สวัสดีครับ ผมเป็นคนนึงที่เคยทรมานกับโรคสะเก็ดเงิน โดยเริ่มเป็นสะเก็ดเงินมาตั้งแต่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2551 นับถึงตอนนี้ก็ 8 ปีเต็ม ตอนเป็นแรกๆ อาการคือผื่นแดงขึ้นที่จมูกก่อน จากนั้นก็ขึ้นที่ศอก และหัวเข่า ก็ยังชะล่าใจไม่ไปหาหมอเพราะคิดว่าคงแค่ผื่นแพ้ปกติ หลังจากนั้นไม่นานผื่นก็เริ่มขึ้นตามบริเวณ ลำตัว หลัง เลยตัดสินใจไปหาหมอ ครั้งแรกหมอยังไม่ระบุอาการที่แน่นอน และได้เอาตัวอย่างเนื่อเยื่อบริเวณผื่นไปตรวจ หนึ่งอาทิตย์ให้หลังกลับไปตามใบนัดหมออีกครั้ง หมอบอกว่าผื่นที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดจากเชื้อราแต่อย่างใด ซึ่งตอนไปหาหมออีกครั้ง ผื่นก็ขึ้นตามแขน ขา ลำตัว ศรีษะ หมดแล้ว ..หมอจึงระบุว่าเป็นสะเก็ดเงิน ตอนนั้นก็ไม่รู้ครับว่ามันคืออะไร ก็ได้ยามาทา น่าจะเป็น น้ำมันดินกับแชมพูทาร์ แต่อาการไม่ดีขึ้นเลย จึงกลับไปหาหมออีกครั้ง ตอนนั้นเป็นหนักแล้วทั้งตัว หมอจึงตรวจเลือดเพื่อให้ยา methotrexate ตอนนั้นใช้ระยะเวลาประมาณ 2 เดือนถ้าจำไม่ผิด ผื่นก็หายและใช้ชีวิตได้ตามปกติ ประมาณ 9 เดือนที่ไม่มีผื่นแดงมากวนใจ ช่วงนั้นก็ไม่ได้รักษาสุขภาพอะไรมาก ใช้ชีวิตปกติ จนวันนึงได้ดื่มเหล้า ไม่นานผื่นก็เห่อขึ้นมาใหม่ก็ไปหาหมอเหมือนเดิมได้ยามาเหมือนเดิม แต่คราวนี้ทายา กินยา ก็ไม่หาย ก็เริ่มเครียด พอเครียดอาการผื่นก็หนักขึ้นๆ เราก็ทายามากขึ้นๆ ผื่นจากที่เป็นจุด ก็เริ่มเป็นแผ่นติดกันเป็นปื้นแดง เต็มตัวไปหมด แทบไม่อยากมองตัวเองในกระจก พอยาที่เก่าใช้ไม่ได้ผลก้เริ่มหาโรงพยาบาลใหม่ คลินิค สถาบันโรคผิวหนัง แต่ก็ไม่หาย ทางกลับกันผื่นก็แย่ลงๆ หมอเลยแนะนำให้ลอง Daivobet ก็ได้ผลค่อนข้างดีเลยทีเดียว ติดที่ราคาที่ค่อนข้างแพง ก็ใช้มาเรื่อยๆ ช่วงผื่นน้อยๆ ก็ไม่ค่อยได้ทา ลองตัวใหม่บ้าง สมุนไพรที่ว่ารักษาจากภายในก็กินมาหมดแล้ว กินจนตัวบวมหน้าบวม เพิ่งมารู้ทีหลังว่ามันผสมสเตียรอยด์ ยาที่ทาก็มีสเตียรอยด์ แต่ก็หยุดไม่ได้ ทาจนผิวบาง ชีวิตตอนที่เป็นสะเก็ดเงินค่อนข้างยากลำบากสำหรับผมนะ ุ 6-7 ปีไม่เคยใส่เสื้อแขนสั้นกางเกงขาสั้นออกไปข้างนอกเลย แม้แต่มองตัวเองในกระจกยังไม่อยากจะมอง มันทำให้การเข้าสังคมของผมยากขึ้นเพราะความอาย ชีวิตการทำงานก็เหมือนกัน ผมทำงานธนาคารต้องเจอลูกค้า บ่อยครั้งที่ต้องใส่หน้ากากอนามัยเวลาทำงานเพราะผื่นขึ้นที่หน้า เคยลางานช่วงบ่ายวันเว้นวัน เพื่อไปฉายแสงที่โรงพยาบาล เคยถูกปฏิเสธรับเข้าทำงาน เคยถูกให้ออกจากงาน ช่วง 2 ปีที่ผ่านมาเป็นหนักทั้งตัวแทบจะไม่มีพื้นที่เหลือบนผิว ผิวหนังแตกจนมีเลือดซึมจนขยับตัวไม่ได้ เคยคิดสั้นเหมือนกันแต่ก็ผ่านมาได้ เพราะครวบครัวให้กำลังใจ ตอนนั้นก็พักอยู่บ้านเกือบปี สมัครงานไปสำภาษณ์ก็ไม่มีที่ไหนรับ ผมจึงตัดสินใจเดินทางมาเรียนภาษาและทำงานที่ออสเตรเลีย ก่อนมาก็มีผื่นตามตัวตามหน้าแต่ก็ไม่ได้เยอะมาก พอมาที่นี่ไม่กี่อาทิตย์ ภาวะความเครียดก็เพิ่มขึ้นจากเรื่องภาษาที่สื่อสารไม่ค่อยจะได้ ปรับเวลานอนไม่ได้ กลายเป็นนอนไม่หลับ เท่านั้นแหละผื่นขึ้นเต็มตัว ไปสมัครงานที่ไหนไม่มีใครรับ จนมีพี่คนนึงให้โอกาส ก็เริ่มทำงานมีเงินซื้อครีม / ยา มาทดลองใช้ก็ไม่ได้ผลเท่าที่ควรเพราะเป็นหนักมาก จนหัวหน้างานต้องพาไปหาหมอ หมอก็ให้ยามาเหมือนที่เคยได้แหละ คือ Daivobet คือผิวผมบางมากกกกจนแดงไม่อยากใช้อะไรที่มีสเตียรอยด์แล้ว เลยลองอ่านบทความ หาข้อมูล ดูยูทูป ทั้งหมดทั้งมวล เช่น กินน้ำมันมะพร้าวกับกระเทียมตอนเช้าหลังตื่นนอน นวดน้ำมันมะพร้าวก่อนอาบน้ำ ทานอาหารเสริม ทาครีม (กดลิงค์ไปดูที่เพจข้างล่างนะครับ) ก็ทำตามมาเรื่อยๆ อาการเริ่มดีขึ้น และดีขึ้นเรื่อยๆ ปัจจุบันดีขึ้นมากกกกกก ใส่เสื้อแขนสั้นออกไปข้างนอกได้สบาย เป็นช่วงที่ผื่นดีที่สุดในรอบ 6 ปีเลย ตอนนี้สิ่งที่เหลือคือรอให้ผิวบริเวณขาแข็งแรงขึ้นเพราะมันบางมากจากการใช้สเตียรอยด์ ส่วนผื่นตอนนี้ดีขึ้น 95 % ที่เหลือแค่รอยเท่านั้น สู้กันต่อไป ...ผมทำเพจ
https://www.facebook.com/psoriasis.diary/ เพื่อขายและแนะนำผลิตภัณฑ์ที่ผมทดลองใช้แล้วได้ผลกับตัวเองนะครับ เป็นกำลังใจให้คนที่กำลังทรมานกับโรคนี้อยู่นะครับ อยากให้ลองมาคุยกันก่อนเผื่อวิธีของผมจะเป็นประโยชน์บ้าง
รักษาสะเก็ดเงินด้วยตัวเอง