เครื่องชำระเงินอัตโนมัติเคลือข่ายสีเขียว และมนุษย์ลุงที่เป็นศูนย์กลางของจักรวาล

สวัสดีท่านผู้ใช้งาน Pantip ทุกท่าน

ที่มาในวันนี้ เพียงแค่อยากจะแชร์ในสิ่งที่ผมได้ไปพบเจอมา และอยากทำให้หลายๆท่านเข้าใจ หากกำลังเข้าใจผิดอยู่
มันเป็นเรื่องของ เครื่องชำระค่าบริการอัตโนมัติของเคลือข่ายมือถือต่างๆครับ

โดยวันนี้ช่วงเวลาประมาณใกล้ 18.00 น. โดยประมาณ ผมได้มีเหตุจำเป็นต้องมาห้างสรรพสินค้าชื่อดังย่านปิ่นเกล้า
เพราะจ่ายค่าบริการที่ค้างชำระไว้ เนื่องจากเสี่ยงต่อการโดยตัดสัญญาณแบบสุดๆ
ห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ ไม่นานมานี้ได้มีการปรับปรุงใหม่ ทำให้เคลือข่ายมือถือสีเขียวที่ผมใช้บริการโดยแบ่งเป็นสองที่
โดยที่ผมไป มีเครื่องชำระเงินอัติโนมัติเพียงเครื่องเดียว คนที่มาจ่ายจึงจำเป็นต้องต่อแถวกัน แต่ในช่วงเวลาที่ผมไปก็มีคนอยู่แค่ประมาณ 2 คน
ผมจึงได้ไปเข้าแถวต่อจากคุณลุงท่านหนึ่ง เป็นคุณลุงสูงวัยผมเปลี่ยนสีแล้วไปกว่าครึ้ง และแน่นอนว่าจะมีพนักงานที่คอยให้บริการแลกเงินและให้คำแนะนำในการใช้เครื่องชำระค่าบริการนี้

ผมก็ยืนรอชำระ แต่ในขณะที่ผมต่อแถวอยู่นั้น ก็ถึงคิวของคุณลุงคนข้างหน้าผม..... นี่ละครับประเด็น
คุณลุงคนนี้ กำลังเตรียมเงินจะชำระค่าบริการ ถ้าผมเข้าใจไม่ผิด ในยอดค่าใช้บริการของคุณลุง คงมีเศษอยู่
คุณลุงจึงฝากเงินจำนวนหนึ่งเป็นธนบัตรให้พนักงงานบริการประจำเครื่องถือไว้ เพื่อที่จะหยิบเหรียญในกระเป๋า
ในจังหวะที่กำลังจะชำระเงินนั้นเอง คุณลุงคนนั้นก็ยืนเงินเหรียญที่หยิบมาให้กับพนักงานและบอกกับพนักงานว่า

คุณลุง : "ใส่ให้หน่อย"
พนักงานก็ใส่เหรียญให้จนครบจำนวนเศษ และต่อไปจะต้องใส่ธนบัตร พนักงานจึงพูดคุณลุงว่า
พนักงาน : "คุณลูกค้า ใส่ธนบัตรตรวจสอบธนบัตรและใส่ตรงช่องนี้นะค่ะ"
พร้อมกับยืนธนบัตรให้คุณลุงคนนั้น แต่คุณลุงคนนั้นก็ไม่หยิบ และพูดกลับไปว่า
คุณลุง : "ก็ใส่ให้หน่อย" พนักงานคนนั้นจึงกล่าวอีกทีว่า
พนักงาน : "คุณลูกค้าตรวจสอบธนบัตรก่อนดีกว่านะค่ะ" และในวินาทีนั้น คุณลุงผู้เป็นศูนย์กลางแห่งจักรวาล ก็ได้พูดด้วยคำเสียงไม่พอใจว่า
คุณลุง : "นี่ !! ถ้าไม่อยากบริการก็เข้าไปอยู่ข้างใน ไม่ต้องมายืนตรงนี้ ผมให้ใส่ให้ จะอะไรนักหนา จะให้ผมต้องรายงานมั้ย จะเอาแบบนั้นใช่มั้ย ให้ผมรายงาน เดี๋ยวคุณจะเดือดร้อนนะ" พนักงานคนนั้น ก็ยิ้มไม่ออกหรอกครับวินาทีนั้น ได้แต่พูดเบาๆว่า เปล่าค่ะ ไม่ใช่แบบนั้นค่ะ อยู่แค่สองประโยค
และคุณลุงคนนั้นก็ทำท่าอารมณ์เสียและเดินจากไปพร้อมกับคำว่า "เดี๋ยวผมจะรายงาน"

หลังจากนั้นก็ถึงคิวผม ผมเลยพูดว่า "เจอแบบนี้ ก็แย่เนอะพี่" พี่พนักงานคนนั้นก็ได้แต่ยิ้ม แต่ไม่ได้ตอบอะไรผม

ประเด็นสำคัญ
1. พนักงานที่อยู่ประจำเครื่อง ในความเข้าใจของผมคือ ให้คำแนะนำและบริการแก่ลูกค้า เพราะลูกค้าบางคนก็ยังใช้ไม่เป็น
2. ในความคิดเห็นส่วนตัว คุณลุงคนนี้ ใช้อำนาจความเป็นลูกค้าในทางที่เอาตนเองเป็นศูนย์กลางมากเกินไป
3. ผมมองว่า ที่พนักงานคนนั้นไม่ใส่ธนบัตรเพราะว่า มันเป็นเงินจำนวนมาก จึงอยากให้ลูกค้าตรวจสอบจำนวนเงินนั้น และชำนะด้วยตนเอง
4. หากมีคำถามว่าแล้วทำไมใส่ให้ไม่ไป ตอบเเบบไม่ต้องคิดเลยนะครับ คนทุกคนเกิดความผิดพลาดได้ครับ เราเองหลายครั้งที่หยิบเงินขาด เงินเกิน แล้วลองคิดดูเล่นๆว่า หากพอพนักงานใส่เข้าไปแล้ว จำนวนเงินหายไป จะเกิดอะไรขึ้น หากความผิดพลาดนั้น เกิดจากตัวลูกค้าเอง

สิ่งที่ผมอยากจะบอกก็คือ หลายๆครั้ง ผมเชื่อว่าการบริการต่างๆ ที่มีข้อจำกัดออกมา เขาก็ทำมาเพื่อผลประโยชน์ของลูกค้าทั้งสิ้น แต่คนที่เป็นลูกค้าอย่างเราๆนี่แหละ ที่เอาความสบายเป็นที่ตั้ง เอาความเป็นลูกค้ามาอยู่เหนือผู้ให้บริการ ไม่ใช่แค่บริการนี้ แต่กับทุกบริการ ทุกอย่างมีขอบเขตที่เหมาะสมเสมอ ไม่มากและไม่น้อยเกินไป อย่าหวังเพียงความสบาย จนมองข้ามรายละเอียดเล็กน้อย ที่อาจเป็นผลประโยชน์กับเรา แต่เรากลับเอาสิ่งพวกนั้น มามองให้เป็นแง่ร้าย

ปล. ผมไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียอะไร ไม่ใช่ญาติ เพื่อนหรือพี่น้อง แค่เห็นละทนไม่ได้ ขอบคุณที่อ่านจนจบ ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่