สวัสดีครับ ที่ผมตั้งกระทู้นี้ขึ้นเพราะคืนนี้ผมนอนไม่หลับ
รู้สึกคิดไม่ตกกับสิ่งที่ทำลงไป และสิ่งที่เกิดขึ้น
จึงขอพื้นที่ตั้งกระทู้ออกแนวระบายความในใจและตั้งคำถามไปในตัวครับ
ผมเคยมีแฟนคนหนึ่งที่รักมาก ยอมให้ได้ทุกอย่าง
เราคบกันมา 6 ปี และเป็นผมเองที่เริ่มเปลี่ยนไป
ผมรู้สึกว่าเขาไม่สามารถให้ในสิ่งที่ผมต้องการได้
ทั้งๆที่ผมให้ทุกสิ่งทุกอย่างกับเขา
ทั้งความรัก เวลา แรงกาย ความซื่อสัตย์ และทรัพย์สินเงินทอง
ผมไม่รู้ว่าเป็นผมเองรึเปล่าที่อาจจะขอในสิ่งที่เขาไม่ชอบใจที่จะทำ
แต่สำหรับผมเมื่อชั่งน้ำหนักแล้วสิ่งที่ผมได้รับจากเขา มันน้อยกว่าที่ผมให้เขาไปมาก
สุดท้ายความซื่อสัตย์ก็หมดลงเมื่อผมมีคนอื่น (เพื่อเป็นข้ออ้างให้ตัดได้ขาด)
และตัดสินใจบอกเลิกเขาไป เพราะผมพยายามจะบอกเลิกเป็นนัยๆหลายหนแต่ผลก็เหมือนเดิม
เมื่อตอนแรกๆผมสงสารเขาแทบขาดใจ เพราะใจจริงผมก็รักเขาเหมือนเดิม
เพียงแต่ผมเป็นฝ่ายทนเขาอีกต่อไปไม่ไหวเท่านั้น
แล้วความรัก ความสงสาร ตอนนี้เริ่มเปลี่ยนเป็นความทรมาน ความเกลียดชัง
เมื่อคนที่บอกเราว่า "อยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเรา" "จะรอเราอยู่ที่เดิม"
"ตอนอยู่ด้วยกันไม่เคยมองใคร" และ "ตอนนี้ยังไม่พร้อมมีใคร"
ผ่านมา 1 เดือนเศษๆ ตอนนี้เขามีแฟนใหม่และดูจะหวานแหววกันได้แทบทุกวัน (ส่องในเฟส)
คงเป็นปกติของข้าวใหม่ปลามัน เหมือนเช่นที่ผมก็มีคนอื่นเหมือนกัน ตอนนี้ต่างคนต่างมีก็แฟร์ๆดี
แต่มันก็เจ็บลึกๆที่ผมอดคิดไม่ได้ว่า คนที่รักกันจริง จะมีคนใหม่ได้เร็วขนาดนั้นเลยเหรอ?
จนมันก็น้อยใจ และคิดไปแล้วว่า ที่ผ่านมาที่เขาไม่ค่อยทำอะไรเพื่อเรา เพราะเขาไม่รักเราแต่แรกรึเปล่า?
และก็พาลอยากได้อะไรต่อมิอะไรที่เคยให้ไปกลับมาทั้งหมด อารมณ์ประมาณว่า ไม่อยากให้แล้ว
เพราะถ้ารวมมูลค่าของใช้ต่างๆก็หลายหมื่น แล้วยังไม่รวมเงินสดที่ขอไปอีกกว่าครึ่งแสนได้
เป็นเงินจำนวนไม่น้อยนะ สำหรับพนักงานกินเงินเดือนธรรมดา ที่หามาด้วยน้ำพักน้ำแรง
แต่ด้วยว่าครอบครัวเขาฐานะไม่ค่อยดี และรู้ว่าตอนนี้เขาก็ลำบากกับรายจ่ายที่มากพอสมควร
จะให้ทวงกลับมาก็ดูจะเห็นแก่ตัวเกินไปหน่อยรึเปล่า เพราะตอนให้เราก็ให้เขาเองเพราะเขาขอ
ตอนนี้ผมคิดไม่ตกเลย เพิ่งเข้าใจว่าทั้งรักและทั้งเกลียดมันเป็นยังไง
ขอความเห็นหน่อยนะครับ ขอบคุณครับ
คนรักกันมานานแต่สุดท้ายก็เลิกกัน จะทวงของ หรือคืนของให้กันไหมครับ?
รู้สึกคิดไม่ตกกับสิ่งที่ทำลงไป และสิ่งที่เกิดขึ้น
จึงขอพื้นที่ตั้งกระทู้ออกแนวระบายความในใจและตั้งคำถามไปในตัวครับ
ผมเคยมีแฟนคนหนึ่งที่รักมาก ยอมให้ได้ทุกอย่าง
เราคบกันมา 6 ปี และเป็นผมเองที่เริ่มเปลี่ยนไป
ผมรู้สึกว่าเขาไม่สามารถให้ในสิ่งที่ผมต้องการได้
ทั้งๆที่ผมให้ทุกสิ่งทุกอย่างกับเขา
ทั้งความรัก เวลา แรงกาย ความซื่อสัตย์ และทรัพย์สินเงินทอง
ผมไม่รู้ว่าเป็นผมเองรึเปล่าที่อาจจะขอในสิ่งที่เขาไม่ชอบใจที่จะทำ
แต่สำหรับผมเมื่อชั่งน้ำหนักแล้วสิ่งที่ผมได้รับจากเขา มันน้อยกว่าที่ผมให้เขาไปมาก
สุดท้ายความซื่อสัตย์ก็หมดลงเมื่อผมมีคนอื่น (เพื่อเป็นข้ออ้างให้ตัดได้ขาด)
และตัดสินใจบอกเลิกเขาไป เพราะผมพยายามจะบอกเลิกเป็นนัยๆหลายหนแต่ผลก็เหมือนเดิม
เมื่อตอนแรกๆผมสงสารเขาแทบขาดใจ เพราะใจจริงผมก็รักเขาเหมือนเดิม
เพียงแต่ผมเป็นฝ่ายทนเขาอีกต่อไปไม่ไหวเท่านั้น
แล้วความรัก ความสงสาร ตอนนี้เริ่มเปลี่ยนเป็นความทรมาน ความเกลียดชัง
เมื่อคนที่บอกเราว่า "อยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเรา" "จะรอเราอยู่ที่เดิม"
"ตอนอยู่ด้วยกันไม่เคยมองใคร" และ "ตอนนี้ยังไม่พร้อมมีใคร"
ผ่านมา 1 เดือนเศษๆ ตอนนี้เขามีแฟนใหม่และดูจะหวานแหววกันได้แทบทุกวัน (ส่องในเฟส)
คงเป็นปกติของข้าวใหม่ปลามัน เหมือนเช่นที่ผมก็มีคนอื่นเหมือนกัน ตอนนี้ต่างคนต่างมีก็แฟร์ๆดี
แต่มันก็เจ็บลึกๆที่ผมอดคิดไม่ได้ว่า คนที่รักกันจริง จะมีคนใหม่ได้เร็วขนาดนั้นเลยเหรอ?
จนมันก็น้อยใจ และคิดไปแล้วว่า ที่ผ่านมาที่เขาไม่ค่อยทำอะไรเพื่อเรา เพราะเขาไม่รักเราแต่แรกรึเปล่า?
และก็พาลอยากได้อะไรต่อมิอะไรที่เคยให้ไปกลับมาทั้งหมด อารมณ์ประมาณว่า ไม่อยากให้แล้ว
เพราะถ้ารวมมูลค่าของใช้ต่างๆก็หลายหมื่น แล้วยังไม่รวมเงินสดที่ขอไปอีกกว่าครึ่งแสนได้
เป็นเงินจำนวนไม่น้อยนะ สำหรับพนักงานกินเงินเดือนธรรมดา ที่หามาด้วยน้ำพักน้ำแรง
แต่ด้วยว่าครอบครัวเขาฐานะไม่ค่อยดี และรู้ว่าตอนนี้เขาก็ลำบากกับรายจ่ายที่มากพอสมควร
จะให้ทวงกลับมาก็ดูจะเห็นแก่ตัวเกินไปหน่อยรึเปล่า เพราะตอนให้เราก็ให้เขาเองเพราะเขาขอ
ตอนนี้ผมคิดไม่ตกเลย เพิ่งเข้าใจว่าทั้งรักและทั้งเกลียดมันเป็นยังไง
ขอความเห็นหน่อยนะครับ ขอบคุณครับ