Work and Travel : Dare to DREAM!

สวัสดีครับ ใครที่กําลังสนใจในโปรแกรมเวิร์คแอนด์ทราเวล ในกระทู้นี้ผมขอแทน ด้วยคําว่า "เวิร์ค" นะ เพื่อความรวดเร็วและลดความเยิ่นเย้อของกระทู้ บอก ไว้ก่อน อารมณ์ในกระทู้จะแปรปรวนมาก เพราะพิมพ์หลายวันเหลือเกิน บางวันอาจจะ เรียบร้อย บางวันอาจจะเป็นตลกโปกฮา เป็นป่วงอะไรก็ว่ากันไป มีปนคําเหนือ นิดๆให้กลิ่นอายเชียงใหม่เบาๆเน่อเจ้าา

โฆษณาคั่นก่อนเริ่มกระทู้แรก แปะกระทู้สองมันตรงนี้แหละ เด่นดี
http://pantip.com/topic/35236327
เข้าไปเยี่ยมไปชมกันได้ ด่าห้ามแรง เคนะ 555

กระทู้เวิร์คในพันทิปมีเยอะมากๆครับ ร้อยแปด ทั้งที่บอกว่าเป็นโครงการค้ามนุษย์ที่ถูกกฎหมาย เป็นโครงการแลกเปลี่ยนเรียนรู้
ในความคิดตอนแรกๆคืออยากไปมากๆ แต่พออ่านกระทู้ที่มันลบๆเยอะก็แอบถอนใจนะ แต่ก็ชีวิตเนอะ ไปก็คือไป ลองซัดครั้งในชีวิต
ประเภทของกระทู้มีมากมายก่ายกองตั้งแต่เวิร์คคืออะไร หาเอเจนซี่ยังไง ไปเมืองไหน ทํางานอะไร อยู่ยังไง วีซ่ายากมั้ย เจทแลคเป็นนานมั้ย เคาเจอร์ช็อคน่ากลัวรึป่าว เรียกว่าร้อยแปดจริงๆครับ ผมเองก็หาข้อมูลไปเวิร์ค ครั้งนี้จากกระทู้ในพันทิปเนี่ยแหละ เกือบ90%เลยทีเดียว อีก10%มาจากเพื่อนที่เคยไปมาแล้ว

แล้วทําไมถึงมาเขียนอีก?

ผมอยากเก็บกระทู้นี้ไว้เป็นความทรงจํา และอยากแชร์สำหรับคนที่กําลังตัดสินใจจะไปครับ
กระทู้นี้ผมขอเรียงเป็นไทม์ไลน์นะครับ จะใส่เดือนไปด้วย เพื่อความชัดเจนเนาะ

เดือนพฤษภาคม+กรกฎาคม

สองเดือนนี้ผมนั่งอ่านกระทู้เวิร์คพันทิปจนหมดเลย ช่วงปิดเทอมอยู่ด้วย ไล่อ่าน ให้หมดครับ ทั้งพันทิปทั้งเด็กดี อ่านไปทุกเรื่องครับ 555 ผมเชื่อว่าเรื่องแรกหลังจากที่เราตัดสินใจว่าจะไปใช้ชีวิตต่างแดนได้แล้วคือ"ไปเอเจนซี่ไหนดี" ผมใช้เวลาทั้งเดือนในการอ่านรีวิวเอเจนซี่ต่างๆ จนรู้ข้อดีข้อเสียของแต่ละเอเจนซี่จน เกือบหมดเลยครับ สุดท้ายก็ตกลงปลงใจว่าจะไปกับเอเจนซี่ชื่อดัง เพราะอยู่ใกล้ ติดต่อง่าย และตามเพื่อนผมที่ไปปีแล้วบอกครับ โอเค ได้เอเจนซี่แล้ว ผมก็ทําการ ติดต่อเลยครับ /หาเบอร์โทรในเน็ตโลด

"ฮะโหลครับ ขอสอบถามข้อมูลเรื่องเวิร์คหน่อยได้มั้ยครับ"

"น้องสงสัยอะไรหรอคะ พี่แนะนําให้น้องไปอ่านในเว็บของเราก่อน ถ้าไม่เข้าใจให้ โทรมาใหม"
 แล้วพี่เอเจนซี่ก็วางสายไป...
คืออึ้งครับ..
คือผมอ่านข้อมูลมาแล้ว แต่ในเว็บเค้าเป็นข้อมูลของปี 2015 ซึ่งยังไม่ ได้อัพเดตเป็น 2016 ครับ แค่อยากจะถามว่า "เริ่มรับสมัครวันไหน" แค่นี้แหละครับ
ผมมีความคิดที่จะเปลี่ยนเอเจนซี่ทันที หลังจากนั้นผมก็วนไปขั้นตอนเริ่มหาเอเจนซี่ใหม่ ครับ 555
สุดท้าย มาลงเอยกับเอเจนซี่ที่ไม่ได้ใหญ่โตมาก แต่พี่เค้าบริการด้วยใจครับ ผมไป กับเพื่อน5คนครับ พี่เค้าจําได้ทุกคน จําชื่อเล่นได้ จํามหาลัยที่เราเรียนได้ จําได้ว่า เราอยากได้งานประเภทไหน เราอยากไปเมืองอะไร คือจุดนั้นเค้าทําให้ผมประทับใจมากครับ งานบริการของพวกพี่ๆเค้าดีมาก ผมแนบหลักฐานสองสามชิ้นมาให้ด้วย ครับ พี่เค้าตอบอีเมลล์ส่วนใหญ่ไม่เกิน1ชั่วโมงครับ ถ้าแชทเฟสนี่ตอบอย่างไว ผม ถามจู้จี้มากๆจนบางแอบคิดว่าพี่เค้าจะรําคานมั้ย แต่ทุกครั้งที่เค้าตอบพี่เค้าจะพูดต่อตลอดเลยว่า "มีอะไรสงสัยก็โทรมาหาได้ตลอดเลยนะ"


เดือนสิงหาคม
เอเจนซี่ที่ผมเลือกเป็นที่ที่สองนี้มีให้ทดสอบภาษากับพี่ๆก่อนผ่านทางโทรศัพท์เพื่อ ประเมินระดับภาษาและเลือกงานให้ตรงความสามารถครับ ฟรีด้วยนะ ไม่เสียอะไร เลย ยังไม่ได้สมัครก็ทดสอบได้ ใจดีป้ะล่าาา555 ผมก็เลยลองของฟรีเลยครับ จัดการทดสอบภาษาเลย
หลังจากรู้ผลแล้วก็ตัดสินใจสมัครเลยครับ โปรแกรมนี้ในเดือนแรกที่เค้าเปิดรับเลย เป็นคนที่ 13 ของโครงการ ช่วงกรกฎา สิงหา สองเดือนนี้โปรโมชั่นแรงมากๆ และปีที่ผมสมัคร เดือนสิงหาแรงสุดครับ อันนี้ก็แล้วแต่เอเจนซี่ด้วยนะ ผมได้ลดราคา ค่าโครงการไป 11,000 บาทถ้วน!
: ขอมีสาระ

ระดับภาษจะมี Low Intermediate High และ Advance ครับ งานที่ต้องเจอผู้ คนมากๆก็จะต้องการระดับภาษาที่สูงตามครับ เช่น Cashier, Server เป็นต้น ส่วนใครที่ภาษาไม่ค่อยแข็งแรงก็จะมีงานที่รองรับอยู่ครับ เช่น Housekeeper, Retailers เป็นต้นครับ


กันยายน-พฤศจิกายน

ช่วงสองเดือนนี้เป็นช่วงเตรียมเอกสารครับ พวกเซ็นสัญญาเข้าร่วมโครงการ เตรียมพาสปอร์ต งานก็เริ่มทะยอยเข้ามาบ้างแล้ว เอเจนซี่ที่ผมเลือกมีข้อดีคือ ถ้า ไม่มีออฟเฟอร์งานจากทางอเมริกา เค้าก้ไม่เอามาเสนอให้เราครับ เอเจนซี่บางแห่งเค้าเอางานที่เคยออฟเฟอร์ให้เด็กไทยปีก่อนๆมาเสนอให้เลยครับ พอเลือกไป แล้วเลยมีโอกาสโดนCancel ได้ครับ ระหว่างนั้นพี่ๆเค้าก้ส่งข้อมูลงานที่น่าจะตรง กับที่เราชอบมาให้ทางอีเมลล์เรื่อยๆครับ ผมก้ไปจัดแจงทําพาสปอร์ตไว้ก่อนเลย
: ขอมีสาระ
หลังจากทำพาสปอร์ตนางจะส่งทางไปรษณีย์ภายใน7วันทําการนะครับ พกไปแค่บัตร ประชาชนใบเดียวก็พอ เด็กที่อายุไม่ถึง20ปีก็พาพ่อแม่หรือผู้ปกครองไปด้วยนะ


ธันวาคม

เป็นเดือนที่รองานมาแล้วหลายงาน ไม่เจองานที่ถูกใจซ้ากที พอดีเอเจนซี่มาจัดงาน ที่เชียงใหม่ ให้เด็กที่เข้าร่วมโครงการไปฟังประสบการณ์จากรุ่นก่อนๆหน้า มีอะไร ถามได้ทุกสิ่ง ไอ้เราก็ไปปิ๊งงานจากที่แนะแนวเนี่ยแหละ เลยตกลงปลงใจ ทําสัญญา ไว้กับพี่เอเจนซี่ งานนี้จะต้องไปสัมภาษณ์ผ่านเอเจนซี่ของอเมริกา นางมีความบินมาสัมภาษณ์เองที่ กทม. นะจ้ะ หลังจากนั้นชีวิตก้ชิลๆไป รอสัมฯงาน เดือนธันวาคือนั่ง รัวดูรูปเมืองนู่นนี่นั่น หาที่เที่ยวในอเมิรกา เมืองนู้นเมืองนี้ อู้ยยย.อยากไปมากกก กกกกกกก

เวลาผ่านไปไวมาก และแล้วก็ปี 2016 จ้าาา


เดือนมกราคม

เดือนนี้ฟิตภาษานิดนึง อะไรงี้ เวลาไปสัมภาษณ์จะได้ไม่ไปนั้งเป็นอิเด๋อเนาะ
วันที่ 23มกรา ถึงคราได้บินจ้าา ไม่ไกล กทม.เอง555
เราบินกับเพื่อน2คน นางชื่อ"หมิว" ส่วนสามคนเดอะแก็งค์บินไปก่อนแล๊ววว อันที่ จริงไฟลท์นางจะบินก่อนเรา1ชั่วโมง แต่บับ นางแต่งหน้าเขียนคิ้วจัดเต็มเลยตกเครื่องเบาๆ พอถึงดอนเมืองก็นัดเพื่อนที่เรียนนู่นมารับทันที นางชื่อ"นัท" ความซวย ระรอกที่ ด้วยความที่เป็นจาวเจียงใหม่ตื่นเต้นแท็กซี่ไปอีกคือลืมมือถือไว้ในรถ นัท นางก็เลยซ้อนวินตามแท็กซี่ให้ และตัวเราเองก็ได้หลงกับเพื่อนๆเป็นที่เรียบร้อย มีติดตัวแค่กระเป๋าตังค์ แค่นั้นจริงๆ
คือตอนนั้นเฟ้งฟ้างมาก. จําเบอร์เพื่อนไม่ได้เลย ไม่มีมือถือ ไม่รู้จักที่พัก ไม่รู้จะ ติดต่อใครยังไง
เดินๆๆหาเพื่อนแถวๆหน้าพารากอน คือเห็นกันครั้งสุดท้ายตรงนั้น แต่ก้ไม่เจอ
คือลนมาก เดินเร็วๆ มองหน้าทุกคนที่เดินผ่าน หวังว่าจะเป็นเพื่อนตัวเอง จน สุดท้ายคิดขึ้นมาได้ ว่าอยู่พารากอนนิหว่า เข้าลิฟต์แล้วกดไปที่ชั้นไอทีเลยจ้า เห็น ศูนย์ซัมซุงอย่างแรก ตรงเข้าไปทันที ถามพนักงานว่าเครื่องไหนใช้อินเทอร์เน็ตได้ แล้วจัดแจงเข้าเฟสบุ๊คทันที หลังจากได้ออนไลน์แล้ว เพื่อนๆก็อยู่แค่ปลายนิ้วละจ่ะ รัวๆข้อความผ่านแชทเฟสไปว่า SOSชั้นอยู่ศูนย์ซัมซุงพารากอน มาหาด่วนๆ 555 ขอขอบคุณซัมซุงกาแลคซี่เอส6 เครื่องนั้น. และนางนัทที่ขี่วินตามแท็กซี่ไป มีความเก้วกลับมา /ขออาสาสมัครเม้นต์บอกความหมายเก้วที เพราะก็อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน55 แท็กซี่นางออกไปไกลมาก ถึงสุวรรณภูมิละมั้ง เลยต้องนั่งรอ สุดท้ายนางกลับเอามาคืนด้วยน้ําใจล้วนๆ เราขอให้ศีลน้ําใจเป็นเงินไม่กี่ร้อยแต่พี่เค้าก็ปฏิเสธ คนเจียงใหม่มาเจอความน้ําใจงาม คือประทับใจเว่อ
พอถึงวันสัมภาษณ์งาน เจอฝนตกอีกครับผม ถ้าจํากันได้ ช่วงนั้นจะมีพายุสัพเพเหระ เข้าออกเข้าออกประเทศไทยอยู่บ่อยๆ ชุ่มฝนไปสัมภาษณ์งานอีก1 แต่ก็ผ่านการ สัมภาษณ์งานไปได้ด้วยดีนาจา
คําถามก็ประมาณว่า
Where do you study?
Where are you from?
Why do you want to go to the us.?
What do you know about the state?
What do you know about your job?
How many people in your group?
If you need to go separately, will you go or stick together?
Do you have any question?
ไม่ต้องกลัวเรื่องคําตอบนะ พี่ๆเอเจนซี่เค้าให้ข้อมูลเรื่องงาน เมือง ต่างๆนาๆ
เรียบร้อยเลย ถ้าตอบบางข้อไม่ได้ก็ไม่ต้องพารานอยด์เน่อ เพราะเค้าจะดูแค่ว่า เราเข้าใจคําถามเค้ามั้ย. สื่อสารได้มั้ย พยายามจะสื่อสารมั้ย แค่นั้นแหละ หลังจากผ่านแล้วก็เซ็นสัญญาเลยจร้าา


กุมภาพันธ์

เดือนนี้เตรียมเอกสารเพื่อขอวีซ่าไปอเมริกาแล้ว ใกล้เข้ามาทุกทีแล้วนะอเมริกาาาา
เอกสารที่เราต้องเตรียมก็มี ใบรับรองเงินเดือนผู้ปกครอง(สปอนเซอร์เรา) ใบรับรองสถาณภาพทางการเงิน(ขอแบงค์) ใบทรานส์คริปต์ใบรับรองสถานภาพนักศึกษา รูปถ่ายวีซ่า ทุกสิ่งเป็นภาษาอังกฤษนาจา เราเตรียมเสร็จแล้วก็ส่งอีเอ็มเอสไปให้ เอเจนซี่ที่กทม.เลย หลังจากที่พี่เค้าได้รับ ก็ทักแชทมาบอกทันที ว่าเรียบร้อยแล้วนะครับ อิอิ หลังจากนั้นก็รอสัมภาษณ์วีซ่าอย่างเดียวเบย ...
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่