สื่อมวลชนตั้งข้อสังเกต มส.
http://manager.co.th/Weekend/ViewNews.aspx?NewsID=9590000053491
".......... พระไพศาล วิสาโล เจ้าอาวาสวัดป่าสุคะโต จ.ชัยภูมิ ตั้งข้อสังเกตเอาไว้ว่า คดีของพระธัมมชโยเป็นความผิดทางโลกก็จริง แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นในทางคณะสงฆ์คือพฤติกรรมหลายอย่างไม่เหมาะสมกับความเป็นพระ ส่วนชาวพุทธที่นับถือ แม้จะโดนข้อกล่าวหาหลายคดีแต่ก็ยังศรัทธาอยู่นั้น เข้าใจว่าชาวพุทธกลุ่มนั้นไม่เข้าใจในหลักคำสอนของศาสนาพุทธอย่างแท้จริง นอกจากนี้ ที่ มส.นิ่งเฉยก็เป็นที่รู้กันอยู่ว่าเป็นเพราะเหตุใด
“ถ้า มส.จะสั่งพักงานพระธัมมชโยก็ทำได้เหมือนเมื่อปี 2542 ที่พระธัมมชโยโดนคดียักยอกทรัพย์ มส.ยังสามารถทำได้ แต่เรื่องนี้ไม่ได้อยู่ที่ มส. แต่อยู่ที่สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์(ช่วง วรปุญฺโญ) เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราชต่างหาก”พระไพศาลกล่าว
ยิ่งเมื่อเปรียบเทียบกับกรณีของพระพรหมสุธีหรือเจ้าคุณเสนาะ อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ ยิ่งเห็นได้ชัด ในครั้งนั้น เจ้าคุณเสนาะถูก สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ตรวจสอบพบว่า ไม่ได้ใช้เงินงบประมาณในการจัดงานศพสมเด็จพุฒาจารย์ หรือ สมเด็จเกี่ยว อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศ ฯ เพราะมีเอกชนรับเป็นเจ้าภาพในด้านต่างๆ แต่ไม่ยอมคืนเงินประมาณ 67 ล้านบาท สตง.จึงทวงเงินคืน
ในครั้งนั้นยังไม่มีการตั้งข้อหากับเจ้าคุณเสนาะเพราะอยู่ระหว่างตรวจสอบ แต่ เมื่อเรื่องไปถึงสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ก็มีคำสั่งปลดเจ้าคุณเสนาะออกจากตำแหน่งกรรมการมหาเถรสมาคมทันที จากนั้นก็ตามมาด้วยการปลดเจ้าคุณเสนาะออกจากทุกตำแหน่ง กระทั่งสุดท้ายเจ้าคุณเสนาะตัดสินใจกระทำอัตวินิบาตกรรม
แต่ในกรณีของพระธัมมชโย ทั้งๆ ที่เรื่องเป็นคดีความถึงโรงถึงศาล แต่ มส.กลับนิ่งเฉยเลยผ่าน และไม่ทำอะไรทั้งสิ้น
นี่คือความพิกลพิการขององค์กรปกครองคณะสงฆ์ไทยที่มีให้ “พระผู้มีอภิสิทธิ์” เหนือพระทุกรูปในแผ่นดินนี้อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในประวัติศาสตร์สงฆ์ไทย ซึ่งสังคมจำเป็นที่จะต้องร่วมด้วยช่วยกันตรวจสอบเช่นกัน......."
ข้อสงสัยถึง มส.
http://manager.co.th/Weekend/ViewNews.aspx?NewsID=9590000053491
".......... พระไพศาล วิสาโล เจ้าอาวาสวัดป่าสุคะโต จ.ชัยภูมิ ตั้งข้อสังเกตเอาไว้ว่า คดีของพระธัมมชโยเป็นความผิดทางโลกก็จริง แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นในทางคณะสงฆ์คือพฤติกรรมหลายอย่างไม่เหมาะสมกับความเป็นพระ ส่วนชาวพุทธที่นับถือ แม้จะโดนข้อกล่าวหาหลายคดีแต่ก็ยังศรัทธาอยู่นั้น เข้าใจว่าชาวพุทธกลุ่มนั้นไม่เข้าใจในหลักคำสอนของศาสนาพุทธอย่างแท้จริง นอกจากนี้ ที่ มส.นิ่งเฉยก็เป็นที่รู้กันอยู่ว่าเป็นเพราะเหตุใด
“ถ้า มส.จะสั่งพักงานพระธัมมชโยก็ทำได้เหมือนเมื่อปี 2542 ที่พระธัมมชโยโดนคดียักยอกทรัพย์ มส.ยังสามารถทำได้ แต่เรื่องนี้ไม่ได้อยู่ที่ มส. แต่อยู่ที่สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์(ช่วง วรปุญฺโญ) เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราชต่างหาก”พระไพศาลกล่าว
ยิ่งเมื่อเปรียบเทียบกับกรณีของพระพรหมสุธีหรือเจ้าคุณเสนาะ อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ ยิ่งเห็นได้ชัด ในครั้งนั้น เจ้าคุณเสนาะถูก สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ตรวจสอบพบว่า ไม่ได้ใช้เงินงบประมาณในการจัดงานศพสมเด็จพุฒาจารย์ หรือ สมเด็จเกี่ยว อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศ ฯ เพราะมีเอกชนรับเป็นเจ้าภาพในด้านต่างๆ แต่ไม่ยอมคืนเงินประมาณ 67 ล้านบาท สตง.จึงทวงเงินคืน
ในครั้งนั้นยังไม่มีการตั้งข้อหากับเจ้าคุณเสนาะเพราะอยู่ระหว่างตรวจสอบ แต่ เมื่อเรื่องไปถึงสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ก็มีคำสั่งปลดเจ้าคุณเสนาะออกจากตำแหน่งกรรมการมหาเถรสมาคมทันที จากนั้นก็ตามมาด้วยการปลดเจ้าคุณเสนาะออกจากทุกตำแหน่ง กระทั่งสุดท้ายเจ้าคุณเสนาะตัดสินใจกระทำอัตวินิบาตกรรม
แต่ในกรณีของพระธัมมชโย ทั้งๆ ที่เรื่องเป็นคดีความถึงโรงถึงศาล แต่ มส.กลับนิ่งเฉยเลยผ่าน และไม่ทำอะไรทั้งสิ้น
นี่คือความพิกลพิการขององค์กรปกครองคณะสงฆ์ไทยที่มีให้ “พระผู้มีอภิสิทธิ์” เหนือพระทุกรูปในแผ่นดินนี้อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในประวัติศาสตร์สงฆ์ไทย ซึ่งสังคมจำเป็นที่จะต้องร่วมด้วยช่วยกันตรวจสอบเช่นกัน......."