ปกติส่วนใหญ่เราไม่ค่อยจะตั้งกระทู้สักเท่าไหร่ค่ะ ส่วนใหญ่เราจะตั้งถามเรื่องลูกชายของเรามากกว่า แต่วันนี้เราแค่อยากมีเรื่องที่อยากจะมาระบายค่ะ
ตอนนี้เราอายุ 23 ปีคะ เป็น Singlemom มีลูกชายวัย 3 ขวบกำลังพูดเลยคะ ย้อนกลับไปเมื่อประมาน 3 ปี เกือบ 4 ปี วันที่เรารู้ส่าเราตั้งท้องเราเองทั้งดีใจแล้วก็เสียใจนิดหน่อย ที่เสียใจก็เพราะว่าตอนนั้นเรากำลังเรียนระดับปริญญาตรีอยู่ค่ะอยู่ปี 2 และที่ดีใจก็เพราะเรารักผู้ชายคนนั้นมากแล้วก็ดีใจที่เราสองคนได้มีโซ่ทอ งคล้องใจของเราทั้สองคน แต่ว่าตัวผู้ชายเค้ากลับไม่คิดเช่นนั้น เค้าดูค่อนข้างจะเครียดที่เราตั้งท้อง แต่เค้าเองก็ยังดูแลเราบ้างในเวลาที่เราตั้งท้อง พอเราท้องได้ประมาน สามเดือน เค้าก็ได้หายไปค่ะ เพราะว่าเรามีปัญหากันนิดหน่อย เค้าหายไปสักพัก จนตอนนั้นเราท้องได้ประมาณห้าเดือนเราได้มีอาการเลือดออกแล้วก็หน้ามืดเป็นลมไป จนเพื่อนต้องเป็นคนดูแลเรา ลืมลอกอีกอย่างค่ะว่าตอนนั้นตัวเราเองอยู่หอพักกับเพื่อนค่ะ เพราะยังไม่กล้าบอกพ่อแม่ ตอนนั้นเรามีโอกาสได้เจอกับเค้าค่ะ เค้าได้แค่พาเราไปส่งที่โรงพยาบาลแต่ไม่ได้ลงไปฟังอาการของลูกในท้องด้วยกัน พอหลังจากนั้นทางบ้านรู้ค่ะว่าเราตั้งท้อง ตอนนั้นท้อง 6 เดือน แต่ลูกหนักแค่ 200 กรัม พอทางบ้านรู้ผู้ชายก็ได้หายไป พ่อกับแม่ก็พยายามที่จะตามหา แต่คนรอบข้างเค้าก็ได้แต่โกหกว่าเค้าหนีไปแล้ว
ตอนนั้นเราเลยได้แต่ทำใจร้องไห้แทบทุกวัน พ่อแม่เราบางครั้งท่านก็ดีนะค่ะ แต่ก็มีบางครั้งที่ท่านคิดโมโหที่เราท้องไม่มีพ่อกลับมาก็ได้แต่ด่าแต่ว่าเรา ว่าเราทำให้เค้าอับอายขายขี้หน้า จนมีอยู่ครั้งนึงท่านคงจะทนไม่ไหว ก็เลยเดินไปหยิบปืนมาขู่เรา พูดกับเราว่า กับลูกรีบออกไปจากบ้านกูเดี๋ยวนี้ไม่งั้นกูจะยิงทิ้งทั้งแม่ทั้งลูก เราก็ได้แต่ร้องไห้ กราบเท้าขอโทษจนท่านให้อภัย แต่ก็อย่างว่าเวลาที่ท่านคิดได้ก็ได้แต่ด่าแต่ว่าเรา บางทีบอกว่า จะไปตายไหนก็ไปทั้งแม่ทั้งลูก กูไม่เอา มีครั้งนึงตอนนั้นเราใกล้คลอดแล้ว เราได้ทะเลาะกับพี่ จนเค้าแช่งเราว่า. กูขอให้คลอดลูกตายทั้งแม่ทั้งลูก เราก็ได้แต่โทษว่าเป็นความผิดของเราเองที่เราเกิดมาไม่มีค่าเลยทำให้ลูกต้องโดนว่าไปด้วย ตั้งแต่ตอนนั้นผู้ชายที่เค้าเปนพ่อของลูกก็ไม่เคยติดต่อมาเลย จนวันที่เราคลอดลูก เราก็อยู่ในห้องคลอดคนเดียว ลูกที่เกิดมาเองก็ไม่ค่อยแข็งแรง ตัวเหลืองอย่างมาก ตอนนั้นลูกเกิดมาได้เจ็ดวันก็จำเปนต้องไปอยู่ที่โรงพยาบาลให้คุณหมอดูแลเพราะว่าลูกไม่ร้อง เอาแต่นอนนมไม่กิน ซึมอย่างมาก หมอเจาะเลือดไปวัดค่าตัวเหลืองของน้องวัดได้ 19 และก็ได้เจาะน้ำไขกระดูกสันหลังไปตรวจเพราะกังวลว่าจะติดเชื้อเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ตอนนั้นเราแทบช็อกทำอะไรไม่ถูก ในรหว่างที่นั่งรถกลับบ้านนั้นเราก็ได้เห็นผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นพ่อของลูกดูเค้ามีความสุขเหลือเกินในขณะที่ลูกของเราอยู่ในช่วงที่กำลังแย่ หลังจากนั้นมาลูกเราก็เจ็บป่วยบ่อยนอนโรงพยาบาลบ่อยใสกในระยะ 1 - 5 เดือนแรก แต่เค้าก็ไม่เคยติดต่อมาถามเรื่องลูก จนผ่านไปตอนนั้นลูก 2 ขวบ เราเองก็ได้เจอกับผู้ชายคนใหม่ เราเลยลองเปิดใจคบกับเค้าดูจนกระทั่งความสัมพันธ์มันไปกันไม่ได้ จนเลิกลากันไป พอตอนนี้เราเข้าปีหนึ่ง เราก็เลยมีโอกาสได้กลับมาเจอกับพ่อของลูกเราอีกครั้ง เราเลยได้กลับมาคบกันอีก แต่ว่าพอเค้ารู้เรื่องที่เราได้ลองคบกับคนอื่นเค้าก็เอาแต่พูดจาดูถูกเราเสียๆหาย เราก็ทน เพราะอยากให้ลูกมีโอกาสได้รู้จักกับพ่อของเค้า บางทีเวลาที่เราถามเรื่องอะไรกับเค้า เค้ามักจะบอกเราว่า ทำไมถึงชอบ

เรื่องของกู บางทีก็ถาม

เหรอ
บางครั้งก็พูดจาว่า กูไม่สนใจอยู่แล้วว่าจะอยู่หรือจะไป กูไม่ได้ง้อ จำใส่กบาลไว้ด้วย จนมีครั้งนึงที่ทะเลาะกันเราคิดว่ามันค่อนข้างที่แรงสำหรับพอสมควร เรสคิดว่ามันเปนความผิดเราแต่เค้าก็ไม่น่าจะทำรุนแรงขนาดนั้น เราเอื้อมมือจะไปจับเค้าค่ะแต่เค้าสะบัดมือเราออกทำให้มือเค้าฟาดเค้ามาที่หน้าเรา เราพยายามยื้อไม่ให้เค้าไป เค้าก็ถีบ เค้าผลักเราล้มลงแล้วก็มาบีบคอเรา พอเราเข้าใกล้เค้า เค้าก็ถีบเราค่ะ ถีบแบบรัวๆเพื่อที่จะให้เราไปให้พ้นแต่เราก็ทนคิดว่าเรื่องแต่นี้ไม่เป็นอะไรมาก พอถึงตอนเช้าเราคุยกับเค้าไม่รู้เรื่องเราก็เลยตามเค้าไป เค้าขับรถจะเอารถไปซ่อมแถวมีนบุรีเราเองไม่รู้ทาง เราก็ทะเลาะกับเค้าตลอดทาง ตอนนั้นเรามีเงินติดตัวอยู่ยี่สิบบาทซึ่งมันไม่พอค่ารถที่จะกลับหอ รัหว่างทางนั้นเค้าก็พยายามไล่เราบอกว่า ลงจากรถกูไป เราบอกเรามีเงินไม่พอเราขอบืมหน่อยได้มั้ย เค้าตอบกลับมาว่า กูไม่มี เราเลยบอกว่า แล้วกูจะกลับยังไง เค้าพูดมาว่า เรื่อง เราเลยตัดสินใจบอกว่า งั้นยืมยี่สิบก็ได้ เค้าก็โวยวายแล้วก็โยนเงินลงกับพื้นให้เราเก็บ แล้วเค้าก็ทิ้งเราไว้ข้างทาง เราก็ไม่รู้ว่าที่นั่นมันคือที่ไหนก็เลยเดินไปเรื่อยๆจนถึงได้กลับหอ
จนเมื่อครั้งล่าสุดค่ะ เราทะเลาะกันเพราะความงี่เง่าของเรา เราเดาได้ว่าเค้าคงจะเกลียดเราอย่างหนัก เราคุยกันไม่รู้เรื่อง เค้าก็ได้แต่พูดจาไล่เราให้เราลงจากรถ พอเราไม่ไปเค้าก็เลยหยิบขวดน้ำมาขว้างใส่หัวของเรา เราก็เสียใจค่ะแต่เราก็ทน
แต่เค้าก็มีมุมที่ดีนะค่ะบางครั้งเค้าก็ดูเป็นห่วงเราดี ส่วนเรื่องอะไรที่เกี่ยวกับลูกเราเองก็ไม่เคยเรียกร้องอะไร แต่ถ้าวันไหนที่เราลำบากเค้าก็จะช่วยเราบ้างนิดหน่อย ตอนนี้เรารู้สึกเหนื่อยเหลือเกินค่ะ เรามองหน้าลูกเราก็ยอ่งสงสาร คิดว่าเป็นเพราะเราเกิดมาไม่เคยมีค่าทุกคนจึงได้รังเกลียดเรา เราเหมือนตัวคนเดียว เหมือนตัวซวย ที่ทำให้ลูกลำบาก ทำให้พ่อของเค้าไม่ได้รักเค้าเลย เราเคยกินยาเพื่อที่อยากจะหลับๆไปไม่ต้องตื่น แต่ก็ไม่สำเร็จ ลูกเราเองก็เป็นเด็กที่อ่อนโยนค่ะ เวลาที่เราร้องไห้ลูกของเรามักจะหาผ้ามาเช็ดน้ำให้คอยถามว่าแม่เป็นอะไร
เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องแต่งแต่เป็นจริงจากชีวิตเราค่ะ ถ้าจะด่าว่าเราโง่หรือจะด่าอะไรรบกวนลงที่เราได้โปรดอย่าด่าลูกของเรา เราแค่เหนื่อยบางทีคิดว่าถ้าลูกไม่มีเราสักคนชีวิตลูกอาจจะดีกว่านี้ ลูกจะได้ไม่ต้องอายใครที่เกิดมามีแม่ที่ไร้ค่าแบบเรา
Singlemom กับการที่คนเป็นพ่อไม่เคยเห็นใจ จนอยากจะฆ่าตัวตาย
ตอนนี้เราอายุ 23 ปีคะ เป็น Singlemom มีลูกชายวัย 3 ขวบกำลังพูดเลยคะ ย้อนกลับไปเมื่อประมาน 3 ปี เกือบ 4 ปี วันที่เรารู้ส่าเราตั้งท้องเราเองทั้งดีใจแล้วก็เสียใจนิดหน่อย ที่เสียใจก็เพราะว่าตอนนั้นเรากำลังเรียนระดับปริญญาตรีอยู่ค่ะอยู่ปี 2 และที่ดีใจก็เพราะเรารักผู้ชายคนนั้นมากแล้วก็ดีใจที่เราสองคนได้มีโซ่ทอ งคล้องใจของเราทั้สองคน แต่ว่าตัวผู้ชายเค้ากลับไม่คิดเช่นนั้น เค้าดูค่อนข้างจะเครียดที่เราตั้งท้อง แต่เค้าเองก็ยังดูแลเราบ้างในเวลาที่เราตั้งท้อง พอเราท้องได้ประมาน สามเดือน เค้าก็ได้หายไปค่ะ เพราะว่าเรามีปัญหากันนิดหน่อย เค้าหายไปสักพัก จนตอนนั้นเราท้องได้ประมาณห้าเดือนเราได้มีอาการเลือดออกแล้วก็หน้ามืดเป็นลมไป จนเพื่อนต้องเป็นคนดูแลเรา ลืมลอกอีกอย่างค่ะว่าตอนนั้นตัวเราเองอยู่หอพักกับเพื่อนค่ะ เพราะยังไม่กล้าบอกพ่อแม่ ตอนนั้นเรามีโอกาสได้เจอกับเค้าค่ะ เค้าได้แค่พาเราไปส่งที่โรงพยาบาลแต่ไม่ได้ลงไปฟังอาการของลูกในท้องด้วยกัน พอหลังจากนั้นทางบ้านรู้ค่ะว่าเราตั้งท้อง ตอนนั้นท้อง 6 เดือน แต่ลูกหนักแค่ 200 กรัม พอทางบ้านรู้ผู้ชายก็ได้หายไป พ่อกับแม่ก็พยายามที่จะตามหา แต่คนรอบข้างเค้าก็ได้แต่โกหกว่าเค้าหนีไปแล้ว
ตอนนั้นเราเลยได้แต่ทำใจร้องไห้แทบทุกวัน พ่อแม่เราบางครั้งท่านก็ดีนะค่ะ แต่ก็มีบางครั้งที่ท่านคิดโมโหที่เราท้องไม่มีพ่อกลับมาก็ได้แต่ด่าแต่ว่าเรา ว่าเราทำให้เค้าอับอายขายขี้หน้า จนมีอยู่ครั้งนึงท่านคงจะทนไม่ไหว ก็เลยเดินไปหยิบปืนมาขู่เรา พูดกับเราว่า กับลูกรีบออกไปจากบ้านกูเดี๋ยวนี้ไม่งั้นกูจะยิงทิ้งทั้งแม่ทั้งลูก เราก็ได้แต่ร้องไห้ กราบเท้าขอโทษจนท่านให้อภัย แต่ก็อย่างว่าเวลาที่ท่านคิดได้ก็ได้แต่ด่าแต่ว่าเรา บางทีบอกว่า จะไปตายไหนก็ไปทั้งแม่ทั้งลูก กูไม่เอา มีครั้งนึงตอนนั้นเราใกล้คลอดแล้ว เราได้ทะเลาะกับพี่ จนเค้าแช่งเราว่า. กูขอให้คลอดลูกตายทั้งแม่ทั้งลูก เราก็ได้แต่โทษว่าเป็นความผิดของเราเองที่เราเกิดมาไม่มีค่าเลยทำให้ลูกต้องโดนว่าไปด้วย ตั้งแต่ตอนนั้นผู้ชายที่เค้าเปนพ่อของลูกก็ไม่เคยติดต่อมาเลย จนวันที่เราคลอดลูก เราก็อยู่ในห้องคลอดคนเดียว ลูกที่เกิดมาเองก็ไม่ค่อยแข็งแรง ตัวเหลืองอย่างมาก ตอนนั้นลูกเกิดมาได้เจ็ดวันก็จำเปนต้องไปอยู่ที่โรงพยาบาลให้คุณหมอดูแลเพราะว่าลูกไม่ร้อง เอาแต่นอนนมไม่กิน ซึมอย่างมาก หมอเจาะเลือดไปวัดค่าตัวเหลืองของน้องวัดได้ 19 และก็ได้เจาะน้ำไขกระดูกสันหลังไปตรวจเพราะกังวลว่าจะติดเชื้อเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ตอนนั้นเราแทบช็อกทำอะไรไม่ถูก ในรหว่างที่นั่งรถกลับบ้านนั้นเราก็ได้เห็นผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นพ่อของลูกดูเค้ามีความสุขเหลือเกินในขณะที่ลูกของเราอยู่ในช่วงที่กำลังแย่ หลังจากนั้นมาลูกเราก็เจ็บป่วยบ่อยนอนโรงพยาบาลบ่อยใสกในระยะ 1 - 5 เดือนแรก แต่เค้าก็ไม่เคยติดต่อมาถามเรื่องลูก จนผ่านไปตอนนั้นลูก 2 ขวบ เราเองก็ได้เจอกับผู้ชายคนใหม่ เราเลยลองเปิดใจคบกับเค้าดูจนกระทั่งความสัมพันธ์มันไปกันไม่ได้ จนเลิกลากันไป พอตอนนี้เราเข้าปีหนึ่ง เราก็เลยมีโอกาสได้กลับมาเจอกับพ่อของลูกเราอีกครั้ง เราเลยได้กลับมาคบกันอีก แต่ว่าพอเค้ารู้เรื่องที่เราได้ลองคบกับคนอื่นเค้าก็เอาแต่พูดจาดูถูกเราเสียๆหาย เราก็ทน เพราะอยากให้ลูกมีโอกาสได้รู้จักกับพ่อของเค้า บางทีเวลาที่เราถามเรื่องอะไรกับเค้า เค้ามักจะบอกเราว่า ทำไมถึงชอบ
บางครั้งก็พูดจาว่า กูไม่สนใจอยู่แล้วว่าจะอยู่หรือจะไป กูไม่ได้ง้อ จำใส่กบาลไว้ด้วย จนมีครั้งนึงที่ทะเลาะกันเราคิดว่ามันค่อนข้างที่แรงสำหรับพอสมควร เรสคิดว่ามันเปนความผิดเราแต่เค้าก็ไม่น่าจะทำรุนแรงขนาดนั้น เราเอื้อมมือจะไปจับเค้าค่ะแต่เค้าสะบัดมือเราออกทำให้มือเค้าฟาดเค้ามาที่หน้าเรา เราพยายามยื้อไม่ให้เค้าไป เค้าก็ถีบ เค้าผลักเราล้มลงแล้วก็มาบีบคอเรา พอเราเข้าใกล้เค้า เค้าก็ถีบเราค่ะ ถีบแบบรัวๆเพื่อที่จะให้เราไปให้พ้นแต่เราก็ทนคิดว่าเรื่องแต่นี้ไม่เป็นอะไรมาก พอถึงตอนเช้าเราคุยกับเค้าไม่รู้เรื่องเราก็เลยตามเค้าไป เค้าขับรถจะเอารถไปซ่อมแถวมีนบุรีเราเองไม่รู้ทาง เราก็ทะเลาะกับเค้าตลอดทาง ตอนนั้นเรามีเงินติดตัวอยู่ยี่สิบบาทซึ่งมันไม่พอค่ารถที่จะกลับหอ รัหว่างทางนั้นเค้าก็พยายามไล่เราบอกว่า ลงจากรถกูไป เราบอกเรามีเงินไม่พอเราขอบืมหน่อยได้มั้ย เค้าตอบกลับมาว่า กูไม่มี เราเลยบอกว่า แล้วกูจะกลับยังไง เค้าพูดมาว่า เรื่อง เราเลยตัดสินใจบอกว่า งั้นยืมยี่สิบก็ได้ เค้าก็โวยวายแล้วก็โยนเงินลงกับพื้นให้เราเก็บ แล้วเค้าก็ทิ้งเราไว้ข้างทาง เราก็ไม่รู้ว่าที่นั่นมันคือที่ไหนก็เลยเดินไปเรื่อยๆจนถึงได้กลับหอ
จนเมื่อครั้งล่าสุดค่ะ เราทะเลาะกันเพราะความงี่เง่าของเรา เราเดาได้ว่าเค้าคงจะเกลียดเราอย่างหนัก เราคุยกันไม่รู้เรื่อง เค้าก็ได้แต่พูดจาไล่เราให้เราลงจากรถ พอเราไม่ไปเค้าก็เลยหยิบขวดน้ำมาขว้างใส่หัวของเรา เราก็เสียใจค่ะแต่เราก็ทน
แต่เค้าก็มีมุมที่ดีนะค่ะบางครั้งเค้าก็ดูเป็นห่วงเราดี ส่วนเรื่องอะไรที่เกี่ยวกับลูกเราเองก็ไม่เคยเรียกร้องอะไร แต่ถ้าวันไหนที่เราลำบากเค้าก็จะช่วยเราบ้างนิดหน่อย ตอนนี้เรารู้สึกเหนื่อยเหลือเกินค่ะ เรามองหน้าลูกเราก็ยอ่งสงสาร คิดว่าเป็นเพราะเราเกิดมาไม่เคยมีค่าทุกคนจึงได้รังเกลียดเรา เราเหมือนตัวคนเดียว เหมือนตัวซวย ที่ทำให้ลูกลำบาก ทำให้พ่อของเค้าไม่ได้รักเค้าเลย เราเคยกินยาเพื่อที่อยากจะหลับๆไปไม่ต้องตื่น แต่ก็ไม่สำเร็จ ลูกเราเองก็เป็นเด็กที่อ่อนโยนค่ะ เวลาที่เราร้องไห้ลูกของเรามักจะหาผ้ามาเช็ดน้ำให้คอยถามว่าแม่เป็นอะไร
เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องแต่งแต่เป็นจริงจากชีวิตเราค่ะ ถ้าจะด่าว่าเราโง่หรือจะด่าอะไรรบกวนลงที่เราได้โปรดอย่าด่าลูกของเรา เราแค่เหนื่อยบางทีคิดว่าถ้าลูกไม่มีเราสักคนชีวิตลูกอาจจะดีกว่านี้ ลูกจะได้ไม่ต้องอายใครที่เกิดมามีแม่ที่ไร้ค่าแบบเรา