due to the creation of a Supreme Being; theistic determinism) เรียกสั้นๆ ว่า อิศวกรณวาท หรือ อิศวรนิรมิตวาท
3. อเหตุอปัจจัยวาท (ลัทธิเสี่ยงโชค คือ พวกที่ถือว่า สิ่งใดก็ตามที่ได้ประสบ จะเป็นสุขก็ตาม ทุกข์ก็ตาม มิใช่สุขมิใช่ทุกข์ก็ตาม ล้วนหาเหตุหาปัจจัยมิได้ คือ ถึงคราวก็เป็นไปเอง — an indeterminist theory that whatever is experienced is uncaused and unconditioned; accidentalism) เรียกสั้นๆ ว่า อเหตุวาท
ทั้งสามลัทธินี้ ไม่ชอบด้วยเหตุผล ถูกยันเข้า ย่อมอ้างการถือสืบๆ กันมา เป็นลัทธิประเภท อกิริยา (traditional doctrines of inaction) หากยึดมั่นถือตามเข้าแล้ว ย่อมให้เกิดโทษ คือ ไม่เกิดฉันทะ และความพยายาม ที่จะทำการที่ควรทำและเว้นการที่ไม่ควรทำ]
แสดงความคิดเห็น
ทำกรรมนั้นๆ แล้ว ชาติหน้าต้องไปเกิดไปสัตว์นี้ๆ เป็นพุทธวจนะจริงหรือ
อีกทั้ง ยังเรียก ปุพเพตกเหตุวาท ว่าเป็นเดียรถีย์
แล้วทำไมถึงได้มีเรื่อง ทำกรรมนั้นๆ แล้ว ชาติหน้าต้องไปเกิดไปสัตว์นี้ๆ อยู่ในพระไตรปิฏกได้
เข้าใจว่าที่ปรากฏในพระไตรปิฏกเป็นของพระอรหันต์รูปหนึ่งที่อ้างว่าพระพุทธเจ้าคอนเฟิร์มแล้ว
หรือเป็นแค่การแอบอ้าง
มันขัดแย้งอย่างยิ่ง ขัดกับธรรมข้ออื่นที่ฟังแล้ว ยินดี
ฟังเรื่องนี้แล้ว รู้สึกงมงายไร้สาระ กลายเป็น เกิดพวกรับแก้กรรมให้ทำนู่น ทำนี่ เต็มไปหมด