
ปดูมาแล้ว...
คนเรามันห้ามใจไม่ให้รัก ได้ด้วยหรอ? Equals ฝ่ากฏล้ำโลกห้ามรัก
*****ไม่สปอยล์*****
ความรัก มันห้ามกันไม่ได้หรอก มันเป็นการตีความของสมองภายใต้อิทธิพลจากฮอร์โมน เวลาที่คนเราตกหลุมรัก หรือกำลังมีความรู้สึกที่เรียกว่ารัก สารเคมีในสมองมีการเปลี่ยนแปลงและมีผลต่อพฤติกรรมการแสดงออก อย่างเช่น ใจเต้นแรง รู้สึกวูบวาบอย่างบอกไม่ถูก ยิ่งได้พูดคุยหรือทำความรู้จักกันแล้ว เวลาแยกจากกันไปก็หยุดคิดถึงไม่ได้ บางทีของแบบนี้ก็มาแบบไม่ทันตั้งตัวกว่าจะรู้ตัวรู้ใจ มันก็ถลำลึกลงไปแล้ว

Equals เล่าเรื่องโลกอนาคตอันสงบสุข มนุษย์ทุกคนถูกดัดแปลงยีนส์จนไม่เหลือความรู้สึกและตัวตนใดๆ อีกต่อไป หากใครที่มีความรู้สึกหรืออารมณ์ใดๆ เกิดขึ้นมา โลกยุคนั้นจะเรียกอาการของพวกเขาว่า SOS – Switched on Syndrome ไม่มีใครอยากมีอาการนี้ เพราะกลัวจะถูกส่งไปอยู่ที่ The Den สถานบำบัดสำหรับคนเป็น SOS ที่ไม่เคยมีใครได้กลับออกมา แต่เมื่อไซลัส (นิโคลัส ฮอลท์) และนีอา (คริสเตน สจ๊วร์ต) สองหนุ่มสาว เกิดอาการ SOS ขึ้นมา แม้จะไม่อยากเป็น ทั้งสองกลับไม่สามารถละสายตาออกจากกันได้เลย ทั้งคู่จะต้องเลือกระหว่างเข้ารับการรักษาเพื่อกลับไปเป็นคนธรรมดา หรือจะสู้ทุกวิถีทางเพื่อจะรักษาเอาความรูhสึกที่โลกเคยเรียกว่า “รัก” ให้คงอยู่ในใจตลอดไป

การได้ดูหนังเรื่องนี้เหมือนกำลังได้รับอากาศบริสุทธิ์เข้าปอด ทุกสิ่งทุกอย่างในหนังดูคลีนไปหมด ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า ที่อยู่อาศัย การใช้ชีวิต รวมไปถึงการจัดระเบียบในสังคม ถามว่าแปลกใหม่น่าสนใจไหม มันก็ใช่ ยอมรับเลยว่าไอเดียของหนังมันดีมาก แต่มันก็เป็นได้แค่อุปกรณ์ประกอบฉาก เพราะการเล่าเรื่องไม่น่าดึงดูเอาซะเลย มันนิ่งเกินไป เหมือนกินผักๆๆๆ มันทุกวัน แรกๆ ก็เฮลตี้ดีออก แต่ยังไงร่างกายคนเราก็ต้องการโปรตีน ไขมัน หรือคาร์โบไฮเดรตบ้างป่าววะ เสียดายคอนเซปของหนังเรื่องนี้มากๆ

ด้วย plot ที่อ้างอิงวิทยาศาสตร์พอสมควร แต่บางอย่างในหนังกลับเล่าแบบปล่อยผ่านไปซะเฉยๆ ไม่มีเหตุผลหรือคำอธิบายใดๆ มารองรับ เลยดูขัดกับสิ่งที่หนังพยายามจะนำเสนอ แต่เห็นได้ชัดว่าหนังจะเน้นไปที่อารมณ์และความรู้สึกของตัวละครซะมากกว่า
.
ด้านนักแสดงถือว่าสอบผ่าน "นิโคลัส ฮอลท์" คนนี้คือหล่อนำโด่ง มีบ้านขายบ้านมีรถขายรถให้หมดเลย หล่อจริงหล่อล้มละลาย ด้านการแสดงก็ไม่เลว ด้วยท่าท่างและสีหน้าบ่งบอกอารมณ์ได้ดี แยกกันชัดเจนระหว่างรู้สึกกับไม่รู้สึก "คริสเตน สจ๊วร์ต" เรื่องนี้เน้นเท่ห์มากกว่าสวย การแสดงก็ดูดีมากกว่าเรื่องอื่นๆ ที่เธอเคยแสดง แต่ด้วยตัวบทที่ไม่ได้ปูว่ารักกันอย่างไร ตอนไหน ทำให้ดูแล้วรู้สึกว่าเธอคันและหื่นเสียมากกว่า

นอกจากนี้ ความสวยงามขององค์ประกอบศิลป์ในเรื่องถือว่าทำได้ดี ทั้งการจัดแสง มุมกล้อง โปรดักชั่น ดูล้ำ เอลิเกน และน่าไปอยู่มาก นี่ถ้าเป็นโฆษณาคอนโดจะรีบไปจองในทันทีไม่ต้องคิดให้เสียเวลา

โดยรวม Equals เป็นหนังนิ่งๆ นำเสนออารมณ์ของนักแสดงและฉากหลังที่ดูสวยงามอร่ามตา แต่หากจะดูกันแบบให้อิน ให้ลึกซึ้งอันนี้คนต้องแล้วแต่ความชอบส่วนบุคคล สุดท้ายก็ไม่มีใครห้ามความรู้สึกของตัวเองได้หรอก มีแต่ห้ามตัวเองไม่ให้แสดงออกว่ากำลังรู้สึกอะไรอยู่ ก็เท่านั้น Equals ฝ่ากฏล้ำโลกห้ามรัก 12 พ.ค. นี้ ในโรงภาพยนตร์
ปล.
1. นักแสดงนำทั้งคู่ตาสวยเก๋มากกก
2. จากการสำรวจพบว่าบางคนชอบก็ชอบไปเลย บางคนไม่ชอบก็หลับ
3. สำหรับผม เฉยๆ ไม่ได้ชอบ แต่ก็ไม่ได้ปลื้ม ไม่หลับครับ ให้ 6/10
https://www.facebook.com/Universalreviews/photos/a.1582452788706269.1073741829.1582134785404736/1713305488954331/?type=3&theater
[SR] คนเรามันห้ามใจไม่ให้รัก ได้ด้วยหรอ? Equals ฝ่ากฏล้ำโลกห้ามรัก
ปดูมาแล้ว...
คนเรามันห้ามใจไม่ให้รัก ได้ด้วยหรอ? Equals ฝ่ากฏล้ำโลกห้ามรัก
*****ไม่สปอยล์*****
ความรัก มันห้ามกันไม่ได้หรอก มันเป็นการตีความของสมองภายใต้อิทธิพลจากฮอร์โมน เวลาที่คนเราตกหลุมรัก หรือกำลังมีความรู้สึกที่เรียกว่ารัก สารเคมีในสมองมีการเปลี่ยนแปลงและมีผลต่อพฤติกรรมการแสดงออก อย่างเช่น ใจเต้นแรง รู้สึกวูบวาบอย่างบอกไม่ถูก ยิ่งได้พูดคุยหรือทำความรู้จักกันแล้ว เวลาแยกจากกันไปก็หยุดคิดถึงไม่ได้ บางทีของแบบนี้ก็มาแบบไม่ทันตั้งตัวกว่าจะรู้ตัวรู้ใจ มันก็ถลำลึกลงไปแล้ว
Equals เล่าเรื่องโลกอนาคตอันสงบสุข มนุษย์ทุกคนถูกดัดแปลงยีนส์จนไม่เหลือความรู้สึกและตัวตนใดๆ อีกต่อไป หากใครที่มีความรู้สึกหรืออารมณ์ใดๆ เกิดขึ้นมา โลกยุคนั้นจะเรียกอาการของพวกเขาว่า SOS – Switched on Syndrome ไม่มีใครอยากมีอาการนี้ เพราะกลัวจะถูกส่งไปอยู่ที่ The Den สถานบำบัดสำหรับคนเป็น SOS ที่ไม่เคยมีใครได้กลับออกมา แต่เมื่อไซลัส (นิโคลัส ฮอลท์) และนีอา (คริสเตน สจ๊วร์ต) สองหนุ่มสาว เกิดอาการ SOS ขึ้นมา แม้จะไม่อยากเป็น ทั้งสองกลับไม่สามารถละสายตาออกจากกันได้เลย ทั้งคู่จะต้องเลือกระหว่างเข้ารับการรักษาเพื่อกลับไปเป็นคนธรรมดา หรือจะสู้ทุกวิถีทางเพื่อจะรักษาเอาความรูhสึกที่โลกเคยเรียกว่า “รัก” ให้คงอยู่ในใจตลอดไป
การได้ดูหนังเรื่องนี้เหมือนกำลังได้รับอากาศบริสุทธิ์เข้าปอด ทุกสิ่งทุกอย่างในหนังดูคลีนไปหมด ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า ที่อยู่อาศัย การใช้ชีวิต รวมไปถึงการจัดระเบียบในสังคม ถามว่าแปลกใหม่น่าสนใจไหม มันก็ใช่ ยอมรับเลยว่าไอเดียของหนังมันดีมาก แต่มันก็เป็นได้แค่อุปกรณ์ประกอบฉาก เพราะการเล่าเรื่องไม่น่าดึงดูเอาซะเลย มันนิ่งเกินไป เหมือนกินผักๆๆๆ มันทุกวัน แรกๆ ก็เฮลตี้ดีออก แต่ยังไงร่างกายคนเราก็ต้องการโปรตีน ไขมัน หรือคาร์โบไฮเดรตบ้างป่าววะ เสียดายคอนเซปของหนังเรื่องนี้มากๆ
ด้วย plot ที่อ้างอิงวิทยาศาสตร์พอสมควร แต่บางอย่างในหนังกลับเล่าแบบปล่อยผ่านไปซะเฉยๆ ไม่มีเหตุผลหรือคำอธิบายใดๆ มารองรับ เลยดูขัดกับสิ่งที่หนังพยายามจะนำเสนอ แต่เห็นได้ชัดว่าหนังจะเน้นไปที่อารมณ์และความรู้สึกของตัวละครซะมากกว่า
.
ด้านนักแสดงถือว่าสอบผ่าน "นิโคลัส ฮอลท์" คนนี้คือหล่อนำโด่ง มีบ้านขายบ้านมีรถขายรถให้หมดเลย หล่อจริงหล่อล้มละลาย ด้านการแสดงก็ไม่เลว ด้วยท่าท่างและสีหน้าบ่งบอกอารมณ์ได้ดี แยกกันชัดเจนระหว่างรู้สึกกับไม่รู้สึก "คริสเตน สจ๊วร์ต" เรื่องนี้เน้นเท่ห์มากกว่าสวย การแสดงก็ดูดีมากกว่าเรื่องอื่นๆ ที่เธอเคยแสดง แต่ด้วยตัวบทที่ไม่ได้ปูว่ารักกันอย่างไร ตอนไหน ทำให้ดูแล้วรู้สึกว่าเธอคันและหื่นเสียมากกว่า
นอกจากนี้ ความสวยงามขององค์ประกอบศิลป์ในเรื่องถือว่าทำได้ดี ทั้งการจัดแสง มุมกล้อง โปรดักชั่น ดูล้ำ เอลิเกน และน่าไปอยู่มาก นี่ถ้าเป็นโฆษณาคอนโดจะรีบไปจองในทันทีไม่ต้องคิดให้เสียเวลา
โดยรวม Equals เป็นหนังนิ่งๆ นำเสนออารมณ์ของนักแสดงและฉากหลังที่ดูสวยงามอร่ามตา แต่หากจะดูกันแบบให้อิน ให้ลึกซึ้งอันนี้คนต้องแล้วแต่ความชอบส่วนบุคคล สุดท้ายก็ไม่มีใครห้ามความรู้สึกของตัวเองได้หรอก มีแต่ห้ามตัวเองไม่ให้แสดงออกว่ากำลังรู้สึกอะไรอยู่ ก็เท่านั้น Equals ฝ่ากฏล้ำโลกห้ามรัก 12 พ.ค. นี้ ในโรงภาพยนตร์
ปล.
1. นักแสดงนำทั้งคู่ตาสวยเก๋มากกก
2. จากการสำรวจพบว่าบางคนชอบก็ชอบไปเลย บางคนไม่ชอบก็หลับ
3. สำหรับผม เฉยๆ ไม่ได้ชอบ แต่ก็ไม่ได้ปลื้ม ไม่หลับครับ ให้ 6/10
https://www.facebook.com/Universalreviews/photos/a.1582452788706269.1073741829.1582134785404736/1713305488954331/?type=3&theater