คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 7
เข้ามาตอบบ้าง อันนี้งประสบการณ์ส่วนตัวะคะ
1และ2 ขึ้นอยู่กับความสามารถของบุคคลค่ะ ส่วนตัวเรา วันละ 10 คำก็เต็มกลืนแล้ว
3.องศัพท์ได้หมด ไม่ใช่ว่าจะแต่งประโยคและแปลเก่งนะคะ พอกล้อมแกล้ม เรีกว่าเอาตัวรอดดีกว่าค่ะ เพราะอย่าลืมว่า ในการแปล การแต่งประโยค ต้องดูความหมายรวมๆด้วย ถ้าอยากรูเว่าแปลคำต่อคำแล้วเอามาเรียงกันเป็นประโยคแล้วความหมายเปลี่ยนไปแค่ไหน ลองดูที่ กูเกิ้ลแปลภาษาค่ะ ส่วตัวใช้วิธีเรียนรู้การแปลและอ่านหนังสือแปลเยอะๆค่ะ
4. แนะนำว่าลงเรียนกับเจ้าของภาษาค่ะ ไม่ก็ฝึกฟังจากยูทูป หรือไม่ก็ นิทานสำหรับเด็กๆคะ เพราะจะพูดช้ากว่าหนังซาวแทร็ค หรือไม่ลองซื้อดีวีดีฝึกพูดมาฟัง
5.ข้อนี้จขกท.ลองศึกษากติกาจากหน่วยงานที่มีการส่งไปแลกเปลี่ยนดูนะคะ ลองสอบดูค่ะ ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับความขยันและพยายามของเรา โอกาสมีอยู่เสมอค่ะ
6.อันนี้เป็นเทคนิคส่วนตัวนะคะ ที่เราใช้ได้ผลคือ เรียนคำใหม่ปุ๊บ ต้องรีบใช้ค่ะเราจะพยายามพูดคำนั้นทันที ใช้มันทันทีซัก 5-6 ครั้ง ก็จะจำๆได้ค่ะ
7.อยากเก่งอังกฤษก็ต้องพูกภาษาอังกฤษค่ะ อย่าอายที่จะพูดเพี้ยน พูดผิด ผิดเป็นครูค่ะ ผิดก็ก้ใหม่ได้ ถ้า จขกท.อยู่กรุงเทพ อยากลองฝึกภาษาอังกฤษ แนะนำ ลองมาฝึกพูดกับฝรั่งแถว วัดโพธิ์ วัดเบญ สิคะ เราเห็น นศ.หลาคนมาฝึกสมภาษณ์ฝรั่งเยอะค่ะ ท่องไว้ค่ะ 'ฝึกเข้าก็ทำได้'
8.เหมือนข้อ 6 ค่ะ
ปล.อันนี้ส่วนตัวของเรานะคะ คือ หลังจากที่เราตัดสินใจว่าจะต้องพูอังกฤษให้ได้ คือตอนแรกพูดได้แค่สนทนาพื้นๆค่ะ ทั้งๆที่เรียนภาษาอังกฤษในมหาลัย แต่ก็ไม่ได้ ไม่กล้าพูด เพราะนึกศัพท์ไม่ออก ออกเสียงไม่ได้ไรงี้ค่ะ เราก็ริ่มอ่านหนังสือภาษาอังกฤษค่ะ นิทาน เรื่องสั้น เริ่มจากง่ายๆไปจนถึงนิยาย ถงจะต้องเปิดพจนานุกรมไปพลางอ่านไปพลางก็ทำไปค่ะ ฝึกออกเสียงจากยูทูปบ้าง ตามเว็บต่างๆบ้าง เข้าไปคุยกับฝรั่งบ้างค่ะ ก็ได้ผลนะคะ สู้ๆค่ะ จขกท.เป็นกำลังใจให้
1และ2 ขึ้นอยู่กับความสามารถของบุคคลค่ะ ส่วนตัวเรา วันละ 10 คำก็เต็มกลืนแล้ว
3.องศัพท์ได้หมด ไม่ใช่ว่าจะแต่งประโยคและแปลเก่งนะคะ พอกล้อมแกล้ม เรีกว่าเอาตัวรอดดีกว่าค่ะ เพราะอย่าลืมว่า ในการแปล การแต่งประโยค ต้องดูความหมายรวมๆด้วย ถ้าอยากรูเว่าแปลคำต่อคำแล้วเอามาเรียงกันเป็นประโยคแล้วความหมายเปลี่ยนไปแค่ไหน ลองดูที่ กูเกิ้ลแปลภาษาค่ะ ส่วตัวใช้วิธีเรียนรู้การแปลและอ่านหนังสือแปลเยอะๆค่ะ
4. แนะนำว่าลงเรียนกับเจ้าของภาษาค่ะ ไม่ก็ฝึกฟังจากยูทูป หรือไม่ก็ นิทานสำหรับเด็กๆคะ เพราะจะพูดช้ากว่าหนังซาวแทร็ค หรือไม่ลองซื้อดีวีดีฝึกพูดมาฟัง
5.ข้อนี้จขกท.ลองศึกษากติกาจากหน่วยงานที่มีการส่งไปแลกเปลี่ยนดูนะคะ ลองสอบดูค่ะ ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับความขยันและพยายามของเรา โอกาสมีอยู่เสมอค่ะ
6.อันนี้เป็นเทคนิคส่วนตัวนะคะ ที่เราใช้ได้ผลคือ เรียนคำใหม่ปุ๊บ ต้องรีบใช้ค่ะเราจะพยายามพูดคำนั้นทันที ใช้มันทันทีซัก 5-6 ครั้ง ก็จะจำๆได้ค่ะ
7.อยากเก่งอังกฤษก็ต้องพูกภาษาอังกฤษค่ะ อย่าอายที่จะพูดเพี้ยน พูดผิด ผิดเป็นครูค่ะ ผิดก็ก้ใหม่ได้ ถ้า จขกท.อยู่กรุงเทพ อยากลองฝึกภาษาอังกฤษ แนะนำ ลองมาฝึกพูดกับฝรั่งแถว วัดโพธิ์ วัดเบญ สิคะ เราเห็น นศ.หลาคนมาฝึกสมภาษณ์ฝรั่งเยอะค่ะ ท่องไว้ค่ะ 'ฝึกเข้าก็ทำได้'
8.เหมือนข้อ 6 ค่ะ
ปล.อันนี้ส่วนตัวของเรานะคะ คือ หลังจากที่เราตัดสินใจว่าจะต้องพูอังกฤษให้ได้ คือตอนแรกพูดได้แค่สนทนาพื้นๆค่ะ ทั้งๆที่เรียนภาษาอังกฤษในมหาลัย แต่ก็ไม่ได้ ไม่กล้าพูด เพราะนึกศัพท์ไม่ออก ออกเสียงไม่ได้ไรงี้ค่ะ เราก็ริ่มอ่านหนังสือภาษาอังกฤษค่ะ นิทาน เรื่องสั้น เริ่มจากง่ายๆไปจนถึงนิยาย ถงจะต้องเปิดพจนานุกรมไปพลางอ่านไปพลางก็ทำไปค่ะ ฝึกออกเสียงจากยูทูปบ้าง ตามเว็บต่างๆบ้าง เข้าไปคุยกับฝรั่งบ้างค่ะ ก็ได้ผลนะคะ สู้ๆค่ะ จขกท.เป็นกำลังใจให้
แสดงความคิดเห็น
คนเราท่องศัพน์มากสุดได้กี่คำต่อวันค่ะ
2.ถ้า3000คำนี้ใช้เวลาประมาณกี่เดือนคะ
3ถ้าท่องแล้วจำได้หมดนี้แปลภาษาแต่งประโยคได้เลยไหม
4.แล้วถ้าอยากอ่านออกเสียงที่ถูกต้อง และจำได้ทำไงดีค่ะ
5.ถ้าอยากไปแลกเปลี่ยนนี้ยังมีโอกาศไหมค่ะ
6.มีวิธีทำให้จำคำศัน์ได้เร็วมีไหมค่ะ
7.ถ้าอยากเก่งอังกิตทำไงดีค่ะ
8.แล้วโครงการมีขึ้นอีกครั้งเดือนอะไรค่ะ