>>ความทรงจำใต้ผืนทราย ตอนที่ 3 - ลับตา (1/2)<<

กระทู้สนทนา
>> ตอนที่ 1 - เฮเทอร์ (1/2) http://pantip.com/topic/35130752 , (2/2) http://pantip.com/topic/35135027
>> ตอนที่ 2 - เต็มใจ (1/2) http://pantip.com/topic/35143236 , (2/2) http://pantip.com/topic/35151778




ค่อนข้างสายจนล่วงเข้าสู่ชั่วโมงที่สามของเวลากลางวันแล้ว กว่าที่องค์ฟาโรห์และเฮเทอร์พร้อมออกเดินทาง แม้ยาตูผู้สามีจะยังนอนหลับสนิทส่งเสียงกรนจนดังสนั่น แต่กียาผู้ภรรยากลับลุกขึ้นมาจัดหาอาหารให้นักเดินทางแต่เช้าตรู่ อย่างกระตือรือล้น ฟาโรห์ทรงเดาว่า นอกจากเนื้อแท้ที่นางมิใช่คนใจคอคับแคบแล้ว นางอาจกำลังทำงานตอบแทนตุ้มพระกรรณทั้งสองอยู่ก็เป็นได้  

            ก็แปลกดี ที่อยู่ๆ ผู้ให้ความช่วยเหลือในตอนแรก กลับกลายเป็นผู้ที่ต้องตอบแทนในภายหลัง

            นอกจากอาหารที่นางจัดหามาอย่างดีที่สุดเท่าที่จะหาได้จากบ้านหลังเล็กของนางแล้ว กียายังหาผ้าผืนใหม่ให้เฮเทอร์ได้ใส่อีกด้วย

            ‘เจ้าน่ะยังสาว แต่งกายให้สวยงามไว้เถิด ผัวเจ้าจะได้ชื่นใจ’

            นึกถึงคำพูดนี้ของกียาเมื่อตอนเช้า องค์ฟาโรห์ต้องลอบยิ้มออกมาอีกครา ราวกับได้มองเห็นใบหน้าเลิกลั่กของคน ‘ยังสาว’ ที่ต้องอือๆออๆ ตอบรับกลับไป

            เมื่อฟาโรห์ทรงปลดเชือกที่ผูกอาชาสีดำของพระองค์ไว้กับต้นไม้ เจ้าม้าตัวใหญ่ก็ทำท่าเริงร่า เอาหัวดุนเข้ากับพระอุระและส่งเสียงฟืดฟาดยามได้รับผักใบเขียวเป็นรางวัล

            กียาเดินจูงมือเฮเทอร์ตามสมทบพอดีกับที่ผักสดหมดจากพระหัตถ์ การเดินทางของพระองค์และเฮเทอร์พร้อมแล้ว

            “ขอให้พวกเจ้าโชคดี มีลูกชายหญิงพร้อมใช้นะ”

            หญิงสูงวัยอวยพรให้อย่างที่ถูกที่ควรกับคู่สามีภรรยา ฟาโรห์ทรงพยักพระพักต์รับราวกับพึงใจ

            “ขอบคุณท่านมาก ที่ให้ความกรุณาพวกข้า”

            ตรัสพร้อมกับฉวยมือของกียาขึ้นมาและวางแหวนทองวงใหญ่ลงกับฝ่ามือนาง

            ทรงอธิบายในขณะที่กียายังตะลึงไม่หาย “ข้าให้ท่าน ‘เท่านั้น’”

            ดวงตาของผู้รับยังเบิกโพลงแสดงถึงความตื่นตะลึงยามมองสบพระเนตร

            “ทำไม” เสียงของนางสั่นยามเอ่ยถาม

            “เพราะท่านมีน้ำใจ” ทรงปรายพระเนตรกลับเข้าไปในบ้าน “มันอาจเปลี่ยนชีวิตของท่านได้”

            มือของหญิงสูงวัยสั่นเทายามกำเหรียญไว้ น้ำตาเอ่อคลอหน่วยตาของนาง

            “ข้าอยากปฏิเสธ แต่ข้าไม่อาจปฏิเสธได้ ขอบใจพ่อหนุ่มมาก แต่...” น้ำตาของนางไหลออกมา แต่เจ้าตัวไม่คิดจะเช็ดแต่ประการใด “ข้าอยู่กับ ‘มัน’ มานานกว่าครึ่งของชีวิตข้า เป็นเช่นไร ข้าก็ทิ้งมันไม่ได้หรอก”

            “ก็แล้วแต่ เพราะแหวนวงนี้เป็นของท่านแล้ว”

            ทรงถอนพระปัสสาสะ มองไปทางหญิงสาวที่อยู่ข้างกาย แม้นางจะไม่เข้าใจอะไรนัก แต่แววตาที่มองสตรีที่กำลังร้องไห้อยู่ตรงหน้าก็เต็มไปด้วยแววเห็นใจ

            “ไปเถิด เฮเทอร์”

            ตรัสพร้อมกับแตะแขนหญิงสาวเบาๆ

            “ลาก่อน ท่านป้า ขอให้ท่านโชคดี”

            เฮเทอร์เอ่ยต่อกียา ซึ่งหันมายิ้มตอบทั้งน้ำตา

            แล้วฟาโรห์ก็ทรงประคองหญิงสาวขึ้นนั่งบนหลังม้า ก่อนจะเสด็จขึ้นตามไปนั่งด้านหลัง เมื่อทรงจับสายบังคับม้า ร่างของหญิงสาวที่ถูกกักอยู่กลางพระพาหาก็ดูนิ่งเกร็ง คล้ายพยายามหดไหล่ให้ตัวเล็กลู่ลงไปอีก

            ...นี่คงพยายามไม่สัมผัสตัวข้าอยู่สินะ...

            นึกกระหยิ่มในพระทัย แม่คนงามร่างบาง นางจะพยายามขดตัวหนีไปได้ถึงไหนบนหลังม้าแคบๆนี้ เพียงแค่พระองค์ลองกระตุกม้าให้โผทะยานออกไปเร็วหน่อย เชื่อเถิดว่าร่างงามนี้จะผวามาพิงพระอุระเอาเสียเอง

            ทรงหันกลับมามองกียาซึ่งยังยืนอยู่ที่เดิม แม้ไม่อาจรู้ได้ว่าภาพของพระองค์และหญิงสาวในอ้อมพระพาหานี้ ทำให้หญิงสูงวัยผู้ต้องจมจ่ออยู่กับสามีแบบนั้นคิดอะไรได้บ้าง แต่พระองค์ก็ทำเท่าที่จะทรงทำได้แล้ว

            ทรงพยักพระพักต์ให้นางเล็กน้อย แล้วจึงดึงสายจูงปลุกพระอาชาให้ฮึกเหิม ม้าหนุ่มจึงคึกคัก ดีดขาหน้าขึ้นแหวกอากาศ ก่อนกระโจนวิ่งออกไปจนไกลจากบ้านหลังน้อยนั้นในชั่วพริบตา

            แล้วเจ้าคนร่างบางที่เคยนั่งเกร็ง ก็ต้องมาซบอยู่กับพระอุระในที่สุด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่