“พี่ สรุปว่าได้หยิบสายชาร์จโน้ตบุ๊กมามั้ย”
เป็นคำถามที่แฟนผมถามมาระหว่างเดินทางไปเกาะล้าน ใจก็หายแว้บในทันที เพราะโน้ตบุ๊กผมแบตใกล้หมดแล้วไม่ได้ชาร์จไว้ด้วยเมื่อคืนนี้กะว่าจะชาร์จตอนถึงที่พัก พอโดนถามเลยนึกขึ้นได้ทันทีว่าลืมหยิบสายชาร์จจากโซฟาตอนขนของขึ้นรถ ประเด็นหลักมันอยู่ที่ว่า เจ้าตัวเล็กมันจะไม่อยู่นิ่งๆ ถ้าไม่ได้ดูหนังที่ชอบ ปกติเวลาแม่เขาจะป้อนข้าว จะต้องเป็นหนังให้ดูถึงจะนิ่งได้ ถ้าไปต่างจังหวัดก็จะใช้การเปิดผ่านโน้ตบุ๊กแทน ผมเลยจะ Rip หนังเป็นไฟล์ใส่ USB ไว้ แล้วเสียบเพื่อเปิดให้เขาดู ทีนี้พอนึกได้ว่าลืมเอามา จะกลับไปเอาก็มาไกลแล้ว เลยเปลี่ยนแผนแวะห้างไปหาซื้อสายชาร์จใหม่ก่อนละกันไม่อยากมีดราม่า TT^TT
ผมเลยแวะที่ห้างแห่งหนึ่ง เพื่อเดินหาซื้อสายชาร์จ แต่ก็หาซื้อไม่ได้อีก เดินไปเดินมาก็ไปเจอเข้ากับกล่อง GMM Z HD Slim ราคา 890 บาท น้องคนขายบอกว่า สามารถใช้อ่านไฟล์หนังได้  (ซึ่งถูกกว่าสายชาร์จโน้ตบุ๊คอีก) คิดไปคิดมาแบบไวๆเอาวะ ตัดสินใจซื้อมาเลยดีกว่า


กล่องอาจจะดูใหญ่ แต่แกะออกมาแล้ว ตัวกล่องจะมีขนาดเล็กนิดเดียวครับ โดยในกล่องจะประกอบไปด้วย
-ตัวกล่อง HD Slim
-สาย HDMI
-สาย AV
-รีโมท
-อแดปเตอร์
-ถ่าน AAA 2 ก้อน
-คู่มือ
-ใบรับประกัน


พอไปถึงที่พักบนเกาะล้าน ก็ลองการใช้งานเลยครับ  ดีว่ากล่องนี้ต่อไม่ยากครับ แค่เสียบสาย HDMI จากกล่องเข้าโทรทัศน์ แล้วเสียบสายอแดปเตอร์เข้ากล่อง เอา USB เสียบเข้าด้านหน้าของกล่อง หลังเปิดเครื่องเรียบร้อยแล้ว กล่องจะ Setup แล้วขึ้นว่าไม่มีสัญญาณ จากนั้นก็กด USB บนรีโมท หน้าจอก็จะให้เลือกไฟล์เพื่อทำการเล่น เท่านี้ก็เปิดไฟล์หนังได้ตามปกติแล้วครับ ซึ่งปกติผมจะแปลงไฟล์จากแผ่นให้เป็น MKV หรือไม่ก็ Mpeg2 (แล้วแต่สถานการณ์) กล่อง HD Slim ก็สามารถเล่นได้ไหลลื่นตามปกติครับ


กล่องนี้เล่นได้เฉพาะระบบเสียงไม่เกิน 2.0 ถ้าเล่นไฟล์ที่เป็นเสียง 5.1 จะไม่มีเสียงออกครับ โชคดีที่ไฟล์ที่ผมแปลงมาเป็นเสียง  Stereo ก็เลยดูได้สบาย หลังกลับมาจากเกาะล้าน ติดใจกล่องนี้เลยตัดสินใจเปลี่ยนกล่องในห้องตัดผ้าของแม่ จากกล่องเดิมคือ GMM Z Smart ที่ใช้งานมาตั้งแต่ยูโรครั้งก่อน จริงๆตอนนี้ก็ยังใช้งานได้ครับ (แทบไม่เคยปิดเครื่องเลย) แต่เมื่อมีเครื่องใหม่มีแล้ว ก็เปลี่ยนใหม่ซะเลย (ห้องผมใช้กล่องทรูอยู่ ก็เลยไม่ได้เปลี่ยนในห้อง)


เปรียบเทียบขนาดแล้ว เจ้า HD Slim ตัวจะเบาบางกว่า Smart มากมายเลยครับ เลยเอามาวางบนหลังทีวีได้โดยไม่ต้องห่วงว่าจะหล่น โดยโทรทัศน์ในห้องตัดผ้า จะเป็นแบบ CRT ที่มีเฉพาะช่องเสียบแบบ AV หรือสาย RCA เท่านั้น แต่ไม่มีปัญหาครับ เพราะในกล่องที่ซื้อมา มีแถมสายแบบ RCA มาให้เรียบร้อย การติดตั้งก็ไม่ยาก ดึงสายจากกล่องเดิมออก เอาสายสีขาวที่ต่อจากจานดาวเทียม (ที่บ้านใช้ C Band) มาเสียบเข้าช่อง LNB IN เสียบสาย AV เข้าช่อง  AV แล้วเสียบอีกด้านเข้าโทรทัศน์ แล้วเสียบสายอแดปเตอร์ จากนั้นเสียบปลั๊กครับ แล้วก็รอ หลังเสียบปลั๊ก กล่องก็ขึ้น Logo แบบนี้


กล่องทำการโหลดซอฟท์แวร์ใหม่ผ่าน OTA

รอซัก 5 นาที เมื่อขึ้นหน้าโฆษณาแบบนี้ แสดงว่าอัพเดทเรียบร้อยครับ


ลองเช็คซอฟท์แวร์ช่อง ก็แปลกตาหน่อย เพราะปกติของกล่อง HD จะมีแจ้งช่องรายการเวอร์ชั่นเพื่อบอกว่าตัวซอฟท์แวร์ที่ใช้ตั้งค่าคลื่นเป็นตัวล่าสุดหรือยัง แต่ตัวนี้ไม่มี แอบไปถามน้องแอดมินเพจ GMM Z มา น้องบอกว่าเค้าเปลี่ยนเป็นตัว Ddf แทน เพราะมีการเปลี่ยนตัวซอฟท์แวร์ใหม่ครับ (ตอนที่ผมถ่าย ตัว Ddf เป็น 8 อยู่ แต่ตอนนี้น่าจะเป็น 9 แล้วครับ)

สัญญาณทั้งช่อง HD และ SD ก็ขึ้นตามปกติ (ช่วงนี้สัญญาณตกนิดหน่อย เพราะบนจาน มีลูกนกมาทำรังอยู่ 2 ตัว)

มีการแบ่งประเภทช่องบนรีโมทเหมือนรุ่นก่อนๆ


โดยสรุปแล้ว สิ่งที่ผมชอบบนกล่อง GMM Z HD Slim ก็คือ ขนาดที่เล็ก สะดวกกับการพกไปไหนมาไหนได้ง่ายดาย ราคาถูก อุปกรณ์ครบ และคุณสมบัติการใช้งานที่เทียบเท่ากับรุ่นเดิม แต่..ที่ไม่ถูกใจเท่าไหร่ ก็น่าจะเป็นที่ไม่มีหน้าจอ LCD บอกเลขช่องที่เปิดอยู่ และไม่สามารถเปิดปิด, เปลี่ยนช่อง, เพิ่มลดเสียงบนกล่องได้ ต้องใช้งานผ่านรีโมททั้งหมด ก็เลยให้ใช้งานสะดวกน้อยลงไปนิด แต่ก็พอเข้าใจได้ว่าต้องการให้มีขนาดเล็ก ก็เลยทำให้ต้องตัด Function พวกนี้ออก แต่ถ้าเทียบกับราคา 890 บาท สำหรับผมแล้วถือว่าคุ้มค่าพอสมควรครับ หวังว่ารีวิวสั้นๆนี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆที่กำลังมองหากล่องที่ต่อง่ายๆใช้งานไม่ยากอยู่บ้างนะครับ ขอบคุณครับ