จริงๆ ไปเที่ยวมาเป็นปีแล้ว แต่เพิ่งมาเคลียร์ภาพ ก็เลยเอามาฝากให้เพื่อนๆ ได้ดูกันค่ะ
ขอยืนยันว่าภาพเกือบทุกภาพที่นำมาลง แทบไม่ได้ใช้ศิลปะการถ่ายภาพ ไม่มีการแต่งรูป สถานที่ทั้งหมดสวยกว่าในภาพแน่นอน 100% ค่ะ
= = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =
เราไปเที่ยวสิงคโปร์มาเมื่อวันที่ 27-30 มิถุนายน 2014 เดินทางด้วยสายการบิน lion air รอบดึกค่ะ ถ้าจำไม่ผิดไปถึงสิงคโปร์ประมาณ 5 ทุ่มค่ะ
ว่ากันว่าสนามบินชางกีของสิงคโปร์นี่สวยมาก และสะดวกสบายมาก นอนค้างได้เลย เราก็ไม่พลาดค่ะ ต้องขอลองค้างซักหน่อย
ไม่ถึงกับนอนสบาย แอร์หนาวไปหน่อย ถ้าจะให้สบายจริงต้องเตรียมผ้าห่มกับหมอนไปด้วย
เรื่องที่สนามบินยังไม่จบแค่นี้ค่ะ ในขณะที่เรากำลังเคลิ้มๆ อยู่นั้น ก็มีเจ้าหน้าที่สนามบินหล่อตี๋มาปลุก เพื่อจะถามเราว่าเดินทางมาสิงคโปร์ด้วยสาเหตุอะไร ทำไมถึงไม่ยอมออกจากแอร์พอร์ต มีแพลนที่จะเข้าพักในสิงคโปร์จริงหรือเปล่า มีตั๋วกลับบ้านหรือเปล่า... คือนางคิดว่าเราจะมาสิงอยู่ในแอร์พอร์ตแล้วหาเรื่องแอบเข้าเมืองผิดกฎหมายนั่นเองค่าา เราก็ดีแคลร์ เอาเอกสารต่างๆ มาให้พี่แกดู พอแกพอใจแล้วก็ปล่อยให้เรานอนต่อไป คนที่แพลนจะไปนอนค้างแอร์พอร์ตต้องระวังดีๆ นะคะ
Day 1
พอตอนเช้าเราก็ออกจากแอร์พอร์ตค่ะ ตอนเช้าๆ นี่บูธขาย ezpass จะยังไม่เปิดนะคะ ซื้อได้แต่ที่ตู้ขายอัตโนมัติเท่าานั้น ezpass แบบเหมาจ่ายต้องซื้อกับพนักงาน แต่แบบ pay as you go ซื้อที่ตู้อัตโนมัติได้เลยค่ะ (ขออภัย ไม่ได้ถ่ายรูป ตอนนั้นหมดสภาพมาก)
หลังจากต่อรถมาถึง Chiana Town แล้ว เราก็เข้าที่พักค่ะ เราพักอยู่ที่ Pillow & Toast Heritage ค่ะ ที่พักนับว่าใช้ได้ ถ้าไม่ติดที่มีห้องอาบน้ำและห้องน้ำน้อยไปหน่อยเมื่อเทียบกับจำนวนผู้เข้าพัก... จริงๆ แล้วเราไปกับเพื่อนอีก 4 คน แต่แยกตารางเที่ยวกัน (อีนี่จนมาก ไม่มีเงินเที่ยวเหมือนคนอื่นเค้า 55) ก็เลยจองห้องนอนขนาด 6 เตียงแบบเหมาไว้ค่ะ ทางโฮสเทลจะมีเครื่องนอนให้พร้อม มีเครื่องแปลงไฟ กับผ้าเช็ดตัวให้ด้วย แล้วในห้องก็จะมีตู้ล็อกเกอร์กับกุญแจให้เก็บของมีค่าด้วยนะคะ
เราไปถึงที่พักเช้าไปหน่อยเลยยังเช็กอินไม่ได้ แต่ยังดี พนักงานให้ฝากกระเป๋าไว้ได้ เราก็เลยฝากกระเป๋าไว้ที่โฮสเทล แล้วออกไปเดินเที่ยวกัน
สต็อปแรกของเราคืออาหารเช้าค่ะ และจะเป็นที่ไหนไปไม่ได้นอกจากโรงอาหาร Maxwell Food Centre อันเลื่องชื่อ เป้าหมายของทุกคนคือข้าวมันไก่เทียน เทียน แต่ทว่า ด้วยความที่เราไปถึงเช้าไปหน่อย ร้านข้าวมันไก่ยังไม่เปิด ทุกคนเลยตัดสินใจกินบะหมี่น้ำแถวนั้นเป็นอาหารเช้าไปก่อนค่ะ บอกเลยว่ารสชาติไม่ได้เรื่องมาก อาจจะอร่อยสำหรับคนสิงคโปร์ แต่ไม่ถูกปากคนไทยอย่างแรงจ้า อาหารที่ให้ผ่านในมื้อนี้คือน้ำอ้อยสด ที่พ่อค้าบอกเราว่าเป็นของขึ้นชื่อของเมืองสิงโปร์ค่ะ
เอาล่ะ ทีนี้มาถึงที่เที่ยวบ้าง จาก Maxwell Food Centre ข้ามถนนไปปุ๊บ เราก็จะเจอกับวัดจีน Buddha Tooth Relic Temple
วัดนี้มีหลายชั้นนะคะ ชั้นล่างสุดก็ตามภาพข้างบนเลย ส่วนชั้นถัดมาก็จะเป็นสวน ผนังของชั้นนี้จะเป็นชั้นวางพระพุทธรูปเล็กๆ เต็มไปหมด ลักษณะของชั้นนี้จะคล้ายๆ กับส่วนพระเจดีย์กับระเบียงแก้วในวัดไทยค่ะ
ชั้นต่อมาเป็นพิพิธภัณฑ์ มีประติมากรรมทางพุทธศาสนามากหลายชิ้นให้ชม ส่วนมากเป็นรูปปั้นพระโพธิสัตว์ค่ะ มีตัวอย่างมาให้ชมด้วยหนึ่งชิ้น
ชั้นถัดไปเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุค่ะ ชั้นนี้ไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพ ก็เลยไม่มีอะไรมาให้ชมกันค่ะ
พอออกจากวัดจีนแล้ว เราก็เดินไปต่อกันที่วัดแขกค่ะ วัดนี้คือ Sri Mariamman Temple
ตอนที่ไปถึงทางวัดกำลังมีพิธีบูชากองกูณฑ์อยู่ในะคะ ไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพ ถ้าอยากได้ภาพบรรยากาศต้องจ้างแขกด้านในให้ถ่ายภาพให้ค่ะ บรรยากาศภายในสวยงาม แล้วก็ศักดิ์สิทธิ์มากเลยค่ะ ใครที่แวะไปวัดนี้ช่วงเช้าๆ ก็อยากแนะนำให้หยุดชมพิธีนี้กันก่อนนะคะ
มีรูปวัวมาส่งท้าย
เดินต่อมาอีกนิดก็จะเจอ Masjid Jamae ซึ่งเป็นที่ประกอบพิธีทางศาสนาของชาวมุสลิมค่ะ เนื่องจากวันนี้ไม่มีกิจกรรมอะไร ก็เลยปิดค่ะ
สถานีต่อไปของจขกท. คือ Chinese Centre Heritage ค่ะ ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับชีวิตของชาวจีนที่อพยพมาอยู่ในสิงคโปร์ ด้วยความที่จขกท.มาคนเดียว เลยรู้สึกว่าพิพิธภัณฑ์นี้หลอนมากกก ไม่แนะนำให้มาคนเดียวเด็ดขาด ควรจะมากันเป็นกลุ่มอย่างน้อย 3-4 คนนะคะ อ้อ พิพิธภัณฑ์นี้มีค่าใช้จ่ายด้วยนะคะ แต่ว่าคุ้มค่าคุ้มราคามากค่ะ แสง สี เสียง อลังการจริง มีไวไฟฟรีด้วย
อยากรู้ว่าหลอนยังไง ต้องไปสัมผัสด้วยตัวเอง
แม้แต่บันไดยังให้ความรู้
ตัวอย่างเสื้อผ้าของชาวจีนในสิงคโปร์
โปรแกรมต่อไปของจขกท.คือ Peranakan Museum ค่ะ เดินจากไชน่าทาวน์ประมาณ 20 นาที แต่ถ้าขี้เกียจเดินก็สามารถข้ามถนนไปขึ้นรถเมล์สาย 190 ที่หน้า People's Park Centre ได้ค่ะ รถเมล์จะจอดเลยถนน Lok Yew ไปหน่อย เราต้องเดินย้อนกันนิดนึงนะคะ
ก่อนจะเข้าไปชมพิพิธภัณฑ์ ขออธิบายเกี่ยวกับบัตร Museum Pass นิดนึงนะคะ บัตรนี้มีราคา 20 ดอลลาร์ มีอายุเวลา 3 วัน และสามารถใช้เข้าชมพิพิธภัณฑ์ได้ทั้งหมด 6 แห่ง คือ
1. Asian Civilisation Museum
2. National Museum
3. Peranakan Museum
4. Reflections at Bukit Chandu
5. Singapore Philatelic Museum
6. Singapore Art Museum
พิพิธภัณฑ์เพรานากันเป็นพิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าเรื่องราวของคนสิงโปร์เชื้อสายมาเลย์ ของนี่แสดงจะเน้นเป็นสิ่งของ มี interactive zone บ้างประปราย ต่างจาก Chinese Centre Heritage ที่เน้นแสง สี เสียง มากกว่า พิพิธภัณฑ์นี้ค่อนข้างเดินง่าย เข้าใจง่ายค่ะ เนื่องจากนี่เป็นพิพิธภัณฑ์แรกในโปรแกรม Museum Pass ที่จขกท.มาเยี่ยมชม ก็เลยจัดการซื้อตั๋วมันที่นี่เลย
ด้านในพิพิธภัณฑ์ก็จะมีหลายห้อง หลายชั้น บอกเล่าเรื่องราวธีมต่างๆ เช่น เครื่องใช้ เสื้อผ้า พิธีกรรม ไปจนถึงเรื่องปฏิสัมพันธ์ระหว่างคนเพรานากันยุคต่างๆ generation gap ระหว่างคนยุคบุกเบิกกับคนยุคปัจจุบัน
หน้าพิพิธภัณฑ์
คนเพรานากันหน้าตาแบบนี้
ตัวอย่างของที่แสดง
เสียงมนุษย์ป้าเพรานากันเม้าท์มอยก็มีให้ฟังนะ ข้างๆ ป้ายนี้จะมีโทรศัพท์รุ่นเก่าให้เลือกยกหูมาฟัง 3 เครื่อง แต่ละเครื่องก็จะมีเสียงเม้าท์มอยของคุณป้าในยุคของโทรศัพท์เครื่องนั้นๆ
หลงทางอยู่ในพิพิธภัณฑ์อยู่เป็นชั่วโมง ในที่สุดจขกท.ก็ออกมาสู่โลกภายนอกอีกครั้ง
ใครบอกว่าสิงคโปร์ไม่มีสตรีทอาร์ท ไม่จริงเลยนะคะ ภาพข้างบนนี่จขกท.ก็ถ่ายจากตรอกใกล้ๆ พิพิธภัณฑ์นั่นแหละค่ะ เท่าที่เดินไปเดินมารอบๆ ก็เห็นแบบนี้บ้างประปราย ที่เห็นชัดแบบภาพด้านบนส่วนใหญ่จะเป็นผนังศูนย์ศิลปะเยาวชน ไม่ก็โรงเรียนสอนศิลปะ แต่ตามใต้สะพานหรือคลองระบายน้ำที่ลับตาคนหน่อยก็มีให้เห็นเหมือนกันค่ะ
เดินไปซักพัก เราก็ไปเจอกับโบสถ์ Armanian Church ค่ะ
มีคนมาถ่ายพรีเว็ดดิ้งด้วยนะ
บรรยากาศข้างในโบสถ์ สงบและศักดิ์สิทธิ์มาก
ในสวนมีรูปปั้นสวยๆ ด้วย
ป้ายหลุมศพก็อลังนะ
ถัดจากโบสถ์อาร์มาเนี่ยนไปไม่ไกล เราก็จะพบกับ Chij Chapel and Caldwell House ซึ่งได้รับรางวัลด้านการออกแบบหลายรางวัลเลยทีเดียว แต่เดิมอาคารนี้เป็นส่วนหนึ่งของคณะคอนแวนต์ และใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติงานสังคมสงเคราะห์ของคณะค่ะ จขกท.เก็บรูปจากชิจชาเปลได้น้อยหน่อย เพราะว่าวันที่ไปมีการจัดงาน
มาดูรูปกันเลย
ภาพด้านในอาคาร
จขกท.เดินออกจาก Chij Chapel ตอนประมาณบ่าย 2 ครึ่ง แล้วก็กลับไปเช็กอินที่โฮสเทล
เอาภาพบรรยากาศแถวโฮสเทลมาให้ชมค่ะ
เพิ่งรีวิวไปได้แค่ครึ่งวัน ไหงโควตาตัวอักษรเกือบจะหมดแล้วล่ะนี่ = ='
อย่าเพิ่งหนีไปไหนกันนะคะ รีวิวยังเหลืออีก 2 วันเต็มๆ เดี๋ยวรีบมาพิมพ์ต่อแน่นอนค่ะ !!!!!
To be continue...
ไปเที่ยวสิงคโปร์กันนะ
ขอยืนยันว่าภาพเกือบทุกภาพที่นำมาลง แทบไม่ได้ใช้ศิลปะการถ่ายภาพ ไม่มีการแต่งรูป สถานที่ทั้งหมดสวยกว่าในภาพแน่นอน 100% ค่ะ
= = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =
เราไปเที่ยวสิงคโปร์มาเมื่อวันที่ 27-30 มิถุนายน 2014 เดินทางด้วยสายการบิน lion air รอบดึกค่ะ ถ้าจำไม่ผิดไปถึงสิงคโปร์ประมาณ 5 ทุ่มค่ะ
ว่ากันว่าสนามบินชางกีของสิงคโปร์นี่สวยมาก และสะดวกสบายมาก นอนค้างได้เลย เราก็ไม่พลาดค่ะ ต้องขอลองค้างซักหน่อย
ไม่ถึงกับนอนสบาย แอร์หนาวไปหน่อย ถ้าจะให้สบายจริงต้องเตรียมผ้าห่มกับหมอนไปด้วย
เรื่องที่สนามบินยังไม่จบแค่นี้ค่ะ ในขณะที่เรากำลังเคลิ้มๆ อยู่นั้น ก็มีเจ้าหน้าที่สนามบินหล่อตี๋มาปลุก เพื่อจะถามเราว่าเดินทางมาสิงคโปร์ด้วยสาเหตุอะไร ทำไมถึงไม่ยอมออกจากแอร์พอร์ต มีแพลนที่จะเข้าพักในสิงคโปร์จริงหรือเปล่า มีตั๋วกลับบ้านหรือเปล่า... คือนางคิดว่าเราจะมาสิงอยู่ในแอร์พอร์ตแล้วหาเรื่องแอบเข้าเมืองผิดกฎหมายนั่นเองค่าา เราก็ดีแคลร์ เอาเอกสารต่างๆ มาให้พี่แกดู พอแกพอใจแล้วก็ปล่อยให้เรานอนต่อไป คนที่แพลนจะไปนอนค้างแอร์พอร์ตต้องระวังดีๆ นะคะ
Day 1
พอตอนเช้าเราก็ออกจากแอร์พอร์ตค่ะ ตอนเช้าๆ นี่บูธขาย ezpass จะยังไม่เปิดนะคะ ซื้อได้แต่ที่ตู้ขายอัตโนมัติเท่าานั้น ezpass แบบเหมาจ่ายต้องซื้อกับพนักงาน แต่แบบ pay as you go ซื้อที่ตู้อัตโนมัติได้เลยค่ะ (ขออภัย ไม่ได้ถ่ายรูป ตอนนั้นหมดสภาพมาก)
หลังจากต่อรถมาถึง Chiana Town แล้ว เราก็เข้าที่พักค่ะ เราพักอยู่ที่ Pillow & Toast Heritage ค่ะ ที่พักนับว่าใช้ได้ ถ้าไม่ติดที่มีห้องอาบน้ำและห้องน้ำน้อยไปหน่อยเมื่อเทียบกับจำนวนผู้เข้าพัก... จริงๆ แล้วเราไปกับเพื่อนอีก 4 คน แต่แยกตารางเที่ยวกัน (อีนี่จนมาก ไม่มีเงินเที่ยวเหมือนคนอื่นเค้า 55) ก็เลยจองห้องนอนขนาด 6 เตียงแบบเหมาไว้ค่ะ ทางโฮสเทลจะมีเครื่องนอนให้พร้อม มีเครื่องแปลงไฟ กับผ้าเช็ดตัวให้ด้วย แล้วในห้องก็จะมีตู้ล็อกเกอร์กับกุญแจให้เก็บของมีค่าด้วยนะคะ
เราไปถึงที่พักเช้าไปหน่อยเลยยังเช็กอินไม่ได้ แต่ยังดี พนักงานให้ฝากกระเป๋าไว้ได้ เราก็เลยฝากกระเป๋าไว้ที่โฮสเทล แล้วออกไปเดินเที่ยวกัน
สต็อปแรกของเราคืออาหารเช้าค่ะ และจะเป็นที่ไหนไปไม่ได้นอกจากโรงอาหาร Maxwell Food Centre อันเลื่องชื่อ เป้าหมายของทุกคนคือข้าวมันไก่เทียน เทียน แต่ทว่า ด้วยความที่เราไปถึงเช้าไปหน่อย ร้านข้าวมันไก่ยังไม่เปิด ทุกคนเลยตัดสินใจกินบะหมี่น้ำแถวนั้นเป็นอาหารเช้าไปก่อนค่ะ บอกเลยว่ารสชาติไม่ได้เรื่องมาก อาจจะอร่อยสำหรับคนสิงคโปร์ แต่ไม่ถูกปากคนไทยอย่างแรงจ้า อาหารที่ให้ผ่านในมื้อนี้คือน้ำอ้อยสด ที่พ่อค้าบอกเราว่าเป็นของขึ้นชื่อของเมืองสิงโปร์ค่ะ
เอาล่ะ ทีนี้มาถึงที่เที่ยวบ้าง จาก Maxwell Food Centre ข้ามถนนไปปุ๊บ เราก็จะเจอกับวัดจีน Buddha Tooth Relic Temple
วัดนี้มีหลายชั้นนะคะ ชั้นล่างสุดก็ตามภาพข้างบนเลย ส่วนชั้นถัดมาก็จะเป็นสวน ผนังของชั้นนี้จะเป็นชั้นวางพระพุทธรูปเล็กๆ เต็มไปหมด ลักษณะของชั้นนี้จะคล้ายๆ กับส่วนพระเจดีย์กับระเบียงแก้วในวัดไทยค่ะ
ชั้นต่อมาเป็นพิพิธภัณฑ์ มีประติมากรรมทางพุทธศาสนามากหลายชิ้นให้ชม ส่วนมากเป็นรูปปั้นพระโพธิสัตว์ค่ะ มีตัวอย่างมาให้ชมด้วยหนึ่งชิ้น
ชั้นถัดไปเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุค่ะ ชั้นนี้ไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพ ก็เลยไม่มีอะไรมาให้ชมกันค่ะ
พอออกจากวัดจีนแล้ว เราก็เดินไปต่อกันที่วัดแขกค่ะ วัดนี้คือ Sri Mariamman Temple
ตอนที่ไปถึงทางวัดกำลังมีพิธีบูชากองกูณฑ์อยู่ในะคะ ไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพ ถ้าอยากได้ภาพบรรยากาศต้องจ้างแขกด้านในให้ถ่ายภาพให้ค่ะ บรรยากาศภายในสวยงาม แล้วก็ศักดิ์สิทธิ์มากเลยค่ะ ใครที่แวะไปวัดนี้ช่วงเช้าๆ ก็อยากแนะนำให้หยุดชมพิธีนี้กันก่อนนะคะ
มีรูปวัวมาส่งท้าย
เดินต่อมาอีกนิดก็จะเจอ Masjid Jamae ซึ่งเป็นที่ประกอบพิธีทางศาสนาของชาวมุสลิมค่ะ เนื่องจากวันนี้ไม่มีกิจกรรมอะไร ก็เลยปิดค่ะ
สถานีต่อไปของจขกท. คือ Chinese Centre Heritage ค่ะ ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับชีวิตของชาวจีนที่อพยพมาอยู่ในสิงคโปร์ ด้วยความที่จขกท.มาคนเดียว เลยรู้สึกว่าพิพิธภัณฑ์นี้หลอนมากกก ไม่แนะนำให้มาคนเดียวเด็ดขาด ควรจะมากันเป็นกลุ่มอย่างน้อย 3-4 คนนะคะ อ้อ พิพิธภัณฑ์นี้มีค่าใช้จ่ายด้วยนะคะ แต่ว่าคุ้มค่าคุ้มราคามากค่ะ แสง สี เสียง อลังการจริง มีไวไฟฟรีด้วย
อยากรู้ว่าหลอนยังไง ต้องไปสัมผัสด้วยตัวเอง
แม้แต่บันไดยังให้ความรู้
ตัวอย่างเสื้อผ้าของชาวจีนในสิงคโปร์
โปรแกรมต่อไปของจขกท.คือ Peranakan Museum ค่ะ เดินจากไชน่าทาวน์ประมาณ 20 นาที แต่ถ้าขี้เกียจเดินก็สามารถข้ามถนนไปขึ้นรถเมล์สาย 190 ที่หน้า People's Park Centre ได้ค่ะ รถเมล์จะจอดเลยถนน Lok Yew ไปหน่อย เราต้องเดินย้อนกันนิดนึงนะคะ
ก่อนจะเข้าไปชมพิพิธภัณฑ์ ขออธิบายเกี่ยวกับบัตร Museum Pass นิดนึงนะคะ บัตรนี้มีราคา 20 ดอลลาร์ มีอายุเวลา 3 วัน และสามารถใช้เข้าชมพิพิธภัณฑ์ได้ทั้งหมด 6 แห่ง คือ
1. Asian Civilisation Museum
2. National Museum
3. Peranakan Museum
4. Reflections at Bukit Chandu
5. Singapore Philatelic Museum
6. Singapore Art Museum
พิพิธภัณฑ์เพรานากันเป็นพิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าเรื่องราวของคนสิงโปร์เชื้อสายมาเลย์ ของนี่แสดงจะเน้นเป็นสิ่งของ มี interactive zone บ้างประปราย ต่างจาก Chinese Centre Heritage ที่เน้นแสง สี เสียง มากกว่า พิพิธภัณฑ์นี้ค่อนข้างเดินง่าย เข้าใจง่ายค่ะ เนื่องจากนี่เป็นพิพิธภัณฑ์แรกในโปรแกรม Museum Pass ที่จขกท.มาเยี่ยมชม ก็เลยจัดการซื้อตั๋วมันที่นี่เลย
ด้านในพิพิธภัณฑ์ก็จะมีหลายห้อง หลายชั้น บอกเล่าเรื่องราวธีมต่างๆ เช่น เครื่องใช้ เสื้อผ้า พิธีกรรม ไปจนถึงเรื่องปฏิสัมพันธ์ระหว่างคนเพรานากันยุคต่างๆ generation gap ระหว่างคนยุคบุกเบิกกับคนยุคปัจจุบัน
หน้าพิพิธภัณฑ์
คนเพรานากันหน้าตาแบบนี้
ตัวอย่างของที่แสดง
เสียงมนุษย์ป้าเพรานากันเม้าท์มอยก็มีให้ฟังนะ ข้างๆ ป้ายนี้จะมีโทรศัพท์รุ่นเก่าให้เลือกยกหูมาฟัง 3 เครื่อง แต่ละเครื่องก็จะมีเสียงเม้าท์มอยของคุณป้าในยุคของโทรศัพท์เครื่องนั้นๆ
หลงทางอยู่ในพิพิธภัณฑ์อยู่เป็นชั่วโมง ในที่สุดจขกท.ก็ออกมาสู่โลกภายนอกอีกครั้ง
ใครบอกว่าสิงคโปร์ไม่มีสตรีทอาร์ท ไม่จริงเลยนะคะ ภาพข้างบนนี่จขกท.ก็ถ่ายจากตรอกใกล้ๆ พิพิธภัณฑ์นั่นแหละค่ะ เท่าที่เดินไปเดินมารอบๆ ก็เห็นแบบนี้บ้างประปราย ที่เห็นชัดแบบภาพด้านบนส่วนใหญ่จะเป็นผนังศูนย์ศิลปะเยาวชน ไม่ก็โรงเรียนสอนศิลปะ แต่ตามใต้สะพานหรือคลองระบายน้ำที่ลับตาคนหน่อยก็มีให้เห็นเหมือนกันค่ะ
เดินไปซักพัก เราก็ไปเจอกับโบสถ์ Armanian Church ค่ะ
มีคนมาถ่ายพรีเว็ดดิ้งด้วยนะ
บรรยากาศข้างในโบสถ์ สงบและศักดิ์สิทธิ์มาก
ในสวนมีรูปปั้นสวยๆ ด้วย
ป้ายหลุมศพก็อลังนะ
ถัดจากโบสถ์อาร์มาเนี่ยนไปไม่ไกล เราก็จะพบกับ Chij Chapel and Caldwell House ซึ่งได้รับรางวัลด้านการออกแบบหลายรางวัลเลยทีเดียว แต่เดิมอาคารนี้เป็นส่วนหนึ่งของคณะคอนแวนต์ และใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติงานสังคมสงเคราะห์ของคณะค่ะ จขกท.เก็บรูปจากชิจชาเปลได้น้อยหน่อย เพราะว่าวันที่ไปมีการจัดงาน
มาดูรูปกันเลย
ภาพด้านในอาคาร
จขกท.เดินออกจาก Chij Chapel ตอนประมาณบ่าย 2 ครึ่ง แล้วก็กลับไปเช็กอินที่โฮสเทล
เอาภาพบรรยากาศแถวโฮสเทลมาให้ชมค่ะ
เพิ่งรีวิวไปได้แค่ครึ่งวัน ไหงโควตาตัวอักษรเกือบจะหมดแล้วล่ะนี่ = ='
อย่าเพิ่งหนีไปไหนกันนะคะ รีวิวยังเหลืออีก 2 วันเต็มๆ เดี๋ยวรีบมาพิมพ์ต่อแน่นอนค่ะ !!!!!
To be continue...