เพราะแรกพบสบตาสินะ ท่านเจ้าคุณ

เมื่อตอนเป็นหนุ่มนักรบ ได้ประสบพบรักแม่สาลี่
ดอกไม้ป่าที่งามเย้ายวน




แต่ครั้นจะใส่แจกัน แม่ท่านว่า อย่านะเออ
อย่าเผยอเอาของป่ามาเทียบกับบุปผาชั้นสูง

หน่มนักรบกลัดกลุ้ม ต้องขอให้เพื่อนช่วยรุมซ้อมดาบ
เพื่อระบายความผิดในใจที่ไปเด็ดดอกไม้ป่าซะแล้วแต่แห้วแจกันสวย




บุปผาที่ท่านแม่ว่า จะชอบไปได้อย่างไร ก็ไม่เคยเห็นหน้า ว่าแล้วก็นางก็มาให้เห็น



สวยหรูดูมีค่าดังแม่ท่านว่า ครานี้ก็คงไม่เป็นกระไร (แล้วสิ ชิส์)
เป็นเมียพระราชทานด้วยไซร้ ขัดไม่ได้ๆ



ยิ่งมากด้วยบารมี ก็ยิ่งเป็นธรรมเนียมของผู้ชาย การมีมากเมียสามารถบ่งบอกถึงความสามารถในการเลี้ยงดูปูเสื่อ
ความสามารถในการบริหารจัดการ เรือนท่านจึงปรามนักปรามหนาใม่ให้มีทะเลาะวิวาท

แต่ดังที่พี่ฟักว่าไว้ อย่าคิดว่าในความสงบจะไม่มีคลื่นใต้น้ำ
การแก่งแย่งเพื่อเป็นหนึ่ง เป็นใหญ่ด้วยสถานะทางการหรือทางสังคม และการสืบทอดอำนาจนั้นต่อไปยังลูกหลานจึงเริ่มขึ้น
ระหว่างอนุออกสื่อ กับ เมียเอกหลบใน

เมียเอกออกเดินหมากตัวแรก แต่ไม่ได้ผล เพราะให้คนนอกเลือกหมาก จึงไม่ถูกใจท่านนักรบนักรักที่ชอบความหวานและหอมของดอกไม้ ไม่ใช่สวยอย่างเดียวแต่ดมแล้วไม่อยากดมต่อ

ล่าสุดตาเจ้ากรรม กลับได้ประสบพบพานกับดอกหญ้าซะนั่น



ด้วยอายุอานามก็มากขึ้น วุฒิภาวะทำให้เข้าใจได้ว่า ความสวยงามภายนอกที่เคยชื่นชมมันไม่สำคัญเท่าความสวยงามที่มาจากภายใน
สิ่งที่ไม่ปรุงแต่งเลยกลับดูเสน่ห์ขึ้นมา สบายตาสบายใจซะงั้น

ดอกหญ้าดอกเล็กๆ ที่ไม่รู้สึกว่าด้อยค่า เพราะความเมตตาเอ็นดูที่แผ่มาให้ เหมือนกับพ่อที่รัก จึงเกิดความปลื้มเล็กๆ




และถ้าท่านเจ้าคุณจะมองเด็กสาวแบบนี้ จะเหลือเหรอเจ้าคะ จิกสิคะจิก




ปล ใครอยากเป็นเมียคนต่อไปของท่านเจ้าคุณ สร้างซีนให้ได้พบสบตากันนะเจ้าคะ

ส่วนเรานั้นขอพี่เที่ยงมาถูบ้านให้ทุกเมื่อเชื่อวันดีกว่า ๕๕
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่