คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 6
ตอบเป็นข้อๆ นะครับ
1. ที่กรุงเทพ ฯ ไปที่แถว A ได้เลย ถ้าเดินทางโดยสายการบินไทย จะมีเคาน์เตอร์ให้บริการตรวจสัมภาระและตรวจบัตรโดยสารแยกต่างหาก พนักงานจะแจ้งรายละเอียดเที่ยวบิน สอบถามถึงที่นั่งที่ต้องการ (กรณีไม่ได้เช็คอินออนไลน์มา) ในกรณีไปลงที่ชาร์ลส์ เดอ โกลล์ ปารีส เข้าใจว่าจะบินโดยเครื่องแบบแอร์บัส 380 ถ้าต้องการความเป็นส่วนตัวให้เลือกที่นั่งเดี่ยว A หรือ K หากชอบติดหน้าต่าง และ B หรือ J หากชอบติดทางเดินครับ
2. เมื่อเช็คอินแล้ว สามารถใช้ช่องทางตรวจโลหะพิเศษด้านในสุดได้เลย จากจุดดังกล่าวจะมีช่องทางตรวจหนังสือเดินทางเฉพาะประมาณ 3 - 4 ช่อง เฉพาะผผู้ดดยสารชั้นธุรกิจ เมื่อพ้นจากจุดนี้ สามารถลงบันไดเลื่อนไปยังห้องเลานจ์หรือรับรองการบินไทย บริเวณ concourse D ซึ่งให้บริการสำหรับผู้โดยสารชั้นธุรกิจโดยเฉพาะ
3. ในเลานจ์การบินไทย ส่วนตัวผมว่า หากดื่มแค่เครื่องดื่มและทำงานพอไหวครับ แต่ถ้าต้องการจะรับประทานอะไรจริงจัง ผมแนะนำให้ข้ามเลานจ์การบินไทย และไปใช้บริการเฉพาะในส่วนของ รอยัล ออร์คิด สปา ซึ่งให้บริการนวดฟรี เฉพาะผู้โดยสารชั้นหนึ่งและชั้นธุรกิจของการบินไทยก็ดี พยายามไปเนิ่น ๆ ครับ เพราะส่วนนี้จะจองล่วงหน้าไม่ได้ ชั้นธุรกิจมีประมาณ 8 ห้องเล็ก ๆ สามารถเลือกนวดเป็นเวลา 30 นาที ได้ 2 แบบ คือ นวดเท้า (รวมบริเวณหน้าขาด้วย) หรือนวดไหล่และคอ ถ้าชอบสบาย ๆ แนะนำนวดเท้า ถ้าชอบแบบหนักขึ้นมานิด ๆ แนะนำนวดไหล่และคอครับ พนักงานจะดูแลเราอย่างดี ตั้งแต่ แนะนำให้ถอดรองเท้า และถอดถุงเท้าเพิ่ม (ถ้านวดฝ่าเท้า) นวดเสร็จ ถ้าพึงพอใจ ทิปได้นะครับ แต่พนักงานจะหายตัวไปรับผู้โดยสารท่านอื่นไวมาก ๆ
4. ในรอยัลออร์คิดสปานี้ เมื่อนวดเสร็จ พนักงานจะสอบถามว่ารับเครื่องดื่มอะไร ระหว่างชาร้อนหลากแบบ กับน้ำผลไม้ 2 - 3 ชนิดครับ แล้วก็มานั่งรอเครื่องดื่มพร้อมกรอกแบบประเมิน
5. เลานจน์ที่กรุงเทพ ฯ นอกจากของการบินไทยแล้ว ผู้โดยสารที่ถือบัตรโดยสารชั้นธุรกิจสามารถเข้าห้องรับรองของสิงคโปร์แอร์ไลนส์ บริเวณคองคอร์สเอ ซึ่งมีอาหารร้อนที่หลากหลายกว่า มีน้ำมะพร้าวทั้งลูก ไอศกรีมชาไทย และไอศกรีมฮาเก้นดาซ 3 รสให้เลือก ถ้าไม่ใช่ช่วงที่มีเที่ยวบินของสิงคโปร์ออก เลาจน์จะค่อนข้างสงบครับ อีกทางเลือกหนึ่งคือไปใช้บริการเลานจ์ของอีวีเอแอร์ บริเวณคองคอร์ส F ซึ่งควรตรวจสอบเวลาเปิดอีกครั้ง เลานจ์ทำใหม่ดูโมเดิร์น มีติ่มซำอร่อยและไอศกรีมสเวนเซ่นส์ให้เลือกรับประทานครับ
6. การขึ้นเครื่อง ปกติ จะเรียกผู้โดยสารชั้นหนึ่ง ชั้นธุรกิจ บัตรแพลทินัมและบัตรทองขึ้นก่อน ก็เดินตามเขาไป หรือจะอยู่เลานจ์นานๆ และขึ้นเครื่องตามอัธยาศัยเป็นลำดับสุดท้ายก็ได้ครับ ตอนขึ้นไป พนักงานจะบริการหนังสือพิมพ์ นิตยสาร และเครื่องดื่มต้อนรับ ชอบอะไรก็หยิบเอามาได้ จากนั้น ก็เป็นขั้นตอนเหมือนขึ้นเครื่องปกติ คือการสาธิตอุปกรณ์ความปลอดภัย หมายเหตุเก้าอี้ใน 380 รุ่นนอนราบจะมีเข็มขัดนิรภัยแบบล็อค 3 จุด ก็จัดการคาดให้เรียบร้อยครับ
7. เมื่อเครื่องไต่ระดับ จะบริการอาหารครับ ก็มีเครื่องดื่มกับ อะมุซบุชหรือจานเล็กขจานน้อยก่อน เครื่องดื่มแบบแอลกอฮล์ก็จะมีตัวเลือกมาขึ้น ปกติจะมี แชมเปญ ไวน์ขาว ไวน์แดง อย่างละ 2 ตัวเลือก ตอนนี้เป็น Veuve Clicquot และ Duval Leroy และในส่วนของที่ไม่มีแอลกอฮอล์จะมีน้ำแร่อัดก๊าซเพิ่มขึ้นมาอีกอย่างครับ ตามด้วยอาหารเรียกน้ำย่อย โดยคุณพนักงานจะปูผ้าปูโต๊ะก่อน ก่อนจะวางถาดจานเรียกน้ำย่อยลงมา จากนั้นก็มีบริการขนมปังเป็นตะกร้ายกมานำเสนอ ชอบแบบใดก็แจ้งให้พนักงานคีบมาใส่ในจานได้ครับ
8. เมื่อหมดจานเรียกน้ำย่อย จะเข้าสู่การบริการอาหารจานหลัก ซึ่งบางที บางมื้อ จะมีถ้วยสลัดผักถ้วยเล็กๆ บริการมาพร้อมอาหารเรียกน้ำย่อย ซึ่งจะทานแต่แรก หรือจะทานเป็นจานเคียงกับจานหลักก็ได้ครับ ปกติจานหลักคุณพนักงานจะถามความประสงค์ตั้งแต่ก่อนเครื่องขึ้น ถ้าเลือกซ้ำกันเยอะ ๆ ของมีไม่พอ ก็อาจจะโดนขอความอนุเคราะห์ให้เลือกใหม่ โดยจะมี 4 ตัวเลือก และ 2 ตัวเลือกหลัง จะเหมือนกับชั้นประหยัด ถ้าไม่ได้ชอบจริง ๆ ก็ไม่แนะนำให้เลือก ถ้ากลัวไม่ถูกปาก ก็สามารถสั่งอาหารล่วงหน้าไปก่อนได้ ทั้งทางอินเทอร์เน็ตหรือโทรเข้าคอลล์เซ็นเตอร์ รายการให้เลือกตามนี้ครับ http://www.thaiairways.com/en_TH/Manage_My_Booking/nopnrview.page?city=BKK&cabin=B
9. จบจากอาหารจานหลัก (เครื่องดื่มขอเติม ขอเพิ่ม และเปลี่ยนได้ตลอด) จะบริการชีสกับบิสกิต แครกเกอร์ และผลไม้ จากนั้นจึงจะเป็นของหวาน พร้อมเครื่องดื่มร้อน จำพวก ชา กาแฟ (สั่งเอสเปรสโซ่ คาปูชิโน่ได้ เป็นแบบสำเร็จครับ) รวมถึงช็อกโกแลตและมอลต์สกัด บางเที่ยวบินจะแจกน้ำเปล่าเพิ่มให้อีกหนึ่งขวด แต่หากต้องการเครื่องดื่มอื่นๆ ก็ขอได้ตลอดเที่ยวบินครับ
10. อุปกรณ์อำนวยความสะดวกของชั้นธุรกิจ จะมีหมอนใบใหญ่ขึ้น ผ้าห่มซึ่งเป็นแบบ duvet และมี duvet cover หูฟังตัดเสียงรบกวน และมีกระเป๋าสำหรับชุดของใช้ส่วนตัวข้ามคืนหรืออเมนิตี้คิต ช่วงนี้น่าจะแจกเป็นยี่ห้อ Thann สลับกับ Samsonite ส่วนห้องน้ำจะมีผ้าขนหนูเช็ดมือให้บริการเพิ่มเติมจากชั้นประหยัด ส่วนโลชั่นตอนนี้เป็นของ Borghese และโอ เดอ ทัวแลตต์เป็นยี่ห้อ Thann ครับ
11. ระบบความบันเทิงบนเครื่องเหมือนชั้นประหยัดต่างกันที่จอใหญ่ขึ้น ประมาณ 15 นิ้ว แบบระบบสัมผัส บนเครื่อง 380 รีโมทน่าจะเป็นรุ่นกลาง ยังไม่ได้เป็นรุ่นใหม่สีดำจอสัมผัสแบบบนเครื่อง 777-300 er แต่ก็ตอบสนองดีครับ
12. ระหว่างมื้อ น่าจะยังขอแซนด์วิชหรือบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปได้ครับ ส่วนมื้อเช้า จะบริการด้วยน้ำผลไม้ ผลไม้และโยเกิร์ตก่อน รวมถึงขนมปังและครัวซองต์พร้อมเนยและแยม (ใช้ยี่ห้อต่างจากชั้นประหยัด น่าจะเป็น lurpak กับ heio) ส่วนอาหารจานหลัก ส่วนใหญ่จะเหมือนชั้นประหยัด คือเป็นไข่สองแบบ จะมีตัวเลือกที่ต่างบ้าง คืออาหารเช้าจานเย็นหรือ Cold cut ถ้าชอบก็สั่งมาได้ แล้วก็อาจจะมีบะหมี่น้ำให้เลือกครับ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยังคงสั่งได้เรื่อยๆ ถ้ามีความประสงค์ และปิดท้ายมื้อด้วยเครื่องดื่มร้อนครับ
13. ก่อนเครื่องลง ก็จะมีดอกกล้วยไม้ สำหรับผู้โดยสารที่เป็นสุภาพสตรี ถ้าเหลือบางทีคุณแอร์ก็เอามาแจกสุภาพบุรุษแบบที่ผมเคยได้รับอยู่บ้างครับ แล้วก็จะมีบัตรสำหรับเข้าเมืองโดยช่องทางพิเศษหรือ Fast Track เพื่อร่นระยะเวลาการต่อคิวครับ
14. เมื่อเครื่องจอดสนิท จะได้ลงเครื่องก่อน ผ่านด่านตรวจคนเข้ามเืองก่อน แล้วกระเป๋าก็จะมาเป็นลำดับแรก ๆ ครับ
15. คำถามเรื่องขากลับ ถ้าชอบการบินไทย กลับจากตูลูสมาที่ปารีสก็สะดวกดีครับ ห้องรับรองที่ใช้ที่ปารีส เป็นห้องรับรองรวมของ สตาร์ อัลไลแอนซ์ กลาง ๆ ไม่ดีไม่แย่ครับ แต่หากจะบินออกจากตูลูสโดยเตอร์กิช ช่วงตูลูสถึงอิสตันบูล จะเป็นเครื่องบินแบบลำตัวแคบ หนึ่งช่องทางเดิน แต่บริการอาหารเครื่องดื่มดีถึงดีมากตามสไตล์เตอร์กิช ข้อเสียคืออาจจะเสียเวลาต่อเครื่อง แต่ข้อดีก็คือ เลานจ์ของเตอร์กิชที่อิสตันบูลดีมาก เคยเป็นห้องรับรองชั้นธุรกิจที่ดีที่สุดในโลก มีห้องดูหนัง มุมเครื่องเล่น ห้องอาบน้ำ และจัดค่อนข้างโปร่งจัดผังเป็น 2 ชั้น อาหารเพียบ มีเคาน์เตอร์ทำอาหารร้อนและพาสต้าสด ๆ รถเข็นของหวานคันใหญ่ ๆ สนุกดีครับ และเก้าอี้บนเที่ยวบินจากอิสตันบูลมากรุงเทพ ถ้าโชคดีจะเป็นนอนราบ จัดแบบ 2-2-2 ตามสไตล์แอร์บัสครับ ไม่มีหมูบริการแต่มีแอลกอฮลล์ตามปกติ อาหารดีเพราะใช้เครือ Do&Co ดูแล และมีเชฟประจำบนเครื่องทำอาหารเช้าร้อนๆให้ทานครับ
16. ที่กรุงเทพฯ ถ้ามาโดยสายการบินอื่นในชั้นธุรกิจเขาจะมีบัตรเข้า Premium Lane ตอนตรวจคนเข้าเมืองให้ตั้งแต่ก่อนเครื่องลง แต่ถ้ามาโดยการบินไทยจะไม่มีบัตร แต่สามารถใช้บัตรขึ้นเครื่องหรือบอร์ดดิ้งพาสไปรับบริการช่อง Fast Track ได้ตามปกติครับ
หวังว่าจะเป็นประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อยนะครับ
1. ที่กรุงเทพ ฯ ไปที่แถว A ได้เลย ถ้าเดินทางโดยสายการบินไทย จะมีเคาน์เตอร์ให้บริการตรวจสัมภาระและตรวจบัตรโดยสารแยกต่างหาก พนักงานจะแจ้งรายละเอียดเที่ยวบิน สอบถามถึงที่นั่งที่ต้องการ (กรณีไม่ได้เช็คอินออนไลน์มา) ในกรณีไปลงที่ชาร์ลส์ เดอ โกลล์ ปารีส เข้าใจว่าจะบินโดยเครื่องแบบแอร์บัส 380 ถ้าต้องการความเป็นส่วนตัวให้เลือกที่นั่งเดี่ยว A หรือ K หากชอบติดหน้าต่าง และ B หรือ J หากชอบติดทางเดินครับ
2. เมื่อเช็คอินแล้ว สามารถใช้ช่องทางตรวจโลหะพิเศษด้านในสุดได้เลย จากจุดดังกล่าวจะมีช่องทางตรวจหนังสือเดินทางเฉพาะประมาณ 3 - 4 ช่อง เฉพาะผผู้ดดยสารชั้นธุรกิจ เมื่อพ้นจากจุดนี้ สามารถลงบันไดเลื่อนไปยังห้องเลานจ์หรือรับรองการบินไทย บริเวณ concourse D ซึ่งให้บริการสำหรับผู้โดยสารชั้นธุรกิจโดยเฉพาะ
3. ในเลานจ์การบินไทย ส่วนตัวผมว่า หากดื่มแค่เครื่องดื่มและทำงานพอไหวครับ แต่ถ้าต้องการจะรับประทานอะไรจริงจัง ผมแนะนำให้ข้ามเลานจ์การบินไทย และไปใช้บริการเฉพาะในส่วนของ รอยัล ออร์คิด สปา ซึ่งให้บริการนวดฟรี เฉพาะผู้โดยสารชั้นหนึ่งและชั้นธุรกิจของการบินไทยก็ดี พยายามไปเนิ่น ๆ ครับ เพราะส่วนนี้จะจองล่วงหน้าไม่ได้ ชั้นธุรกิจมีประมาณ 8 ห้องเล็ก ๆ สามารถเลือกนวดเป็นเวลา 30 นาที ได้ 2 แบบ คือ นวดเท้า (รวมบริเวณหน้าขาด้วย) หรือนวดไหล่และคอ ถ้าชอบสบาย ๆ แนะนำนวดเท้า ถ้าชอบแบบหนักขึ้นมานิด ๆ แนะนำนวดไหล่และคอครับ พนักงานจะดูแลเราอย่างดี ตั้งแต่ แนะนำให้ถอดรองเท้า และถอดถุงเท้าเพิ่ม (ถ้านวดฝ่าเท้า) นวดเสร็จ ถ้าพึงพอใจ ทิปได้นะครับ แต่พนักงานจะหายตัวไปรับผู้โดยสารท่านอื่นไวมาก ๆ
4. ในรอยัลออร์คิดสปานี้ เมื่อนวดเสร็จ พนักงานจะสอบถามว่ารับเครื่องดื่มอะไร ระหว่างชาร้อนหลากแบบ กับน้ำผลไม้ 2 - 3 ชนิดครับ แล้วก็มานั่งรอเครื่องดื่มพร้อมกรอกแบบประเมิน
5. เลานจน์ที่กรุงเทพ ฯ นอกจากของการบินไทยแล้ว ผู้โดยสารที่ถือบัตรโดยสารชั้นธุรกิจสามารถเข้าห้องรับรองของสิงคโปร์แอร์ไลนส์ บริเวณคองคอร์สเอ ซึ่งมีอาหารร้อนที่หลากหลายกว่า มีน้ำมะพร้าวทั้งลูก ไอศกรีมชาไทย และไอศกรีมฮาเก้นดาซ 3 รสให้เลือก ถ้าไม่ใช่ช่วงที่มีเที่ยวบินของสิงคโปร์ออก เลาจน์จะค่อนข้างสงบครับ อีกทางเลือกหนึ่งคือไปใช้บริการเลานจ์ของอีวีเอแอร์ บริเวณคองคอร์ส F ซึ่งควรตรวจสอบเวลาเปิดอีกครั้ง เลานจ์ทำใหม่ดูโมเดิร์น มีติ่มซำอร่อยและไอศกรีมสเวนเซ่นส์ให้เลือกรับประทานครับ
6. การขึ้นเครื่อง ปกติ จะเรียกผู้โดยสารชั้นหนึ่ง ชั้นธุรกิจ บัตรแพลทินัมและบัตรทองขึ้นก่อน ก็เดินตามเขาไป หรือจะอยู่เลานจ์นานๆ และขึ้นเครื่องตามอัธยาศัยเป็นลำดับสุดท้ายก็ได้ครับ ตอนขึ้นไป พนักงานจะบริการหนังสือพิมพ์ นิตยสาร และเครื่องดื่มต้อนรับ ชอบอะไรก็หยิบเอามาได้ จากนั้น ก็เป็นขั้นตอนเหมือนขึ้นเครื่องปกติ คือการสาธิตอุปกรณ์ความปลอดภัย หมายเหตุเก้าอี้ใน 380 รุ่นนอนราบจะมีเข็มขัดนิรภัยแบบล็อค 3 จุด ก็จัดการคาดให้เรียบร้อยครับ
7. เมื่อเครื่องไต่ระดับ จะบริการอาหารครับ ก็มีเครื่องดื่มกับ อะมุซบุชหรือจานเล็กขจานน้อยก่อน เครื่องดื่มแบบแอลกอฮล์ก็จะมีตัวเลือกมาขึ้น ปกติจะมี แชมเปญ ไวน์ขาว ไวน์แดง อย่างละ 2 ตัวเลือก ตอนนี้เป็น Veuve Clicquot และ Duval Leroy และในส่วนของที่ไม่มีแอลกอฮอล์จะมีน้ำแร่อัดก๊าซเพิ่มขึ้นมาอีกอย่างครับ ตามด้วยอาหารเรียกน้ำย่อย โดยคุณพนักงานจะปูผ้าปูโต๊ะก่อน ก่อนจะวางถาดจานเรียกน้ำย่อยลงมา จากนั้นก็มีบริการขนมปังเป็นตะกร้ายกมานำเสนอ ชอบแบบใดก็แจ้งให้พนักงานคีบมาใส่ในจานได้ครับ
8. เมื่อหมดจานเรียกน้ำย่อย จะเข้าสู่การบริการอาหารจานหลัก ซึ่งบางที บางมื้อ จะมีถ้วยสลัดผักถ้วยเล็กๆ บริการมาพร้อมอาหารเรียกน้ำย่อย ซึ่งจะทานแต่แรก หรือจะทานเป็นจานเคียงกับจานหลักก็ได้ครับ ปกติจานหลักคุณพนักงานจะถามความประสงค์ตั้งแต่ก่อนเครื่องขึ้น ถ้าเลือกซ้ำกันเยอะ ๆ ของมีไม่พอ ก็อาจจะโดนขอความอนุเคราะห์ให้เลือกใหม่ โดยจะมี 4 ตัวเลือก และ 2 ตัวเลือกหลัง จะเหมือนกับชั้นประหยัด ถ้าไม่ได้ชอบจริง ๆ ก็ไม่แนะนำให้เลือก ถ้ากลัวไม่ถูกปาก ก็สามารถสั่งอาหารล่วงหน้าไปก่อนได้ ทั้งทางอินเทอร์เน็ตหรือโทรเข้าคอลล์เซ็นเตอร์ รายการให้เลือกตามนี้ครับ http://www.thaiairways.com/en_TH/Manage_My_Booking/nopnrview.page?city=BKK&cabin=B
9. จบจากอาหารจานหลัก (เครื่องดื่มขอเติม ขอเพิ่ม และเปลี่ยนได้ตลอด) จะบริการชีสกับบิสกิต แครกเกอร์ และผลไม้ จากนั้นจึงจะเป็นของหวาน พร้อมเครื่องดื่มร้อน จำพวก ชา กาแฟ (สั่งเอสเปรสโซ่ คาปูชิโน่ได้ เป็นแบบสำเร็จครับ) รวมถึงช็อกโกแลตและมอลต์สกัด บางเที่ยวบินจะแจกน้ำเปล่าเพิ่มให้อีกหนึ่งขวด แต่หากต้องการเครื่องดื่มอื่นๆ ก็ขอได้ตลอดเที่ยวบินครับ
10. อุปกรณ์อำนวยความสะดวกของชั้นธุรกิจ จะมีหมอนใบใหญ่ขึ้น ผ้าห่มซึ่งเป็นแบบ duvet และมี duvet cover หูฟังตัดเสียงรบกวน และมีกระเป๋าสำหรับชุดของใช้ส่วนตัวข้ามคืนหรืออเมนิตี้คิต ช่วงนี้น่าจะแจกเป็นยี่ห้อ Thann สลับกับ Samsonite ส่วนห้องน้ำจะมีผ้าขนหนูเช็ดมือให้บริการเพิ่มเติมจากชั้นประหยัด ส่วนโลชั่นตอนนี้เป็นของ Borghese และโอ เดอ ทัวแลตต์เป็นยี่ห้อ Thann ครับ
11. ระบบความบันเทิงบนเครื่องเหมือนชั้นประหยัดต่างกันที่จอใหญ่ขึ้น ประมาณ 15 นิ้ว แบบระบบสัมผัส บนเครื่อง 380 รีโมทน่าจะเป็นรุ่นกลาง ยังไม่ได้เป็นรุ่นใหม่สีดำจอสัมผัสแบบบนเครื่อง 777-300 er แต่ก็ตอบสนองดีครับ
12. ระหว่างมื้อ น่าจะยังขอแซนด์วิชหรือบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปได้ครับ ส่วนมื้อเช้า จะบริการด้วยน้ำผลไม้ ผลไม้และโยเกิร์ตก่อน รวมถึงขนมปังและครัวซองต์พร้อมเนยและแยม (ใช้ยี่ห้อต่างจากชั้นประหยัด น่าจะเป็น lurpak กับ heio) ส่วนอาหารจานหลัก ส่วนใหญ่จะเหมือนชั้นประหยัด คือเป็นไข่สองแบบ จะมีตัวเลือกที่ต่างบ้าง คืออาหารเช้าจานเย็นหรือ Cold cut ถ้าชอบก็สั่งมาได้ แล้วก็อาจจะมีบะหมี่น้ำให้เลือกครับ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยังคงสั่งได้เรื่อยๆ ถ้ามีความประสงค์ และปิดท้ายมื้อด้วยเครื่องดื่มร้อนครับ
13. ก่อนเครื่องลง ก็จะมีดอกกล้วยไม้ สำหรับผู้โดยสารที่เป็นสุภาพสตรี ถ้าเหลือบางทีคุณแอร์ก็เอามาแจกสุภาพบุรุษแบบที่ผมเคยได้รับอยู่บ้างครับ แล้วก็จะมีบัตรสำหรับเข้าเมืองโดยช่องทางพิเศษหรือ Fast Track เพื่อร่นระยะเวลาการต่อคิวครับ
14. เมื่อเครื่องจอดสนิท จะได้ลงเครื่องก่อน ผ่านด่านตรวจคนเข้ามเืองก่อน แล้วกระเป๋าก็จะมาเป็นลำดับแรก ๆ ครับ
15. คำถามเรื่องขากลับ ถ้าชอบการบินไทย กลับจากตูลูสมาที่ปารีสก็สะดวกดีครับ ห้องรับรองที่ใช้ที่ปารีส เป็นห้องรับรองรวมของ สตาร์ อัลไลแอนซ์ กลาง ๆ ไม่ดีไม่แย่ครับ แต่หากจะบินออกจากตูลูสโดยเตอร์กิช ช่วงตูลูสถึงอิสตันบูล จะเป็นเครื่องบินแบบลำตัวแคบ หนึ่งช่องทางเดิน แต่บริการอาหารเครื่องดื่มดีถึงดีมากตามสไตล์เตอร์กิช ข้อเสียคืออาจจะเสียเวลาต่อเครื่อง แต่ข้อดีก็คือ เลานจ์ของเตอร์กิชที่อิสตันบูลดีมาก เคยเป็นห้องรับรองชั้นธุรกิจที่ดีที่สุดในโลก มีห้องดูหนัง มุมเครื่องเล่น ห้องอาบน้ำ และจัดค่อนข้างโปร่งจัดผังเป็น 2 ชั้น อาหารเพียบ มีเคาน์เตอร์ทำอาหารร้อนและพาสต้าสด ๆ รถเข็นของหวานคันใหญ่ ๆ สนุกดีครับ และเก้าอี้บนเที่ยวบินจากอิสตันบูลมากรุงเทพ ถ้าโชคดีจะเป็นนอนราบ จัดแบบ 2-2-2 ตามสไตล์แอร์บัสครับ ไม่มีหมูบริการแต่มีแอลกอฮลล์ตามปกติ อาหารดีเพราะใช้เครือ Do&Co ดูแล และมีเชฟประจำบนเครื่องทำอาหารเช้าร้อนๆให้ทานครับ
16. ที่กรุงเทพฯ ถ้ามาโดยสายการบินอื่นในชั้นธุรกิจเขาจะมีบัตรเข้า Premium Lane ตอนตรวจคนเข้าเมืองให้ตั้งแต่ก่อนเครื่องลง แต่ถ้ามาโดยการบินไทยจะไม่มีบัตร แต่สามารถใช้บัตรขึ้นเครื่องหรือบอร์ดดิ้งพาสไปรับบริการช่อง Fast Track ได้ตามปกติครับ
หวังว่าจะเป็นประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อยนะครับ
เวลากับใจคน ถูกใจ, โอเคเบตง ถูกใจ, eri_SE ถูกใจ, Nobody loves me. ถูกใจ, ปลาทูหนึ่งเข่ง ถูกใจ, พริกดอง พริกน้ำส้ม ทึ่ง, PapaFrodo ถูกใจ, chandara ถูกใจ, คิเตเร็ทสึคุง ถูกใจ, 32 มกรา ถูกใจ
แสดงความคิดเห็น
ขอถามเกี่ยวกับการบินไทยชั้นบิสซิเนสหน่อยครับ
ขอถามอะไรเพิ่มอีกอย่างนะครับ พอดีตอนขากลับจากฝรั่งเศสมาไทยผมจะอยู่เมืองสุดท้ายที่ตูลูส ทีนี้ขากลับเลยต้องไปลงตุรกีแล้วต่อ turkish airline ไปถึงโน่นประมาณทุ่มนึง กว่าเครื่องจะออกอีกทีก็ตีหนึ่งเลยอยากถามว่า
1.ถ้าผมจะกลับจากตูลูสไปปารีส แล้วค่อยนั่งการบินไทยกลับจะดีกว่ามั้ยครับ
2.ถ้าผมจะรอที่ตุรกี จะมีอะไรให้ทำบ้างครับ ระหว่างรอประมาณหกชั่วโมง
3.ที่ฝรั่งเศสผมสามารถใช้เลาจน์ได้มั้ยครับ ทั้งของการบินไทย และ turkish airline
นั่งการบินไทยจากกรุงเทพไปลงที่ปารีสครับ เที่ยวที่โน่นแล้วค่อยต่อรถไฟไปตูลูสครับ
ขอบคุณสำหรับทุกคำตอบนะครับ