"กลิ่นหึ่ง" โครงการขายซาก ชีนุก 6 ลำ. บ.ซื้อ 420 ล้าน ขายต่อทันที 550 ล้าน

ที่มา http://www.isranews.org/investigative/investigate-procure/item/47127-holicopter_61942.html

เปิดปมเงื่อนโครงการขายซาก เฮลิคอปเตอร์ ชีนุก 6 ลำ 420 ล. ทัพบก พบ ‘บ.ผู้ชนะ’ ร่างสัญญาขายงานต่อ‘ตัวแทน’สหรัฐ ทันที 550 ล. หลังทราบผล 1 วัน กะฟัน‘ส่วนต่าง’ 130 ล. ก่อนถูกประกวดราคารอบ 2 ร้อง บิ๊กตู่-สตง.



กรณีกองทัพบกโดยกรมการขนส่งทหารบกได้ประมูลขายซากเฮลิคอปเตอร์ลำเลียง แบบ 47
(CH-47D-ชีนุก) จำนวน 6 ลำ พร้อมชิ้นส่วน เครื่องมือซ่อมบำรุง และผลิตภัณฑ์ภาคพื้น วงเงิน 420 ล้านบาท และถูกบริษัท ไทย แอร์โรสเปซ อินดัสทรีส์ จำกัด ร้องเรียนว่า มีราคาต่ำกว่าปกติหรือไม่ เนื่องจากบริษัทฯดังกล่าวแสดงเจตจำนงเสนอซื้อในวงเงิน 600 ล้านบาท ต่อมา 12 เม.ย.59 กองทัพบกได้จัดประกวดราคาใหม่ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ แต่ถูกตั้งข้อสังเกตว่าเกิดความเสียหายแล้วหรือไม่ ตามข่าวก่อนหน้านี้ (อ่านประกอบ:ยื่นบิ๊กตู่-สตง. สอบปมกองทัพขาย ฮ.ชีนุก 420 ล. โยงปลด‘จ่าทหาร’)

ล่าสุดพบว่า ในการซื้อขายซากเฮลิคอปเตอร์ลำเลียง ชีนุก ครั้งแรก เอกชนผู้ชนะประมูล คือ บริษัท ธนนิพัฒน์ยนต์ตระการ จำกัด ผู้ประกอบการรับซื้อของเก่าใน จ.นครปฐม และหลังประมูลเพียง 1 วัน เอกชนรายดังกล่าว ได้ติดต่อขาย ซากเฮลิคอปเตอร์ลำเลียง ชีนุก ดังกล่าวให้แก่ บริษัท ไทย แอร์โรสเปซ อินดัสทรีส์ จำกัด (ผู้ไม่ร่วมประมูล) ในวงเงิน 550 ล้านบาท เท่ากับจะมี ‘ส่วนต่าง’ทันที 130 ล้านบาท กล่าวคือ

เมื่อวันที่ 24 ก.พ.59 หลังจากวันประมูล 1 วัน กรมการขนส่งทหารบก ได้ทำหนังสือแจ้งผลการประมูลต่อกรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนนิพัฒน์ยนต์ตระการ จำกัด และเตรียมลงนามสัญญาขาย กับกองทัพบก (ดูเอกสาร)

ในวันเดียวกันผู้บริหาร บริษัท ธนนิพัฒน์ยนต์ตระการ จำกัด ได้ติดต่อไปยังตัวแทนผู้ประสานงาน บริษัท ไทย แอร์โรสเปซ อินดัสทรีส์ จำกัด เพื่อขายซากเฮลิคอปเตอร์ลำเลียง 6 ลำ ในวงเงิน 550 ล้านบาท

ทั้งนี้ ร่างหนังสือสัญญาจะซื้อจะขายงานโครงการขายซากเฮลิคอปเตอร์ลำเลียแบบ 47 ของ
กองทัพบก ถูกระบุว่าทำขึ้นเมื่อ วันที่ 25 ก.พ.59 ณ บริษัท ธนนิพัฒน์ยนต์ตระการ จำกัด เลขที่ 1378 ถ.เพชรเกษม ต.ลำพยา อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม วงเงิน 550 ล้านบาท มีนายนิติธร วรรัฐกฤติกร ตัวแทนบริษัท ธนนิพัฒน์ยนต์ตระการ จำกัด ‘ผู้ขาย’ และ นายธนกฤต อัศวลงกรณ์ เป็นตัวแทน บริษัท ไทย แอร์โรสเปซ อินดัสทรีส์ จำกัด ‘ผู้ซื้อ’


จ.ส.ต.คงศักดิ์ คงคามาศ ตัวแทนผู้ประสานงาน บริษัท ไทย แอร์โรสเปซ อินดัสทรีส์ จำกัด เปิดเผยว่า ได้รับการติดต่อจากเจ้าของบริษัท ธนนิพัฒน์ยนต์ตระการ จำกัด และเตรียมทำสัญญาจะซื้อจะขายจริง แต่ทางบริษัทฯไม่ได้ตกลง เพราะไม่ได้เข้าร่วมเสนอราคา ต่อมาวันที่ 1 มี.ค.59 ทางกรมการขนส่งทหารบกได้ออกคำสั่งปลด จ.ส.อ.ธนลภย์ คงคามาศ บุตรชาย จ.ส.ต.คงศักดิ์ จึงได้ร้องเรียนขอความเป็นธรรมต่อนายกฯและหน่วยงานเกี่ยวข้อง และในการประกวดราคาใหม่ รอบ 2 ทางกองทัพบกได้ใช้ราคาที่บริษัท ธนนิพัฒน์ยนต์ตระการ จำกัด ชนะ คือ 420 ล้านบาท เป็นราคากลาง ซึ่งเห็นว่ายังต่ำว่าที่บริษัทฯเคยเสนออยู่ดี

จากการตรวจสอบข้อมูลกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าพบว่า บริษัท ธนนิพัฒน์ยนต์ตระการ จำกัด จด
ทะเบียน 12 เมษายน 2555 ทุน 3 ล้านบาท ประกอบธุรกิจ ประกอบกิจการขายปลีกของใช้แล้วหรือของเก่าในร้านค้า ที่ตั้งเลขที่ 1378 ถนนเพชรเกษม ตำบลลำพยา อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม ผู้ถือหุ้น ณ 12 กุมภาพันธ์ 2559 นางสาว กุลนาถ วรรัฐกฤติกร และ นาย นิติธร วรรัฐกฤติกร คนละ 12,000 หุ้น (40%) นาง ชมพูนุท วรรัฐกฤติกร 6,000 หุ้น (20%)

สำหรับ บริษัท ไทย แอร์โรสเปซ อินดัสทรีส์ จำกัด นั้น เป็นผู้ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์
จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผ่านศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์ สำนักปลัดนายกรัฐมนตรี (สปน.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ขอความเป็นธรรมและให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีขายซากเฮลิคอปเตอร์ลำเลียง แบบ 47 (CH-47D-ชีนุก) จำนวน 6 ลำ และ กรณี กรมการขนส่งทหารบกมีคำสั่งปลด จ.ส.อ.ธนลภย์ คงคามาศ บุตรชาย จ.ส.ต.คงศักดิ์ คงคามาศ ตัวแทนผู้ประสานงานบริษัท ไทย แอร์โรสเปซ อินดัสทรีส์ จำกัด ออกจากราชการ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 8
เค้าขอซื้อ600ล้านไม่ขาย มาประมูลได้420ล้านบอกโอเค ขายต่อไป550ล้านกับบริษัทที่เคยขอซื้อ มันประหลาดไหมค่ะ
ความคิดเห็นที่ 14
จุ๊ๆอย่าเอ็ดไป ยุคนี้มันยุคคนดีครองเมือง ไปเหน็บเขามากๆเดี๋ยวโดนไล่ไปอยู่ที่อื่นนะ......
ความคิดเห็นที่ 28
วันอังคาร ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2559, 15.24 น.
tags : ซากฮ.ล.47, ขาย, สัญญา, ประกวดราคาขาย
    

24 พ.ค. 59 พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษก กองทัพบก(ทบ.)กล่าวถึงกรณีที่มีสื่อมวลชนบางสำนักได้เสนอข่าวการขายซากเฮลิคอปเตอร์ลำเลียงแบบ 47(ฮ.ล.47) ของ ทบ. จำนวน 6 ลำ โดยระบุว่ามีตัวแทนบริษัทของสหรัฐอเมริกา ยื่นร้องเรียนต่อ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขอให้ตรวจสอบและขอความเป็นธรรมในเรื่องดังกล่าวนั้นว่า ทาง ทบ.ขอชี้แจงในเรื่องดังกล่าว3 ประเด็น คือ  1. การดำเนินการของ ทบ.ต่อการขายซาก ฮ.ล.47  ทบ.มีความประสงค์ที่จะขายซากฮ.ล.47  จำนวน 6 ลำ พร้อมชิ้นส่วนเครื่องมือซ่อมบำรุงและบริภัณฑ์ภาคพื้น โดยมอบให้กรมการขนส่งทหารบก(ขส.ทบ.)ดำเนินการให้เป็นไปตามกฎระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างของทางราชการ  โดย ขส.ทบ. ได้ดำเนินการตามขั้นตอน ด้วยการแต่ตั้งคณะกรรมการกำหนดราคากลางและคณะกรรมการประกวดราคา

โดยคณะกรรมการได้กำหนดราคากลางการประมูลขายครั้งที่ 1 ไว้ที่วงเงิน 600 ล้านบาท โดยใช้ราคาสูงสุดที่เป็นราคาสืบจากผู้ประกอบการทั่วไป แต่ผลการประมูลในครั้งแรก เมื่อวันที่ 26 ก.พ. 59 มีผู้เสนอราคารายเดียวในวงเงิน 420 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าราคากลางตามที่คณะกรรมการกำหนดไว้ ทางกรมการขนส่งทหารบกจึงพิจารณาให้ยกเลิกการประกวดราคาขาย และแต่งตั้งคณะกรรมการกำหนดราคากลาง และคณะกรรมการประกวดราคาชุดที่ 2 โดยเชิญผู้สังเกตการณ์จากหลายหน่วยงาน อาทิ สำนักงบประมาณ กองทัพอากาศ และหน่วยงานในกองทัพบก ร่วมสังเกตการณ์การจัดทำราคากลาง และการประกวดราคา โดยได้กำหนดราคากลางการประมูลขายในครั้งที่ 2 ไว้ที่วงเงิน 420ล้านบาท ซึ่งเป็นราคากลางจากแหล่งข้อมูลที่อ้างอิงได้ และเป็นราคาจากผลการประมูลครั้งแรก แต่การประมูลในครั้งที่ 2 เมื่อ 12พ.ค.59 มีผู้มายื่นซองประมูลเพียงรายเดียว และไม่สามารถปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่ทางราชการกกำหนดไว้ได้ คณะกรรมการจึงยกเลิกการประกวดราคาขาย ดังนั้นในขณะนี้ กองทัพบกจึงยังมิได้มีการตกลงหรือทำสัญญาขายซากเฮลิคอปเตอร์ให้กับผู้ประกอบการใดๆ ทั้งสิ้น โดยยังคงอยู่ในกระบวนการประกวดราคาขายตามระเบียบของทางราชการ

รองโฆษก ทบ. กล่าวอีกว่าประเด็นที่ 2. กองทัพบกดำเนินการขายซากเฮลิคอปเตอร์ ตามระเบียบของทางราชการ มิได้เป็นไปตามการกล่าวอ้างจากตัวแทนบริษัทของสหรัฐอเมริกา ว่าไม่ได้รับความสะดวกจากทางราชการในการเข้ารวมประกวดราคาขายจากการที่ตัวแทน บริษัท ไทย แอร์โรสแปซ อินดัสทรีส์ จำกัด (จ.ส.ต.พงษ์ศักดิ์  คงคามาศ ปัจจุบันไม่ได้รับราชการทหารแล้ว) ระบุว่าทางบริษัทฯ ได้เคยมีหนังสือแสดงเจตจำนงขอซื้อเฮลิคอปเตอร์ในราคา600ล้านบาท ก่อนที่ทางราชการจะจัดการประกวดราคา ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดข้อจำกัดกับทางบริษัททำให้ไม่สามารถเข้าร่วมการประกวดราคาในครั้งที่ 1 และ 2 ได้ เพราะเกรงจะผิดต่อกฎหมายการสมยอมราคากันนั้น กองทัพบกขอเรียนว่า การที่บริษัทมายื่นหนังสือต่อทางราชการแสดงเจตจำนงขอซื้อโดยตรง โดยไม่ผ่านกระบวนการแข่งขันการขายทอดตลาด เป็นการปฏิบัติที่ผิดระเบียบสำนักนายกฯ ว่าด้วยการพัสดุ ทางราชการไม่สามารถนำมาดำเนินการใดๆได้ เป็นเพียงหนังสือที่ทางราชการรับทราบว่ามีผู้สนใจซื้อเท่านั้น ซึ่งบริษัทจะต้องเข้าสู่กระบวนการประกวดราคาขายตามที่ทางราชการกำหนดขึ้น จึงจะเป็นการดำเนินการที่ถูกต้อง ซึ่งเจ้าหน้าที่พัสดุได้ให้คำแนะนำแล้วว่า บริษัทสามารถเข้าร่วมประมูลได้ ดังนั้นการที่บริษัทไม่เข้าร่วมประมูลน่าจะเป็นเพราะความไม่พร้อมของผู้ประกอบการเอง ไม่เกี่ยวข้องกับทางราชการ

และประเด็นที่ 3 การที่ ขส.ทบ.ปลดกำลังพล ซึ่งกระทำผิดจากการขาดหนีราชการในเวลาประจำการนั้น ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการขายซากเฮลิคอปเตอร์ตามที่ผู้แทนบริษัทกล่าวอ้าง  จากการที่มีความพยายามที่จะเชื่อมโยงให้เข้าใจผิดว่า การที่บริษัท ไทย แอร์โรสแปซ อินดัสทรีส์ จำกัด ไม่เข้าร่วมในการประกวดราคา เป็นสาเหตุทำให้ จ.ส.อ.ธนลภย์ คงคามาศ สังกัด กรมการขนส่งทหารบก ซึ่งเป็นบุตรชายของผู้แทนบริษัทฯ ถูกปลดออกจากราชการ นั้น  ขอเรียนว่ากรณีดังกล่าวเป็นเหตุการณ์คนละเรื่องและไม่มีความเกี่ยวโยงกัน การพิจารณาปลดกำลังพล หน่วยทหารจะต้องดำเนินการตามขั้นตอน ตั้งแต่เมื่อกำลังพลกระทำความผิด มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนและเสนอบทลงโทษตามระเบียบของทางราชการจนถึงขั้นตอนการเสนอปลดและถอดยศ

สำหรับกรณี จ.ส.อ.ธนลภย์ฯ หน่วยต้นสังกัดได้ดำเนินการตามขั้นตอนมาตั้งแต่ปี 2557 โดยกำลังพลดังกล่าวมีพฤติกรรมขาดหนีราชการหลายครั้งมาอย่างต่อเนื่อง และไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา หน่วยได้พิจารณาลงโทษ ลงทัณฑ์ ขัง จำขัง ตามขั้นตอนของการพิจารณาโทษมาตามลำดับ โดยล่าสุด เมื่อ 1 มี.ค.59 กรมการขนส่งทหารบกจึงได้มีคำสั่งให้ปลดออกจากราชการฐานหนีราชการในเวลาประจำการ เป็นนายสิบกองหนุนไม่มีเบี้ยหวัด ตั้งแต่ 23 ต.ค. 58  และต่อมาได้มีการรายงานขอถอดยศทหารตามระเบียบของกระทรวงกลาโหม เมื่อ 1 เม.ย.59หากพิจารณาตามขั้นตอนที่ได้กล่าวมา จะเห็นได้ว่าหน่วยต้นสังกัดได้ดำเนินการตามระเบียบของทางราชการ อย่างครบถ้วน มิได้มีการกระทำใดๆ ที่เกินกว่าขอบเขตหรือกลั่นแกล้งให้เกิดความเสียหายต่อกำลังพล และเรื่องดังกล่าวก็ไม่ได้มีความเกี่ยวโยงกับการขายซากเฮลิคอปเตอร์แต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม ทบ.ขอยืนยันว่าการขายซาก ฮ.ล.47  ในครั้งนี้ เป็นการบริหารจัดการยุทโธปกรณ์ที่ปลดประจำการแล้วให้มีมูลค่าและก่อให้เกิดประโยชน์กับทางราชการ ในการจัดประมูลกองทัพบก ได้เปิดโอกาสอย่างเท่าเทียมกัน ให้ผู้สนใจเข้าร่วม และดำเนินการอย่างยุติธรรม  โปร่งใส เพื่อให้ได้ราคาประมูลที่เหมาะสมที่สุดกับสภาพยุทโธปกรณ์ โดยยึดประโยชน์ของทางราชการเป็นหลัก
ความคิดเห็นที่ 13
.....ภาษีประชาชน หายไปอีก100+กว่าล้าน.....

....ต้องอดทนไปอีกนานแค่ไหนนะ......
ความคิดเห็นที่ 4
เรื่องแบบนี้ก็คงเป็นอีกเรื่องปกติใครๆก็ทำกันครับ
ยิ้ม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่