เหตุเกิด...
ณ จุดนี้ คือ เพื่อนของเราที่เรียนด้วยกัน แต่ไม่ถึงขั้นสนิทกันมาก และยังทำงานในบริษัทเดียวกันอีก เหตุมันเกิดจากการที่เพื่อนของเราเริ่มที่จะคุยโทรศัพท์บ่อยมากขึ้น จนผิดสังเกต ซึ่งระยะเวลาที่คุยกับผู้ชายคนอื่นประมาณ2 เดือน เพื่อนของเราจึงตัดสินใจที่จะเลิกกับแฟนที่คบและอยู่กินด้วยกันมา ซึ่งเพื่อนเราเคยมีคุยๆกับผู้ชายคนอื่นมาอยู่บ้าง แต่ครั้งนี้เพื่อนเลิกจบความสัมพันธ์กับแฟน แต่ตัวของผู้ชายที่เป็นแฟนเพื่อนเราไม่อยากเลิก จึงทำให้ค้างคากับความสัมพันธ์ ตัวของเพื่อนเราเลือกที่จะย้ายไปอยู่บ้านของพ่อ แต่หลังเลิกงานตัวผู้ชายที่เป็นแฟนเพื่อนเรายังมารับเพื่อไปส่งที่บ้านของพ่อแฟน ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นตัวเพื่อนของเราไม่ได้มีการเล่าให้ฟังแต่อย่างนั้น แต่เราสังเกตและรู้สึกได้ ตัวเราเองไม่ได้พูดหรือสอบถามถึงปัญหานั้น เลือกที่จะอยู่เฉยๆ ทำตัวเหมือนไม่รู้เรื่องราว แต่เหตุการณ์มันไม่จบ เพราะตัวผู้ชายที่เป็นแฟนของเพื่อนเราเลือกที่โทรมาหาเรา เพื่อสอบถามว่าเพื่อนเราคุยกับใครบ้าง มีใครมายุ่งด้วยหรือเปล่า ซึ่ง ณ จุดนี้เราอึดอัดมาก จะพูดหรือบอกก็ไม่ได้ เราไม่รู้จะทำตัวอย่างไง เราปฎิเสธที่ไม่รับสาย เค้าก็จะไลน์มาถาม ซึ่งทำให้เราทำตัวไม่ถูก เราเป็นคนกลางที่เพื่อนไม่ได้เล่าปัญหาในการเลิกกับแฟน เราเคยคิดว่าเราควรจะพูดและเล่าเรื่องราวที่เราเห็นจะได้จบๆกันไป ซึ่งเราคิดว่าเราไม่ควรเข้าไปยุ่งในปัญหา เพราะมันอาจจะบานปลายเพราะตัวเรา เรารู้สึกลำบากใจมากๆ คนหนึ่งก็เพื่อน อีกคนหนึ่งที่เป็นแฟนเพื่อนที่ถูกกระทำและไม่รู้เรื่องราว ซึ่งเราเข้าใจและเห็นใจผู้ชายที่เป็นแฟนเพื่อนเรามาก เพราะการที่ผู้ชายคนหนึ่งกล้าที่จะโทรมาถาม คงต้องทุกข์ใจมาก จนอยากหาคำตอบที่เค้าไม่รู้ ซึ่งปัญหาที่เพื่อนจะเลิกกับแฟนนี้ ไม่มีใครรู้ในที่ทำงานค่ะ แต่ทุกคนคงสังเกตและรู้ว่าอะไรเป็นอะไร แต่ไม่มีใครพูดใครถาม เพราะเป็นเรื่องส่วนตัวของเค้า ส่วนตัวเราเอง ก็ถือว่าเป็นคนนอกที่ไม่รู้เรื่องราว ทั้งๆที่เราบอกไปแล้วว่าทำไมไม่ลองคุยกัน ลองถามกันเอง ซึ่งเราคิดว่าคนเราถ้าแฟนนอกใจเราจะรู้สึกได้ เราก็เข้าใจนะค่ะว่าการที่ไม่รู้ตัวอยู่ดีๆแฟนมาบอกว่าเลิกกันเถอะ เราคบกันไปไม่มีอนาคต แต่ความจริง คือ มีคนอื่นเค้าก็คงอยากได้คำตอบใในเรื่องนี้ แต่เราไม่รู้จริงๆ ว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร เราเหมือนมีสถานะเป็นฝ่ายปกครองเลย ให้ความรู้สึกว่าผูปกครองโทรมาสอบถามว่าลูกหลาน ทำอะไรอยู่ เหมือนต้องรายงานพฤติกรรมตลอด
เราควรทำตัวอย่างไงดี?
เมื่อแฟนของเพื่อน โทรมาถามว่าแฟนเค้านอกใจหรือเปล่า?
ณ จุดนี้ คือ เพื่อนของเราที่เรียนด้วยกัน แต่ไม่ถึงขั้นสนิทกันมาก และยังทำงานในบริษัทเดียวกันอีก เหตุมันเกิดจากการที่เพื่อนของเราเริ่มที่จะคุยโทรศัพท์บ่อยมากขึ้น จนผิดสังเกต ซึ่งระยะเวลาที่คุยกับผู้ชายคนอื่นประมาณ2 เดือน เพื่อนของเราจึงตัดสินใจที่จะเลิกกับแฟนที่คบและอยู่กินด้วยกันมา ซึ่งเพื่อนเราเคยมีคุยๆกับผู้ชายคนอื่นมาอยู่บ้าง แต่ครั้งนี้เพื่อนเลิกจบความสัมพันธ์กับแฟน แต่ตัวของผู้ชายที่เป็นแฟนเพื่อนเราไม่อยากเลิก จึงทำให้ค้างคากับความสัมพันธ์ ตัวของเพื่อนเราเลือกที่จะย้ายไปอยู่บ้านของพ่อ แต่หลังเลิกงานตัวผู้ชายที่เป็นแฟนเพื่อนเรายังมารับเพื่อไปส่งที่บ้านของพ่อแฟน ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นตัวเพื่อนของเราไม่ได้มีการเล่าให้ฟังแต่อย่างนั้น แต่เราสังเกตและรู้สึกได้ ตัวเราเองไม่ได้พูดหรือสอบถามถึงปัญหานั้น เลือกที่จะอยู่เฉยๆ ทำตัวเหมือนไม่รู้เรื่องราว แต่เหตุการณ์มันไม่จบ เพราะตัวผู้ชายที่เป็นแฟนของเพื่อนเราเลือกที่โทรมาหาเรา เพื่อสอบถามว่าเพื่อนเราคุยกับใครบ้าง มีใครมายุ่งด้วยหรือเปล่า ซึ่ง ณ จุดนี้เราอึดอัดมาก จะพูดหรือบอกก็ไม่ได้ เราไม่รู้จะทำตัวอย่างไง เราปฎิเสธที่ไม่รับสาย เค้าก็จะไลน์มาถาม ซึ่งทำให้เราทำตัวไม่ถูก เราเป็นคนกลางที่เพื่อนไม่ได้เล่าปัญหาในการเลิกกับแฟน เราเคยคิดว่าเราควรจะพูดและเล่าเรื่องราวที่เราเห็นจะได้จบๆกันไป ซึ่งเราคิดว่าเราไม่ควรเข้าไปยุ่งในปัญหา เพราะมันอาจจะบานปลายเพราะตัวเรา เรารู้สึกลำบากใจมากๆ คนหนึ่งก็เพื่อน อีกคนหนึ่งที่เป็นแฟนเพื่อนที่ถูกกระทำและไม่รู้เรื่องราว ซึ่งเราเข้าใจและเห็นใจผู้ชายที่เป็นแฟนเพื่อนเรามาก เพราะการที่ผู้ชายคนหนึ่งกล้าที่จะโทรมาถาม คงต้องทุกข์ใจมาก จนอยากหาคำตอบที่เค้าไม่รู้ ซึ่งปัญหาที่เพื่อนจะเลิกกับแฟนนี้ ไม่มีใครรู้ในที่ทำงานค่ะ แต่ทุกคนคงสังเกตและรู้ว่าอะไรเป็นอะไร แต่ไม่มีใครพูดใครถาม เพราะเป็นเรื่องส่วนตัวของเค้า ส่วนตัวเราเอง ก็ถือว่าเป็นคนนอกที่ไม่รู้เรื่องราว ทั้งๆที่เราบอกไปแล้วว่าทำไมไม่ลองคุยกัน ลองถามกันเอง ซึ่งเราคิดว่าคนเราถ้าแฟนนอกใจเราจะรู้สึกได้ เราก็เข้าใจนะค่ะว่าการที่ไม่รู้ตัวอยู่ดีๆแฟนมาบอกว่าเลิกกันเถอะ เราคบกันไปไม่มีอนาคต แต่ความจริง คือ มีคนอื่นเค้าก็คงอยากได้คำตอบใในเรื่องนี้ แต่เราไม่รู้จริงๆ ว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร เราเหมือนมีสถานะเป็นฝ่ายปกครองเลย ให้ความรู้สึกว่าผูปกครองโทรมาสอบถามว่าลูกหลาน ทำอะไรอยู่ เหมือนต้องรายงานพฤติกรรมตลอด เราควรทำตัวอย่างไงดี?