ขออนุญาติแชร์ประสบการณ์การไปขอวีซ่าที่สถานทูตเยอรมัน ที่ยืนยันได้ว่าต้องไปเอง เพราะนอกจากคนสัมภาษณ์จะอยากเจอแล้ว น่าจะต้องเอาลายนิ้วมือไปแสกนเป็นหลักฐานการมีตัวตนด้วยครับ
หลังจากที่ชะล่าใจไม่เข้าไปนัดวันเวลาไว้ก่อนในเวปไซต์ของทางสถานทูต ทำให้ได้วันสัมภาษณ์เพียงแค่ไม่กี่วันก่อนวันเดินทาง (ประมาณ 10 วัน) จนคิดว่าน่าจะต้องเลื่อนวันเดินทางไปก่อน แต่พอสอบถามหลายๆ คนที่เคยไปขอวีซ่ามาแล้ว ก็บอกเป็นเสียงเดียวกัน ว่าถ้าเป็นเยอรมัน น่าจะทันครับเพราะมาตรฐานการทำงานสูง ขอปั๊ปได้ผลปุ๊ป ส่วนจะผ่านไม่ผ่านนั้นอีกเรื่องนึง
เพื่อไม่ให้เป็นการหวาดเสียวโดยไช่เหตุ ถ้าใครมีดำริจะไปขอวีซ่าเยอรมัน ให้รีบเข้าไปจองคิวไว้ก่อนนะครับ ไม่เสียตังค์แต่อย่างใด พอจองเสร็จจะได้อีเมล์ พร้อมลิ้งค์สำหรับยกเลิกการจองได้ฟรีถ้าไม่ไปเพราะเตรียมเอกสารไม่ทัน โดยไม่มีการปรับอะไร
ส่วนวิธีการจองคิวสัมภาษณ์และการเตรียมเอกสารดูกระทู้ของคุณสมาชิกหมายเลข 2854495 ที่เพิ่งไปมาเมื่อเดือนมีนา ได้ที่นี่ครับ
http://pantip.com/topic/34929048
หลังจากที่เตรียมเอกสารตามที่สถานทูตแนะนำ ก็เอาเอกสารไปรอยื่นตามเวลาที่นัดไว้ โดยก่อนเข้าไปพนักงานจะให้ฝากอุปกรณ์สื่อสารทั้งหลายทั้งปวงไว้ที่ข้างหน้า แล้วเข้าไปนั่งรอหน้าห้อง สำหรับคนที่ขึ้ร้อนแนะนำให้ทานน้ำเย็นก่อนเข้าไปนะครับ เพราะที่ให้รอด้านนอกมีแต่พัดลม ต้องถึงเวลาที่นัดจึงจะได้เข้าไปในห้องที่มีเครื่องปรับอากาศ ถ้านัดเช้าไปถึงก่อน 15 นาทีก็พอครับ เพราะยังไงก็เข้าไปข้างในไม่ได้อยู่ดี
ก่อนเข้าประตูด้านใน จะมีบู๊ทให้ตรวจเช็คเอกสาร และมีตัวอย่างการกรอกแบบฟอร์มคำขอ ถ้าใครไปถึง แนะนำให้ไปตรวจเอกสารก่อนเลยนะครับ เขาจะมีตัวอย่างแบบฟอร์มพร้อม คำแนะนำที่ที่ต้องเซ็นชื่อ และช่องสำคัญๆ ว่าต้องกรอกอย่างไร ผมไม่ทราบว่ามีบู๊ทนี้อยู่มาก่อน เลยต้องเสียเวลาหลายนาทีเพื่อตรวจเอกสารและพบว่ามีบางอย่างต้องเพิ่มต้องแก้เหมือนกันครับ
หลังจากนั้นก็เข้าไปด้านในเพื่อกดบัตรคิว และรอเรียกคิวเพื่อยื่นเอกสารและสัมภาษณ์ ซึ่งทำตรงหน้าเค๊าน์เตอร์คล้ายๆ ห้องยาของโรงพยาบาล คนสัมภาษณ์ก็จะตรวจเอกสารและสอบถาม ถ้าเรียงเอกสารตามคำแนะนำก็จะใช้เวลาไม่เกิน 10 นาทีสำหรับสองคนครับ (ถ้าไปด้วยกันก็กดบัตรคิวเดียวเลยครับ แต่ตอนนัดออนไลน์ต้องนัดแยกแต่ละคน โดยให้ลงช่วงเวลาเดียวกันครับ)
หลังจากสัมภาษณ์แล้ว คนสัมภาษณ์ไม่ติดใจอยากได้เอกสารอะไรเพิ่มเติม ก็จะให้แสกนลายนิ้วมือและให้ใบนัดมารับ โดยมีเวลาระบุไว้อย่างชัดเจน จากนั้นก็ไปจ่ายตังค์คนละ 2,400 บาท ถึงวันรับถ้าไม่สะดวกไปรับเอง ก็ให้ใครถือใบนัดพร้อมใบเสร็จนี้ไปรับแทนก็ได้ครับ ไม่ต้องมอบอำนาจแต่อย่างใด หรืออาจจะใช้บริการส่งทางไปรษณีย์ ก็เห็นมีให้บริการอยู่ครับ
เนื่องจากฝากมือถือไว้ด้านหน้า จึงไม่มีรูปด้านในมาฝากกันแต่อย่างใดครับ มีแต่รูปคูปองรับพาสปอร์ต
สรุปคือวีซ่าเชงเก้น ถ้าขอที่สถานทูตเยอรมันใช้เวลา 3 วันได้รับเล่มคืน เป็นการขอวีซ่าที่ทราบผลเร็วที่สุดในบรรดาวีซ่าเชงเก้นที่เคยขอมา (เคยขอ อิตาลี่ สวิส ฝรั่งเศสมาก่อนครับ) เจ้าหน้าที่ข้างในก็สุภาพ ให้คำแนะนำเป็นอย่างดีทุกคนครับ
หวังว่าคงเป็นประโยชน์ให้คนที่กำลังคิดจะไปเที่ยว โดยเฉพาะช่วงที่เอาพ้อยด์ ROP แลกตั๋วการบินไทยได้ในราคาถูกเหลือเชื่ออย่างช่วงนี้นะครับ (70,000 ไมล์ แลกตั๋วไปเยอรมันเพิ่มเงินสามพันกว่าบาทเองครับ)
จูงมือกันไปขอวีซ่าเชงเก้นที่สถานทูตเยอรมันเมื่อวันที่ 9 พ.ค. 2559 มาครับ
หลังจากที่ชะล่าใจไม่เข้าไปนัดวันเวลาไว้ก่อนในเวปไซต์ของทางสถานทูต ทำให้ได้วันสัมภาษณ์เพียงแค่ไม่กี่วันก่อนวันเดินทาง (ประมาณ 10 วัน) จนคิดว่าน่าจะต้องเลื่อนวันเดินทางไปก่อน แต่พอสอบถามหลายๆ คนที่เคยไปขอวีซ่ามาแล้ว ก็บอกเป็นเสียงเดียวกัน ว่าถ้าเป็นเยอรมัน น่าจะทันครับเพราะมาตรฐานการทำงานสูง ขอปั๊ปได้ผลปุ๊ป ส่วนจะผ่านไม่ผ่านนั้นอีกเรื่องนึง
เพื่อไม่ให้เป็นการหวาดเสียวโดยไช่เหตุ ถ้าใครมีดำริจะไปขอวีซ่าเยอรมัน ให้รีบเข้าไปจองคิวไว้ก่อนนะครับ ไม่เสียตังค์แต่อย่างใด พอจองเสร็จจะได้อีเมล์ พร้อมลิ้งค์สำหรับยกเลิกการจองได้ฟรีถ้าไม่ไปเพราะเตรียมเอกสารไม่ทัน โดยไม่มีการปรับอะไร
ส่วนวิธีการจองคิวสัมภาษณ์และการเตรียมเอกสารดูกระทู้ของคุณสมาชิกหมายเลข 2854495 ที่เพิ่งไปมาเมื่อเดือนมีนา ได้ที่นี่ครับ http://pantip.com/topic/34929048
หลังจากที่เตรียมเอกสารตามที่สถานทูตแนะนำ ก็เอาเอกสารไปรอยื่นตามเวลาที่นัดไว้ โดยก่อนเข้าไปพนักงานจะให้ฝากอุปกรณ์สื่อสารทั้งหลายทั้งปวงไว้ที่ข้างหน้า แล้วเข้าไปนั่งรอหน้าห้อง สำหรับคนที่ขึ้ร้อนแนะนำให้ทานน้ำเย็นก่อนเข้าไปนะครับ เพราะที่ให้รอด้านนอกมีแต่พัดลม ต้องถึงเวลาที่นัดจึงจะได้เข้าไปในห้องที่มีเครื่องปรับอากาศ ถ้านัดเช้าไปถึงก่อน 15 นาทีก็พอครับ เพราะยังไงก็เข้าไปข้างในไม่ได้อยู่ดี
ก่อนเข้าประตูด้านใน จะมีบู๊ทให้ตรวจเช็คเอกสาร และมีตัวอย่างการกรอกแบบฟอร์มคำขอ ถ้าใครไปถึง แนะนำให้ไปตรวจเอกสารก่อนเลยนะครับ เขาจะมีตัวอย่างแบบฟอร์มพร้อม คำแนะนำที่ที่ต้องเซ็นชื่อ และช่องสำคัญๆ ว่าต้องกรอกอย่างไร ผมไม่ทราบว่ามีบู๊ทนี้อยู่มาก่อน เลยต้องเสียเวลาหลายนาทีเพื่อตรวจเอกสารและพบว่ามีบางอย่างต้องเพิ่มต้องแก้เหมือนกันครับ
หลังจากนั้นก็เข้าไปด้านในเพื่อกดบัตรคิว และรอเรียกคิวเพื่อยื่นเอกสารและสัมภาษณ์ ซึ่งทำตรงหน้าเค๊าน์เตอร์คล้ายๆ ห้องยาของโรงพยาบาล คนสัมภาษณ์ก็จะตรวจเอกสารและสอบถาม ถ้าเรียงเอกสารตามคำแนะนำก็จะใช้เวลาไม่เกิน 10 นาทีสำหรับสองคนครับ (ถ้าไปด้วยกันก็กดบัตรคิวเดียวเลยครับ แต่ตอนนัดออนไลน์ต้องนัดแยกแต่ละคน โดยให้ลงช่วงเวลาเดียวกันครับ)
หลังจากสัมภาษณ์แล้ว คนสัมภาษณ์ไม่ติดใจอยากได้เอกสารอะไรเพิ่มเติม ก็จะให้แสกนลายนิ้วมือและให้ใบนัดมารับ โดยมีเวลาระบุไว้อย่างชัดเจน จากนั้นก็ไปจ่ายตังค์คนละ 2,400 บาท ถึงวันรับถ้าไม่สะดวกไปรับเอง ก็ให้ใครถือใบนัดพร้อมใบเสร็จนี้ไปรับแทนก็ได้ครับ ไม่ต้องมอบอำนาจแต่อย่างใด หรืออาจจะใช้บริการส่งทางไปรษณีย์ ก็เห็นมีให้บริการอยู่ครับ
เนื่องจากฝากมือถือไว้ด้านหน้า จึงไม่มีรูปด้านในมาฝากกันแต่อย่างใดครับ มีแต่รูปคูปองรับพาสปอร์ต
สรุปคือวีซ่าเชงเก้น ถ้าขอที่สถานทูตเยอรมันใช้เวลา 3 วันได้รับเล่มคืน เป็นการขอวีซ่าที่ทราบผลเร็วที่สุดในบรรดาวีซ่าเชงเก้นที่เคยขอมา (เคยขอ อิตาลี่ สวิส ฝรั่งเศสมาก่อนครับ) เจ้าหน้าที่ข้างในก็สุภาพ ให้คำแนะนำเป็นอย่างดีทุกคนครับ
หวังว่าคงเป็นประโยชน์ให้คนที่กำลังคิดจะไปเที่ยว โดยเฉพาะช่วงที่เอาพ้อยด์ ROP แลกตั๋วการบินไทยได้ในราคาถูกเหลือเชื่ออย่างช่วงนี้นะครับ (70,000 ไมล์ แลกตั๋วไปเยอรมันเพิ่มเงินสามพันกว่าบาทเองครับ)