อ้างอิง
http://headshot.tnews.co.th/contents/190428/
-----
พระไพศาล วิสาโล เจ้าอาวาสวัดป่าสุคะโต จ.ชัยภูมิ พระนักเผยแผ่ เปิดเผยว่า คดีของพระเทพญาณมหามุนี หรือพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย เป็นความผิดทางโลกก็จริง แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นในทางคณะสงฆ์ คือพฤติกรรมหลายอย่างของพระธัมมชโยไม่เหมาะสมกับความเป็นพระ ส่วนชาวพุทธที่นับถือพระธัมมชโย แม้จะโดนข้อกล่าวหาหลายคดีก็ยังศรัทธาอยู่นั้น เข้าใจว่าชาวพุทธกลุ่มนี้ไม่เข้าใจในหลักคำสอนของศาสนาพุทธอย่างแท้จริง นอกจากนี้ ที่ มส.นิ่งเฉยก็เป็นที่รู้กันอยู่ว่าเพราะเหตุใด หากเปรียบเทียบคดีพระธัมมชโยกับคดีของพระพรหมสุธี (เสนาะ ปญฺญาวชิโร) อดีตกรรมการ มส.อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ซึ่งเป็นคดีที่ดีเอสไอคดีตรวจพบความผิดปกติการเบิกจ่ายงบประมาณในงานพระราช ทานเพลิงศพสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) อดีตประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศ กว่า 67 ล้านบาท ซึ่งเป็นคดีทางโลกเช่นเดียวกัน แต่เนื่องจากพระพรหมสุธีเป็นกรรมการ มส.ในสายสมเด็จเกี่ยว เมื่อสิ้นสมเด็จเกี่ยว จึงไม่มีผู้ปกป้องแล้ว มส.จึงดำเนินการกับพระพรหมสุธีได้ ส่วนพระธัมมชโยไม่มีตำแหน่งเป็นกรรมการ มส.แต่มีพระอุปัชฌาย์ หรือผู้อุปถัมภ์เป็นถึงพระเถระชั้นผู้ใหญ่
“ถ้า มส.จะสั่งพักงานพระธัมมชโยก็ทำได้ เหมือนเมื่อปี 2542 ที่พระธัมมชโยโดนคดียักยอกทรัพย์ มส.ยังสามารถทำได้ แต่เรื่องนี้ไม่ได้อยู่ที่ มส.แต่อยู่ที่สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ต่างหาก” พระไพศาลกล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีพลังมวลชนออกมาเรียกร้องให้สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ออกคำสั่งพักพระ งานพระธัมมชโย สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์จะฟังเสียงมวลชนหรือไม่ พระไพศาล กล่าวว่า แม้จะมีการเรียกร้อง สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ต้องมีข้ออ้างอยู่ดี เช่น ต้องรอให้คดีทางโลกจบก่อน เป็นต้น
“อาตมามองว่าเหตุที่พระธัมมชโยไม่ ยอมไปให้ปากคำกับดีเอสไอ เพราะต้องการให้ประชาชนมองว่าดีเอสไปไม่มีน้ำยา นอกจากนี้ พระธัมมชโย ยังคิดว่าตนเองมีฐานสนับสนุนที่เข้มแข็งปกป้องตนเองได้ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้คงต้องปล่อยให้เป็นไปตามกลไกของกฎหมาย หากพระธัมมชโยมั่นใจในความถูกต้อง ต้องยอมให้ดีเอสไอเข้าตรวจสอบโดยไม่บ่ายเบี่ยง เหมือนสุภาษิตที่ว่าทองแท้ย่อมไม่กลัวไฟ” พระไพศาลกล่าว
###“พระไพศาล” ชี้ “ธัมมชโย” ยอมให้ปากคำดีเอสไอถ้ามั่นใจว่าไม่มีความผิด###
http://headshot.tnews.co.th/contents/190428/
-----
พระไพศาล วิสาโล เจ้าอาวาสวัดป่าสุคะโต จ.ชัยภูมิ พระนักเผยแผ่ เปิดเผยว่า คดีของพระเทพญาณมหามุนี หรือพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย เป็นความผิดทางโลกก็จริง แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นในทางคณะสงฆ์ คือพฤติกรรมหลายอย่างของพระธัมมชโยไม่เหมาะสมกับความเป็นพระ ส่วนชาวพุทธที่นับถือพระธัมมชโย แม้จะโดนข้อกล่าวหาหลายคดีก็ยังศรัทธาอยู่นั้น เข้าใจว่าชาวพุทธกลุ่มนี้ไม่เข้าใจในหลักคำสอนของศาสนาพุทธอย่างแท้จริง นอกจากนี้ ที่ มส.นิ่งเฉยก็เป็นที่รู้กันอยู่ว่าเพราะเหตุใด หากเปรียบเทียบคดีพระธัมมชโยกับคดีของพระพรหมสุธี (เสนาะ ปญฺญาวชิโร) อดีตกรรมการ มส.อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ซึ่งเป็นคดีที่ดีเอสไอคดีตรวจพบความผิดปกติการเบิกจ่ายงบประมาณในงานพระราช ทานเพลิงศพสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) อดีตประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศ กว่า 67 ล้านบาท ซึ่งเป็นคดีทางโลกเช่นเดียวกัน แต่เนื่องจากพระพรหมสุธีเป็นกรรมการ มส.ในสายสมเด็จเกี่ยว เมื่อสิ้นสมเด็จเกี่ยว จึงไม่มีผู้ปกป้องแล้ว มส.จึงดำเนินการกับพระพรหมสุธีได้ ส่วนพระธัมมชโยไม่มีตำแหน่งเป็นกรรมการ มส.แต่มีพระอุปัชฌาย์ หรือผู้อุปถัมภ์เป็นถึงพระเถระชั้นผู้ใหญ่
“ถ้า มส.จะสั่งพักงานพระธัมมชโยก็ทำได้ เหมือนเมื่อปี 2542 ที่พระธัมมชโยโดนคดียักยอกทรัพย์ มส.ยังสามารถทำได้ แต่เรื่องนี้ไม่ได้อยู่ที่ มส.แต่อยู่ที่สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ต่างหาก” พระไพศาลกล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีพลังมวลชนออกมาเรียกร้องให้สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ออกคำสั่งพักพระ งานพระธัมมชโย สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์จะฟังเสียงมวลชนหรือไม่ พระไพศาล กล่าวว่า แม้จะมีการเรียกร้อง สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ต้องมีข้ออ้างอยู่ดี เช่น ต้องรอให้คดีทางโลกจบก่อน เป็นต้น
“อาตมามองว่าเหตุที่พระธัมมชโยไม่ ยอมไปให้ปากคำกับดีเอสไอ เพราะต้องการให้ประชาชนมองว่าดีเอสไปไม่มีน้ำยา นอกจากนี้ พระธัมมชโย ยังคิดว่าตนเองมีฐานสนับสนุนที่เข้มแข็งปกป้องตนเองได้ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้คงต้องปล่อยให้เป็นไปตามกลไกของกฎหมาย หากพระธัมมชโยมั่นใจในความถูกต้อง ต้องยอมให้ดีเอสไอเข้าตรวจสอบโดยไม่บ่ายเบี่ยง เหมือนสุภาษิตที่ว่าทองแท้ย่อมไม่กลัวไฟ” พระไพศาลกล่าว