>> ตอนที่ 1 - เฮเทอร์ (1/2) http://pantip.com/topic/35130752 , (2/2) http://pantip.com/topic/35135027
>> ตอนที่ 2 - เต็มใจ (1/2) http://pantip.com/topic/35143236 , (2/2) http://pantip.com/topic/35151778
>> ตอนที่ 3 - ลับตา (1/2) http://pantip.com/topic/35158889 , (2/2) http://pantip.com/topic/35162836
>> ตอนที่ 4 - วังหลวง (1/2) http://pantip.com/topic/35170650



เมเรรูคามอบหมายให้อาลักษณ์ของตนออกไปรอข้างนอกก่อน และหลังจากประตูห้องประชุมปิดลง องค์ฟาโรห์ก็หันไปคุยกับเมเรรูคาด้วยระดับเสียงไม่ดังนัก

“ท่านรู้ถึงความกังวลของอินเทฟหรือไม่ ท่านเมเรรูคา”

“ทูลฝ่าบาท หม่อมฉันคิดว่า พอจะเข้าใจพะย่ะค่ะ”

“ว่ามา”

“จะว่าไปแล้วอินเทฟมีสัมพันธ์ใกล้ชิดกับนูเบียไม่น้อย ทั้งในส่วนของความรับผิดชอบและในเรื่องส่วนตัว อย่างที่ทราบกันดีว่าอินเทฟสนิทกับเฮเนนูและเจ้าชายคาชตา”

เฮเนนู คือชาวอียิปต์ผู้ดำรงตำแหน่ง ‘โอรสกษัตริย์,แห่งนูเบีย’ ผู้ทำหน้าที่ต่างพระเนตรพระกรรณ เป็นตัวแทนฟาโรห์ดูแลนูเบียที่อยู่ในปกครอง เฮเนนูผู้นี้ ได้ดำรงตำแหน่งโอรสกษัตริย์,แห่งนูเบียมาตั้งแต่รัชสมัยฟาโรห์เมนคาอูเร พระบิดาของพระองค์ แม้ลึกๆพระองค์จะไม่ค่อยโปรดปรานคนผู้นี้เท่าใดนัก แต่ในเมื่อยังไม่เหตุสมควร เฮเนนู จึงได้ดำรงตำแหน่งนี้เรื่อยมา

คาชตา แท้จริงจะต้องเป็นกษัตริย์แห่งนูเบีย ทว่า เมื่อนูเบียตกเป็นของอียิปต์แล้ว กษัตริย์จึงมีหนึ่งเดียว คือ ฟาโรห์ ตำแหน่งขอคาชตา จึงเป็นเพียง เจ้าชาย ที่ตั้งไว้ลอยๆ เพื่อยึดชาวนูเบียไว้ เท่านั้น

“เคยได้ยินว่าหลังจากที่ข้าปฏิเสธจะรับบุตรสาวมาเป็นสนม อินเทฟก็จัดแจงให้นางได้สมรสกับบุตรของเฮเนนู แต่ก็โดนปฏิเสธอีก สุดท้ายทั้งสองจึงบาดหมางกันแต่นั้นมา มิใช่หรือ”

ทรงเอ่ยถามเมื่อนึกขึ้นได้ ตำแหน่งชายาและสนมของพระองค์ที่ว่างลงนั้น เป็นเหตุการณ์เกี่ยวพันกับการกบฏเมื่อห้าปีที่แล้ว ครั้นทุกอย่างสงบลง ก็มีเสนาอำมาตย์มากมายมาเสนอบุตรสาวของตนให้ได้รับตำแหน่ง ทรงให้ความยุติธรรมกับทุกคนด้วยการไม่รับใครสักคน ด้วยไม่ต้องการให้เกิดขั้วอำนาจใหม่ขึ้นเร็วเกินไป ทว่า บุตรสาวของอินเทฟผู้นั้นงดงามจนเป็นที่เลื่องลือ ผู้เป็นบิดาคงคาดหวังกับการเลือกคู่ครองของบุตรีมาก หลังจากพระองค์ปฏิเสธอินเทฟจึงยังไม่หยุดมองหา ลูกเขย ที่ตนพอใจ

“พักหนึ่งพะย่ะค่ะ” เมเรรูคากล่าวตอบ “แต่หลังจากนางได้ออกเรือนกับคหบดีและย้ายไปอยู่ที่เมนเนเฟอร์แล้ว อินเทฟก็คงจะสบายใจขึ้น จึงกลับมาสนิทสนมกับเฮเนนูอีกครั้ง”

“เช่นนั้น ที่อินเทฟแสดงความกังวลเมื่อครู่ก็อาจจะเพราะเขารู้จักนูเบียจากวงในดีไม่น้อย” ทรงทำทีคาดการณ์

“สถานการณ์ในนูเบียที่อินเทฟรู้คงไม่ต่างจากที่เรารู้ แต่ที่หม่อมฉันอดคิดไม่ได้คือ นอกจากอินเทฟจะรู้แล้ว อาจจะได้ คุย อะไรไว้บ้าง อาจมีการขออะไรสักอย่างที่ไม่ให้นูเบียต้องเดือดร้อนเกินไป”

ฟาโรห์ทรงตวัดพระเนตรมองสบตาเมเรรูคาทันที ขมวดพระขนงคล้ายประเมิน

“ท่านจะบอกว่า อินเทฟเอาใจออกห่างอียิปต์แล้วหันไปเห็นใจนูเบีย งั้นรึ”

“หามิได้ หม่อมฉันเพียงตั้งข้อสังเกต”

“ท่านคงรู้จักข้าดี เมเรรูคา” ทรงกอดพระอุระ มองตรงไปข้างหน้า “หากจำเป็น ต่อให้ชาวนูเบียต้องอดตายเพื่อให้ชาวอียิปต์อิ่ม ข้าก็จะทำโดยไม่ลังเล สิ่งที่ท่านพูดถึงอินเทฟเมื่อครู่ นับว่าขัดแย้งกับข้าโดยสิ้นเชิง ข้าอยากจะเชื่อว่าแม้อินเทฟจะเห็นใจนูเบีย แต่ก็ไม่น่าจะเห็นนูเบียมาก่อนอียิปต์”

“ขอประทานอภัย หม่อมฉันอาจกังวลเกินไป” เมเรรูคาเพียงก้มหน้ารับ

“ข้าไม่ต้องการเห็นความขัดแย้งตอนนี้” ทรงระบายปราณ “แต่ท่านรู้อยู่แล้วใช่หรือไม่ ว่าข้าเก็บคำแนะนำของท่านมาใส่ใจเสมอ ข้าไว้ใจท่านเพียงใด ท่านคงประจักษ์ดีอยู่แล้วใช่ไหม เมเรรูคา”

“หม่อมฉันทราบดี ขอบพระทัยฝ่าบาท พะย่ะค่ะ”

“เอาละ ข้าไม่รบกวนท่านแล้ว อีกสามวันเจอกัน”

ทรงตรัสเช่นนี้หมายความว่า วันนี้หมดธุระของเมเรรูคาแล้ว วิเซียร์แห่งอียิปต์บนจึงก้มหน้ากราบทูลลา