http://pantip.com/topic/35171507 link สำหรับคนที่ยังไม่ได้อ่านภาคแรกนะครับ
ภาคต่อครับ
เมื่อเรามาถึงสถานีโตเกียวก็รีบเดินหาที่จอดของชินคังเซนกันเลยครับ ครั้งนี้เรานั่ง ชินคังเซนที่ชื่อว่า Hikari ไปลงที่สถานี Shin-Osaka ใช้เวลา 3 ชั่วโมงครับ นั่งแล้วรู้สึกว่าสบายมากที่นั่งดีมาก มีที่วางกระเป๋าที่กินข้าวครับ
แต่เราเอาวางบนกระเป๋า อิอิ และแล้วนั่งชมข้างทางเพลินๆ หลับบ้าง ดูยูทูปบ้าง ก็ถึงสถานีครับ พอถึงก็รีบออกจากสถานี แล้วไปที่พัก ที่พักของเรา จองจากAirbnb ราคา 4419 บาท เฉลียคนละ 1473 บาท ครับถูกมาก สำหรับ 2 วันครับ
ที่อยู่ของที่พักคือ ไกล้กับ JR temma station วิธีการมาของเรา คือ นั่งชินคันเซน จาก tokyo - shin osaka ต่อ Jr osaka loop มาลง ที่ temma station 1 ป้ายครับ จาก osaka loop line
อุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบมากเลยครับ ถ้าคิดว่าครั้งหน้าไปอีก คงจะพักที่เดิมครับ เพราะว่าของกินเยอะมาก ร้านเหล้าก็เช่นกัน ฮ่าๆๆ สำหรับที่นี้ ไม่รอช้าครับ เราก็เก็บของ ออก ไปเดิน นัมบะ เลยครับ ป้ายกูลิโกะ สินะ ที่คนไปถ่ายรูปเยอะๆ
จากที่พักเรามาใช้เวลาประมาณ 20 นาที นั่ง jr สถานี Temma - Osaka เป็นสาย JR ไป สถานี Namba ครับ แล้วก็เดิน ทางเชื่อม สถานีรถไฟ แอบไกลอยู่เหมือนกันครับ ระหว่างนั้น เราก็แวะ Lawsan ซื้อ ตั๋วที่ ตู้ Loppi สีแดง Universal Japan ไว้ล่วงหน้าเลยครับ
หลังจากนั้นก็ชอบปิ้ง เดินหาไรกินเรื่อยเปื่อยแล้วก็กลับ ห้องพักนอน เพราะว่าพรุ่งนี้เราจะไปบุก Universal ครับ
วันที่ 5 แล้วครับ ไวเหมือนโกหก วันนี้ตื่นเช้าเป็นพิเศษ เพราะว่าเราจะไป Universal Japan
วิธีการไป Universal Japan นั่ง JR Osaka Loop Line ขบวนสีส้มไปลงที่ Nishi-Kujo แล้วก็ต่อ JR Yumesaki - Universal Studios Japan
ราคาบัตรตอนนั้นที่เราซื้อที่ตู้ Loppi ใน Lawson ราคา 7400 เยนครับ ควรซื้อล่วงหน้าก็ดีนะครับ เพราะคนเยอะพอสมควร
เมื่อเราถึง เราตั้งใจอย่างแรกเลยครับ เราจะไปเล่นที่บ้าน แฮรีพอตเตอร์ เราไปถึงประมาน 10.30 โมง ได้คิวเล่น 13.20 นี่ขนาดไปไวแล้วนะครับ ยังได้คิว ตอนบ่าย แต่ถ้าใครไม่อยากรอนาน ให้ซื้อตั๋ว Fast Track เพิ่ม แต่ว่าเราไม่ได้ซื้อ รอคิว 2ชม. แต่ระหว่างนั้น ก็ไปเล่นอย่างอื่นก่อน เล่นได้ประมาณ 2 อย่างก่อนเข้าไปเล่น แฮรี่พอตเตอร์
รูปข้างในเราไม่ได้ถ่ายเลยครับ เพราะมืดมาก หลังจากออกมาพูดกับเพื่อนว่า ราคาบัตร แค่นี้ เล่น แฮรี่พอตเตอร์อย่างเดียวคุ้มแล้วครับ สนุกมาก ไม่เคยเล่นเครื่องเล่นที่ดูสมจริงขนาดนี้ เหมือนเราบินตามแฮรี่พอตเตอร์เลยครับ.....
วันนี้ต้อง ยกให้ USJ เต็มๆเลยครับ
ค่ำมืดครับ หาไรกินแล้วก็กลับห้องนอน พรุ่งนี้วันสุดท้ายแล้ว เราจะไปเกียวโต กันครับ คุ้มค่าที่สุด แฮรี่พอตเตอร์.... อยากเล่นอีกกกก
ทั้งหมดทั้งมวล ยังใช้ JR Pass ที่ซื้อมาอยู่ครับ
วันที่ 6 วันสุดท้าย ของการพักร้อน เราไป กันที่ KYOTO กันครับ
เมื่อเรา check out จาก ที่พัก วันนี้แอบตื่นสาย เกือบ 10 โมง ครับ ที่ Kyoto เราเลือกไปแค่ 2 ครับ คือ ศาลเจ้าเสาแดงหมื่นต้น Fushimi Inari Taisha อีกที่ คือ ป่าไผ่ Arashiyama ไปดูที่แรกกันเลยครับ...จากสถานี JR Osaka / Shin Osaka – JR Kyoto
ที่แรก เราเลือกไป ศาลเจ้าเสาแดงหมื่นต้น Fushimi Inari ศาลเจ้าเทพอินาริ (伏見稲荷大社, Fushimi Inari Shrine) หรือที่คนชอบเรียกกันว่าศาลเจ้าแดงหรือศาลเจ้าจิ้งจอกเป็นศาลเจ้าชินโต(Shinto)ที่มีความสำคัญแห่งหนึ่งของเมืองเกียวโต(Kyoto) มีชื่อเสียงโด่งดังจากประตูโทริอิ (Torii Gate) หรือเสาประตูสีแดงที่เรียงตัวกันข้างหลังศาลเจ้าจำนวนหลายหมื่นต้นจนเป็นทางเดินได้ทั่วทั้งภูเขาอินาริ ที่ผู้คนเชื่อกันว่าเป็นภูเขาศักสิทธ์ โดยเทพอินาริจะเป็นตัวแทนของความอุดมสมบูรณ์ การเก็บเกี่ยวข้าว รวมไปถึงพืชผลไร่นาต่างๆ และมักจะมีจิ้งจอกเป็นสัตว์คู่กาย(บ้างก็ว่าท่านชอบแปลงร่างเป็นจิ้งจอก) จึงสามารถพบเห็นรูปปั้นจิ้งจอกมากมายด้วยเช่นกัน ศาลเจ้าแห่งนี้มีความเก่าแก่มากถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ก่อนสร้างเมืองเกียวโตซะอีก คาดกันว่าจะเป็นช่วงประมาณปีค.ศ. 794 หรือกว่าพันปีมาแล้ว
วิธีการมา ไม่อยากเลยครับ เรามาเริ่มต้น จากสถานี JR Kytoto เพียง 2 สถานี นั่งรถไฟ JR Local สายวิ่งเข้าเมือง Nara ลงที่สถานี JR Inari
เราไปได้เพื่อนๆก็ไปได้แน่นอนครับ
จากนั้นที่สุดท้ายของการเที่ยวครับ คือ ป่าไผ่ Arashiyama สวนป่าไผ่(Bamboo Groves)เป็นเส้นทางเดินเล็กๆที่ตัดผ่านในกลางสวนป่าไผ่ สามารถเดินเล่นหรือขี่จักรยายผ่านก็ได้ ให้บรรยากาศที่แปลกและหาได้ยาก ยิ่งถ้าช่วงไหนที่มีแสงอาทิตย์รอดผ่านตัวป่าไผ่ลงมายังพื้นด้านล่างก็จะยิ่งสวยมาก โดยเฉพาะถ้ามีลมพัดมาพร้อมกันก็จะเป็นเสียงกิ่งก้านของต้นไผ่กระทบกันไปมา บริเวณใกล้ๆจะเป็นร้านขายของพื้นเมืองที่ทำมาจากต้นไม้ เช่น ตะกร้าไม้ไผ่, ถ้วย, กล่องใส่ของ หรือเสื้อเสื้อสานจากไผ่ เป็นร้านดั้งเดิมของคนท้องถิ่น
วิธีการไป นั่งรถไฟ สถานี Kyoto Station ไปยังสถานี JR Saga-Arashiyama Station เราย้อน
จบทริปพักร้อนแล้วครับ หลังจากนั้นเราก็นั่งรถไปกลับไปที่ Kyoto แล้ว ก็รอขึ้น ชินคังเซน ไปสนามบิน คันไซ เพื่อกลับ กรุงเทพ......
ขอสรุปค่าใช้จ่าย อีกที นะครับ
1.ตั๋วเครื่องบิน 12,000 บาท
2.ตั๋ว JR Pass 8,990 บาท
3.ค่าที่พัก 2 ที่ เฉลี่ยแล้ว 3,473 บาท
4.ตั๋ว Disneyland 2,400 บาท
5.ตั๋ว Universal studio Japan 2,400 บาท
6.ค่ารถไฟเพิ่มที่ ฟูจิ ไป-กลับ 720 บาท (Fujikyu Railway)
7.ตั๋ว Retro bus เที่ยวรอบทะเลสาบ 325 บาท
8.ตั๋วเพิ่ม Metro Ginza Line ไป Asakusa 105 บาท
รวม 30,413 บาท รวมค่าธรรมเนียม บัตรนิดหน่อย เราเลยคิด ตีกลมๆ เป็น 31,000 บาท
*************ขอบคุณที่ตั้งใจอ่านและหวังว่าคงเป็นจุดเริ่มต้นของคนที่กำลังอยากจะเที่ยวพักร้อนครับ*******************
เที่ยวโตเกียว - โอซาก้า 7 วัน 6 คืน ค่าใช้จ่าย 31000 บาท (ไม่รวมค่าอาหาร) ภาคต่อครับ
http://pantip.com/topic/35171507 link สำหรับคนที่ยังไม่ได้อ่านภาคแรกนะครับ
ภาคต่อครับ
เมื่อเรามาถึงสถานีโตเกียวก็รีบเดินหาที่จอดของชินคังเซนกันเลยครับ ครั้งนี้เรานั่ง ชินคังเซนที่ชื่อว่า Hikari ไปลงที่สถานี Shin-Osaka ใช้เวลา 3 ชั่วโมงครับ นั่งแล้วรู้สึกว่าสบายมากที่นั่งดีมาก มีที่วางกระเป๋าที่กินข้าวครับ
แต่เราเอาวางบนกระเป๋า อิอิ และแล้วนั่งชมข้างทางเพลินๆ หลับบ้าง ดูยูทูปบ้าง ก็ถึงสถานีครับ พอถึงก็รีบออกจากสถานี แล้วไปที่พัก ที่พักของเรา จองจากAirbnb ราคา 4419 บาท เฉลียคนละ 1473 บาท ครับถูกมาก สำหรับ 2 วันครับ
ที่อยู่ของที่พักคือ ไกล้กับ JR temma station วิธีการมาของเรา คือ นั่งชินคันเซน จาก tokyo - shin osaka ต่อ Jr osaka loop มาลง ที่ temma station 1 ป้ายครับ จาก osaka loop line
อุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบมากเลยครับ ถ้าคิดว่าครั้งหน้าไปอีก คงจะพักที่เดิมครับ เพราะว่าของกินเยอะมาก ร้านเหล้าก็เช่นกัน ฮ่าๆๆ สำหรับที่นี้ ไม่รอช้าครับ เราก็เก็บของ ออก ไปเดิน นัมบะ เลยครับ ป้ายกูลิโกะ สินะ ที่คนไปถ่ายรูปเยอะๆ
จากที่พักเรามาใช้เวลาประมาณ 20 นาที นั่ง jr สถานี Temma - Osaka เป็นสาย JR ไป สถานี Namba ครับ แล้วก็เดิน ทางเชื่อม สถานีรถไฟ แอบไกลอยู่เหมือนกันครับ ระหว่างนั้น เราก็แวะ Lawsan ซื้อ ตั๋วที่ ตู้ Loppi สีแดง Universal Japan ไว้ล่วงหน้าเลยครับ
หลังจากนั้นก็ชอบปิ้ง เดินหาไรกินเรื่อยเปื่อยแล้วก็กลับ ห้องพักนอน เพราะว่าพรุ่งนี้เราจะไปบุก Universal ครับ
วันที่ 5 แล้วครับ ไวเหมือนโกหก วันนี้ตื่นเช้าเป็นพิเศษ เพราะว่าเราจะไป Universal Japan
วิธีการไป Universal Japan นั่ง JR Osaka Loop Line ขบวนสีส้มไปลงที่ Nishi-Kujo แล้วก็ต่อ JR Yumesaki - Universal Studios Japan
ราคาบัตรตอนนั้นที่เราซื้อที่ตู้ Loppi ใน Lawson ราคา 7400 เยนครับ ควรซื้อล่วงหน้าก็ดีนะครับ เพราะคนเยอะพอสมควร
เมื่อเราถึง เราตั้งใจอย่างแรกเลยครับ เราจะไปเล่นที่บ้าน แฮรีพอตเตอร์ เราไปถึงประมาน 10.30 โมง ได้คิวเล่น 13.20 นี่ขนาดไปไวแล้วนะครับ ยังได้คิว ตอนบ่าย แต่ถ้าใครไม่อยากรอนาน ให้ซื้อตั๋ว Fast Track เพิ่ม แต่ว่าเราไม่ได้ซื้อ รอคิว 2ชม. แต่ระหว่างนั้น ก็ไปเล่นอย่างอื่นก่อน เล่นได้ประมาณ 2 อย่างก่อนเข้าไปเล่น แฮรี่พอตเตอร์
รูปข้างในเราไม่ได้ถ่ายเลยครับ เพราะมืดมาก หลังจากออกมาพูดกับเพื่อนว่า ราคาบัตร แค่นี้ เล่น แฮรี่พอตเตอร์อย่างเดียวคุ้มแล้วครับ สนุกมาก ไม่เคยเล่นเครื่องเล่นที่ดูสมจริงขนาดนี้ เหมือนเราบินตามแฮรี่พอตเตอร์เลยครับ.....
วันนี้ต้อง ยกให้ USJ เต็มๆเลยครับ
ค่ำมืดครับ หาไรกินแล้วก็กลับห้องนอน พรุ่งนี้วันสุดท้ายแล้ว เราจะไปเกียวโต กันครับ คุ้มค่าที่สุด แฮรี่พอตเตอร์.... อยากเล่นอีกกกก
ทั้งหมดทั้งมวล ยังใช้ JR Pass ที่ซื้อมาอยู่ครับ
วันที่ 6 วันสุดท้าย ของการพักร้อน เราไป กันที่ KYOTO กันครับ
เมื่อเรา check out จาก ที่พัก วันนี้แอบตื่นสาย เกือบ 10 โมง ครับ ที่ Kyoto เราเลือกไปแค่ 2 ครับ คือ ศาลเจ้าเสาแดงหมื่นต้น Fushimi Inari Taisha อีกที่ คือ ป่าไผ่ Arashiyama ไปดูที่แรกกันเลยครับ...จากสถานี JR Osaka / Shin Osaka – JR Kyoto
ที่แรก เราเลือกไป ศาลเจ้าเสาแดงหมื่นต้น Fushimi Inari ศาลเจ้าเทพอินาริ (伏見稲荷大社, Fushimi Inari Shrine) หรือที่คนชอบเรียกกันว่าศาลเจ้าแดงหรือศาลเจ้าจิ้งจอกเป็นศาลเจ้าชินโต(Shinto)ที่มีความสำคัญแห่งหนึ่งของเมืองเกียวโต(Kyoto) มีชื่อเสียงโด่งดังจากประตูโทริอิ (Torii Gate) หรือเสาประตูสีแดงที่เรียงตัวกันข้างหลังศาลเจ้าจำนวนหลายหมื่นต้นจนเป็นทางเดินได้ทั่วทั้งภูเขาอินาริ ที่ผู้คนเชื่อกันว่าเป็นภูเขาศักสิทธ์ โดยเทพอินาริจะเป็นตัวแทนของความอุดมสมบูรณ์ การเก็บเกี่ยวข้าว รวมไปถึงพืชผลไร่นาต่างๆ และมักจะมีจิ้งจอกเป็นสัตว์คู่กาย(บ้างก็ว่าท่านชอบแปลงร่างเป็นจิ้งจอก) จึงสามารถพบเห็นรูปปั้นจิ้งจอกมากมายด้วยเช่นกัน ศาลเจ้าแห่งนี้มีความเก่าแก่มากถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ก่อนสร้างเมืองเกียวโตซะอีก คาดกันว่าจะเป็นช่วงประมาณปีค.ศ. 794 หรือกว่าพันปีมาแล้ว
วิธีการมา ไม่อยากเลยครับ เรามาเริ่มต้น จากสถานี JR Kytoto เพียง 2 สถานี นั่งรถไฟ JR Local สายวิ่งเข้าเมือง Nara ลงที่สถานี JR Inari
เราไปได้เพื่อนๆก็ไปได้แน่นอนครับ
จากนั้นที่สุดท้ายของการเที่ยวครับ คือ ป่าไผ่ Arashiyama สวนป่าไผ่(Bamboo Groves)เป็นเส้นทางเดินเล็กๆที่ตัดผ่านในกลางสวนป่าไผ่ สามารถเดินเล่นหรือขี่จักรยายผ่านก็ได้ ให้บรรยากาศที่แปลกและหาได้ยาก ยิ่งถ้าช่วงไหนที่มีแสงอาทิตย์รอดผ่านตัวป่าไผ่ลงมายังพื้นด้านล่างก็จะยิ่งสวยมาก โดยเฉพาะถ้ามีลมพัดมาพร้อมกันก็จะเป็นเสียงกิ่งก้านของต้นไผ่กระทบกันไปมา บริเวณใกล้ๆจะเป็นร้านขายของพื้นเมืองที่ทำมาจากต้นไม้ เช่น ตะกร้าไม้ไผ่, ถ้วย, กล่องใส่ของ หรือเสื้อเสื้อสานจากไผ่ เป็นร้านดั้งเดิมของคนท้องถิ่น
วิธีการไป นั่งรถไฟ สถานี Kyoto Station ไปยังสถานี JR Saga-Arashiyama Station เราย้อน
จบทริปพักร้อนแล้วครับ หลังจากนั้นเราก็นั่งรถไปกลับไปที่ Kyoto แล้ว ก็รอขึ้น ชินคังเซน ไปสนามบิน คันไซ เพื่อกลับ กรุงเทพ......
ขอสรุปค่าใช้จ่าย อีกที นะครับ
1.ตั๋วเครื่องบิน 12,000 บาท
2.ตั๋ว JR Pass 8,990 บาท
3.ค่าที่พัก 2 ที่ เฉลี่ยแล้ว 3,473 บาท
4.ตั๋ว Disneyland 2,400 บาท
5.ตั๋ว Universal studio Japan 2,400 บาท
6.ค่ารถไฟเพิ่มที่ ฟูจิ ไป-กลับ 720 บาท (Fujikyu Railway)
7.ตั๋ว Retro bus เที่ยวรอบทะเลสาบ 325 บาท
8.ตั๋วเพิ่ม Metro Ginza Line ไป Asakusa 105 บาท
รวม 30,413 บาท รวมค่าธรรมเนียม บัตรนิดหน่อย เราเลยคิด ตีกลมๆ เป็น 31,000 บาท
*************ขอบคุณที่ตั้งใจอ่านและหวังว่าคงเป็นจุดเริ่มต้นของคนที่กำลังอยากจะเที่ยวพักร้อนครับ*******************