สวัสดีค่ะทุกคน จบไปแล้วเนอะหนึ่งรัฐ ฟลอริด้า สำหรับใครที่ยังไม่ได้อ่าน ตามไปอ่านกันได้นะ เป็นกระทู้แรกที่สำคัญมากๆ ข้อมูลเพียบ สำหรับคนอยากท่องเที่ยวด้วยตัวเอง ที่ไม่เขียนทั้งหมดไว้ในกระทู้เดียว เพราะกลัวว่ามันจะยาวเกินไปน่ะค่ะ กลัวจะอ่านกันไม่ไหว 55555
ตามลิ้งค์นี้ไปเลยนะ
http://pantip.com/topic/34755821
ได้เวลาออกเดินทางต่อกับรัฐที่ 2 New York City เขาว่าเมืองนี้มันวุ่นวาย เขาว่าใต้ดินเมืองนี้มันเก่ามาก เขาว่าเมืองนี้ค่าครองชีพสูง เขาว่าเมืองนี้ตึกสูงเยอะ โอ๊ยยยยยยยยย อย่ามัวแต่เขาว่าเลย ออกเดินทางแล้วไปพิสูจน์ด้วยกันดีกว่า
Highlights: 2 Days Trip in New York City
Hotel: Explore Hotel and Hostel, Union City, New Jersey
Day 1: Times Square, The New York Public Library, St. Patrick's Cathedral, Fifth Avenue, Empire State Building, Central Park
Day 2: Brooklyn Bridge, World Trade Center, Staten Island Ferry, Statue of Liberty, Charging Bull, Union Square, Grand Central Terminal, Times Square
เหนือสิ่งอื่นใด ขออนุญาตรีวิวเที่ยวบินจาก Miami มา New York City บอกเลยว่ามันคือ The best flight ever of my life, best flight, best pilot, best view, unforgettable flight!!!
เจ้าของกระทู้บิน SouthWest Airlines ค่ะ ออกจาก FLL มายัง LGA ไฟลท์แรกของวัน และต้องไปเปลี่ยนเครื่องที่ ATL กัปตันบินดีมาก ขึ้นก็นิ่ม ลงก็นิ่ม และช่วงที่ใกล้จะถึงนิวยอร์ก เครื่องบินจะบินต่ำลง แล้วจะบินวนผ่านเทพีเสรีภาพ จากมุมนี้เราจะมองเห็นเทพีจากด้านบน น้ำทะเลสีฟ้า และเกาะนิวยอร์กที่ละลานตาไปด้วยตึกสูง เหมือนเรานั่งดูหนังอยู่ที่บ้านเลย แต่ความรู้สึกนี่แบบสมจริงมาก มันสวยมากๆ เลยล่ะค่ะ บอกให้รู้ว่าเรามาถึงนิวยอร์กแล้วนะ ใครอยากเห็นวิวสวยๆ แบบนี้ แนะนำให้นั่งริมหน้าต่างฝั่งขวามือนะคะ(เมื่อหันหน้าเข้าหาที่นั่ง) เจ้าของกระทู้ไม่ได้ภาพเก็บไว้เลย เพราะมัวแต่มองแบบไม่ได้คลาดสายตาเลย มันงดงามมากจริงๆ ขอแนะนำเที่ยวบินนี้จริงๆ แล้วคุณจะยิ้มกว้างแบบหุบยิ้มไม่ได้เลย
เครื่องบินแลนด์ดิ้งแล้ว แบกเป้ ลากกระเป๋า แล้วไปผจญภัยในนิวยอร์กกันค่ะ ว่าด้วยเรื่องของที่พัก ทีแรกตั้งใจว่าจะนอนบ้านของพี่รัตน์ เป็นที่พักที่เปิดให้บริการโดยคนไทยค่ะ ติดต่อได้ที่อีเมลล์นี้นะ woodhaven07@hotmail.com หรือจะศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมก็กระทู้นี้เลย
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=woodhaven แต่ว่าเจ้าของกระทู้จองไม่ทัน เต็มเสียก่อน แอบเสียใจเบาๆ แล้วที่พักในนิวยอร์กมันก็ราคาไม่เบาเลยจริงๆ เลยไปได้ที่พักในรัฐบ้านใกล้เรือนเคียงแทนอย่าง New Jersey ที่ Explore Hotel and Hostel ที่เมือง Union City การที่จะไปถึงที่พักได้นั้นต้องไปต่อรถที่ Port Authority Bus Terminal โดยเริ่มต้นจากนั่งรถเมล์จากสนามบิน สาย Q70 (เราไม่เสียตังค์นะ ตอนนั้น) เพื่อไปขึ้นรถไฟใต้ดินสถานี Roosevelt - Jackson Heights เพื่อไปยังสถานี 42 St - Port Authority Bus Terminal แล้วจะได้ต่อรถไปที่ New Jersey อีกทีค่ะ
ว่าด้วยเรื่องของการซื้อบัตรรถไฟใต้ดิน สำหรับการซื้อครั้งแรกนั้น คิดหนักมาก ทีแรกก็กะไว้แล้วว่าจะซื้อแบบ 7 วัน ไรงี้ แต่ก็แอบเสียดายวันแรกที่จะได้ใช้แค่ครั้งเดียว เลยตัดสินใจว่าค่อยซื้อแบบหลายวันในวันรุ่งขึ้น เลยเลือกซื้อแบบเที่ยวเดียวก่อนหมดเงินไป $2.5 เป็นอันเรียบร้อยได้ตั๋วมาแล้ว มุ่งหน้าไปเจอรถไฟใต้ดินที่เขาว่าเก่ากันหนักหนาเถอะค่ะ แต่วิ่งเร็วมากนะ
และแล้วปัญหาแรกก็มาค่ะ เสียบบัตรใต้ดินไปแล้ว ได้บัตรคืนแล้ว กำลังจะพากระเป๋าผ่านช่องทางเดินแคบๆ ไปไม่ได้ค่ะ ดันเท่าไหร่ก็ไม่ไป ซวยล่ะทีนี้ พระเจ้าช่วยลูกที และแล้วเทพบุตรก็มาโปรด หนุ่มหล่อนิวยอกร์ก รูปงาม มาช่วยไว้ ไอ้เรานี่ยิ้มแก้มปริเลย แล้วเซย์แต้งกิ้วไปหนึ่งทีกับรอยยิ้มหวานๆ 55555 เอ้าๆ ปัญหายังไม่จบ จะไปรถไฟสาย E ต้องไปรอที่ชั้น… สักชั้นนี่แหละค่ะ จำไม่ได้ ก็ลงลิฟท์ไป แล้วต่อด้วยบันไดอีกที มันค่อนข้างร้อนนิดนึง ผู้คนก็ประมาณนึง ถ้ามีโจรมาบอกเลยว่าแยกไม่ออก พอรถไฟมา เราก็ขึ้น พอขึ้นไปแล้วก็รู้สึกเหมือนตัวประหลาดเบาๆ ทำไมเขาต้องมองเราด้วย บอกเลยตอนนั้นมือไม่ได้จับโทรศัพท์เลย แค่ดึงกระเป๋าไว้ก็หมดแรงแล้ว อยากจะได้กระเป๋าที่ล็อกล้อได้จัง พอคิดไปคิดมา ก็นึกได้ว่า ใต้ดินนี่มันไร้สัญญาณโทรศัพท์ ทำอะไรไม่ได้เลยจริงๆ เราก็เลยได้แต่สำรวจกันไปมา
กรรมของเวร เวรของตรู เมื่อมาถึง Port Authority Bus Terminal แล้วพบว่ามีชานชาลารอรถเป็นร้อย ทำไปได้ไงคะ เห็นใจชาวไทยตัวน้อยๆ อย่างเราไหม ที่มาเจอเหตุการณ์แบบนี้ ช็อคค่ะ คำเดียว บอกเลย แย่กว่านี้มีอีกไหม อย่ารอช้า มองหาป้ายแนะนำชานชาลา เรารู้อยู่แล้วว่าต้องขึ้นรถสายอะไร ขาดแต่เพียงชานชาเท่านั้น มองหาป้ายแนะนำชานชาลาเลย สุดท้ายค่ะ ไม่สามารถหาคำตอบจากทีวีอิเล็กทรอนิกส์ได้ เพราะถามแล้วไม่ตอบ ตอนนั้นแอบหัวเสียเบาๆ คือเหนื่อยละ อยากเอนตัวลงบนเตียง ไม่รอช้า มองหาเจ้าหน้าที่สักคน จากนั้นเราก็ร้องอ๋อ ได้เวลาไปซื้อตั๋ว แล้วไปขึ้นรถกัน
เราจะใช้บริการของ NJ Transit กันค่ะ ในการเดินทางไป Union City เราจะต้องไปซื้อตั๋วที่ตู้ขายตั๋วก่อน สำหรับ Union City นั้น จะไม่มีในรายการให้เลือก เราจะต้องกดเลือกอื่นๆ แล้วพิมพ์สถานที่เอง ก็พิมพ์ไปว่า "Union City" แล้วมันจะคำนวณราคาตั๋วให้ค่ะ ค่ารถ $4.5 และเราจะต้องไปขึ้นรถสาย 159 Fort Lee - New York ชานชาลา 200 ประตู 1 (ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถสายนี้
http://www.njtransit.com/pdf/bus/T1153.pdf ) พอไปถึงประตูเราก็ต้องไปยืนต่อแถวค่ะ รอรถมา แล้วจึงค่อยขึ้นรถ แล้วยื่นตั๋วให้กับคนขับ
ขอขอบคุณภาพจาก
http://www.gettyimages.com/detail/news-photo/commuter-uses-a-self-serve-kiosk-to-purchase-tickets-for-news-photo/460558838 (เข้าเว็บไปชมภาพของ Port Authority Bus กันได้นะ)
สำหรับป้ายที่เราจะต้องลงนั้นเป็นป้ายที่อยู่ระหว่างถนน 37th St ตัดกับถนน New York Ave เพราะฉะนั้นสังเกตทางให้ดีนะ จะถึงถนน 37 แล้ว ก็แจ้งคนขับเลย Bus stop please! พอลงรถมาแล้ว ให้ข้ามถนน แล้วเดินตามทางเท้าไปเลย โฮสเทลเราอยู่ถนน 38th St เดินไปประมาณไม่ถึงสองนาทีก็จะเจอโฮสเทล
สำหรับที่นี่ ทางเว็บไซต์ไม่ยอมให้จ่ายค่าที่พักทั้งหมดก่อนล่วงหน้า เราจึงจำเป็นต้องมาจ่ายที่นี่ทีเดียวทั้งหมด โชคดีอีกแล้วได้ห้องพักชั้นหนึ่ง ไม่ต้องแบกกระเป๋าให้เหนื่อย เสร็จแล้วพนักงานก็ให้คำแนะนำสำหรับการท่องเที่ยวในนิวยอร์ก มีแผนที่ให้ด้วย และจะมีรถมารับที่โรงแรมตอน 08.00 กับ 10.00 หากใครต้องการไปเกาะ Manhattan หรือ New york city นั่นเอง ค่ารถ $5 ค่ะ เยี่ยมเลยทีนี้ ไม่ต้องไปยืนรอรถเมล์ให้เหนื่อย
ระบบห้องพักของที่นี่เราจะไม่ใช้คีย์การ์ด แต่เราจะใช้พาสเวิร์ดแทนในการเข้าห้อง ก็ไม่ต้องห่วงเรื่องกุญแจอ่ะน่ะ แค่จำรหัสให้ได้ก็พอ เราเลือกพักห้องแบบ 8 เตียง มีคนนอนแค่ 5 เตียง และเราก็ไม่ค่อยได้พบกับ Room mate อีกเช่นเคย กฏเหล็กของที่นี่คือ ห้ามรับประทานอาหารในห้องโดยเด็ดขาด เพราะ “หนู” จะมาหาคุณค่ะ 55555 ถ้าอยากจะรับประทานอาหารให้ไปที่ห้องรับประทานอาหารนะ มีของเพียบ และแชร์ตู้เย็น แต่ว่าห้องอาหารมันไม่ได้อยู่ในอาคารโฮสเทลโดยตรง มันจะอยู่ด้านหลังของโฮสเทลค่ะ เปิดประตูออกมาจากโฮสเทล ให้เดินทางไปทางขวา เลาะไปตามตัวอาคารของโฮสเทล แล้วเดินตรงเข้าไปเลยค่ะ บอกเลยว่ามันไม่ค่อยจะสวยงามสักเท่าไหร่ แต่ก็ดีกว่านั่งอุดอู้อยู่ในห้อง เราจะพบกับห้องนั่งเล่นกว้างๆ ครัวเล็กๆ โต๊ะทานข้าวใหญ่ๆ หนึ่งตัว ไม่ได้คุยกับเพื่อนร่วมห้องก็ไม่เป็นไร มาหาเพื่อนใหม่ระหว่างทานข้าวกัน ^^
วันนี้หมดแรงแล้ว จากการอดหลับอดนอนในสนามบิน เปลี่ยนเครื่องอีก และการหารถมาโฮสเทลอย่างยากลำบาก ขอพักเอาแรงก่อนแล้วกัน ค่อยวางแผนเที่ยวพรุ่งนี้
แบกเป้ ลากกระเป๋า ลุยเดี่ยว เที่ยวรอบอเมริกา กับ 7 เมืองใหญ่ สไตล์ยาจก ที่ไม่งกกับเรื่องเที่ยว (ตอนที่ 2)
ตามลิ้งค์นี้ไปเลยนะ http://pantip.com/topic/34755821
ได้เวลาออกเดินทางต่อกับรัฐที่ 2 New York City เขาว่าเมืองนี้มันวุ่นวาย เขาว่าใต้ดินเมืองนี้มันเก่ามาก เขาว่าเมืองนี้ค่าครองชีพสูง เขาว่าเมืองนี้ตึกสูงเยอะ โอ๊ยยยยยยยยย อย่ามัวแต่เขาว่าเลย ออกเดินทางแล้วไปพิสูจน์ด้วยกันดีกว่า
Highlights: 2 Days Trip in New York City
Hotel: Explore Hotel and Hostel, Union City, New Jersey
Day 1: Times Square, The New York Public Library, St. Patrick's Cathedral, Fifth Avenue, Empire State Building, Central Park
Day 2: Brooklyn Bridge, World Trade Center, Staten Island Ferry, Statue of Liberty, Charging Bull, Union Square, Grand Central Terminal, Times Square
เหนือสิ่งอื่นใด ขออนุญาตรีวิวเที่ยวบินจาก Miami มา New York City บอกเลยว่ามันคือ The best flight ever of my life, best flight, best pilot, best view, unforgettable flight!!!
เจ้าของกระทู้บิน SouthWest Airlines ค่ะ ออกจาก FLL มายัง LGA ไฟลท์แรกของวัน และต้องไปเปลี่ยนเครื่องที่ ATL กัปตันบินดีมาก ขึ้นก็นิ่ม ลงก็นิ่ม และช่วงที่ใกล้จะถึงนิวยอร์ก เครื่องบินจะบินต่ำลง แล้วจะบินวนผ่านเทพีเสรีภาพ จากมุมนี้เราจะมองเห็นเทพีจากด้านบน น้ำทะเลสีฟ้า และเกาะนิวยอร์กที่ละลานตาไปด้วยตึกสูง เหมือนเรานั่งดูหนังอยู่ที่บ้านเลย แต่ความรู้สึกนี่แบบสมจริงมาก มันสวยมากๆ เลยล่ะค่ะ บอกให้รู้ว่าเรามาถึงนิวยอร์กแล้วนะ ใครอยากเห็นวิวสวยๆ แบบนี้ แนะนำให้นั่งริมหน้าต่างฝั่งขวามือนะคะ(เมื่อหันหน้าเข้าหาที่นั่ง) เจ้าของกระทู้ไม่ได้ภาพเก็บไว้เลย เพราะมัวแต่มองแบบไม่ได้คลาดสายตาเลย มันงดงามมากจริงๆ ขอแนะนำเที่ยวบินนี้จริงๆ แล้วคุณจะยิ้มกว้างแบบหุบยิ้มไม่ได้เลย
เครื่องบินแลนด์ดิ้งแล้ว แบกเป้ ลากกระเป๋า แล้วไปผจญภัยในนิวยอร์กกันค่ะ ว่าด้วยเรื่องของที่พัก ทีแรกตั้งใจว่าจะนอนบ้านของพี่รัตน์ เป็นที่พักที่เปิดให้บริการโดยคนไทยค่ะ ติดต่อได้ที่อีเมลล์นี้นะ woodhaven07@hotmail.com หรือจะศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมก็กระทู้นี้เลย http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=woodhaven แต่ว่าเจ้าของกระทู้จองไม่ทัน เต็มเสียก่อน แอบเสียใจเบาๆ แล้วที่พักในนิวยอร์กมันก็ราคาไม่เบาเลยจริงๆ เลยไปได้ที่พักในรัฐบ้านใกล้เรือนเคียงแทนอย่าง New Jersey ที่ Explore Hotel and Hostel ที่เมือง Union City การที่จะไปถึงที่พักได้นั้นต้องไปต่อรถที่ Port Authority Bus Terminal โดยเริ่มต้นจากนั่งรถเมล์จากสนามบิน สาย Q70 (เราไม่เสียตังค์นะ ตอนนั้น) เพื่อไปขึ้นรถไฟใต้ดินสถานี Roosevelt - Jackson Heights เพื่อไปยังสถานี 42 St - Port Authority Bus Terminal แล้วจะได้ต่อรถไปที่ New Jersey อีกทีค่ะ
ว่าด้วยเรื่องของการซื้อบัตรรถไฟใต้ดิน สำหรับการซื้อครั้งแรกนั้น คิดหนักมาก ทีแรกก็กะไว้แล้วว่าจะซื้อแบบ 7 วัน ไรงี้ แต่ก็แอบเสียดายวันแรกที่จะได้ใช้แค่ครั้งเดียว เลยตัดสินใจว่าค่อยซื้อแบบหลายวันในวันรุ่งขึ้น เลยเลือกซื้อแบบเที่ยวเดียวก่อนหมดเงินไป $2.5 เป็นอันเรียบร้อยได้ตั๋วมาแล้ว มุ่งหน้าไปเจอรถไฟใต้ดินที่เขาว่าเก่ากันหนักหนาเถอะค่ะ แต่วิ่งเร็วมากนะ
และแล้วปัญหาแรกก็มาค่ะ เสียบบัตรใต้ดินไปแล้ว ได้บัตรคืนแล้ว กำลังจะพากระเป๋าผ่านช่องทางเดินแคบๆ ไปไม่ได้ค่ะ ดันเท่าไหร่ก็ไม่ไป ซวยล่ะทีนี้ พระเจ้าช่วยลูกที และแล้วเทพบุตรก็มาโปรด หนุ่มหล่อนิวยอกร์ก รูปงาม มาช่วยไว้ ไอ้เรานี่ยิ้มแก้มปริเลย แล้วเซย์แต้งกิ้วไปหนึ่งทีกับรอยยิ้มหวานๆ 55555 เอ้าๆ ปัญหายังไม่จบ จะไปรถไฟสาย E ต้องไปรอที่ชั้น… สักชั้นนี่แหละค่ะ จำไม่ได้ ก็ลงลิฟท์ไป แล้วต่อด้วยบันไดอีกที มันค่อนข้างร้อนนิดนึง ผู้คนก็ประมาณนึง ถ้ามีโจรมาบอกเลยว่าแยกไม่ออก พอรถไฟมา เราก็ขึ้น พอขึ้นไปแล้วก็รู้สึกเหมือนตัวประหลาดเบาๆ ทำไมเขาต้องมองเราด้วย บอกเลยตอนนั้นมือไม่ได้จับโทรศัพท์เลย แค่ดึงกระเป๋าไว้ก็หมดแรงแล้ว อยากจะได้กระเป๋าที่ล็อกล้อได้จัง พอคิดไปคิดมา ก็นึกได้ว่า ใต้ดินนี่มันไร้สัญญาณโทรศัพท์ ทำอะไรไม่ได้เลยจริงๆ เราก็เลยได้แต่สำรวจกันไปมา
กรรมของเวร เวรของตรู เมื่อมาถึง Port Authority Bus Terminal แล้วพบว่ามีชานชาลารอรถเป็นร้อย ทำไปได้ไงคะ เห็นใจชาวไทยตัวน้อยๆ อย่างเราไหม ที่มาเจอเหตุการณ์แบบนี้ ช็อคค่ะ คำเดียว บอกเลย แย่กว่านี้มีอีกไหม อย่ารอช้า มองหาป้ายแนะนำชานชาลา เรารู้อยู่แล้วว่าต้องขึ้นรถสายอะไร ขาดแต่เพียงชานชาเท่านั้น มองหาป้ายแนะนำชานชาลาเลย สุดท้ายค่ะ ไม่สามารถหาคำตอบจากทีวีอิเล็กทรอนิกส์ได้ เพราะถามแล้วไม่ตอบ ตอนนั้นแอบหัวเสียเบาๆ คือเหนื่อยละ อยากเอนตัวลงบนเตียง ไม่รอช้า มองหาเจ้าหน้าที่สักคน จากนั้นเราก็ร้องอ๋อ ได้เวลาไปซื้อตั๋ว แล้วไปขึ้นรถกัน
เราจะใช้บริการของ NJ Transit กันค่ะ ในการเดินทางไป Union City เราจะต้องไปซื้อตั๋วที่ตู้ขายตั๋วก่อน สำหรับ Union City นั้น จะไม่มีในรายการให้เลือก เราจะต้องกดเลือกอื่นๆ แล้วพิมพ์สถานที่เอง ก็พิมพ์ไปว่า "Union City" แล้วมันจะคำนวณราคาตั๋วให้ค่ะ ค่ารถ $4.5 และเราจะต้องไปขึ้นรถสาย 159 Fort Lee - New York ชานชาลา 200 ประตู 1 (ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถสายนี้ http://www.njtransit.com/pdf/bus/T1153.pdf ) พอไปถึงประตูเราก็ต้องไปยืนต่อแถวค่ะ รอรถมา แล้วจึงค่อยขึ้นรถ แล้วยื่นตั๋วให้กับคนขับ
ขอขอบคุณภาพจาก http://www.gettyimages.com/detail/news-photo/commuter-uses-a-self-serve-kiosk-to-purchase-tickets-for-news-photo/460558838 (เข้าเว็บไปชมภาพของ Port Authority Bus กันได้นะ)
สำหรับป้ายที่เราจะต้องลงนั้นเป็นป้ายที่อยู่ระหว่างถนน 37th St ตัดกับถนน New York Ave เพราะฉะนั้นสังเกตทางให้ดีนะ จะถึงถนน 37 แล้ว ก็แจ้งคนขับเลย Bus stop please! พอลงรถมาแล้ว ให้ข้ามถนน แล้วเดินตามทางเท้าไปเลย โฮสเทลเราอยู่ถนน 38th St เดินไปประมาณไม่ถึงสองนาทีก็จะเจอโฮสเทล
สำหรับที่นี่ ทางเว็บไซต์ไม่ยอมให้จ่ายค่าที่พักทั้งหมดก่อนล่วงหน้า เราจึงจำเป็นต้องมาจ่ายที่นี่ทีเดียวทั้งหมด โชคดีอีกแล้วได้ห้องพักชั้นหนึ่ง ไม่ต้องแบกกระเป๋าให้เหนื่อย เสร็จแล้วพนักงานก็ให้คำแนะนำสำหรับการท่องเที่ยวในนิวยอร์ก มีแผนที่ให้ด้วย และจะมีรถมารับที่โรงแรมตอน 08.00 กับ 10.00 หากใครต้องการไปเกาะ Manhattan หรือ New york city นั่นเอง ค่ารถ $5 ค่ะ เยี่ยมเลยทีนี้ ไม่ต้องไปยืนรอรถเมล์ให้เหนื่อย
ระบบห้องพักของที่นี่เราจะไม่ใช้คีย์การ์ด แต่เราจะใช้พาสเวิร์ดแทนในการเข้าห้อง ก็ไม่ต้องห่วงเรื่องกุญแจอ่ะน่ะ แค่จำรหัสให้ได้ก็พอ เราเลือกพักห้องแบบ 8 เตียง มีคนนอนแค่ 5 เตียง และเราก็ไม่ค่อยได้พบกับ Room mate อีกเช่นเคย กฏเหล็กของที่นี่คือ ห้ามรับประทานอาหารในห้องโดยเด็ดขาด เพราะ “หนู” จะมาหาคุณค่ะ 55555 ถ้าอยากจะรับประทานอาหารให้ไปที่ห้องรับประทานอาหารนะ มีของเพียบ และแชร์ตู้เย็น แต่ว่าห้องอาหารมันไม่ได้อยู่ในอาคารโฮสเทลโดยตรง มันจะอยู่ด้านหลังของโฮสเทลค่ะ เปิดประตูออกมาจากโฮสเทล ให้เดินทางไปทางขวา เลาะไปตามตัวอาคารของโฮสเทล แล้วเดินตรงเข้าไปเลยค่ะ บอกเลยว่ามันไม่ค่อยจะสวยงามสักเท่าไหร่ แต่ก็ดีกว่านั่งอุดอู้อยู่ในห้อง เราจะพบกับห้องนั่งเล่นกว้างๆ ครัวเล็กๆ โต๊ะทานข้าวใหญ่ๆ หนึ่งตัว ไม่ได้คุยกับเพื่อนร่วมห้องก็ไม่เป็นไร มาหาเพื่อนใหม่ระหว่างทานข้าวกัน ^^
วันนี้หมดแรงแล้ว จากการอดหลับอดนอนในสนามบิน เปลี่ยนเครื่องอีก และการหารถมาโฮสเทลอย่างยากลำบาก ขอพักเอาแรงก่อนแล้วกัน ค่อยวางแผนเที่ยวพรุ่งนี้