สวัสดีเพื่อนๆชาวพันทิปทุกคน
ก่อนอื่นขอบอกไว้ก่อนเลยว่า สิ่งที่ทุกคนจะได้จากกระทู้นี้ คือสาระล้วนๆ แต่คือสาระเรื่องกินนะ ฮ่าๆ
พูดถึงหัวหิน...แค่ชื่อหลายๆคนอาจจะขี้เกียจอ่านรีวิวแล้วด้วยซ้ำ
เพราะมันเยอะ เกลื่อน ไปง่าย ไปบ่อย ใครๆก็ไป หลับตาเดินยังรู้
แต่สำหรับเรา หัวหินมักจะมีสิ่งแปลกใหม่เย้ายวนให้เรากลับไปหา กลับไปลองจนได้
แถมการไปแต่ละครั้งก็สร้างความรู้สึก ความประทับใจที่ต่างกันอีกต่างหาก
เอาล่ะๆ เกริ่นพอแล้วเนอะ ไปลุยกันดีกว่า...
สมาชิกในทริปนี้มีทั้งหมด 9 คน เป็นเพื่อนๆพี่ๆน้องๆในออฟฟิศ
และที่สำคัญ ไม่มีใครมีรถส่วนตัวเลยซักคน เริ่ดดดดด
เราลงความเห็นว่าการเช่ารถตู้น่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับพวกเรา
ประกอบกับพี่ที่ออฟฟิศคนนึง ทางบ้านประกอบธุรกิจรถตู้ให้เช่า
ก็เลยจัดการจองเสร็จสรรพกับพี่แก ได้มาในราคา 1,600 บาท ต่อวัน พร้อมคนขับ
ไม่รวมค่าน้ำมัน ที่ต้องเติมคืนให้เต็มถัง และค่าทางด่วน
ทริปนี้เราเก็บเงินจากสมาชิกกันก่อนคนละ 2,500 บาท มาดูกันว่าจะเหลือมั้ย
วันเดินทาง เรานัดกันที่ลานจอดรถข้างๆบีทีเอสหมอชิตเวลา 08.30น.

และนี่คือรถตู้ที่จะพาเราเดินทาง สภาพกลางๆ ไม่เก่าเกินไป แอร์เย็น สบาย
รอจนสมาชิกครบ 09.00น. ก็ได้เวลาล้อหมุน
จุดมุ่งหมายแรกของทริปนี้คือแวะกินข้าวเที่ยงที่ร้าน
ครัวป้ายืนซีฟู้ด ณ สะพานปลา ชะอำ
ซึ่งไม่เคยมีใครเคยมาเลย ร้านนี้พี่ที่ออฟฟิศแนะนำมาอีกที ก็เลยลองมาดู
มาไม่ยาก มาตามเส้นเพชรเกษม พอถึงตัวเมืองชะอำ จะเห็นสามแยกให้เลี้ยวซ้ายเพื่อเข้าไปยังหาดชะอำ
ขับตรงไปเรื่อยๆจนเจอหาดให้เลี้ยวซ้าย ตรงไปเรื่อยๆเพื่อไปสะพานปลา ซักพักอาจจะตกใจกับทางที่ขรุขระเล็กน้อย
นั่นเป็นสัญญาณว่าท่านได้มาถูกแล้วอย่าได้เป็นกังวลไป
ต้องเจอป้ายนี้นะ ถึงแปลว่ามาถูกทางแล้ว
ถ้างงที่เราพิมพ์ โทรหาทางร้านได้เลย

เราถึงร้านเวลาประมาณ 11.30 น. ร้านโล่งงงงงจนน่าตกใจ โล่งจนคิดว่ามันไม่อร่อยรึเปล่าถึงไม่มีคนเลย
สภาพหน้าร้านจะเป็นบ่อๆ มีทั้งกุ้ง หอย ปู ปลา สดๆ ให้เลือก มีหลายไซส์หลายขนาด
ถามราคาจากพี่เขาได้เลย ถ้าสั่งแบบสดๆเป็นกิโลๆ จะคิดค่าทำ 60 บาท จะนึ่งจะเผา สั่งได้เลย
แต่อาหารปรุงก็มีเช่นกัน ราคาก็ 150-250 ต่อจาน ไม่แพงมาก ถือว่าได้เยอะคุ้มค่าคุ้มราคา
อ้อ ลืมบอกทางร้านมีที่จอดรถได้เกือบๆ10 คันนะ
บริเวณด้านล่าง


บริเวณด้านบน

ป้ายร้าน
รอไม่นานเมนูแรกก็มาเสิร์ฟ เพราะลูกค้าไม่เยอะ เราเป็นโต๊ะที่ 2
หอยนางรมทรงเครื่อง กระปุกละ 150 บาท แถมทางร้านแบ่งเป็นสองถาดมาให้
(จริงๆสั่งร้านไป 2 ที่ แต่พอคิดเงินคิดมาแค่ 1 ไม่แน่ใจว่าเข้าใจคลาดเคลื่อนกันมั้ย)
เครื่องเยอะมากกกกกกกก หอยหวาน และ สดมากกกก เหมาะกับการเป็นออเดิร์ฟ

ตามมาติดๆกับ หอยเชลล์ย่างเนยกระเทียม
ราคา 200 บาท ได้ประมาณ 15-16 ฝานี่แหละ
รสชาติดี แต่เหมาะสำหรับคนกินเค็มหน่อยนะ เพราะบางคนก็บ่นๆ แต่เรากินได้ อาหย่อย

ต่อด้วยข้าวผัดกุ้งจานใหญ่ อร่อยมากกกกก
สั่งเหอะ ข้าวผัดเนี่ย ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าอร่อย
ไม่แฉะ ไม่ร่วน จนเกินไป กุ้งมาเป็นตัวๆ และตัวใหญ่พอสมควรสำหรับมาตรฐานข้าวผัด
เราสั่งมา 2 จาน จานละ 250 บาท(สั่งจานเล็ก 60บาท ให้พี่คนขับรถอีกต่างหาก)
แนะนำว่าถ้ามากัน 8-10 คน สั่งจานกลาง 2 จานดีกว่า
พวกเราทานเหลือ เพราะกะกันไม่ถูก รู้ตัวอีกทีอาหารเต็มโต๊ะจนไม่มีที่วาง

และแล้วพระเอกนางเอกของเราก็มา
นั่นก็คือกุ้งเผา และปูม้านึ่ง เราสั่งมาอย่างละ 3 กิโล ตามคำแนะนำของเจ้าของร้าน
เค้าจับสดๆจากบ่อหน้าร้านให้เลย คนขวัญอ่อนอาจจะรู้สึกสะเทือนใจได้
ตอนแรกจะสั่งอย่างละ 5 กิโล แต่เจ้าของร้านบอกว่ามันเยอะนะ เอาไปอย่างละ 3 โลก่อน ไม่พอค่อยสั่งเพิ่ม
สรุปพอมาเสิร์ฟก็รู้สึกดีที่สั่งแค่อย่างละ 3 เพราะมันเยอะมากกก มาอย่างละ 3 จานเลยทีเดียว จานละโลงี้
กุ้งราคากิโลกรัมละ 380 บาท ได้ประมาณเกือบๆ 30 ตัวต่อ 1กิโล
และปูกิโลกรัมละ 450 บาท ได้ประมาณ 4-5 ตัวต่อ 1 กิโล
สดมาก หวานมาก แทบไม่ต้องจิ้มน้ำจิ้ม(แต่น้ำจิ้มของทางร้านก็อร่อยนะ แซ่บกำลังดี)


สุดท้าย ต้มยำรวมมิตรน้ำข้น
อันนี้รสชาติอร่อยมาตรฐาน แต่ก็เคยเจออร่อยกว่านี้
ถ้าอยากซดอะไรร้อนๆก็สั่งได้ สั่งมา 2 หม้อ หม้อละ 200 บาท ให้เยอะมาก
เบ็ดเสร็จค่าเสียหาย 4,000 บาทถ้วน
จริงๆ 4,020 บาท ทางร้านก็ลดให้นิดๆหน่อย
สรุปโดยรวมร้านนี้ ประทับใจมากๆ เอาเป็นว่าใครมีโอกาสผ่านไปแถวนั้น
ลองแวะไปทานได้ อันนี้ทุกคนในทริปคอนเฟิร์มความอร่อยแล้ว ผ่านนนน
จบของคาวเราก็มุ่งหน้าไปต่อกันที่ของหวาน
เราออกจากร้านเวลาประมาณบ่ายโมงนิดๆ
จองร้าน
INU CAFE' ไว้ เวลา 13.30น.
ไปถึงจริงๆเกือบบ่ายสอง ร้านเต็ม แอบเสียใจเล็กน้อย
แต่โทษใครไม่ได้ เรามากันไม่ทัน ทางร้านเลยเอาโต๊ะให้ลูกค้าคนอื่นไป
แนะนำว่า ถ้าจะมาช่วง11.00-14.00 เนี่ย โทรจองดีกว่า และแนะนำให้ตรงเวลา
เพราะร้านค่อนข้างเล็ก รองรับได้ไม่ถึง 10โต๊ะ ลักษณะเป็นแบบเปิดบริเวณหน้าบ้านให้เราเข้าไปนั่ง
และๆๆๆที่สำคัญไม่มีแอร์นะร้านนี้ ถ้าจะมาแนะนำให้ดูสภาพอากาศนิดนึง ร้อนมั้ย ไหวมั้ยถามใจตัวเองดู
พิกัดร้านอยู่ข้างในซอย แนบเคหาสน์ 8 เดินเข้าไปประมาณ 100 เมตร ซึ่งซอยนี้มีร้านบ้านถั่วเย็นอยู่ข้างหน้า
ผิดหวังจากน้องหมาก็เดินออกมาซบร้าน
บ้านถั่วเย็นทันที
ร้านนี้คนก็ยังเยอะเช่นเคย แวะกินของหวานดับร้อนหน่อยล่ะกัน
ไม่ได้ถ่ายบรรยากาศในร้านมาเลย เพราะคนเยอะ ดูวุ่นวายๆหน่อย
เมนูมีทั้งคาวและหวาน


ขนมมาแล้ววววว ใจตรงกันสั่งกันแค่ 2 อย่าง
ไอซ์กัตจังถั่วแดง 55บาท ก็คือน้ำแข็งใส่ถั่วแดงที่เราคุ้นเคยกันนี่แหละ

ไอซ์ลอดช่องถั่วแดง 80 บาท อันนี้ไม่ได้ชิม เป็นไอศกรีมวนิลา+ลอดช่อง+ถั่วแดง+วิปครีม

ขนมราคาแอบแพงไปหน่อย เบ็ดเสร็จค่าเสียหาย 595 บาท
พอกินทั้งคาวและหวานเสร็จสรรพแล้ว
ก็ได้ฤกษ์เช็คอินเข้าที่พักกันซักที
เดี๋ยวขอต่อที่คอมเมนต์ด้านล่างนะ
[CR] รีวิว Eat Only Trip กินๆนอนๆ ณ หัวหิน 2 วัน 1 คืน : )
ก่อนอื่นขอบอกไว้ก่อนเลยว่า สิ่งที่ทุกคนจะได้จากกระทู้นี้ คือสาระล้วนๆ แต่คือสาระเรื่องกินนะ ฮ่าๆ
พูดถึงหัวหิน...แค่ชื่อหลายๆคนอาจจะขี้เกียจอ่านรีวิวแล้วด้วยซ้ำ
เพราะมันเยอะ เกลื่อน ไปง่าย ไปบ่อย ใครๆก็ไป หลับตาเดินยังรู้
แต่สำหรับเรา หัวหินมักจะมีสิ่งแปลกใหม่เย้ายวนให้เรากลับไปหา กลับไปลองจนได้
แถมการไปแต่ละครั้งก็สร้างความรู้สึก ความประทับใจที่ต่างกันอีกต่างหาก
เอาล่ะๆ เกริ่นพอแล้วเนอะ ไปลุยกันดีกว่า...
สมาชิกในทริปนี้มีทั้งหมด 9 คน เป็นเพื่อนๆพี่ๆน้องๆในออฟฟิศ
และที่สำคัญ ไม่มีใครมีรถส่วนตัวเลยซักคน เริ่ดดดดด
เราลงความเห็นว่าการเช่ารถตู้น่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับพวกเรา
ประกอบกับพี่ที่ออฟฟิศคนนึง ทางบ้านประกอบธุรกิจรถตู้ให้เช่า
ก็เลยจัดการจองเสร็จสรรพกับพี่แก ได้มาในราคา 1,600 บาท ต่อวัน พร้อมคนขับ
ไม่รวมค่าน้ำมัน ที่ต้องเติมคืนให้เต็มถัง และค่าทางด่วน
ทริปนี้เราเก็บเงินจากสมาชิกกันก่อนคนละ 2,500 บาท มาดูกันว่าจะเหลือมั้ย
วันเดินทาง เรานัดกันที่ลานจอดรถข้างๆบีทีเอสหมอชิตเวลา 08.30น.
และนี่คือรถตู้ที่จะพาเราเดินทาง สภาพกลางๆ ไม่เก่าเกินไป แอร์เย็น สบาย
รอจนสมาชิกครบ 09.00น. ก็ได้เวลาล้อหมุน
จุดมุ่งหมายแรกของทริปนี้คือแวะกินข้าวเที่ยงที่ร้าน ครัวป้ายืนซีฟู้ด ณ สะพานปลา ชะอำ
ซึ่งไม่เคยมีใครเคยมาเลย ร้านนี้พี่ที่ออฟฟิศแนะนำมาอีกที ก็เลยลองมาดู
มาไม่ยาก มาตามเส้นเพชรเกษม พอถึงตัวเมืองชะอำ จะเห็นสามแยกให้เลี้ยวซ้ายเพื่อเข้าไปยังหาดชะอำ
ขับตรงไปเรื่อยๆจนเจอหาดให้เลี้ยวซ้าย ตรงไปเรื่อยๆเพื่อไปสะพานปลา ซักพักอาจจะตกใจกับทางที่ขรุขระเล็กน้อย
นั่นเป็นสัญญาณว่าท่านได้มาถูกแล้วอย่าได้เป็นกังวลไป
ต้องเจอป้ายนี้นะ ถึงแปลว่ามาถูกทางแล้ว
ถ้างงที่เราพิมพ์ โทรหาทางร้านได้เลย
เราถึงร้านเวลาประมาณ 11.30 น. ร้านโล่งงงงงจนน่าตกใจ โล่งจนคิดว่ามันไม่อร่อยรึเปล่าถึงไม่มีคนเลย
สภาพหน้าร้านจะเป็นบ่อๆ มีทั้งกุ้ง หอย ปู ปลา สดๆ ให้เลือก มีหลายไซส์หลายขนาด
ถามราคาจากพี่เขาได้เลย ถ้าสั่งแบบสดๆเป็นกิโลๆ จะคิดค่าทำ 60 บาท จะนึ่งจะเผา สั่งได้เลย
แต่อาหารปรุงก็มีเช่นกัน ราคาก็ 150-250 ต่อจาน ไม่แพงมาก ถือว่าได้เยอะคุ้มค่าคุ้มราคา
อ้อ ลืมบอกทางร้านมีที่จอดรถได้เกือบๆ10 คันนะ
บริเวณด้านล่าง
บริเวณด้านบน
ป้ายร้าน
รอไม่นานเมนูแรกก็มาเสิร์ฟ เพราะลูกค้าไม่เยอะ เราเป็นโต๊ะที่ 2
หอยนางรมทรงเครื่อง กระปุกละ 150 บาท แถมทางร้านแบ่งเป็นสองถาดมาให้
(จริงๆสั่งร้านไป 2 ที่ แต่พอคิดเงินคิดมาแค่ 1 ไม่แน่ใจว่าเข้าใจคลาดเคลื่อนกันมั้ย)
เครื่องเยอะมากกกกกกกก หอยหวาน และ สดมากกกก เหมาะกับการเป็นออเดิร์ฟ
ตามมาติดๆกับ หอยเชลล์ย่างเนยกระเทียม
ราคา 200 บาท ได้ประมาณ 15-16 ฝานี่แหละ
รสชาติดี แต่เหมาะสำหรับคนกินเค็มหน่อยนะ เพราะบางคนก็บ่นๆ แต่เรากินได้ อาหย่อย
ต่อด้วยข้าวผัดกุ้งจานใหญ่ อร่อยมากกกกก
สั่งเหอะ ข้าวผัดเนี่ย ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าอร่อย
ไม่แฉะ ไม่ร่วน จนเกินไป กุ้งมาเป็นตัวๆ และตัวใหญ่พอสมควรสำหรับมาตรฐานข้าวผัด
เราสั่งมา 2 จาน จานละ 250 บาท(สั่งจานเล็ก 60บาท ให้พี่คนขับรถอีกต่างหาก)
แนะนำว่าถ้ามากัน 8-10 คน สั่งจานกลาง 2 จานดีกว่า
พวกเราทานเหลือ เพราะกะกันไม่ถูก รู้ตัวอีกทีอาหารเต็มโต๊ะจนไม่มีที่วาง
และแล้วพระเอกนางเอกของเราก็มา
นั่นก็คือกุ้งเผา และปูม้านึ่ง เราสั่งมาอย่างละ 3 กิโล ตามคำแนะนำของเจ้าของร้าน
เค้าจับสดๆจากบ่อหน้าร้านให้เลย คนขวัญอ่อนอาจจะรู้สึกสะเทือนใจได้
ตอนแรกจะสั่งอย่างละ 5 กิโล แต่เจ้าของร้านบอกว่ามันเยอะนะ เอาไปอย่างละ 3 โลก่อน ไม่พอค่อยสั่งเพิ่ม
สรุปพอมาเสิร์ฟก็รู้สึกดีที่สั่งแค่อย่างละ 3 เพราะมันเยอะมากกก มาอย่างละ 3 จานเลยทีเดียว จานละโลงี้
กุ้งราคากิโลกรัมละ 380 บาท ได้ประมาณเกือบๆ 30 ตัวต่อ 1กิโล
และปูกิโลกรัมละ 450 บาท ได้ประมาณ 4-5 ตัวต่อ 1 กิโล
สดมาก หวานมาก แทบไม่ต้องจิ้มน้ำจิ้ม(แต่น้ำจิ้มของทางร้านก็อร่อยนะ แซ่บกำลังดี)
สุดท้าย ต้มยำรวมมิตรน้ำข้น
อันนี้รสชาติอร่อยมาตรฐาน แต่ก็เคยเจออร่อยกว่านี้
ถ้าอยากซดอะไรร้อนๆก็สั่งได้ สั่งมา 2 หม้อ หม้อละ 200 บาท ให้เยอะมาก
เบ็ดเสร็จค่าเสียหาย 4,000 บาทถ้วน
จริงๆ 4,020 บาท ทางร้านก็ลดให้นิดๆหน่อย
สรุปโดยรวมร้านนี้ ประทับใจมากๆ เอาเป็นว่าใครมีโอกาสผ่านไปแถวนั้น
ลองแวะไปทานได้ อันนี้ทุกคนในทริปคอนเฟิร์มความอร่อยแล้ว ผ่านนนน
จบของคาวเราก็มุ่งหน้าไปต่อกันที่ของหวาน
เราออกจากร้านเวลาประมาณบ่ายโมงนิดๆ
จองร้าน INU CAFE' ไว้ เวลา 13.30น.
ไปถึงจริงๆเกือบบ่ายสอง ร้านเต็ม แอบเสียใจเล็กน้อย
แต่โทษใครไม่ได้ เรามากันไม่ทัน ทางร้านเลยเอาโต๊ะให้ลูกค้าคนอื่นไป
แนะนำว่า ถ้าจะมาช่วง11.00-14.00 เนี่ย โทรจองดีกว่า และแนะนำให้ตรงเวลา
เพราะร้านค่อนข้างเล็ก รองรับได้ไม่ถึง 10โต๊ะ ลักษณะเป็นแบบเปิดบริเวณหน้าบ้านให้เราเข้าไปนั่ง
และๆๆๆที่สำคัญไม่มีแอร์นะร้านนี้ ถ้าจะมาแนะนำให้ดูสภาพอากาศนิดนึง ร้อนมั้ย ไหวมั้ยถามใจตัวเองดู
พิกัดร้านอยู่ข้างในซอย แนบเคหาสน์ 8 เดินเข้าไปประมาณ 100 เมตร ซึ่งซอยนี้มีร้านบ้านถั่วเย็นอยู่ข้างหน้า
ผิดหวังจากน้องหมาก็เดินออกมาซบร้านบ้านถั่วเย็นทันที
ร้านนี้คนก็ยังเยอะเช่นเคย แวะกินของหวานดับร้อนหน่อยล่ะกัน
ไม่ได้ถ่ายบรรยากาศในร้านมาเลย เพราะคนเยอะ ดูวุ่นวายๆหน่อย
เมนูมีทั้งคาวและหวาน
ขนมมาแล้ววววว ใจตรงกันสั่งกันแค่ 2 อย่าง
ไอซ์กัตจังถั่วแดง 55บาท ก็คือน้ำแข็งใส่ถั่วแดงที่เราคุ้นเคยกันนี่แหละ
ไอซ์ลอดช่องถั่วแดง 80 บาท อันนี้ไม่ได้ชิม เป็นไอศกรีมวนิลา+ลอดช่อง+ถั่วแดง+วิปครีม
ขนมราคาแอบแพงไปหน่อย เบ็ดเสร็จค่าเสียหาย 595 บาท
พอกินทั้งคาวและหวานเสร็จสรรพแล้ว
ก็ได้ฤกษ์เช็คอินเข้าที่พักกันซักที
เดี๋ยวขอต่อที่คอมเมนต์ด้านล่างนะ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น