คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 19
ขำบาง คห. ที่บอกว่า น่าจะเลือกพวก Fortuner , PajeroSport
เทียบกันง่ายๆ สมมติ วันนี้ ต้องการจะซื้อรถ 4 ประตู 2 แถวที่นั่ง
คุณจะซื้อ รถเก๋ง 4 ประตู ขับเคลื่อน 4 ล้อ หรือ จะซื้อรถกระบะ 4 ประตูตัวเตี้ย ขับหลัง
เทียบแค่นี้ เทียบเป็นมั้ย ???
ไม่เข้าใจจริงๆ ว่า รถที่แชสซีส์เหล็กแข็งๆ + ขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง ที่ไม่มีแม้แต่ Limited Center Diff. + ช่วงล่างล้อหลังแบบคานแข็ง เหมือนรถกระบะ
เลือกมาเทียบกับ รถเก๋ง ช่วงล่างอิสระ 4 ล้อ ขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา อย่าง Subaru Forestor ได้ยังไง ???
เทียบกันง่ายๆ สมมติ วันนี้ ต้องการจะซื้อรถ 4 ประตู 2 แถวที่นั่ง
คุณจะซื้อ รถเก๋ง 4 ประตู ขับเคลื่อน 4 ล้อ หรือ จะซื้อรถกระบะ 4 ประตูตัวเตี้ย ขับหลัง
เทียบแค่นี้ เทียบเป็นมั้ย ???
ไม่เข้าใจจริงๆ ว่า รถที่แชสซีส์เหล็กแข็งๆ + ขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง ที่ไม่มีแม้แต่ Limited Center Diff. + ช่วงล่างล้อหลังแบบคานแข็ง เหมือนรถกระบะ
เลือกมาเทียบกับ รถเก๋ง ช่วงล่างอิสระ 4 ล้อ ขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา อย่าง Subaru Forestor ได้ยังไง ???
ความคิดเห็นที่ 31
เพื่อนๆหลายๆท่านข้างบนตอบกันไปเยอะละ เอาล่ะตาผมบ้าง 55
หลังจากที่ได้ test drive ออกถนนใหญ่มาแล้วทั้งสองคัน บอกความรู้สึกได้อย่างนี้ครับ..
CX-5 2.2 4WD ออกตัวได้เร็ว อัตราเร่งดีตอบสนองเท้าที่กดคันเร่งได้ดี มีความกระฉับกระเฉงของเกียร์ รถเกาะถนนดี ลองมุดซอกแซกเปลี่ยนเลนไปมาก็ทำได้ดี ประมาณว่าแฮนด์ลิ่งดีแหละครับ (มีระบบสัญญาณเตือนนู่นนี่นั่นคอย assist เราหลายอย่าง) ขับมาถนนเส้นรถน้อยๆแล้วลองกระทืบเบรคโดยที่ไม่มีรถตามหลังในระยะกระชั้นชิด มีระยะเบรคที่สั้นและนิ่งสนิทดี หัวไม่ทิ่ม ถือว่าโอเคเลยครับ สรุปโดยรวมก็เหมือนตามสโลแกน mazda เค้าแหละครับ อัตราเร่งจี๊ดจ๊าดดี ขับสนุก ซูมๆ 555 คนขับจะขับได้อารมณ์มากครับ ขับสนุกว่างั้นเถอะ (ป.ล.เฉพาะคนขับนะครับ ส่วนคนนั่งผมไม่ทราบว่าสนุกกับเราด้วยรึปล่าว (ฮา)) ส่วนเบาะหลังผมลองเข้าไปนั่งดูจะไม่ถึงกับกว้างนั่งสบายอะไรมากนะครับ ไซส์ออกจะคอมแพคท์ๆ หน่อย ข้างหลังนั่ง 2 กำลังดีครับ ส่วนด้านหลังจุสัมภาระได้พอสมควร คือไม่เยอะไม่น้อยอ่ะครับ (แต่ไม่จุใจเท่า CRV แน่นวล 55)
เอาล่ะทีนี้ Subaru Foreter 2.0i-P บ้าง (ใจจริงอยากเทสต์ตัว XT แต่เซลโชว์รูมบอกว่าไม่มีให้เทสต์ซะงั้น)
หลังจากที่ได้ทดลองขับขี่ผ่านทั้งถนนเส้นมอเตอร์เวย์และเส้นทางกึ่งๆออฟโรดเล็กๆ แล้วก็ทำได้น่าประทับใจทั้งสองรูปแบบเส้นทางนะครับ เอาเส้นมอร์เตอร์เวย์ก่อนละกัน พอเหยียบคั่นเรงแล้วรถออกตัวแบบไม่ปรู๊ดปราดมากนัก (คงเป็นเพราะนิสัยของเกียร์ cvt ด้วยส่วนนึง) แต่พอทำความเร็วขึ้นไปสักพักก็วิ่งได้นิ่มแน่นและเกาะถนนดีนะครับ ลองเร่งความเร็วไปถึงราว 110กว่าๆ km/h แล้วขับหักหลบรถช้าวิ่งขวาเปลี่ยนเลนกลับไปกลับมาก็ทำได้อย่างฉับไวและมั่นคง พูดได้ว่าแฮนด์ลิ่งดีไม่ต่างกับ CX-5 เสียงลมเข้าห้องโดยสารน้อยมาก ถือว่าเงียบใช้ได้ แต่ผมขับไม่เกิน 120km/h นะ จากนั้นก็ลองมาวิ่งทางกึ่งออฟโรดเล็กๆดูบ้าง มาวิ่งเกาะบนทางกึ่งดินกึ่งทรายเปียกๆแฉะๆมีน้ำขังบนพื้นก็เกาะถนนดีครับ ไม่มีลื่นไถลให้เห็น คือผมไม่ได้ลอง X-Mode นะครับ เพราะไม่มีเส้นทางที่เป็นอุปสรรคให้ได้ลองขนาดนั้น 55 อ้อ!เกือบลืมบอกอีกอย่าง Forester เก็บรอยต่อบนพื้นถนนได้ดีครับ ไม่ค่อยรู้สึกถึงการสั่นสะเทือนเท่าไหร่ จากนั้นลองเร่งทางตรงๆ ให้ขึ้นถึง 100km/h แล้วลองกระทืบเบรคดู ระยะเบรคสั้น หยุดได้นิ่งและมั่นคง ไม่มีอาการหัวทิ่มให้เห็นเช่นกัน ส่วนเบาะหลังของ Forester กว้างโอ่โถงนั่งสบายครับ วิวหรือมุมมองดีมาก (กระจกข้างและหลังได้กว้างบานใหญ่) ด้านหลังจุสัมภาระได้เยอะพอควร
สรุป: เลือกรูปโฉม หน้าตา ความโฉบเฉียว ขับได้สนุกอัตราเร่งดี ปรูดปร๊าดสะใจคนขับวัยรุ่นวัยทำงานยุค 2016 ไป CX-5
เลือกความโอ่โถง นั่งสบายทั้งคนขับคนนั่ง ทัศนวิสัยดี ขับแล้วให้ความรู้สึกนิ่งหนักแน่นและมั่นคงในทุกๆสภาพถนน ไป Forester
จบข่าว อิอิ
หลังจากที่ได้ test drive ออกถนนใหญ่มาแล้วทั้งสองคัน บอกความรู้สึกได้อย่างนี้ครับ..
CX-5 2.2 4WD ออกตัวได้เร็ว อัตราเร่งดีตอบสนองเท้าที่กดคันเร่งได้ดี มีความกระฉับกระเฉงของเกียร์ รถเกาะถนนดี ลองมุดซอกแซกเปลี่ยนเลนไปมาก็ทำได้ดี ประมาณว่าแฮนด์ลิ่งดีแหละครับ (มีระบบสัญญาณเตือนนู่นนี่นั่นคอย assist เราหลายอย่าง) ขับมาถนนเส้นรถน้อยๆแล้วลองกระทืบเบรคโดยที่ไม่มีรถตามหลังในระยะกระชั้นชิด มีระยะเบรคที่สั้นและนิ่งสนิทดี หัวไม่ทิ่ม ถือว่าโอเคเลยครับ สรุปโดยรวมก็เหมือนตามสโลแกน mazda เค้าแหละครับ อัตราเร่งจี๊ดจ๊าดดี ขับสนุก ซูมๆ 555 คนขับจะขับได้อารมณ์มากครับ ขับสนุกว่างั้นเถอะ (ป.ล.เฉพาะคนขับนะครับ ส่วนคนนั่งผมไม่ทราบว่าสนุกกับเราด้วยรึปล่าว (ฮา)) ส่วนเบาะหลังผมลองเข้าไปนั่งดูจะไม่ถึงกับกว้างนั่งสบายอะไรมากนะครับ ไซส์ออกจะคอมแพคท์ๆ หน่อย ข้างหลังนั่ง 2 กำลังดีครับ ส่วนด้านหลังจุสัมภาระได้พอสมควร คือไม่เยอะไม่น้อยอ่ะครับ (แต่ไม่จุใจเท่า CRV แน่นวล 55)
เอาล่ะทีนี้ Subaru Foreter 2.0i-P บ้าง (ใจจริงอยากเทสต์ตัว XT แต่เซลโชว์รูมบอกว่าไม่มีให้เทสต์ซะงั้น)
หลังจากที่ได้ทดลองขับขี่ผ่านทั้งถนนเส้นมอเตอร์เวย์และเส้นทางกึ่งๆออฟโรดเล็กๆ แล้วก็ทำได้น่าประทับใจทั้งสองรูปแบบเส้นทางนะครับ เอาเส้นมอร์เตอร์เวย์ก่อนละกัน พอเหยียบคั่นเรงแล้วรถออกตัวแบบไม่ปรู๊ดปราดมากนัก (คงเป็นเพราะนิสัยของเกียร์ cvt ด้วยส่วนนึง) แต่พอทำความเร็วขึ้นไปสักพักก็วิ่งได้นิ่มแน่นและเกาะถนนดีนะครับ ลองเร่งความเร็วไปถึงราว 110กว่าๆ km/h แล้วขับหักหลบรถช้าวิ่งขวาเปลี่ยนเลนกลับไปกลับมาก็ทำได้อย่างฉับไวและมั่นคง พูดได้ว่าแฮนด์ลิ่งดีไม่ต่างกับ CX-5 เสียงลมเข้าห้องโดยสารน้อยมาก ถือว่าเงียบใช้ได้ แต่ผมขับไม่เกิน 120km/h นะ จากนั้นก็ลองมาวิ่งทางกึ่งออฟโรดเล็กๆดูบ้าง มาวิ่งเกาะบนทางกึ่งดินกึ่งทรายเปียกๆแฉะๆมีน้ำขังบนพื้นก็เกาะถนนดีครับ ไม่มีลื่นไถลให้เห็น คือผมไม่ได้ลอง X-Mode นะครับ เพราะไม่มีเส้นทางที่เป็นอุปสรรคให้ได้ลองขนาดนั้น 55 อ้อ!เกือบลืมบอกอีกอย่าง Forester เก็บรอยต่อบนพื้นถนนได้ดีครับ ไม่ค่อยรู้สึกถึงการสั่นสะเทือนเท่าไหร่ จากนั้นลองเร่งทางตรงๆ ให้ขึ้นถึง 100km/h แล้วลองกระทืบเบรคดู ระยะเบรคสั้น หยุดได้นิ่งและมั่นคง ไม่มีอาการหัวทิ่มให้เห็นเช่นกัน ส่วนเบาะหลังของ Forester กว้างโอ่โถงนั่งสบายครับ วิวหรือมุมมองดีมาก (กระจกข้างและหลังได้กว้างบานใหญ่) ด้านหลังจุสัมภาระได้เยอะพอควร
สรุป: เลือกรูปโฉม หน้าตา ความโฉบเฉียว ขับได้สนุกอัตราเร่งดี ปรูดปร๊าดสะใจคนขับวัยรุ่นวัยทำงานยุค 2016 ไป CX-5
เลือกความโอ่โถง นั่งสบายทั้งคนขับคนนั่ง ทัศนวิสัยดี ขับแล้วให้ความรู้สึกนิ่งหนักแน่นและมั่นคงในทุกๆสภาพถนน ไป Forester
จบข่าว อิอิ
ความคิดเห็นที่ 30
ผมซื้อ pjs ก่อน แล้วขับไป ต่างจังหวัด โคลงมากๆ พวงมาลัยเบาหวิว เลยนอกใจไปลอง forester สุดท้ายก็ไปสอย forester มาจนได้ ช่วงล่างหายห่วงซัดโค้งกระจาย อัตตราเร่งไม่น้อยหน้า เอารูปมายืนยันนะครับว่าผมใช้ทั้งสองตัวไม่ใช่หน้าม้าของรถแต่ละค่าย ผมใช้งานจริงทั้งสองตัว แต่ละตัวข้อดีข้อเสียแตกต่างกันออกไป
pjs ข้อดี ขนของได้เยอะ ผมเคยอัด 8 คนขับต่างจังหวัดมาแล้ว เพื่อนๆบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่าเมารถ เบาะตอน 3 แคบมาก รถมันโคลงๆ โยกเยกตลอดเวลา แต่ผมว่าประหยัดน้ำมันดี ขึ้นเขาแรงดี เหยียบพุ่งเหยียบพุ่ง เครื่อง 2.4 turbo
forester เพิ่งรับรถมาเมื่อวันที่ 20 รับรถปุ๊ป ผมเทสขึ้นอินทนนท์เลย รับรู้ได้ทันทีว่ารถไม่โคลงวิ่งไปแบบทื่อๆ แต่ไปได้สะบาย ขึ้นดอยอิน ช่วงทางตรงๆ vigo แซงไปอย่างสะบาย พอถึงช่วงโค้งหนักๆ ซัดเต็มๆ vigo ต้องยอมมันเพราะ vigo จัดเต็มไม่ไหว อัตราการกินน้ำมัน หึหึ ผมว่ามันซดพอๆกับเครื่อง 2.4 turbo ขับ 2 เลย ผมยังไม่เคยลอง pjs ขับ 4 ทั้งทริปเลยไม่ทราบอัตราสิ้นเปลือง forester ถ้าคนที่ลำคานเสียงเพลา จะโคตรเกลียด แต่ผมว่าเสียงเพลามันเพราะดี เลยไม่ใช่ปัญหา ปัญหาเดียวคือหน้าตามันแบบว่า อี่ป้าขายข้าวแกง 555 ห้องโดยสารโล่ง โปร่งสะบาย แต่ขนของได้น้อยกว่า pjs พอสมควร


pjs ข้อดี ขนของได้เยอะ ผมเคยอัด 8 คนขับต่างจังหวัดมาแล้ว เพื่อนๆบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่าเมารถ เบาะตอน 3 แคบมาก รถมันโคลงๆ โยกเยกตลอดเวลา แต่ผมว่าประหยัดน้ำมันดี ขึ้นเขาแรงดี เหยียบพุ่งเหยียบพุ่ง เครื่อง 2.4 turbo
forester เพิ่งรับรถมาเมื่อวันที่ 20 รับรถปุ๊ป ผมเทสขึ้นอินทนนท์เลย รับรู้ได้ทันทีว่ารถไม่โคลงวิ่งไปแบบทื่อๆ แต่ไปได้สะบาย ขึ้นดอยอิน ช่วงทางตรงๆ vigo แซงไปอย่างสะบาย พอถึงช่วงโค้งหนักๆ ซัดเต็มๆ vigo ต้องยอมมันเพราะ vigo จัดเต็มไม่ไหว อัตราการกินน้ำมัน หึหึ ผมว่ามันซดพอๆกับเครื่อง 2.4 turbo ขับ 2 เลย ผมยังไม่เคยลอง pjs ขับ 4 ทั้งทริปเลยไม่ทราบอัตราสิ้นเปลือง forester ถ้าคนที่ลำคานเสียงเพลา จะโคตรเกลียด แต่ผมว่าเสียงเพลามันเพราะดี เลยไม่ใช่ปัญหา ปัญหาเดียวคือหน้าตามันแบบว่า อี่ป้าขายข้าวแกง 555 ห้องโดยสารโล่ง โปร่งสะบาย แต่ขนของได้น้อยกว่า pjs พอสมควร



แสดงความคิดเห็น
Subaru Forester 2.0i-P VS. Mazda CX-5 2.0S
ส่วนตัวใช้รถไม่บ่อย เดินทางระทางใกล้ ๆ สัปดาห์ละ 2-3 วัน ไปต่างจังหวัด ระยะทางไกลปีละ 2-3 ครั้ง แต่มีสมาชิกครอบครัวเพิ่มขึ้นมา 1 คน Accord ปี 2004 คันเดิมเริ่มขนของลำบากมากขึ้น อยากหารถใช้งานระยะยาว (เกิน 10 ปี) ราคาไม่เกิน 1.5 ลบ ไม่เคยใช้รถทั้ง 2 ค่ายนี้มาก่อนเลย การดูแลรักษา รวมถึงบริการหลังการขาย เป็นอย่างไรบ้างครับ