เกริ่นก่อนละกัน [ขก อ่านด้านล่างเลยก็ได้ครับจุดพีคอยู่ตรงนั่น]
----ก่อนหน้านี้แกเคยพาตัดที่ขาเพราะโดนรถชนมีเหล็กอยู่ในขาเพื่อดามกระดูกไว้-----
----พ่อของผมเป็นโรคความดันครับผมจึงได้รับยาทุกเดือน----
#จากตรงนี้ไปเป็ฯเหตุการ์ณก่อนจะเกิดการหัวร้อนครับเล่าความเป็นมาก่อน
พ่อของผมเป็นห่วงบ้านมากในวันที่มีพายุเข้าอย่างหนัก ในวันที่ 17 เดือน พฤษภาคม ที่ผ่านมานี้แหละครับ แกก็เลยกลัวหลังคาจะปลิว ผมก็เลยบอกพ่อไปว่า อย่าขึ้นไป กระเบื้องเเผ่นละ 10 บาท อันตราย ปล่อยมันไป แกก็ไม่สนใจทำต่อ (แกชำนาญช่างทั้งๆที่เป็นครูนั่นแหละ) หลังจากพายุผ่านไปกระเบื้องที่ปลิวไปก็จะให้ช่างมาใส่หลังจากติดต่อช่างเสร็จไปเเล้ว แต่ คนที่ขึ้นไปดูมันไม่ใช่นะสิ พ่อปวดขามาก (ผมคิดว่าคงจะเป็นเหมือนกับเวลาที่คนเราเจอเหตุการ์ณอันตรายก็จะมีเเรงมหาศาลแต่หลังจากนั่นร่างกายคงรับไม่ไหว) ปวดขาได้ซัก 2 วันผ่านไปพ่อบอกว่าเจ็บมากๆ ผมเลยพาไปโรงพยาบาลในอำเภอนอกจังหวัด ก็ตรงเช็คเอ็กซเรย์ไปหมอเขาก็บอกว่าไม่เป็นอะไรแค่ข้อเท้าอักเสบเเละให้ยามา หลังจากนั้น ผมพาพ่อกลับบ้านไปพักฟื้น 2 วันปรากฏว่า เท้าแกบวมมากเเละแกก็บอกว่าเจ็บ ก็รีบไปหาหมอ หมอก็เลยเจาะเลือดแกไปตรวจพบว่าแกติดเชื้อเเบคทีเรียในเลือด รึป่าวนะผมฟังไม่ชัด แล้วก็เกลือเเร่ในเลือดต่ำเพราะกินยาความดันแพงสีม่วงๆนั่นละผลข้างเคียงก็ประมาณนี้ ก็เลยให้พักฟื้นที่โรงพยายบาลในอำเภอห้องพิเศษก็เต็มครับ ก็เลยได้นอนห้องสามัญไป ผมก็นอนเฝ้าที่พื้นนั่นแหละ อีก วันต่อมาห้องพิเศษว่างผมก็ให้พ่อไปอยู่ แกก็ได้รับเกลือเเร่และยา ตลอด 2 คืน 3 วัน
______________________________________________________________________________________________________________
วันที่ 3 พ่อปวดมาก (ผมคิดว่ามันต้องเป็นขาที่พ่อเคยผ่าตัดเเน่ๆแต่ผมไม่รู้ว่าเป็นอะไร) พ่อเลยบอกแพทย์ แพทย์จึงทำเรื่องส่งตัวไปที่โรงพยายบาลที่กำลังจะพูดถึงในเชียงรายเนี้ยเเหละ อันด้วยสาเหตุ อุปกรณ์และบุคลากรไม่เพียงพอ โอเคผมเลยปรึกษาแม่ จึงได้ขอสรุปว่าจะให้คุณพ่อไปนอนที่ รพ นั้น วันนั้นผมติดเรียนพิเศษ จึงวานให้น้าของผมไปช่วยส่งคุณพ่อที่โรงพยายบาลแห่งนั้น ผมก็ว่างใจไปเพราะน้าแกมีประสบการ์ณเยอะมาก (เวลา 8.30-9.00 น)
______________________________________________________________________________________________________________
หลังจากที่ผมกลับจากเรียนพิเศษผมจึงรีบโทรถามคุณพ่อ #จุดพีคอยู่ตรงนี้แหละครับ
ผมถามไปว่าพ่อเป็นไงมั้ง แกบอกว่า ยังไม่ได้ทำไรเลยลูก WTFFFFFF !!!! พ่อถึงตั้งแต่เที่ยงแต่ตอนนี้ผมกลับจากเรียนพิเศษ เกือบ 4 โมง แกยังไม่ได้รับตรวจ (คิดดูสภาพคนเจ็บเเล้วต้องทนนั่นละครับ) ผมกับแม่จึงรีบไปหาพ่อ 90 โล พอไปถึงประมาณ 17.00 จะถึง 18.00 น. เรื่องก็เสร็จไปเเล้วครับได้ยาอะไรกลับแต่มันไม่ใช่เเบบนั้นครับ ผมถามพ่อว่าทำไมถึงช้าแบบนี้ แกบอกกับผมแบบนี้ครับ
#แกถูกย้ายมาตั้งแต่เที่ยงก็จริงแต่หลังจากมาถึงพยายบาลได้นำตัวแกไปที่ห้องศัลยกรรม

รอตั้งนาน แล้วพยาบาลก็มาหาแกกำลังจะเอาแกเข้าห้องศัลยกรรมละมั้ง พอตรวจชื่อดู กลับไม่ใช่ พยายบาลเลยพูดประมาณแบบว่า นำมาผิดคน

(คือพ่อเราคนเดียวก็เเย่ละนะแต่คนที่จะมาศัลยกรรมเขาก็ไปอยู่ห้องกระดูกนะสิอันนี้เราไม่ทราบจินตนาการไป)
#หลังจากที่พ่อถูกย้ายมาที่ห้องกระดูก ผมก็ไม่ทราบหรอกนะว่าเป็นยังไงพ่อผมบอกมาแบบนี้ มีแพทย์หรือพยายบาลนี้แหละ มาตรวจทางกายภาพ x-rey ก็จิ้มๆขาพ่อดูเเล้วก็พูดว่า ลุงๆนี้มันไม่เป็นอะไรหรอกเเล้วนอนไม่ได้นะลุงมันไม่ได้เป็นอะไรมาก (AHHHHH shit เริ่มหัวร้อน !!) แล้วก็ทำเรื่องให้ยาคลายเส้นแก้ปวดอะไรประมาณนี้
คือมาตั้งไกลเพื่อมาตรวจอะไรแบบนี้หรอ ????
คือผมต้องการให้ตรวจเยอะกว่านี้แบบนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับที่อำเภอเลยหน่ะสิ !!
คนไข้ก็ปวดขามากกกกกกกก
หลังจากที่เกิดเหตุการ์ณนี้ ผมจึงพาคุณพ่อกลับบ้านทั้งๆที่หัวร้อนนั่นแหละ เเวะซื้อพิซซ่าให้น้อง
พอนอนที่บ้าน ได้ 1 คืน เช้ามาพ่อปวดอีกเเล้ว ปวดมากกว่าทุกครั้งจึงประสานงานมูลนิธิปู่อินทร์เพื่อมารับตัวคุณพ่อไปส่งที่โรงพยาบาลเอกชนในตัวเมืองเชียงใหม่







รวดเร็วครับ ตรวจหลายๆอย่างพบว่าคุณพ่อเป็น เลือดคลั่ง จึงจะทำการผ่าตัดเเล้วได้นอนที่โรงพยาบาลที่เชียงใหม่ ไม่ทราบเวลาพักฟื้น
ปิดท้าย
ที่ผมมาพูดในนี้ก็คือการปล่อยละเลยของโรงพยายบาลนำมาซึ่งความสูญเสียนะครับคนใช้บริการเยอะก็จริงแต่ความผิดพลาดที่สลับคนไข้ผมว่ามันไม่น่าจะเกิดขึ้นนะครับ การตรวจผมยอมรับว่าก็ดีในขั้นหนึ่งแต่ควรจะให้ละเอียดกว่านี้ #เรื่องคิวการใช้บริการหลายคนที่อ่านคงจะรู้นะครับว่าสลับคนไข้เเล้วปล่อยไว้นี้นานเกินไปทั้งๆที่พ่อควรจะได้คิวตั้งนานเเล้ว
ฝากกรณีของพ่อผมให้เป็นตัวอย่างด้วยครับหวังว่าคงจะไม่เกิดเรื่องแบบบนี้กับคนอื่น เพราะบางคนอาจจะเป็นหนักกว่าพ่อผมก็ได้ใครจะรู้ หลายโรงพยาบาลก็เช่นกัน ^ ^
#ขอบคุณที่อ่านครับผม
นำคนไข้เรื่องกระดูก ไปไว้ที่แผนกศัลยกรรม
----ก่อนหน้านี้แกเคยพาตัดที่ขาเพราะโดนรถชนมีเหล็กอยู่ในขาเพื่อดามกระดูกไว้-----
----พ่อของผมเป็นโรคความดันครับผมจึงได้รับยาทุกเดือน----
#จากตรงนี้ไปเป็ฯเหตุการ์ณก่อนจะเกิดการหัวร้อนครับเล่าความเป็นมาก่อน
พ่อของผมเป็นห่วงบ้านมากในวันที่มีพายุเข้าอย่างหนัก ในวันที่ 17 เดือน พฤษภาคม ที่ผ่านมานี้แหละครับ แกก็เลยกลัวหลังคาจะปลิว ผมก็เลยบอกพ่อไปว่า อย่าขึ้นไป กระเบื้องเเผ่นละ 10 บาท อันตราย ปล่อยมันไป แกก็ไม่สนใจทำต่อ (แกชำนาญช่างทั้งๆที่เป็นครูนั่นแหละ) หลังจากพายุผ่านไปกระเบื้องที่ปลิวไปก็จะให้ช่างมาใส่หลังจากติดต่อช่างเสร็จไปเเล้ว แต่ คนที่ขึ้นไปดูมันไม่ใช่นะสิ พ่อปวดขามาก (ผมคิดว่าคงจะเป็นเหมือนกับเวลาที่คนเราเจอเหตุการ์ณอันตรายก็จะมีเเรงมหาศาลแต่หลังจากนั่นร่างกายคงรับไม่ไหว) ปวดขาได้ซัก 2 วันผ่านไปพ่อบอกว่าเจ็บมากๆ ผมเลยพาไปโรงพยาบาลในอำเภอนอกจังหวัด ก็ตรงเช็คเอ็กซเรย์ไปหมอเขาก็บอกว่าไม่เป็นอะไรแค่ข้อเท้าอักเสบเเละให้ยามา หลังจากนั้น ผมพาพ่อกลับบ้านไปพักฟื้น 2 วันปรากฏว่า เท้าแกบวมมากเเละแกก็บอกว่าเจ็บ ก็รีบไปหาหมอ หมอก็เลยเจาะเลือดแกไปตรวจพบว่าแกติดเชื้อเเบคทีเรียในเลือด รึป่าวนะผมฟังไม่ชัด แล้วก็เกลือเเร่ในเลือดต่ำเพราะกินยาความดันแพงสีม่วงๆนั่นละผลข้างเคียงก็ประมาณนี้ ก็เลยให้พักฟื้นที่โรงพยายบาลในอำเภอห้องพิเศษก็เต็มครับ ก็เลยได้นอนห้องสามัญไป ผมก็นอนเฝ้าที่พื้นนั่นแหละ อีก วันต่อมาห้องพิเศษว่างผมก็ให้พ่อไปอยู่ แกก็ได้รับเกลือเเร่และยา ตลอด 2 คืน 3 วัน
______________________________________________________________________________________________________________
วันที่ 3 พ่อปวดมาก (ผมคิดว่ามันต้องเป็นขาที่พ่อเคยผ่าตัดเเน่ๆแต่ผมไม่รู้ว่าเป็นอะไร) พ่อเลยบอกแพทย์ แพทย์จึงทำเรื่องส่งตัวไปที่โรงพยายบาลที่กำลังจะพูดถึงในเชียงรายเนี้ยเเหละ อันด้วยสาเหตุ อุปกรณ์และบุคลากรไม่เพียงพอ โอเคผมเลยปรึกษาแม่ จึงได้ขอสรุปว่าจะให้คุณพ่อไปนอนที่ รพ นั้น วันนั้นผมติดเรียนพิเศษ จึงวานให้น้าของผมไปช่วยส่งคุณพ่อที่โรงพยายบาลแห่งนั้น ผมก็ว่างใจไปเพราะน้าแกมีประสบการ์ณเยอะมาก (เวลา 8.30-9.00 น)
______________________________________________________________________________________________________________
หลังจากที่ผมกลับจากเรียนพิเศษผมจึงรีบโทรถามคุณพ่อ #จุดพีคอยู่ตรงนี้แหละครับ
ผมถามไปว่าพ่อเป็นไงมั้ง แกบอกว่า ยังไม่ได้ทำไรเลยลูก WTFFFFFF !!!! พ่อถึงตั้งแต่เที่ยงแต่ตอนนี้ผมกลับจากเรียนพิเศษ เกือบ 4 โมง แกยังไม่ได้รับตรวจ (คิดดูสภาพคนเจ็บเเล้วต้องทนนั่นละครับ) ผมกับแม่จึงรีบไปหาพ่อ 90 โล พอไปถึงประมาณ 17.00 จะถึง 18.00 น. เรื่องก็เสร็จไปเเล้วครับได้ยาอะไรกลับแต่มันไม่ใช่เเบบนั้นครับ ผมถามพ่อว่าทำไมถึงช้าแบบนี้ แกบอกกับผมแบบนี้ครับ
#แกถูกย้ายมาตั้งแต่เที่ยงก็จริงแต่หลังจากมาถึงพยายบาลได้นำตัวแกไปที่ห้องศัลยกรรม
#หลังจากที่พ่อถูกย้ายมาที่ห้องกระดูก ผมก็ไม่ทราบหรอกนะว่าเป็นยังไงพ่อผมบอกมาแบบนี้ มีแพทย์หรือพยายบาลนี้แหละ มาตรวจทางกายภาพ x-rey ก็จิ้มๆขาพ่อดูเเล้วก็พูดว่า ลุงๆนี้มันไม่เป็นอะไรหรอกเเล้วนอนไม่ได้นะลุงมันไม่ได้เป็นอะไรมาก (AHHHHH shit เริ่มหัวร้อน !!) แล้วก็ทำเรื่องให้ยาคลายเส้นแก้ปวดอะไรประมาณนี้
คือมาตั้งไกลเพื่อมาตรวจอะไรแบบนี้หรอ ????
คือผมต้องการให้ตรวจเยอะกว่านี้แบบนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับที่อำเภอเลยหน่ะสิ !!
คนไข้ก็ปวดขามากกกกกกกก
หลังจากที่เกิดเหตุการ์ณนี้ ผมจึงพาคุณพ่อกลับบ้านทั้งๆที่หัวร้อนนั่นแหละ เเวะซื้อพิซซ่าให้น้อง
พอนอนที่บ้าน ได้ 1 คืน เช้ามาพ่อปวดอีกเเล้ว ปวดมากกว่าทุกครั้งจึงประสานงานมูลนิธิปู่อินทร์เพื่อมารับตัวคุณพ่อไปส่งที่โรงพยาบาลเอกชนในตัวเมืองเชียงใหม่
รวดเร็วครับ ตรวจหลายๆอย่างพบว่าคุณพ่อเป็น เลือดคลั่ง จึงจะทำการผ่าตัดเเล้วได้นอนที่โรงพยาบาลที่เชียงใหม่ ไม่ทราบเวลาพักฟื้น
ปิดท้าย
ที่ผมมาพูดในนี้ก็คือการปล่อยละเลยของโรงพยายบาลนำมาซึ่งความสูญเสียนะครับคนใช้บริการเยอะก็จริงแต่ความผิดพลาดที่สลับคนไข้ผมว่ามันไม่น่าจะเกิดขึ้นนะครับ การตรวจผมยอมรับว่าก็ดีในขั้นหนึ่งแต่ควรจะให้ละเอียดกว่านี้ #เรื่องคิวการใช้บริการหลายคนที่อ่านคงจะรู้นะครับว่าสลับคนไข้เเล้วปล่อยไว้นี้นานเกินไปทั้งๆที่พ่อควรจะได้คิวตั้งนานเเล้ว
ฝากกรณีของพ่อผมให้เป็นตัวอย่างด้วยครับหวังว่าคงจะไม่เกิดเรื่องแบบบนี้กับคนอื่น เพราะบางคนอาจจะเป็นหนักกว่าพ่อผมก็ได้ใครจะรู้ หลายโรงพยาบาลก็เช่นกัน ^ ^
#ขอบคุณที่อ่านครับผม