[CR] ละอ่อนต่อนแต่นพาแอ่วที่ภูกระดึง 2 วัน 1 คืน

สวัสดีครับนี่คือกระทู้รีวิวครั้งแรกของผมนะครับ หลังจากมัวแต่ส่องกระทู้รีวิวของคนอื่น ตอนนี้มีเป็นของตัวเองแล้ว ถ้ารีวิวผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะครับ เช่น ภาษา อาจจะมีการพิมพ์ผิด ถ้าตรงไหนผิดพลาด ติได้นะครับผม

- รูปภาพแต่ละรูป มาจากทั้งกล้องและมือถือนะครับ อาจจะไม่ชัดไม่สวยบ้างก็ว่าไป แหะๆ แต่จริงๆมีกล้องก็กดชัตเตอร์อย่างเดียวละครับ เพราะถ่ายไม่เป็นหรอก

เอ้าเริ่ม

ได้ข่าวว่าภูกระดึงกำลังจะปิดทำการในวันที่ 1 มิถุนายน 2559 นี้แล้วก็เลยมีแพลนในหัวว่าไปภูกระดึงดีกว่า แต่จริงๆตอนแรกจะไปภูทับเบิกครับ แต่ขี้เกียจโบกรถขึ้น และไปภูทับเบิกก็ไม่ค่อยมีที่เที่ยวอะไรเลย ดูไม่ค่อยมีอะไรเหมือนภูกระดึงเลยตัดสินใจไปภูกระดึงดีกว่า เดินทางวันที่ 27 พฤษภาคม 2559
ออกจากบ้าน 2 ทุ่ม นั่งแท็กซี่มาลงหมอชิตถึง 2 ทุ่ม ครึ่ง กว่าๆ รีบไปซื้อตั๋ว แอร์เมืองเลย เลยครับ รถออก 20.45 น. แต่เลทนานมาก ออกเกือบๆ 3 ทุ่ม ครึ่งกันเลยทีเดียว


บอกพี่คนขับไปว่า ลงผานกเค้านะครับ พอใกล้ถึงผานกเค้า พี่พนักงานเขาก็จะมาปลุกครับว่าใกล้ถึงผานกเค้า ตามธรรมเนียมถ้าจะมาภูกระดึงต้องลงผานกเค้าและที่แน่ๆ ต้องลงไปตั้งหลักที่ร้านเจ๊กิมก่อนเลยครับ ถึงร้านเจ๊กิม ตี 5 กว่าๆครับ
นี่คือร้านเจ๊กิมนะครับ ขออภัยด้วยนะครับ พอดีไม่ได้ถ่ายร้านเจ๊กิมขามาครับ มันกะทันหัน เลยขออนุญาตเอารูปทางอินเทอร์เน็ตมาโพสนะครับ


พอมาถึงร้านเจ๊กิม ก็จัดแจงสัมภาระตัวเองให้เรียบร้อย ซื้อโน่นซื้อนี่มาตุนในกระเป๋าเป้ตัวเอง และก็เดินไปขึ้นรถสองแถวแดง ข้างๆร้านเจ๊กิม เดินไป มีพี่นักศึกษามาเป็นกลุ่มประมาณ 8 คนครับผม เขาเหมาไปภูกระดึงครับ อยู่ๆผมก็เดินขึ้นไปหน้าตาเฉย พวกพี่เค้าก็งงๆ กัน ว่ามาจากไหนวะ 55555 คือผมมาคนเดียวอะครับ ก็เลยต้องหน้าด้านนิดหนึ่ง ขอหารไปด้วย ขี้งกครับตั้ง 300 แหน่ะ ฮ่าๆ ขอบคุณพวกพี่มากนะครับที่ให้ผมแชร์ค่ารถไปด้วย เสียคนละ 30 กว่าบาทครับผม นั่งรถแดงมาจนถึงอุทยานแห่งชาติภูกระดึง ก็เสียค่าธรรมเนียมเข้าอุทยาน 40 บาท ครับ




เสียค่าธรรมเนียมเสร็จก็จัดแจงจองเต้นท์ของอุทยานครับ 225 บาท รวมหมอนที่นอนผ้าห่มด้วยก็ 275 บาท เอ้าเริ่มไปเลย




มีลูกหาบรับจ้างขนสัมภาระของท่านๆขึ้นไปข้างบนด้วยนะครับ กิโลละ 30 บาทครับ
คำเตือน ! : ถ้าไม่ไหวอย่าฝืนนะครับ เดี๋ยวเกือบจะเป็นลมแบบผมที่บ้าพลังแบกกระเป๋าเป้ขึ้นไปคนเดียว กระเป๋าตัวเองก็หนักมาก มัวแต่ขี้งกไงละ รู้เลย เจอแต่ละซำเข้าไป คิดถึงแม่ทันทีเลยครับ

ซำแรกเลย ซำแฮก แฮกจริงๆ แฮกสมชื่อ สุดๆ ไม่ไหวบอกไหว



ระหว่างทางขึ้นไปแต่ละซำ ต้นไม้สีเขียวขจี ป่าไม้ผลัดใบจากฤดูแล้งเริ่มเข้าสู่ต้นฝนอย่างเป็นทางการ ฝนตกเกือบทุกวันครับก่อนผมจะมาอีก





ก็เดินขึ้นไปเรื่อยๆอะครับ กว่าจะผ่านแต่ละซำได้นี่คือแทบจะร้องไห้ เหนื่อย ร้อน มากๆ เอาน้ำไป 5 ขวดขนาดกลาง หมดเกลี้ยงเลย หมดตอนถึงหลังแปนะครับไม่ใช่วังกวาง หมดไวมากน้ำ ดื่มไม่ยั้งปากเลย ตอนนี้ขอตัดภาพไปหลังแปเลยนะครับเพราะเดินผ่านแต่ละซำแล้วมันเหนื่อยครับ เลยไม่มีโอกาสหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายเลยมัวแต่เหนื่อย ลิ้นหอยเหมือนหมาขาดน้ำ

กว่าจะเดินขึ้นมาถึง แทบตาย เดินขึ้น 7.40 น. ถึงหลังแปประมาณ 11 โมงกว่าๆ เดินสวนกับนักท่องเที่ยวที่เดินลงมาด้วย ก็ถามพวกพี่ๆเขาว่าเมื่อไหร่จะถึงหลังแปครับ เขาก็บอกใกล้ถึงแล้วน้องนิดเดียวเอง รู้สึกเหมือนโดนหลอกมากครับ เดินผ่านกี่คนเดินสวนกี่คนก็พูดแบบนี้หมด "นิดเดียวเองน้อง" แต่ช่างเถอะมาถึงหลังแปและสถานีต่อไปเดินไปวังกวาง เกือบๆ 4 กิโลครับ อากาศบนภูกระดึงเย็นสบายมาก แต่เหงื่อออกทั้งตัวเลย แดดก็แรง แต่อากาศเย็นจริงๆที่มีเหงื่อเพราะเดินขึ้นมาเลยเหงื่อแตกเต็มตัวเลยครับ
ระหว่างทางไปวังกวาง





พอมาถึงศูนย์บริการนักท่องเที่ยววังกวาง แทบตายครับ แดดแรงมาก แทบเป็นลมไปถึงก็รีบยื่นใบเสร็จที่จองเต้นท์ เครื่องนอนข้างล่างให้เจ้าหน้าที่ เสร็จเรียบร้อยก็เดินไปจองเต้นท์ ไปรับเครื่องนอน เก็บของเข้าเต้นท์ นอนเลยครับหลับไปเลย 1 ชม.นิดๆ อ่อ ถึงวังกวางประมาณ เกือบเที่ยงๆนะครับ
หลับประมาณบ่ายโมง ก็ตื่นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วก็เดินไปหาของกิน มีหลายร้านมากครับภูกระดึง แต่อยู่ๆสายตาก็ไปสะดุดร้านนี้เลย

ร้านนี้เจ้าของร้านใจดีมากเลยครับ แกชื่อป้าเสริมนะครับ ใจดีสุดๆเลยครับ ทำกับข้าวอร่อยมากเลยฮะ พอเข้าร้านรู้สึก สปาร์ค กับป้าแกอย่างบอกไม่ถูก ถูกชะตามาก เดินเข้าไปสั่งเลยครับ ตอนนั้นมีผมคนเดียวเป็นลูกค้านะครับ สั่งส้มตำ น้ำตก ข้าวเหนียว ผัดเปรี้ยวหวาน ข้าวสวย 1 จาน น้ำเปล่า 2 ขวด นม 1 กล่อง ป้าแกทำกับข้าวอร่อยจริงๆครับ ยกนิ้วให้เลย กินอิ่มมากๆ ก็นั่งคุยสัมเพเหระ กับ ป้าเสริมไปเรื่อยๆครับ อ่อ ของกินบนภูแพงอยู่นะครับ แต่ก็เหมาะสมกับราคาแล้ว เพราะต้องเสียค่าขนส่งขึ้นมาข้างบนอีก มื้อแรกโดนไปคนเดียวเลยครับ 450 บาท จริงๆ 500 นะครับ แต่ป้าแกลดให้ครับ แถมให้ขนมเลย์ 2 ห่ออีก ขอบคุณป้ามากๆนะครับ เดี๋ยวตุลานี้ผมไปหาป้าใหม่นะครับ นั่งกินข้าวไปเรื่อยๆฝนเริ่มมาละครับพี่น้อง






อากาศรู้สึกว่าหนาวฉับพลันเลยครับ แถมตอนนี้ไม่ได้เอาเสื้อกันหนาวมาเลย เอาแต่เสื้อกล้าม กางเกงขาสั้น และก็กางเกงวอร์มขึ้นมา แค่นี้เองรู้สึกหนาวสุดๆขนลุกมาก อยู่ๆป้าเสริมก็ให้ยืมเสื้อคอเต่าไว้กันหนาว ใส่ได้พอดีเป๊ะเลยครับ ขอบคุณป้ามากๆนะครับที่เอ็นดูเหมือนลูกหลานทั้งๆที่พึ่งมาเจอกันวันเดียวเอง

อ้าวต่อเลิกพล่ามละ พอฝนหยุดตก กะจะไปน้ำตก ป้าเสริมบอกว่าหลัง 15.00 น. เขาไม่ให้ไปน้ำตกแล้ว วันแรกก็เลยอดไปน้ำตกเลย แต่ป้าเสริมแนะนำให้ไปผาหมากดูกก่อน ก็ทานข้าวเสร็จก็ขอบคุณป้าเสริม แล้วก็เตรียมพร้อมสำหรับเดินไปผาหมากดูด ระยะทาง 2 กิโลกว่าๆ อ่อ ไม่รู้ใครคิดเหมือนผมไหมนะครับ แต่ผมคิดว่าระยะทางเวลาจะเดินไปเที่ยวน้ำตก หรือ ผาชมวิว ส่วนใหญ่ สมมุติเขียนว่า จากวังกวางไปผาหมากดูด 2.7 km. แต่พอเดินจริงๆเหมือนโดนหลอกเลย รู้สึกว่าไกลมากๆ เหมือนเอาระยะทาง 2.7 km. คูณ 2 เลยฮ่าๆ ไกลจริงๆที่เที่ยวแต่ละที่ ทากเยอะมากครับชุกชุมสุดๆ
ระหว่างทางเดินไปผาหมากดูก


และก็ถึงผาหมากดูดครับ เสียดายยังไม่มีทะเลหมอกเลย แต่ลมเย็นมากๆเลยครับ




ข้างๆผาหมากดูก ถ้าเดินไปทางซ้ายนิดๆมันจะมีหน้าผาชะโงกออกมานิดหน่อยครับ ผมก็เลยเดินไป ไปนั่งกินลมชมวิวคนเดียวแถวๆนั้นครับ พอตื่นมาอีกที เกือบ 6 โมงเย็นครับ พระเจ้า ! เผลอนอนตรงหน้าผาเลย แถมก็แคบๆด้วยไม่ได้กว้างอะไรดีไม่ตกลงไป อย่าทำตามนะครับ คิดแล้วเสียวขึ้นมาทันที เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีเลย มักง่ายมากๆมาเผลอหลับอะไรตอนนี้


พอตื่นขึ้นมาก็รีบเดินกลับไปวังกวางเลยครับ กลัวมากตกใจตัวเองไม่หาย ทำไปได้ไง พอถึงวังกวางก็กลับมาเต้นท์มาหลับต่อ ตื่นมาอีกที 2 ทุ่มกว่าๆครับ ก็ไปล้างหน้าแปรงฟัน รีบเดินไปร้านป้าเสริม ไปหาของกิน ระหว่างสั่งข้าวอยู่ มีน้องกวางครับ น่ารักมาก


ทำให้รู้เลยว่าภูกระดึงนั้นธรรมชาติสุดๆครับ สัตว์ป่าอาศัยชุกชุมมาก
พอออกจากร้านป้าเสริมก็เข้าเต้นท์นอนครับ หลับสักพัก 5 ทุ่มกว่า ฝนตกหนักมากถึงมากที่สุด แถมตกทั้งคืนด้วย อากาศนี้คิดว่าอยู่ Winterfell ใน Game of Thrones นอนฟินสิครับ ทั้งคืนเลยหลับสนิทสุดๆ ตื่นเช้ามาก็อาบน้ำล้างหน้าแปรงฟัน มุ่งตรงไปยังร้านป้าเสริมเหมือนเดิม โจ๊กใส่ไข่ , ผัดกระเพราหมูไข่ดาว , โอวัลตินร้อนๆ , น้ำเปล่า 2 ขวด , ผัดเปรี้ยวหวานเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือน้ำเยอะๆนะป้า
พอทำอะไรเสร็จก็เตรียมตัวไปตะลุยน้ำตกเลยครับ อ่อ ระหว่างทางไปน้ำตกคือ เปลี่ยวมากๆเลยครับ แถมทากเยอะสุดๆเพราะเมื่อวานฝนตก เลยต้องทำใจ เจอทากดูดด้วย ต้องกลั้นใจหยิบมันม้วนๆขึ้นมาแล้วดีดปลิวววววว
ระหว่างทางไปน้ำตก ผมไปคนเดียว แถมคนแรกที่เข้าไปอีก น้ำตกเปิด 8.00 น. - 15.00 น. นะครับ หลังจาก 15.00 น. ช้างป่าหากินครับ ไม่ให้เข้า


ชื่อสินค้า:   ภูกระดึง
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่