กระทู้ฝากถึงน้องๆมัธยมที่คิดจะไปเรียนต่อเมืองนอก : การเตรียมตัว

ในช่วงจะเข้ากลางปีแบบนี้น้องๆคงจะเปิดเทอมกันหมดแล้ว กระทู้วันนี้ขออนุญาติพูดถึงเรื่องการไปเรียนต่อที่เมืองนอกในระดับปริญญาตรีก่อนละกัน เชื่อว่าน้องๆหลายคนคงเคยเห็นป้ายทุนการศึกษาหรือทุนไปเรียนต่อเมืองนอกเมืองนาที่แปะตามห้องแนะแนวมากันบ้างแล้ว วันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องการเตรียมตัว+เตรียมใจ pompom ไปเรียนต่อเมืองนอกกันค่ะ

       เตรียมใจ>>> พูดเลยว่าเป็นอะไรที่ยากกว่าเตรียมตัวมากกก ถ้ายิ่งใครเป็นเหมือนเจ้าของกระทู้ที่เป็นคนติดบ้านด้วยแล้วเนี่ย การเตรียมใจเป็นเรื่องยากมากกกกกกก  ติดพ่อติดแม่และติดหมาด้วยค่ะะะ 555555 มาเข้าเรื่องกันดีกว่า อย่างแรกของการเตรียมใจคือ

        - เข้มแข็งค่ะ การเข้มแข็งจะช่วยให้เราผ่านเหตุการณ์ต่างๆที่เลวร้ายไปได้

        -อย่างที่สองเลยคือเวลา เวลาเป็นสิ่งสำคัญในการเตรียมใจมากค่ะ อย่างเจ้าของกระทู้โชคดีที่รู้ว่าได้ไปเรียนก่อนไปประมาน6-7เดือน เลยโชคดีมีเวลาเตรียมใจ เราเลือกที่จะใช้เวลากับที่บ้านให้มากมากแล้วก้คิดไว้เสมอว่าเพื่ออนาคตอันสดใสของเราเองค่ะ เจ้าของกระทู้จะมีความคิดว่าชีวิตเรา เราเลือกเอง คิดแล้วก้ฮึดขึ้นมาทันทีเลยค่ะไปค่ะคิดวนไปค่ะ 55555 ช่วงแรกๆอาจจะมีช่วงที่downลงไปบ้างค่ะ อย่างที่บอกคือต้องใช้เวลาค่ะ  

        -ต่อไปคือ อดทน การไปเรียนเมืองนอกไม่ได้ง่ายเลยนะคะ การใช้ชีวิตที่ไม่คุ้นเคยบวกกับภาษาที่ไม่ถนัด เพื่อนใหม่ที่ไม่รู้จะดีมั้ย อีกหลายอย่าง ซึ่งต้องใช้ความอดทนอย่างเดียวค่ะ ไปอยู่ที่นู่นแล้ว เราอ่อนแอไม่ได้ค่ะ เราต้องถีบตัวเองให้แกร่ง สตรอง สตรอง สตรองงงงงง เท่าน้านนนน จะไม่มีคนคอยปลอบเราเหมือนตอนอยู่ที่นี่ ไม่มีคนพูดภาษาเดียวกันกับเรา คิดแล้วก็เศร้านะ  แต่ถึงตอนนั้นเราเศร้าแล้วได้ไรขึ้นมาค่ะ ช่วงเวลานี้คืออดทนเท่านั้น อดทนค่ะพอเวลาผ่านไปเราจะปรับตัวกับมันได้ ท่องไว้ค่ะ สตรอง!
-สุดท้ายคือความรับผิดชอบค่ะ อย่างที่บอกว่าเรากำหนดชีวิตของเราเองค่ะ ฉะนั้นเราต้องรับผิดชอบด้วยตัวเอง รับผิดชอบทางเดินที่เราเลือกเอง ไม่ว่าจะออกมาเป็นยังไงเราเลือกเองงงงงงง ท่องวนไปค่ะะ

       รู้จักการเตรียมใจแบบฉบับของจขกท.ไปแล้ว มาดูการเตรียมตัวบ้างค่ะ

        -ก่อนอื่นต้องศึกษาข้อมูล ภูมิอากาศ สภาพความเป็นอยู่ อาหารการกิน นิสัยคนที่นั่น ให้แน่นปึ้กในระดับที่พอเราไปที่นั่นแล้วจะไม่ไปทำเปิ่นใส่เขา ดังคำสุภาษิตที่ว่า เราเข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตามไง

        -เสื้อผ้าของใช้ต่างๆส่วนตัว ส่วนใหญ่เตรียมไปให้พอใส่ช่วงแรกๆค่ะแล้วค่อยไปหาซื้อที่นั่นอีกที เพราะจะเหมาะกับสภาพอากาศมากกว่าของบ้านเรา
       
        -ต่อไปคือเรียน เรียนภาษาให้มากๆ ปรับเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมรอบตัวให้เป็นภาษาที่เราฝึก จะช่วยให้ไปถึงที่นั่นปรับตัวง่ายขึ้นค่ะ


ตอนนี้นึกออกเท่านี้ ถ้ามีอะไรเพิ่มเติมจะมาแก้ให้อีกทีนะคะบรัยย😆

ขออนุญาติเพิ่มเติมตามที่คห.2 บอกมานะคะ ขอบคุณมากมากค่า ><

        - เรื่องเงินทุนเราคิดว่าสำคัญมากเลยค่ะ (ไม่มีเงินก็ไม่มีจ่ายค่าเทอมค่ากินอยู่น่ะสิคะจริงมั้ย) สำหรับคนที่ทางบ้านมีเงินทุนให้ก็โชคดีไปค่ะ แต่อย่างว่าก็ไม่ใช่สำหรับทุกคนอีกใชมั้ยคะ อย่าเพิ่งเสียใจไป เดี๋ยวนี้มีทุนให้กับคนที่มีใจแต่....ทุนทรัพย์ทางบ้านไม่เอื้ออำนวยก็มีแล้วนะ อย่างในหลายประเทศ เช่น เยอรมัน จีน ฯลฯ จขกท.ได้ยินมาว่า มีทุนที่จ่ายค่าเทอม ค่ากินค่าอยู่ให้ตลอดจนเรียนจบหรือตามเงื่อนไขเค้าก็มีค่ะ
  แต่....ก็ประมาทไม่ได้ค่ะ ผปค.ก็ควรจะมีเงินสำรองไว้บ้าง ถ้าเด็กได้ทุนไปผปค. อาจจะค่อยๆเก็บเงินในระหว่างที่ลูกเรียนอยู่เผื่อฉุกเฉินก็ดีค่ะ หรือมีเงินก้อนสำรองไว้ก็ยิ่งดีใหญ่

          ปล.น้องๆที่อยากไปเรียนเมืองนอกแล้วอยากได้ทุนด้วยต้องศึกษาข้อมูลให้ดีนะคะ ระวังพวกมิจฉาชีพเดี๋ยวนี้มีเข้ามาทุกรูปแบบเลยค่ะ ต้องตรวจสอบข้อมูลก่อนตัดสินใจจ่ายหรือเซ็นเอกสารใดๆด้วยนะคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่