เหยื่อถูกหลอกร่วมลงทุนออนไลน์สูญเงินนับร้อยล้าน งัดหลักฐานยื่นศูนย์ดำรงธรรม

กระทู้คำถาม
ยะลา - ผู้เสียหายจากการถูกหลอกร่วมลงทุนผ่านสื่อออนไลน์ โชว์หลักฐานยื่นร้องขอความเป็นธรรมจากศูนย์ดำรงธรรมใน ศอ.บต.ให้ช่วยเหลือ หลังจากถูกหลอกร่วมลงทุนสูญเงินนับร้อยล้านบาท เชื่อมีผู้เสียหายมากกว่า 300 รายทั่วประเทศ
       
       วันนี้ (12 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดยะลาว่า มีกลุ่มผู้เสียหายซึ่งถูกหลอกให้ร่วมลงทุนจำนวนหลายราย ได้เดินทางนำหลักฐานทางการเงินและหลักฐานการโอนเงิน พร้อมด้วย ภาพถ่ายจากสื่อออนไลน์ เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมที่ศูนย์ดำรงธรรม ภายในศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยได้เข้าพบกับ น.ส.ศุภกร สุวรรณ เจ้าพนักงานปกครองชำนาญการ ประจำศูนย์ดำรงธรรม เพื่อร้องขอความเป็นธรรมให้ช่วยดำเนินการ
       
       นายธนภูมิ ทองวิเศษ หนึ่งในผู้เสียหายและได้ร่วมกับผู้เสียหายรายอื่นอีกจำนวนหนึ่ง นำหลักฐานในการประกอบธุรกรรมทางการเงิน และสารในสื่อออนไลน์ เข้ามายื่นร้องขอความเป็นธรรม โดยได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองพร้อมกับผู้เสียหายรายอื่นๆ ซึ่งเท่าที่ทราบในตอนนี้ประมาณ 40 กว่าราย ที่มีรายชื่อว่าถูกหลอกให้ร่วมลงทุนทำธุรกิจการเงิน และจะได้รับผลตอบแทนเป็นเงินปันผลจากการร่วมลงทุนเล่นหุ้นปันผล โดยตนเองได้สูญเงินไปกว่า 2 แสนบาท
       
       โดยพฤติกรรมของการถูกหลอกในครั้งนี้คือ มีผู้ฉ้อโกงจำนวนประมาณ 4-5 ราย ได้เปิดเฟซบุ๊กและสร้างกลุ่มขึ้นมา จากนั้นตนเองได้รับข้อความมาชักชวนให้ร่วมลงทุนซื้อหุ้น โดยให้โอนเงินผ่านบัญชีและจะมีการปันผลให้ในช่วงระยะแรกประมาณ 5-7 วัน ก็จะได้รับเงินปันผลกลับมาโอนผ่านเข้าบัญชี ซึ่งผลที่ได้รับนั้นมีจำนวนมาก เช่น ลงทุนไป 100 บาท ก็จะได้รับเงินปันผลกลับมา 115 บาทหรือมากกว่านั้น โดยตลอดระยะเวลา 2 เดือนที่ผ่านมา ตนเองก็ได้รับเงินปันผลตอบแทนกลับมาในจำนวนที่มากพอสมควร
       

เหยื่อถูกหลอกร่วมลงทุนออนไลน์สูญเงินนับร้อยล้าน งัดหลักฐานยื่นศูนย์ดำรงธรรม

       
       แต่ช่วงระยะหลังคือ ก่อนหน้านี้ประมาณ 2 สัปดาห์ ผู้ที่ตั้งกลุ่มเฟซบุ๊กขึ้นมานั้น ก็ได้ประสบปัญหาทางการเงิน บ้างก็บอกว่าโกงแชร์ไป ซึ่งเมื่อเป็นเช่นนั้น ก็มีสมาชิกในกลุ่มได้พูดคุยกันและพบว่า ได้ถูกโกงเงินที่ร่วมลงทุนไป บางรายสูญเงินไปนับล้านบาท ซึ่งรวมผู้เสียหายแล้วเฉพาะในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็นับร้อยราย และคาดว่าจะมีผู้เสียหายทั่วประเทศอีกนับร้อยรายเช่นกัน
       
       โดยประเมินเงินที่สูญไปนั้นเกือบร้อยล้านบาท ทั้งนี้ ตนเองพร้อมกับผู้เสียหายรายอื่นได้นำหลักฐานไปแจ้งความเอาผิดกับผู้ที่ตั้งกลุ่มเฟซบุ๊กดังกล่าวแล้ว ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองยะลา เมื่อวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมา และในวันนี้ (12 พ.ค.) ผู้เสียหายในพื้นที่ จ.ปัตตานี ก็กำลังดำเนินการเข้าแจ้งความเอาผิดกับเจ้าของเฟซบุ๊กดังกล่าวด้วยเช่นกัน
       
       ในเบื้องต้นนั้นมีผู้ที่ตั้งกลุ่มเฟซบุ๊ก จำนวน 5 รายคือ 1.น.ส.จุฑารัตน์ ปัญญาทิพย์ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 48 ม.6 ต.ควนชุม อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช 2.นางเกศรา สันหลน อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16 ม.7 ต.เขาพระ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา 3.น.ส.ศรินรัตน์ บังใบ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 214 ม.15 ต.สังเมค อ.กันฑลักษร์ จ.ศรีษะเกษ 4.น.ส.ฟาดีละฮ์ นะยะอิ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 22/3 ม.3 ต.วังพญา อ.รามัน จ.ยะลา และ 5.น.ส.ซูไบด๊ะ อาแว อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36/1 ม.7 ต.ปะเสยะวอ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี
       
       ซึ่งทั้งหมดนี้ เป็นผู้ที่อยู่ร่วมในกลุ่มเฟซบุ๊กและเป็นผู้หลอกลวงดังกล่าว และยังไม่ทราบว่าจะเป็นการตั้งขบวนการหลอกลวงด้วยกันหรือไม่ โดยผู้เสียหายทั้งหมดยังคงรอความหวังจากเจ้าหน้าที่ให้เร่งดำเนินการตามกฏหมายกับกลุ่มบุคคลดังกล่าว

http://manager.co.th/South/ViewNews.aspx?NewsID=9590000048043
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่