จะว่าเราคิดไม่เหมือนคนอื่นก้อได้นะคะ นี่คือคหสต. และไม่ได้เป็นการอวย
เรารู้สึกว่า นี่คือ"นางทาส" ที่บทละครละเมียดแล้วก็น่าดูที่สุด ดูแล้วไม่เครียดดี เพราะไม่ได้มีแค่การสาดความริษยาใส่กันของผู้หญิง มันได้เห็นโลกใบใหม่ซึ่งเปิดกว้างโดยผู้เขียนบทละครเอง เขาได้ตีความบทประพันธ์ซึ่งเค้าเดิมเป็นเพียงเรื่องสั้น ให้เห็นการต่อสู้ฟาดฟันบทความริษยาของผู้ชายเพิ่มขึ้นมา ที่ไม่ใช่แค่การชิงนางแต่เพียงอย่างเดียว มันคือการแย่งชิงลาภยศ เงินทอง และแสดงให้เห็นถึงภาพสะท้อนของคำว่า"ข้าราชการ" ซึ่งให้แง่คิดได้กับสังคมวันนี้ แม้หลายคนอาจจะชอบเวอร์ชั่นเก่าๆ ที่เล่นโดยนักแสดงมากฝีมือ บทละครหนักไปทางปะทะอารมณ์และความชิงชังของคนเป็นเมียและทาสทั้งหลาย
แล้วสำหรับเรา แคชติ้งไม่ได้พังเลยค่ะ เพราะนี้คือบทละครใหม่ คนเขียนคนใหม่ คำว่าแคสติ้งพัง น่าจะเหมาะกับคนที่เล่นแล้วำไม่ถึงบทประพันธ์มากกว่า แล้ว"พี่ป๋อ"เหมาะมากกับบทละครเรื่องนี้ในเวอร์ชั่นนี้ค่ะ เพราะผู้ชายคนนี้ เล่นละครเรื่องไหน สายตาของพ่อเจ้าประคุณนี่แทบจะพูดแทนบทละครได้เลยก็ว่าได้ หากใครเคยดูพี่ป๋อเล่นละครมาแต่ละเรื่อง และในบทนี้ "ท่านเจ้าคุณ" แม้จะเป็นคนที่ถือยศถือศักดิ์ แต่ภายในจิตใจของตัวท่านเจ้าคุณนั้น บทประพันธ์สื่อให้เห็นว่า ผู้ชายคนนี้ หลงรักในความใสซื่อ ความดีงามในจิตใจ และความเจียมเนื้อเจียมตัวของทาสสาวที่ชื่อ"เย็น" อย่างที่ไม่เคยรู้สึกรักใครมาก่อน แต่ในตอนแรกนั้น ความรักที่เกิดขึ้นก็ยังไม่มากพอที่จะแสดงออก แม้แต่ตัวคุณหญิง ซึ่งหากตีความจากการแสดงออกจากท่านเจ้าคุณแล้ว ตัวเขานั้นรักคุณหญิงแย้มอย่างเพื่อนคู่คิด เพราะคุณหญิงนั้นมีความสุขุม รอบคอบ มีความคิดอ่านอย่างคนเป็นนายคนเพราะถูกปลูกฝังมาจากต้นตระกูลซึ่งเป็นผู้ดี บวกกับอารมณ์ที่นิ่งและความงามที่น่ามอง ทำให้"พี่วุ้นเส้น"นั้นเหมาะสมที่สุดกับบทนี้ด้วย ดังนั้น ตีความง่ายๆ ก็อาจจะเป็นแค่เพียงความพึงใจและให้เกียรตินั่นเอง ต่างกับ"เย็น" ซึ่งนั่นไม่ใช่เพียงความลุ่มหลงเพราะ"เย็น"เป็นของใหม่ หากแต่เป็นความรักความสเน่หาที่เท่าทวีขึ้นมาได้เพราะความเป็น"เย็น"ในแบบฉบับนี้ ทำให้ท่านเจ้าคุณหนุ่มผู้นี้ ลืมซึ่งทิฐิในชนชั้นว่า"เย็น" เป็นแค่เพียงทาส แสดงออกอย่างแจ่มชัดกว่าเวอร์ชั่นก่อนๆ หรืออาจจะมีความรักให้กับเย็น มากกว่าท่านเจ้าคุณในแบบก่อนๆก็เป็นไปได้ ทำให้บทละครนี้มีความน่ารักน่าดูไปอีกแบบด้วย
ส่วนทางด้าน "เย็น" ซึ่งถ้าเวอร์ชั่นอื่นๆก้อต้องสู้คน ไม่ใช่เหนียมอายไม่อยากมีเรื่องกับใคร เหมือนเวอร์ชั่นนี้ เพราะ และด้วยบทเวอร์ชั่นนี้ ถ้านางเอกไม่ใช่แยม หรือเป็นคนอื่นที่เป็นนักแสดงที่มีฝีมือมากกว่าแยม ความไร้เดียงสา ความซื่อ อาจจะออกมาไม่ได้คลีนเท่าแยมก็ได้นะคะ เพราะจริตจะก้านของสาวรุ่น กับสาวที่มีอายุกว่านั้น มันก้อสื่อออกมาต่างกันมากอยู่ ส่วนจะจิ้นให้คนดูอินกันหรือไม่ นั่นคงต้องดูกันไปเรื่อยๆ แต่หลังจากดูมาถึงตอนที่ 4 คือวันที่17พ.ค.59 ฉากที่พบกันในสวน เรายอมรับค่ะว่า พี่ป๋อกับแยม เคมีใช้ได้ทีเดียวเลยค่ะ ในความคิดของเรา
และในมุมของคนที่มองว่า "พัง" ก็คงมองไม่ผิด หากจะยึดเอาตามแนวเวอร์ชั่นเก่าๆซึ่งบทละครก็ดีเยี่ยมและตรึงใจในแบบของตัวเอง แต่สำหรับเรา การทำละครรีเมค ก็คงเหมือนกับการ"สร้างตึกใหม่แทนตึกเดิมในที่ดินผืนเก่า" แม้ของเก่าของเดิมจะมีรูปร่างสวยงามและมีความเลอค่าอย่างไร แต่กาลเวลาเปลี่ยนไป ความทรุดโทรมไม่ทันยุคทันสมัยของโครงสร้างตึกก็ย่อมมี แล้วถ้าไม่มีการ"พัง" ก่อนที่จะ "สร้างใหม่" ก็คงเป็นแค่การ"บูรณะ" เท่านั้น แล้วเราลองคิดกันเล่นๆสิคะว่า เราจะไม่อยากเห็นอะไรใหม่ๆ จากบทประพันธ์เดิม ซึ่งก็ถือว่าเป็นของใหม่ที่ไม่ได้บิดเบือนบทประพันธ์เสียจนผิดรูป ถ้าเราดูอย่างมองข้าม"อคติ" หรือ "แอนตี้" ตา่มเสียงกระแส เราจะได้เห็นมิติอะไรใหม่ๆจากละครเรื่องนี้ที่เราอาจจะไม่เคยเห็น ตัวละครใหม่ๆที่มาช่วยเดินเรื่องให้น่าติดตาม เป็นต้น
ท้ายนี้ต้องขออภัยด้วยนะคะถ้ามีคำไหนที่เขียนผิดพลาดหรือทำให้ใครรู้สึกไม่เห็นด้วย นี่คือความเห็นส่วนตัวจริงๆ ไม่ได้มองว่าใครดีใครเด่นไปกว่าใคร เราศรัทธาในสิ่งที่เป็นต้นฉบับที่ดีงาม พอๆกับการชื่นชมการประยุกษ์ให้เกิดสิ่งใหม่ ภายใต้การทำให้สิ่งเดิมนั้นยังคงอยู่ไม่หายไปจากวงการวรรณกรรมไทย
ละคร เรามองว่ามันเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง แล้วคำว่าศิลปะ มันไม่มีคำว่าถูกผิด หรือมีกฏตายตัวอะไร อย่าแอนตี้โดยที่ยังไม่เปิดใจ จนทำให้คนที่เขาสร้างสรรค์ผลงานโดยความตั้งใจ เสียกำลังใจทำผลงานดีๆสุ่สายตาประชาชนเลยนะคะ ....
ปล.แท๊กผิดห้องขออภัยนะคะ

ขอแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ "นางทาส2559" ในมุมมองของเราเฉยๆค่ะ
เรารู้สึกว่า นี่คือ"นางทาส" ที่บทละครละเมียดแล้วก็น่าดูที่สุด ดูแล้วไม่เครียดดี เพราะไม่ได้มีแค่การสาดความริษยาใส่กันของผู้หญิง มันได้เห็นโลกใบใหม่ซึ่งเปิดกว้างโดยผู้เขียนบทละครเอง เขาได้ตีความบทประพันธ์ซึ่งเค้าเดิมเป็นเพียงเรื่องสั้น ให้เห็นการต่อสู้ฟาดฟันบทความริษยาของผู้ชายเพิ่มขึ้นมา ที่ไม่ใช่แค่การชิงนางแต่เพียงอย่างเดียว มันคือการแย่งชิงลาภยศ เงินทอง และแสดงให้เห็นถึงภาพสะท้อนของคำว่า"ข้าราชการ" ซึ่งให้แง่คิดได้กับสังคมวันนี้ แม้หลายคนอาจจะชอบเวอร์ชั่นเก่าๆ ที่เล่นโดยนักแสดงมากฝีมือ บทละครหนักไปทางปะทะอารมณ์และความชิงชังของคนเป็นเมียและทาสทั้งหลาย
แล้วสำหรับเรา แคชติ้งไม่ได้พังเลยค่ะ เพราะนี้คือบทละครใหม่ คนเขียนคนใหม่ คำว่าแคสติ้งพัง น่าจะเหมาะกับคนที่เล่นแล้วำไม่ถึงบทประพันธ์มากกว่า แล้ว"พี่ป๋อ"เหมาะมากกับบทละครเรื่องนี้ในเวอร์ชั่นนี้ค่ะ เพราะผู้ชายคนนี้ เล่นละครเรื่องไหน สายตาของพ่อเจ้าประคุณนี่แทบจะพูดแทนบทละครได้เลยก็ว่าได้ หากใครเคยดูพี่ป๋อเล่นละครมาแต่ละเรื่อง และในบทนี้ "ท่านเจ้าคุณ" แม้จะเป็นคนที่ถือยศถือศักดิ์ แต่ภายในจิตใจของตัวท่านเจ้าคุณนั้น บทประพันธ์สื่อให้เห็นว่า ผู้ชายคนนี้ หลงรักในความใสซื่อ ความดีงามในจิตใจ และความเจียมเนื้อเจียมตัวของทาสสาวที่ชื่อ"เย็น" อย่างที่ไม่เคยรู้สึกรักใครมาก่อน แต่ในตอนแรกนั้น ความรักที่เกิดขึ้นก็ยังไม่มากพอที่จะแสดงออก แม้แต่ตัวคุณหญิง ซึ่งหากตีความจากการแสดงออกจากท่านเจ้าคุณแล้ว ตัวเขานั้นรักคุณหญิงแย้มอย่างเพื่อนคู่คิด เพราะคุณหญิงนั้นมีความสุขุม รอบคอบ มีความคิดอ่านอย่างคนเป็นนายคนเพราะถูกปลูกฝังมาจากต้นตระกูลซึ่งเป็นผู้ดี บวกกับอารมณ์ที่นิ่งและความงามที่น่ามอง ทำให้"พี่วุ้นเส้น"นั้นเหมาะสมที่สุดกับบทนี้ด้วย ดังนั้น ตีความง่ายๆ ก็อาจจะเป็นแค่เพียงความพึงใจและให้เกียรตินั่นเอง ต่างกับ"เย็น" ซึ่งนั่นไม่ใช่เพียงความลุ่มหลงเพราะ"เย็น"เป็นของใหม่ หากแต่เป็นความรักความสเน่หาที่เท่าทวีขึ้นมาได้เพราะความเป็น"เย็น"ในแบบฉบับนี้ ทำให้ท่านเจ้าคุณหนุ่มผู้นี้ ลืมซึ่งทิฐิในชนชั้นว่า"เย็น" เป็นแค่เพียงทาส แสดงออกอย่างแจ่มชัดกว่าเวอร์ชั่นก่อนๆ หรืออาจจะมีความรักให้กับเย็น มากกว่าท่านเจ้าคุณในแบบก่อนๆก็เป็นไปได้ ทำให้บทละครนี้มีความน่ารักน่าดูไปอีกแบบด้วย
ส่วนทางด้าน "เย็น" ซึ่งถ้าเวอร์ชั่นอื่นๆก้อต้องสู้คน ไม่ใช่เหนียมอายไม่อยากมีเรื่องกับใคร เหมือนเวอร์ชั่นนี้ เพราะ และด้วยบทเวอร์ชั่นนี้ ถ้านางเอกไม่ใช่แยม หรือเป็นคนอื่นที่เป็นนักแสดงที่มีฝีมือมากกว่าแยม ความไร้เดียงสา ความซื่อ อาจจะออกมาไม่ได้คลีนเท่าแยมก็ได้นะคะ เพราะจริตจะก้านของสาวรุ่น กับสาวที่มีอายุกว่านั้น มันก้อสื่อออกมาต่างกันมากอยู่ ส่วนจะจิ้นให้คนดูอินกันหรือไม่ นั่นคงต้องดูกันไปเรื่อยๆ แต่หลังจากดูมาถึงตอนที่ 4 คือวันที่17พ.ค.59 ฉากที่พบกันในสวน เรายอมรับค่ะว่า พี่ป๋อกับแยม เคมีใช้ได้ทีเดียวเลยค่ะ ในความคิดของเรา
และในมุมของคนที่มองว่า "พัง" ก็คงมองไม่ผิด หากจะยึดเอาตามแนวเวอร์ชั่นเก่าๆซึ่งบทละครก็ดีเยี่ยมและตรึงใจในแบบของตัวเอง แต่สำหรับเรา การทำละครรีเมค ก็คงเหมือนกับการ"สร้างตึกใหม่แทนตึกเดิมในที่ดินผืนเก่า" แม้ของเก่าของเดิมจะมีรูปร่างสวยงามและมีความเลอค่าอย่างไร แต่กาลเวลาเปลี่ยนไป ความทรุดโทรมไม่ทันยุคทันสมัยของโครงสร้างตึกก็ย่อมมี แล้วถ้าไม่มีการ"พัง" ก่อนที่จะ "สร้างใหม่" ก็คงเป็นแค่การ"บูรณะ" เท่านั้น แล้วเราลองคิดกันเล่นๆสิคะว่า เราจะไม่อยากเห็นอะไรใหม่ๆ จากบทประพันธ์เดิม ซึ่งก็ถือว่าเป็นของใหม่ที่ไม่ได้บิดเบือนบทประพันธ์เสียจนผิดรูป ถ้าเราดูอย่างมองข้าม"อคติ" หรือ "แอนตี้" ตา่มเสียงกระแส เราจะได้เห็นมิติอะไรใหม่ๆจากละครเรื่องนี้ที่เราอาจจะไม่เคยเห็น ตัวละครใหม่ๆที่มาช่วยเดินเรื่องให้น่าติดตาม เป็นต้น
ท้ายนี้ต้องขออภัยด้วยนะคะถ้ามีคำไหนที่เขียนผิดพลาดหรือทำให้ใครรู้สึกไม่เห็นด้วย นี่คือความเห็นส่วนตัวจริงๆ ไม่ได้มองว่าใครดีใครเด่นไปกว่าใคร เราศรัทธาในสิ่งที่เป็นต้นฉบับที่ดีงาม พอๆกับการชื่นชมการประยุกษ์ให้เกิดสิ่งใหม่ ภายใต้การทำให้สิ่งเดิมนั้นยังคงอยู่ไม่หายไปจากวงการวรรณกรรมไทย
ละคร เรามองว่ามันเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง แล้วคำว่าศิลปะ มันไม่มีคำว่าถูกผิด หรือมีกฏตายตัวอะไร อย่าแอนตี้โดยที่ยังไม่เปิดใจ จนทำให้คนที่เขาสร้างสรรค์ผลงานโดยความตั้งใจ เสียกำลังใจทำผลงานดีๆสุ่สายตาประชาชนเลยนะคะ ....
ปล.แท๊กผิดห้องขออภัยนะคะ