เพราะ Timeline ของเราไม่เท่ากัน

ขอเริ่มด้วยประโยค Classic ที่ว่า
"นี่เป็นกระทู้แรก" ที่ตั้งเกี่ยวกับปัญหาความรัก เพราะที่ผ่านมา มักจะตั้งสัพเพเหระ ถามโน่นถามนี่ไป

เริ่มเลยละกัน
เราเป็นเกย์ คบกับแฟนเรามาจะ 2 ปีละ แฟนเราเป็นชาวออสเตรเลีย ซึ่งเป็นเขาเป็นคนที่หน้าตาดีมาก (มีหนวด มีเครา ผมสีบรูเนตต์ ปากนิด จมูกหน่อย มีความเป็น Hipster สูง) ตอนแรกที่เราเจอเขาผ่านการแนะนำของเพื่อน บอกได้เลยว่าตอนนั้น มือไม้สั่น  ระดับความสามารถภาษาอังกฤษที่เรามีลดลงไปซะงั้น ไม่เคยชอบมองใครมากเท่านี้มาก่อน โดยเฉพาะตอนเขาพูด จู่ๆ เราก็หลงรักสำเนียง ออสซี่ ขึ้นมาทันที ...เราใช้เวลาคุยกันผ่าน Facebook กว่า 3 เดือน ตาม IG ไลค์ทุกโพสต์ ไลค์ทุกรูป จนเราได้เจอกันอีกครั้งที่เชียงใหม่ และได้ออกไปสังสรรค์กัน และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ของเราทั้งคู่ ความลำบากก็คือ เขาอยู่เชียงใหม่ เราอยู่กรุงเทพฯ หลังเรากลับมา กทม.​ การพูดคุยกันนั้นต้องผ่าน iMessage หรือ Facebook Message เท่านั้น มีบางครั้งที่เรา Facetime กัน

หลายคนคงสงสัยว่า ทำไมเราต้องบรรยายว่า เขาหน้าตาดีอย่างโน้น หน้าตาดีอย่างนี้ ...ด้วยหน้าตาของเขาเนี่ยแหล่ะที่ทำให้เรื่องราวมันเกิดขึ้น
หลังจากที่เราเริ่มคบกัน เราออกตัวกับเขาแรงมาก โพสต์รูปคู่บน Facebook ทุกครั้งที่เราไปเจอเขา หรือ เขามาเจอเรา จนเพื่อนๆ เริ่มหมั่นไส้ และเราก็เริ่มคิดได้ และตั้งคำถามกับตัวเองว่า

"อีกฝ่ายเขาโพสต์ภาพเราแบบที่เราโพสต์ภาพเขาหรือเปล่า?" ไม่นะ ...เขาใช้ชีวิตปกติมาก มากสุดที่เขาแสดงให้เราเห็นก็คือบอกกับเราว่า "I miss you" ผ่าน iMessage + ส่ง Selfie มาให้
ตอนนั้นเรารู้ตัวว่า เรากำลัง หลง เขาจนหัวปักหัวปำ และเราเคยบอกกับตัวเองว่า การ มโน ไม่ใช่ทางเลือกที่ดี ...เราควรลด ดีกรี มันลงนิดนึง แต่ยิ่งเราเจอเขามากขึ้น เราก็ยิ่ง หลงเขามากขึ้นไปอีก ...3 เดือนให้หลัง เราตัดสินใจไปเที่ยวลาวด้วยกัน เป็นเวลา 10 วัน ในระยะเวลาเท่านี้จะพิสูจน์ได้เลยว่า จะไปรอดหรือไม่รอด จะชอบกันมากขึ้นหรือเกลียดกันไปเลย ก็ขึ้นอยู่กับการไปเที่ยวครั้งนี้

ระยะเวลาที่อยู่ที่ลาว Dynamic ของเราทั้งคู่เริ่มมากขึ้น มีการแลกเปลี่ยนเรื่องราวส่วนตัว ชีวิต ครอบครัว การงาน ฯลฯ ข้อเสียของเราคือเป็นคนที่มี ego สูง  เป็นคนที่ชอบเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาล ...และเราแสดง ego นั้นออกมาหลายครั้ง แต่ผลคือ เขาชอบให้เราเป็นคนคุมเกม ชอบให้เราเป็นคนตัดสินใจ เวลาจะกินอาหาร + หาสถานที่เที่ยว ตอนนั้นเรามีความสุขมากเพราะว่า ในที่สุดเราก็เจอคนที่ชอบในสิ่งที่เราเป็นและไม่พยายามเปลี่ยนมัน

"เราว่าเราเริ่มรัก ผู้ชายคนนี้"
คืนวันที่ 7 ที่วังเวียง เราบอกรักผู้ชายคนนี้ เป็นครั้งแรก ในหัวของเราเต็มไปด้วยฉากหนังโรแมนติก แต่ความจริงแล้วไม่ใช่
สิ่งที่เขาบอกกับเราก็คือ
"ผมขอบคุณจริงๆ และผมชอบอยู่กับคุณนะ แต่คุณไม่คิดว่าเร็วไปหน่อยหรอ เราควรจะค่อยๆ เรียนรู้กันมากกว่านี้นะ ผมชอบคุณมากๆ และอยากทำอะไรให้มันถูกต้อง" (ไม่คิดว่าพอแปลเป็นภาษาไทยแล้วจะเลี่ยนได้ขนาดนี้)
ตอนนั้นเราต้องขอบคุณตัวเองที่ตั้งสติอยู่ ไม่แสดงความดราม่าออกมา แต่ก็แอบผิดหวัง

หลังจาก ทริป ลาวจบ ทุกอย่างโอเค เขาถามตลอดว่า เราโอเคมั้ย เราเริ่มเรียนรู้กันและกันอย่างช้าๆ แต่บางครั้งเราแอบหงุดหงิด เพราะเรารู้สึกว่า "เรายังไม่ใช่ ที่ 1 ของเขา" ทั้งๆ ที่เขาคือที่ 1 ของเรา การไม่ได้อยู่ด้วยกันอาจทำให้เขากลัวเปล่า? หรือเขายังไม่เชื่อใจ

1 ปี กับ 6 เดือน ผ่านไป เป็นช่วงเวลา ที่มีความสุขกับเขามาก เขาเป็นคนง่ายๆ ไม่เรื่องมาก ทะเลาะกันก็นับครั้งได้ และก็มักจะจบด้วยเราทั้งคู่นั่งคุยกันและปรับความเข้าใจกัน แต่เรายังไม่ได้ยินจากปากเขาเลยว่า "เขารักเรา" ซึ่งมันทำให้เราคิดว่า "พอได้แล้วมั้ง" จากวันนั้นที่ไป ลาวก็ผ่านมาปีกว่าแล้ว ทำไมไม่มีวี่แวว

ความท้อใจเปลี่ยนเป็นความเบื่อหน่าย เราเริ่มหงุดหงิดที่เขามักจะตั้งคำถามเดิมๆ ซ้ำๆ ทุกวัน "คุณกินข้าวเช้าหรือยัง" "คุณกินอะไรเป็นข้าวเช้าหรอ" และ "คุณกำลังทำอะไรอยู่" บางครั้งเราระเบิดอารมณ์ออกมา และเลือกที่จะไม่ตอบข้อความเขา

และแล้วเดือนเมษายนที่ผ่านมา (เราคบกัน ครบ 1 ปี กับอีก 10 เดือน) เขามาหาเราที่ กทม. ซึ่งก่อนหน้านั้นเราทะเลาะกันเรื่องที่เราออกไปเที่ยวกับเพื่อนจนลืมตอบข้อความเขา และวันที่เขามาหาเราคือวันที่เราปรับความเข้าใจกัน เขาดูมีท่าทางแปลกๆ ไม่เหมือนเมื่อก่อน คำพูดคำจาหวานมากขึ้น มองหน้าเรานานมากกว่าแต่ก่อน

...และเขาก็พูดออกมา "ผมรักคุณนะ" ...1 ปี กับ 10 เดือนที่เรารอคำนั้น แต่เรากลับไม่ได้รู้สึก ดีใจมากเท่าไร

เราไม่เขาแล้วหรอ? หรือเรารักเขามาตั้งนานแล้ว จนมันเป็นเรื่องปกติไปแล้ว?
เราทำได้แต่ยิ้ม และก็บอกคำนั้นกลับไป

หลังจาก การบอกรักผ่านไป เขากลับไปเชียงใหม่ ทุกอย่างก็ยังวน Loop เช่นเดิม คำถามเดิมๆ ที่เขาตั้ง หัวข้อสนทนาเดิมๆ เนื้อหาเดิมๆ

เรากลับมาคิดหาคำตอบและพบว่า บางที Timeline ของเขา อาจไม่เท่า Timeline ของเรา
ในขณะที่ตอนนี้ Timeline ของเราเลยจุด "บอกรัก" มานานกว่า 1 ปี แล้ว แต่ของเขากลับเพิ่งมาถึงจุดนั้น เขาอาจกำลังรู้สึกแบบเราตอนที่เราอยู่ลาวก็ได้ และ Timeline ของเขากำลังดำเนินต่อไปเรื่อยๆ อย่างช้าๆ  

มันทำให้เราทะเลาะกับตัวเองว่า จริงๆ แล้ว "เราหมดรัก" หรือ "Timeline ของเรา กำลังอยู่ตรงจุดอิ่มตัว"

เราเองอาจมี Timeline เท่าๆ กับเขา แต่อาจเป็นเพราะหน้าตาของเขา + การที่เขายอมเราในข้อเสียของเราได้เร็วมาก มันทำให้ Timeline ของเราย่นระยะลงเร็วไป จนเกิดปัญหากับตัวเองตอนนี้ หรืออาจเป็นนี่เป็นเรื่องของชาวตะวันตกที่เราอาจยังไม่เข้าใจ

มีใครเคยประสบปัญหาเดียวกับ เรามั้ย ?
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่