สวัสดีคะ
ขอเล่าประสบการณ์ตรงเกี่ยวกับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่นะคะ ชื่นชอบกันยังไง ฝากติดตามต่อที่ FB: MompreneurByGade หรืออ่านเต็มๆที่
http://goo.gl/LPS2Dx นะคะ
>>>> เริ่มเลยคะ <<<<
=================================================================================
ตอนนี้กระแสนมแม่มาแรงมาก มั่นใจว่าแม่ๆที่ตั้งครรภ์ใกล้คลอดต้องมีความคาดหวังกับตัวเองว่า ลูกเราก็ต้องเป็นเด็กนมแม่
ถ้าแม่ๆคนอื่นทำได้ "เราก็ต้องทำได้สิ"
เกดก็เป็นหนึ่งคนที่เคยคิด (ง่ายๆ) แบบนั้น
เป็นคนชอบอ่านคะ ศึกษามาเยอะว่า พอน้องเกิด ไม่ควรทานน้ำ ห้ามทานนมผงชง เพราะไม่อย่างนั้นน้องจะอิ่มและจะไม่มาดูดกระตุ้นนมแม่ น้องจะร้องอย่างไรก็ไม่เป็นไร เพราะในช่วงแรกน้องจะสามารถอยู่ได้โดยที่ยังไม่ต้องทานนมแม่เพราะมีอาหารสะสมมาตั้งแต่อยู่ในครรภ์

แปะๆๆๆ รูปน้องตอนแรกเกิดคะ น่ารักน่าชังใช่ปะละ??? นี่แม่ยิ่งฮึด "สู้เว้ยยย"
ตอนแรกคิดว่า สิ่งที่ต้องทำใจและหนักใจ คือจะทนเสียงร้องไห้ของลูกเราไหวมั้ย?
แต่เปล่าเลยคะ เตือนก่อนเลยนะคะ สิ่งที่กดดันและต้องทนมากกว่า คือคำพูดจากคนรอบข้างคะ จากอาม่า อากง อาอี้หรือผู้ใหญ่คนสนิท
เราต้องทำความเข้าใจคะว่า
หนึ่ง ยุคเค้าเป็นยุคนมผงจงเจริญคะ เราๆก็โตกันมาได้ด้วยนมผง ทำไมยุคสมัยเราต้องมาฮิต (hit) ตามกระแสดื่มนมแม่??
สอง เค้าเป็นอาม่า อากงนะคะ เค้าทำใจไม่ได้ ที่จะเห็นหรือได้ยินเสียงหลานร้องไห้
กรณีเกด ลูกชายเป็นหลานชายคนแรกคะ อย่างฝั่งแม่ตัวเอง เป็นหลานคนแรกเลย เห็นน้ำตาไหลจากเด็กน้อยทารกตัวแดงๆ ยิ่งทำใจไม่ได้หรอกคะ
“อาเกกอ่า ให้ลูกลื้อดื่มน้ำหน่อยนะ ไม่เป็นไรหรอก ทำไมต้องทรมานอีขนาดนี้ ทำไมลื้อถึงเป็นอย่างนี้”
“กินน้ำหน่อยได้มั้ย แม่กลับหล่ะ ไม่อยากได้ยินเสียงหลานร้อง”
น่านนนน...โดนทิ้งอีก แต่ก็อดทนคะ ไม่ยอมให้ลูกทานอะไรเลยนอกจากพยายามดูดนมแม่
แจ้งทาง Nursery ว่าให้พาน้องมาดูดกระตุ้นนมแม่หลังคลอดทันที และให้พามาเข้าเต้าทุกๆ 2-3 ชั่วโมง เหนื่อยจากการผ่าตัดก็ต้องทนคะ เพราะอยากจะมีนมให้ลูกดื่มเร็วๆ
แต่แล้วปัญหาที่ใหญ่กว่าเสียงคนรอบข้าง อย่างแรกก็เกิดขึ้น
....กว่าจะมาเป็นเด็กนมแม่ ตอนที่ 1 (Breastfeeding Episode 1)....
ขอเล่าประสบการณ์ตรงเกี่ยวกับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่นะคะ ชื่นชอบกันยังไง ฝากติดตามต่อที่ FB: MompreneurByGade หรืออ่านเต็มๆที่ http://goo.gl/LPS2Dx นะคะ
>>>> เริ่มเลยคะ <<<<
=================================================================================
ตอนนี้กระแสนมแม่มาแรงมาก มั่นใจว่าแม่ๆที่ตั้งครรภ์ใกล้คลอดต้องมีความคาดหวังกับตัวเองว่า ลูกเราก็ต้องเป็นเด็กนมแม่
ถ้าแม่ๆคนอื่นทำได้ "เราก็ต้องทำได้สิ"
เกดก็เป็นหนึ่งคนที่เคยคิด (ง่ายๆ) แบบนั้น
เป็นคนชอบอ่านคะ ศึกษามาเยอะว่า พอน้องเกิด ไม่ควรทานน้ำ ห้ามทานนมผงชง เพราะไม่อย่างนั้นน้องจะอิ่มและจะไม่มาดูดกระตุ้นนมแม่ น้องจะร้องอย่างไรก็ไม่เป็นไร เพราะในช่วงแรกน้องจะสามารถอยู่ได้โดยที่ยังไม่ต้องทานนมแม่เพราะมีอาหารสะสมมาตั้งแต่อยู่ในครรภ์
แปะๆๆๆ รูปน้องตอนแรกเกิดคะ น่ารักน่าชังใช่ปะละ??? นี่แม่ยิ่งฮึด "สู้เว้ยยย"
ตอนแรกคิดว่า สิ่งที่ต้องทำใจและหนักใจ คือจะทนเสียงร้องไห้ของลูกเราไหวมั้ย?
แต่เปล่าเลยคะ เตือนก่อนเลยนะคะ สิ่งที่กดดันและต้องทนมากกว่า คือคำพูดจากคนรอบข้างคะ จากอาม่า อากง อาอี้หรือผู้ใหญ่คนสนิท
เราต้องทำความเข้าใจคะว่า
หนึ่ง ยุคเค้าเป็นยุคนมผงจงเจริญคะ เราๆก็โตกันมาได้ด้วยนมผง ทำไมยุคสมัยเราต้องมาฮิต (hit) ตามกระแสดื่มนมแม่??
สอง เค้าเป็นอาม่า อากงนะคะ เค้าทำใจไม่ได้ ที่จะเห็นหรือได้ยินเสียงหลานร้องไห้
กรณีเกด ลูกชายเป็นหลานชายคนแรกคะ อย่างฝั่งแม่ตัวเอง เป็นหลานคนแรกเลย เห็นน้ำตาไหลจากเด็กน้อยทารกตัวแดงๆ ยิ่งทำใจไม่ได้หรอกคะ
“อาเกกอ่า ให้ลูกลื้อดื่มน้ำหน่อยนะ ไม่เป็นไรหรอก ทำไมต้องทรมานอีขนาดนี้ ทำไมลื้อถึงเป็นอย่างนี้”
“กินน้ำหน่อยได้มั้ย แม่กลับหล่ะ ไม่อยากได้ยินเสียงหลานร้อง”
น่านนนน...โดนทิ้งอีก แต่ก็อดทนคะ ไม่ยอมให้ลูกทานอะไรเลยนอกจากพยายามดูดนมแม่
แจ้งทาง Nursery ว่าให้พาน้องมาดูดกระตุ้นนมแม่หลังคลอดทันที และให้พามาเข้าเต้าทุกๆ 2-3 ชั่วโมง เหนื่อยจากการผ่าตัดก็ต้องทนคะ เพราะอยากจะมีนมให้ลูกดื่มเร็วๆ
แต่แล้วปัญหาที่ใหญ่กว่าเสียงคนรอบข้าง อย่างแรกก็เกิดขึ้น