คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
ปัญหานี้ผมเจอมาทุกที่ตั้งแต่ฝึกงานมาจนทำงาน ปัญหาคือพฤติกรรมของคนในออฟฟิศ
ปกติก็จะให้ใครอยู่ใกล้ก็ไปเปิด ทำให้ความซวยไปตกอยู่ที่คนที่นั่งแถวประตู จนกลายเป็นหน้าที่ของคนๆนี้ไป บางทีเขาก็ไม่ได้อยู่ที่โต๊ะ แต่คนก็ยังใช้เขาไปเปิดอยู่ดี หรือบางทีมีธุระติดพันเดินไปเปิดไม่ได้ คนก็ยังไปว่าเขา มันไม่ค่อยแฟร์กับเขานะ
ส่วนจะให้ใครว่างก็ช่วยๆกัน เป็นหน้าที่ของทุกคน ก็ดูไม่เวิร์คถ้าในออฟหิศขาดความมีจิตสำนึก... ที่ทะเลาะกันก็ไม่ใช่ว่ามีคนเห็นแก่ตัว ไม่ให้ความร่วมมือ โยนให้คนอื่นหรือต้องรอให้ตัวเองเป็นคนสุดท้ายจริงๆถึงจะเดินไปเปิดไม่ใช่รึ? จะลงโทษก็โดนกันทุกคน เขาไม่กลัวหรอก
พฤติกรรมของพนักงานแต่ละออฟฟิศไม่เหมือนกัน แต่ที่แน่ๆคือออฟฟิศจขกท ไม่มีพวกพนักงานที่alert และออกแนวเห็นแก่ตัว ชอบใช้คนอื่น
เอาเป็นว่าประชุมกันว่าจะเอายังไง อาจจะให้รางวัลกับคนที่อยู่ใกล้ทำหน้าที่นี้ไปเลยก็ได้
ปกติก็จะให้ใครอยู่ใกล้ก็ไปเปิด ทำให้ความซวยไปตกอยู่ที่คนที่นั่งแถวประตู จนกลายเป็นหน้าที่ของคนๆนี้ไป บางทีเขาก็ไม่ได้อยู่ที่โต๊ะ แต่คนก็ยังใช้เขาไปเปิดอยู่ดี หรือบางทีมีธุระติดพันเดินไปเปิดไม่ได้ คนก็ยังไปว่าเขา มันไม่ค่อยแฟร์กับเขานะ
ส่วนจะให้ใครว่างก็ช่วยๆกัน เป็นหน้าที่ของทุกคน ก็ดูไม่เวิร์คถ้าในออฟหิศขาดความมีจิตสำนึก... ที่ทะเลาะกันก็ไม่ใช่ว่ามีคนเห็นแก่ตัว ไม่ให้ความร่วมมือ โยนให้คนอื่นหรือต้องรอให้ตัวเองเป็นคนสุดท้ายจริงๆถึงจะเดินไปเปิดไม่ใช่รึ? จะลงโทษก็โดนกันทุกคน เขาไม่กลัวหรอก
พฤติกรรมของพนักงานแต่ละออฟฟิศไม่เหมือนกัน แต่ที่แน่ๆคือออฟฟิศจขกท ไม่มีพวกพนักงานที่alert และออกแนวเห็นแก่ตัว ชอบใช้คนอื่น
เอาเป็นว่าประชุมกันว่าจะเอายังไง อาจจะให้รางวัลกับคนที่อยู่ใกล้ทำหน้าที่นี้ไปเลยก็ได้
แสดงความคิดเห็น
ลูกน้องเกี่ยงกันเรื่องเปิดประตู!!! ต้องเป็นความรับผิดชอบของใคร
แต่เพื่อความปลอดภัยจึงได้ติดตั้งระบบสแกนนิ้วมือเพื่อเปิด-ปิดประตู แต่กลับมีปัญหาว่า
เวลามีผู้เข้ามาติดต่อกับทางบริษัทฯ ลูกน้องในออฟฟิศกลับเกี่ยงกันลุกขึ้นไปเปิดประตูให้
ในความเป็นจริงแล้ว ใครควรจะเป็นคนลุกขึ้นไปเปิดประตู
1. มาติดต่อกับใคร คนนั้นก็ควรจะลุกขึ้นไปเปิด
2. เป็นหน้าที่ของทุกๆคน ที่จะลุกขึ้นไปเปิด เพราะถือว่าบริษัทฯเดียวกัน ต้องช่วยเหลือกัน
3. แบ่งเวรกันเปิดประตูไปเลย
ทั่วๆไปจัดสรรกันอย่างไรครับ