เมื่อผมพยายามต่อชั้นนิยายให้คุณภรรยา (D.I.Y ชั้นวางหนังสือติดผนัง)

พอดีวันนี้ว่างๆครับเลยอยากมาแชร์ประสบการณ์ต่อชั้นหนังสือให้เพื่อนๆสมาชิกฟัง เผื่อจะได้แรงบันดาลใจและจะได้ไม่พลาดแบบผม555555+  เรื่องของเรื่องคือผมและภรรยาต่างก็มีของสะสมที่ชอบแตกต่างกัน ตัวผมชอบอ่านหนังสือการ์ตูนส่วนคุณภรรยาชอบอ่านนิยาย ผมโชคดีหน่อยที่บังเอิญไปเจอชั้นวางการ์ตูนจากร้านเช่าที่มาขายมือสอง ส่วนของเธอผมนั้นไม่มีก็วางไปทั่วในตู้หนังสือ ในลังพลาสติก ซึ่งเวลาอยากจะอ่านเรื่องอะไรจะหยิบมาหาแต่ละทีก็ลำบาก ผมก็อยากจะยกชั้นการ์ตูนผมให้เธอแต่ติดที่ระยะความสูงของหนังสือนิยายสูงกว่าหนังสือการ์ตูน เลยคิดจะต่อเองเพราะดูจากชั้นหนังสือการ์ตูนของผม ก็ดูไม่น่ายากอีกทั้งเรายังสามารถทำให้ขนาดพอดีบ้านได้ ที่สำคัญถูกอีกด้วยประหลาดใจประหลาดใจประหลาดใจ
       ปล. ก่อนอื่นขอออกตัวก่อนเลยนะครับว่าผมไม่ใช่ช่าง และไม่ค่อยชำนาญเรื่องงานฝีมือพวกนี้(ถนัดจับจอบจับแมลงมากกว่าหัวเราะหัวเราะหัวเราะ)


1.    เริ่มจากคำนวณขนาดของชั้นก่อนเลยครับ ผมกะจะทำให้เต็มผนังบ้านในส่วนที่เหลือถัดจากชั้นการ์ตูนเลยได้ชั้นสูง 2.30 เมตร กว้าง 1.35 เมตร ส่วนสำคัญอีกส่วนที่วัดคือความสูงของหนังสือนิยายจะได้ เว้นช่องว่างในแต่ละชั้นเท่าไหร่ ซึ่งผมวัดแล้วเลือกที่ 22 ซม.ครับ หลังจากวัดแล้วผมตรงดิ่งไปร้านวัสดุก่อสร้างเลยด้วยความมั่นใจ55555+ ผมเริ่มใจเสียละไปร้านใหญ่ๆ 3 ร้านบอกไม่มีไม้อย่างที่ผมต้องการ แต่พอดีผมหันไปเห็นพอดีผมนี่ยิ้มเลยพอเดินไปดูใกล้ๆที่ชั้นวาง ไม้สวยด้วยขนาดน่าจะพอดีทั้งความหนาและความกว้างที่สำคัญสีสวยอีก(ทาสีขาวแบบที่แฟนผมชอบด้วย) ผมยืนคำนวณว่าต้องใช้ทั้งหมดกี่แผ่น(แล้วคิดในใจว่าผมอาจอธิบายไม่เข้าใจกับพี่พนักงานขายที่น่าจะเป็นพม่าเค้าถึงบอกไม่มี) ผมเลยคุยกับพี่เค้าบอกว่าผมจะซื้อทั้งหมด 7 แผ่นครับและสอบถามด้วยว่าตัดตามขนาดที่ต้องการเลยได้ไหมเพราะไม้ยาว 3 เมตร พี่พม่าบอกไม่ได้เค้าไม่ค่อยตัดกันตัดยาก(ผมแปลกใจครั้งที่1) พอไปจ่ายเงินค่าไม้ 7 แผ่น 357 บาท ค่าเหล็กฉาก 20 ตัว 120 บาท ผมเลยลองถามเจ้าของร้านอีกทีเรื่องตัดไม้เจ้าของร้านบอกได้แต่คิดค่าแรง 200 (ผมแปลกใจครั้งที่2) ผมเลยขอต่อรองเหลือ 150 เพราะคิดว่าแพงมากเกินครึ่งของราคาไม้เลย จากนั้นผมก็ขี่รถกลับบ้านเพื่อที่จะนำรถยนต์มาขนไม้ ผมคิดในใจว่าทำไมง่ายแบบนี้ ไม้ก็ตัดมาแล้วไม่เกินครึ่งวันเสร็จ ช่วงที่ผมมาเอารถไปเปลี่ยนคุณภรรยาถามผมว่าจะเอารถไปไหน? ผมอยากเซอร์ไพรส์เธอเลยตอบกลับไปด้วยความมั่นใจว่า “ เอาไปขนรอยยิ้ม “ หัวใจหัวใจหัวใจหัวใจ แล้วผมก็กลับมาที่ร้านเพื่อขนไม้ พี่พม่ายืนยิ้มรอผมอยู่แล้วผมเลยถอยรถไปใกล้ๆ แล้วลงไปขนใส่รถสัมผัสแรกที่ผมยกไม้ขึ้น.................ผมร้องอุทานในใจ ชิ หา ย ย ย ย ย ย ย ย แล้วววววววววววววว นี่มันปูนนี่หว่า หนักมากกกกก ยกแทบไม่ขึ้น รูปใบหน้าภรรยาผมลอยมาในสมองผมทันทีเจสัน โดนด่าแน่ถ้าไปกองเกะกะที่บ้านแล้วทำอะไรไม่ได้  ไหนจะเงินที่แอบซ่อนสะสมไว้มาเสียไปเปล่าๆอีกเซ็งมาก ขับรถมาคนละอารมณ์กับเมื่อกี๊เลย5555555+ โมโหตัวเองคิดว่าจะมีสักกี่คนที่แยกไม้จริงกับไม้เฌอร่าไม่ออก



2.    ไหนๆก็ซื้อมาละยังไงก็ต้องทำ เลยคิดว่าจะลองทำดูทางแก้ก็คือผมต้องใส่เหล็กฉากเพิ่มมากขึ้น จากเดิมที่คำนวณไว้ 20 ตัว ผมเพิ่มเป็น 40 ตัว



3.    ปัญหาต่อมาที่พบคือ เจาะสว่านเพื่อขันน๊อตยากมากเนื่องจากเป็นปูน๕๕๕๕๕ ผมทำได้แค่ฝั่งเดียวดอกสว่างหักไป 2 ดอก จนผมต้องออกไปซื้อใหม่ เจ้าของร้านถึงกับหัวเราะแล้วบอกว่าดอกที่ผมใช้เค้าเอาไว้เจาะไม้555555+(ถือเสียว่าซื้อประสบการณ์)



4.    ปัญหาต่อมาที่พบคือ ผมมีความรู้สึกว่าชั้นนี้มีผงฝุ่นละเอียดเยอะถ้าแฟนผมหยิบหนังสือมาอ่านจะเป็นอันตรายต่อปอดได้ ผมเลยคิดวิธีแก้ไขขึ้นมาโดยใช้สีสเปรย์พ่นซะเลย





5.    ปัญหาต่าที่พบคือ หลังจากยกเข้ามาตั้งในบ้าน ผมมั่นใจเลยว่าโอกาสที่วางหนังสือแล้วจะพังลงมาสูงมาก55555+ ผมก็ตั้งไว้แบบนั้น 3-4 วัน จนผมคิดได้ว่าจะใช้ไม้อัดจากเศษไม้ที่ขอมาจากที่ทำงานมาตีขนาบข้างฝั่งที่ไม่ติดกับหนังสือการ์ตูนและตัดค้ำแนวกลางไว้อีก 20 อัน เพื่อรับน้ำหนักได้มากขึ้น


เสร็จเรียบร้อยแล้วครับรอยยิ้มคุณภรรยาผม เอ๊ยไม่ใช่!!!เสร็จเรียบร้อยแล้วครับชั้นหนังสือคุณภรรยาผม

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่